โรมอนันตรา เวเคชั่นคลับ ภูเก็ต
จริงๆ เรื่องโควิดที่เกิดขึ้นปัจจุบันในโลกใบนี้แล้วทำให้การเดินทางท่องเที่ยวของคนบนโลกหยุดลงอย่างกระทันหัน มันก็ทำให้เรามีโอกาสได้เห็นโรงแรมที่พักระดับราคาต่อคืนหลักหมื่น ลดราคาลงมาเพื่อให้ยอมเยาและเหมาะกับคนไทยมากขึ้นในราคาหลักพัน โดยหวังว่าเมื่อวิกฤตครี่ครายโรงแรมจะมีผลประกอบการทางธุรกิจดีขึ้น และอยู่ในโลกของธุรกิจโรงแรมได้อย่างมั่นคง คราวนี้เราพักโรงแรมอนันตรา เวเคชั่นคลับ ภูเก็ต ย่านหาดไม้ขาว ซึ่งอยู่บริเวณหัวเกาะ โซนที่ติดกับจังหวัดพังงา และสนามบินนานาชาติภูเก็ต เป็นบริเวณที่หาบ้านของคนท้องถิ่นได้ค่อนข้างยาก จะมีก็แต่โรงแรมห้าดาวขนาดใหญ่เท่านั้น
เราเดินทางจากกรุงเทพฯ ด้วยสายการบินแอร์เอเชีย ส่วนเพื่อนอีก 2 คนเดินทางด้วยสายการบินบางกอกแอร์เวย์ (ที่เลื่อนเที่ยวบินอยู่หลายรอบ) ซึ่งเพื่อนคนนึงได้เที่ยวบินที่ใช้เครื่องเล็ก (ใบพัด) ที่สุวรรณภูมิเราเอารถไปจอดที่ลานจอดรถระยะยาว (ลาน A) จ่ายค่าจอดวันละ 140 บาท ส่วนการเดินทางที่ภูเก็ต เราเช่ารถโดยใช้บริการของ Chic car rent ครับ
นักท่องเที่ยวที่ภูเก็ตบางตาเหมือนกับจังหวัดท่องเที่ยวอื่นๆ โดยแทบจะไม่เห็นนักท่องเที่ยวต่างชาติเลย (ที่เห็นก็น่าจะเป็นผู้ที่มีถิ่นพำนักถาวรในเมืองไทยเสียเป็นส่วนใหญ่) เราเช็คอินโรงแรมอนันตราฯ บ่ายของวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2564 พร้อมแดดภายนอกที่ร้อนระอุ การอยู่ในห้องพักสักครูแล้วรอแดดอ่อนสักหน่อยน่าจะเป็นทางเลือกที่ดี เย็นวันนี้เราวางแผนเข้าเมืองมุ่งหน้าแหลมพรมเทพ
ตะวันลับฟ้าที่แหลมพรมเทพ และประภาคารกาญจนาภิเษก
ถ้าไปในช่วงเวลาปกติ ช่วงเวลาพระอาทิตย์ตกน้ำ จุดนี้จะแทบไม่มีที่ให้เติมคำในช่องว่าง มันจะเนื่องแน่นไปด้วยนายแบบนางแบบทั้งไทย จีน และนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพราะที่นี่ถือเป็นจุดจำเป็นที่ต้องมาเช็คอินของนักท่องเที่ยวทุกคน ประเภทมาครั้งเดียวไม่พอ แสงสวยครับ คนที่ชอบถ่ายรูปแนะนำไม่ควรพลาด
22 กุมภาพันธ์ 2564 วันนั้นตามเว็บไซต์พยากรณ์อากาศระบุเวลาพระอาทิตย์ตก 18.38 น. ผู้คนไม่มาก พอให้ถ่ายรูปแบบสบายๆ
ภูเก็ตดาวน์ทาวน์และเยนตาโฟสามพี่น้อง
มันเป็นช่วงหลังเที่ยงเล็กน้อยของวันที่ 23 กุมภาพันธ์ (คือวันที่ 2 ของทริป) เราตั้งใจไปทานเยนตาโฟให้เป็นมื้อเที่ยงของวัน เลยได้มีโอกาสเดินชมเมืองเก่าภูเก็ตและอาคารสไตร์ชิโนโปรตุกีสไปด้วย
ดูเหมือนว่าคำว่า “ดาวน์ทาวน์” ที่คนภูเก็ตเรียกเมืองภูเก็ตจนติดปาก จะมีแค่ที่ภูเก็ตนี่เท่านั้นที่ใช้คำว่า “ดาวทาวน์” พวกเราพยายามสันนิษฐานว่าทำไมคนภูเก็ตจึงเรียกใจกลางเมืองภูเก็ตว่าดาวน์ทาวน์ แทนที่จะเรียกเป็นชื่อเมืองแบบจังหวัดอื่น อาจเพราะสมัยก่อนบริเวณนี้อาจคลาคล่ำไปด้วยพ่อค้าวานิชชาวต่างชาติ ทั้งฝรั่งตะวันตกและชาวตะวันออก (อันนี้เราพยายามเดาเอาเองนะครับ)
“ไปไหน”
“ไปดาวน์ทาวน์”
และนี่คือบ้านเก่าย่านถนนดีบุกที่ส่วนใหญ่จะผ่านการรีโนเวท และรักษาไว้อย่างดีแทบทุกหลัง
เรารู้จักเยนตาโฟสามพี่น้องจากเพื่อนที่ทำงานที่ภูเก็ตตั้งแต่เมื่อ 20 ปีก่อน และปัจจุบันเยนตาโฟสามพี่น้องก็ยังคงตั้งอยู่ที่เดิม (คือย่านอาคารชิโนโปรตุกีสเหล่านี้นั่นแหล่ะ) สามพี่น้องบริการเหมือนเดิม เพียงมีเพิ่มเติมพนักงานบางส่วน คุณลุงว่าเอามาช่วงแบ่งเบาภาระงานบางอย่าง แต่แกยังคงเดินรับออเดอร์และเสิร์ฟเหมือนเดิม
ใช่ครับ สามพี่น้องมีคุณลุงที่เราได้คุยด้วยในวันนั้นเป็น 1 ในนั้น ไปภูเก็ตให้ลองแวะไปอุดหนุนร้านนี้ ทำช้า รอนาน แต่รสชาติ หน้าตาอาหาร และคุณภาพนี่ให้ยื่นหนึ่งตลอดมา อยากทานต้องมาเอง ไม่มีบริการออนไลน์ และรับเฉพาะเงินสดเท่านั้น
หาดไม้ขาว
มีสัญลักษณ์ธงแดงปักอยู่ทั่วไปตลอดแนวชายหาด ทรายค่อนข้างหยาบออกสีส้ม ไม่ได้ขาวละเอียดเหมือนทรายบนเกาะเล็กๆ ในทะเลอันดามันอื่น (เช่นหมู่เกาะพีพี) เจ้าหน้าที่ของโรงแรมแจ้งว่าไม่ปลอดภัยในการลงไปเล่นน้ำชายหาดเนื่องจากหาดเมื่อห่างฝั่งออกไปจะมีความชันมาก หาดไม้ขาวหันรับแสงอาทิตย์ทางทิศตะวันตก มันจึงเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกอีกแห่งของเกาะ เย็นวันที่ 2 ของทริป (23/2/64)
ส่วนรูปล่างนี้เป็นบรรยากาศตอนเช้า
เราได้มีโอกาสเข้าไปนั่งในร้านเครื่องดื่มริมหาดซึ่งอยู่ในโรงแรมระดับห้าดาวอีกแห่งที่ตั้งอยู่ตรงข้ามกับโรงแรมที่เราพัก - M Beach Club ณ โรงแรม JW Marriott Phuket Resort & Spa
ก็ถือเป็นจุดพักผ่อนยามเย็นที่น่าจะเป็นตัวเลือกให้นักท่องเที่ยวหลายๆคน อาหารคุณภาพและราคาโรงแรมห้าดาว มีช่วง Happy hour สำหรับเครื่องดื่ม และสามารถโทรไปจองโต๊ะวิวดีๆ ก่อนได้
-------------
คุณหมูยอ
เดินทาง 22-24 กุมภาพันธ์ 2564
บันทึก 11 มีนาคม 2564
------------
คลิกเพื่ออ่าน
[CR] ตะวันขึ้นที่พังงาและลับฟ้าที่ภูเก็ต ตอน 1 ตะวันลับฟ้าที่แหลมพรมเทพและหาดไม้ขาว
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้