[CR] ตะวันขึ้นที่พังงาและลับฟ้าที่ภูเก็ต ตอน 2 พรุเจ๊ะสัน ตะวันขึ้นบนอ่าวพังงา กับเจดีย์ล้านช้างที่วัดฉลอง

อรุณสวัสดิ์ครับ

จากโรงแรมย่านหาดไม้ขาว เราออกเดินทางราวตี 5 ครึ่งของวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2564 เพื่อให้ทันพระอาทิตย์ขึ้นที่จุดชมวิวเสม็ดนางชี ที่นี่อยู่ในเขตจังหวัดพังงา โดยจากหาดไม้ขาวจะขับรถประมาณ 30 นาที นำรถไปจอดที่บริเวณจุดจอดรถที่ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดไว้ให้ ซึ่งก็คือตีนเขาลูกที่เรากำลังจะขึ้นไป จากนั้นจ่ายเงินคนละ 90 บาทเป็นค่าโดยสารรถยนต์แบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่ชาวบ้านจอดคอยบริการนักท่องเที่ยวอยู่ ราคา 90 บาทคือราคาที่ครอบคลุมทั้งขาขึ้นและขาลง โดยเมื่อขึ้นไปแล้วเราจะสามารถลงมากับรถคันไหนก็ได้ (แต่ตอนที่เราไปมีแค่คันเดียว)

วันนั้นมีทีมงานมาถ่ายภาพพรีเว็ดดิ้ง และนักท่องเที่ยวอีก 2-3 กลุ่ม เงียบดีครับ แสงดี วิวสวย แนะนำเลยที่นี่

จริงๆ มันเป็นคำแนะนำสั้นๆ จากพนักงานของโรงแรมว่าถ้าเราต้องการยืมจักรยานที่โรงแรม สามารถใช้บริการได้บริเวณสระว่ายน้ำใหญ่ ซึ่งคำแนะนำหลังจากที่เราถามเส้นทางการขี่จักรยานก็ได้ความว่า สามารถไปขี่จักรยานรอบพรุเจ๊ะสันใกล้ๆ กับโรงแรมได้ ระยะทางไปกลับรวมรอบพรุแล้วอยู่ที่ประมาณ 5 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง พรุเจ๊ะสันเป็นแหล่งเก็บน้ำหลักที่ใช้ในการอุปโภคบริโภคของชาวบ้านบริเวณนี้ เป็นป่าพรุที่สามารถเก็บกับน้ำได้จำนวนหนึ่ง มันคือเช้าวันที่ 24 กุมภาพันธ์

 

เส้นทางรอบพรุเป็นถนนลาดยาง มีคนมาวิ่งออกกำลังกายประปราย ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ใหญ่ เช้าๆ บรรยากาศน้ำนิ่งๆ ที่มีไอน้ำลอยกรุ่นๆ กระจายอยู่บนผิว ประกอบกับแสงแดดอ่อนอุ่นยามเช้า เราคิดว่าเราควรแนะนำให้ถ้าใครสักคนได้มีโอกาสไปพักย่างหาดไม้ขาว ควรแวะไปขี่จักรยานและถ่ายรูปกับแดดเช้าที่นี่ เรารับรถจักรยานตอน 7 โมงเช้า และเข้าไปที่แรมเพื่อคืนจักรยานและทานอาหารเช้าราว 8 โมงเศษ

มันมีบ้านอยู่หลังนึง โดยถ้าเราขี่จักรยานไปตามทางรอบพรุ เมื่อเส้นทางค่อนไปทางหาดไม้ขาวแล้ว ขวามือ (ฝั่งที่ไม่ใช่ในพรุ) จะมีบ้านโบราณอยู่หลังหนึ่ง เป็นบ้านแบบใต้ถุนสูงโดยชั้นใต้ถุนไม่ได้เปิดโล่งเพียงแค่ปิดไว้ด้วยไม้แบบที่มีช่องให้ลมผ่านได้ บันไดคอนกรีตหนาใหญ่ ชั้นบนมีลักษณะเป็นห้องปิดทึบ หลังคาทรงปั้นหยาหน้าจั่ว ตัวบ้านทาสีเขียวส่วนหน้าต่างสีขาว อาจเป็นบ้านเก่าอายุหลายสิบปีของเจ้าของพื้นที่เดิม โดยอาจถูกปรับปรุงให้ยังคงสภาพเดิมอยู่อย่างต่อเนื่อง ปกคลุมและล้อมรอบไปด้วยต้นยูคาลิปตัสขนาดใหญ่

ไม่ว่าจะอ่านคำแนะนำในเว็บไซต์ใด ก็ต่างแนะนำให้ไปกราบหลวงพ่อแช่ม หรือ "พระครูวิสุทธิวงศาจารย์ญาณมุณี" ที่วัดฉลองกันทั้งนั้นถ้าได้มาภูเก็ต แต่เราว่าที่วัดฉลองนอกจากหลวงพ่อแช่มที่ประดิษฐานรูปจำลองของท่านไว้ในวิหารทรงจตุรมุขซึ่งมีช้างเชือกใหญ่ยืนตระหง่านอยู่ด้านข้างแล้ว เยื้องไปด้านหลังของวัดยังมีเจดีย์องค์ใหญ่ที่ส่วนยอดสร้างตามรูปแบบสถาปัตยกรรมเจดีย์ศิลปะภาคอีสานในประเทศไทย (ล้านช้าง) ให้นึกถึงองค์พระธาตุพนมและอีกหลายๆ องค์พระธาตุในย่านนั้น 

ภายในพระเจดีย์ชั้นบนสุดจะประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ชั้นรองลงมาประดิษฐานพระพุทธรูปอีกหลายองค์ และภาพวาดฝาหนังที่สวยงาม โดยพระพุทธรูปที่ประดิษฐานองค์สำคัญสลักด้วยหินสีขาวประดิษฐานที่ชั้นรองลงมาจากพระบรมสารีริกธาตุ คือหลวงพ่อเจ้าวัดจำลองนั่นเอง โดยหลวงพ่อเจ้าวัดเป็นพระพุทธรูปที่มีการสร้างเพื่อประดิษฐานที่วัดฉลองแห่งนี้ตั้งแต่แรกสร้างวัดในช่วงที่ตรงกับสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น (พุทธศตวรรษที่ 24) หลวงพ่อเจ้าวัดองค์จริงประดิษฐานอยู่ในวิหารอีกหลังที่เล็กกว่าหลังอื่น แต่สวยงามโดดเด่นไม่แพ้อาคารหลังอื่นในเขตวัด หน้าบันเป็นภาพนูนต่ำของพระนารายณ์ทรงครุฑที่กำลังยุดนาคอีกที

เราเห็นองค์หลวงพ่อเจ้าวัดแล้วนึกไปถึงพระในศิลปะภาคอีสานในประเทศไทย(ศิลปะล้านช้าง) โดยเฉพาะพระพักตร์ ที่พระนาสิกเป็นสัน ร่องเหนือพระโอษฐ์เชื่อมต่อกับพระนาสิก และลักษณะพระโอษฐ์ที่ปลายตวัดขึ้นให้มองเห็นเหมือนกำลังทรงแย้มพระโอษฐ์ ส่วนพระรัศมีที่เป็นสามเหลี่ยมสูงขึ้นไปให้นึกถึงองค์หลวงพ่อโสธร หลวงพ่อเจ้าวัดอยู่ในปางมารวิชัย ขัดสมาธิราบ นิ้วพระหัตถ์ทั้งสี่เสมอกัน 

--------------------

คุณหมูยอ

เดินทาง 22-24 กุมภาพันธ์ 2564

บันทึก 11 มีนาคม 2564

-------------------

คลิกเพื่ออ่าน

ตอนที่ 1 https://pantip.com/topic/40574393

ตอนที่ 2 https://pantip.com/topic/40574465