สวัสดีครับกระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของผมที่อยากจะแชร์ประสบการณ์กับเพื่อนๆ (ขออภัยหากแท็กผิดห้อง)
เรื่องนี้ผ่านมานานหลายปีมากแล้วแต่ยังจำฝังใจจนถึงทุกวันนี้ เป็นการซื้อรถยนต์คันแรกของผม แต่เป็นรถยนต์มือสอง ตอนนั้นยอมรับครับว่า ดูรถ, เลือกรถยนต์ไม่เป็น
เรื่องเกิดจากตอนนั้นอยากมีรถยนต์ไว้ใช้ขับเดินทางไปทำงานสักคัน เนื่องจากที่บ้านกับที่ทำงานต้องเดินทางโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวถึงจะสะดวก
วันนั้นผมอยากไปเดินดูรถเผื่อเจอที่ชอบและถูกใจ เพราะตอนนั้นยังไม่มีตัวเลือกในใจ แล้วผมก็ได้เข้าไปในเต๊นท์รถยนต์มือสอง "xxx Good Cars" ซึ่งเป็นโซนเต๊นท์รถที่ใหญ่มากๆ มีหลายเต๊นท์ หน้าปากทางเข้า รามอินทรา กม.8 ผมก็ได้เข้าไปเดินดูหลายๆเต๊นท์แล้ว มีรับแขกบ้าง ไม่รับแขกบ้าง..จนมาจบที่เต๊นท์นี้!!
แล้วก็มาถึงเต๊นท์ที่ผมจะกล่าวถึง ไม่แน่ใจว่าเต๊นท์นี้ยังขายรถอยู่มั้ยหรือว่าเปลี่ยนชื่อไปแล้ว ถ้าชื่อเต๊นท์ที่ผมเอ่ยถึง ชื่อไปพ้องคล้ายๆเต๊นท์ใครก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ เต๊นท์นี้มีรถอยู่ประมาณสิบกว่าคัน จอดอยู่ภายในเต๊นท์ และมีที่ผมสนใจอยู่สองคัน คันแรกราคาสูงมากสู้ไม่ไหวจริงๆ เลยเลือกคันที่สอง ซึ่งเจ้าของเต๊นท์เป็นคนมารับแขกเองเลยนะครับ ก็ปกติของคนค้าขายครับ รับแขกดี แนะนำดี อันนี้ขอชื่นชมครับ
แล้วก็มาถึงรถยนต์ที่ผมตัดสินใจซื้อ เขาก็ให้ลองขับวนภายในบริเวณเต๊นท์โดยมีคนของเต๊นท์นั่งไปด้วยบริเวณข้างคนขับ ผมก็ได้ลองสตาร์ทครั้งแรกก็ติดเลยดูปกติดี แต่พอลองเปิดแอร์เท่านั้นแหละ แอร์ติดสักพักปรากฎว่าแอร์ไม่ค่อยเย็น คือเย็นแปลกๆ มันจะมีไอเย็นออกมาปนกับไอร้อนอุ่นๆ เขาก็บอกผมว่าไม่มีอะไรหรอกครับปกติแบบนี้แหละ ต้องใช้เวลาสักพัก เดี๋ยวก็เย็นเอง
แล้วผมก็ขับวนรอบๆ เต๊นท์ ฟังเสียงรอบเครื่อง แอร์ก็เย็นๆ ปนกับไอร้อนอุ่นๆ อยู่แบบนั้นแหละครับ ก็ไม่ได้เอะใจอะไร แล้วก็ลองปรับนู้นปรับนี่ไปเรื่อย ก็ปกติดีทุกอย่าง เสร็จแล้วก็ไปจอดคืนที่เต๊นท์ เดินดูรอบรถ สีรถ ริ้วรอยต่างๆ ก็ยังสวยดี จนมาถึงดูเครื่องยนต์ เปิดดูฝากระโปรงหน้า โอ้โห..แวววาวไปหมด (เขาไปล้างห้องเครื่องเช็ดน้ำยาให้ดูเหมือนใหม่ก่อนจะมาจอดขายหน่ะครับ)
หลังจากนั้นผมก็สอบถามเรื่องการดาวน์ การจัดไฟแนนซ์ ผมเป็นคนไม่มีเครดิตนะครับ สะอาดมาก ไม่เคยมีบัตรเครดิต ไม่เคยผ่อนของอะไรเลยทั้งสิ้น เพราะตอนนั้นเข้าใจว่า การเป็นหนี้มันไม่ค่อยเข้าท่าเท่าไร ซึ่งผมจะบอกว่าประโยชน์ของการมีเครดิต ข้อดีก็มีอยู่มากนะครับ ถ้าใช้เป็น ผมเลยลองยื่นเอกสาร จัดไฟแนนซ์ครั้งแรกในชีวิตดู เจ้าของเต๊นท์ก็ปลอบผมก่อนว่า จะลองยื่นดูเผื่อมีโอกาสผ่าน แต่ไม่รับปากนะครับ เพราะเขาว่าผมไม่มีเครดิต (ประวัติทางการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย) ใครที่ติดแบล็คลิส เครดิตบูโร เขาก็จะเช็คข้อมูลได้จากที่นี่แหละครับ และผมก็ได้กลับไปรอลุ้นฟังผลที่บ้าน ตอนนั้นตื่นเต้นมาก เพราะเป็นหนี้ก้อนแรกของผม และเป็นก้อนที่ใหญ่มากสำหรับผม
หลังจากผ่านไปประมาณ 2-3วัน ทางเต๊นท์ก็โทรมาบอกข่าวดี แต่ในข่าวดีมันก็มีข่าวร้ายเช่นกัน คือเนื่องจากที่ผมกล่าวไปตอนต้นเรื่องที่ผมไม่มีเครดิต
ทางเจ้าของเต๊นท์ก็เลยบอกว่าต้องวางเงินดาวน์ 5หมื่น ตอนนั้นคิดในใจ..มาๆ เอาก็เอาวะ ลองดูสักตั้ง
จนมาถึงวันที่ผมเข้าไปเซ็นสัญญาเช่าซื้อรถยนต์และวางเงินดาวน์ ทางไฟแนนซ์ก็คำนวณเงินผ่อนกับดอกเบียร์ให้เรียบร้อย ก็ตกลงเซ็นสัญญาเช่าซื้อรถคันนั้นมาครอบครอง เนื่องจากทางเต๊นท์ต้องเช็คสภาพรถให้พร้อมส่งรถครั้งสุดท้ายก่อนที่จะส่งให้ลูกค้า แล้วก็นัดวันรับรถ ผมจึงเอาฤกษ์เอาชัยกับหนี้ก้อนแรกซะหน่อย
แล้วก็มาถึงวันที่ผมต้องไปรับรถกลับบ้าน ไปถึงเต๊นท์ก็เช็ครถ เดินดูรอบรถ เปิดฝากระโปรง ลองสตาร์ทเปิดแอร์ก็ยังเหมือนเดิม ก็เลยถามเจ้าของเต๊นท์ว่าแอร์มันจะเป็นอย่างนี้ไปตลอดเลยหรอ เขาก็ตอบว่าเดี๋ยวก็หายครับ ตอนนั้นเลยคิดในใจว่าเอาหน่า นิดๆ หน่อยๆ เดี๋ยวค่อยเอาไปซ่อมอู่นอกเองก็ได้
จากนั้นก็ได้เซ็นรับรถ ขับรถกลับบ้าน
ตอนนี้มาถึงตอนที่ขับไปได้สักระยะนึง ก็รู้สึกแอร์เริ่มงอแง เดี๋ยวเย็นบ้าง เดี๋ยวร้อนบ้าง บางทีก็ร้อนตลอดเวลา เลยลองจอดฝากระโปรงรถดู ถึงกับอุทาน แม่เจ้า!! น้ำในหม้อพักหม้อน้ำหายไปในหมดวะเนี่ย ลองเติมน้ำเปล่าดู แล้วก็ขับไปอีกสักระยะนึง ลองเปิดฝากระโปรงดูอีกครั้ง น้ำหายอีกแล้ว
จึงตัดสินใจ นำรถเข้าอู่มีชื่อเสียงเรื่องการซ่อมรถยี่ห้อที่ซื้อมาโดยเฉพาะ (ย่านเกษตร-นวมิน) ได้มีโอกาสเจอเจ้าของอู่เองเลย อัธยาศัยดีมากๆ ประทับใจ เจ้าของอู่บอกเดี๋ยวจะให้ช่างจัดการตรวจเช็คให้เลย ผมจึงได้แจ้งอาการเบื้องต้นให้ทางเจ้าของอู่ซ่อมและช่างฟัง คือ แอร์มีไอร้อนออกมาเป็นระยะๆ เป็นๆ หายๆ และน้ำในหม้อพักหาย เจ้าของอู่จึงลองสตาร์ทรถ เปิดฝากระโปรงตรวจเช็คหม้อน้ำปรากฎว่าน้ำหมุนเป็นพายุเลย และมีน้ำดันกระฉอกออกมาจากหม้อน้ำที่กำลังเปิดฝา เจ้าของอู่กับช่างมองหน้ากันแล้วแจ้งผมว่าน่าจะอาการหนัก เนื่องจากรถรุ่นที่ผมใช้ไม่มีเกจวัดความร้อนบอกที่หน้าปัด จึงต้องใช้เครื่องอ่านกล่อง ECU ตรวจเช็ค ปริ้นสลิปออกมาดู ทางเจ้าของอู่แจ้งว่าเครื่องยนต์มีอาการแปลกๆ และมีอาการน้ำในหม้อน้ำดัน ต้องรื้อเครื่องและหม้อน้ำตรวจเช็คละเอียด ให้จอดทิ้งไว้ที่อู่ ตอนนั้นผมยังไม่พร้อมเรื่องค่าซ่อมซึ่งคิดว่าน่าจะหลายตังค์ จึงขอนำรถกลับไปใช้ก่อน แต่ยังไม่ทันขยับรถเลย รถก็มีอาการสะอึกและดับไป ช่างบอกว่า แย่แล้วครับ!! น้ำเข้าเครื่อง สตาร์ทอีกครั้งก็ไม่ติด ผมเลยต้องจำใจเดินมาเรียกแท็กซี่กลับบ้าน
สักประมาณอาทิตย์กว่า ทางอู่ซ่อมรถก็ได้โทรมาแจ้งว่า รถผมฝาลูกสูบโก่ง ถ้าจะให้รถหายขาดต้องเปลี่ยนหม้อน้ำเป็นอลูมิเนียมและจะต้องทำการเปลี่ยนหัวเทียนกับตัวจุดระเบิดลูกสูบทั้งหมด ผมก็ถามว่าแล้วพี่จะซ่อมอาการฝาโก่งยังไง ทางเจ้าของอู่แจ้งว่าจะต้องไสฝาหรือการปาดลูกสูบและเปลี่ยนประเก็น ทางอู่จะโทรมาแจ้งค่าเสียหายหลังจากใกล้จะซ่อมเสร็จ
กระทู้อ้างอิงอาการเสียซึ่งเป็นอาการเดียวกันกับรถผม :
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://pantip.com/topic/37798495
หลังจากผ่านไปได้สักประมาณอีกเกือบเดือน เนื่องจากคิวซ่อมของทางอู่เยอะ ทางเจ้าอู่ได้แจ้งค่าเสียหายเป็นจำนวนเงินประมาณ 5หมื่นกว่าบาท ในใจผมคิดเอาหล่ะวะ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เนื่องจากตอนนั้นมีเงินสดในมือไม่พอ ประจวบเหมาะกับพึ่งได้รับการอนุมัติวงเงินจากบัตรเครดิตมาจำนวนนึง
วันรับรถกลับจึงได้ทำการรูดเต็มวงเงินบัตรเครดิตและจ่ายเงินสดส่วนต่างกับทางเจ้าของอู่ไป ทางอู่ได้ทำการตรวจเช็ครถก่อนส่งมอบ ใช้เวลาสักพักใหญ่ๆ ทางอู่ได้แจ้งว่านำรถกลับได้เลย จึงเปิดประตูเข้าไปนั่งในรถ อื้อหือ!! แอร์จะหนาวไปไหนเนี่ย เหมือนอยู่ขั้วโลกเหนือ (ก็เวอร์ปายยย)
ปัจจุบันผมก็ยังใช้รถคันนี้อยู่ ถึงแม้จะขับๆ ซ่อมๆ เสียค่าบำรุงรักษาบ้างเป็นระยะๆ แต่การซ่อมครั้งน้ันถือได้ว่าเป็นการซ่อมครั้งใหญ่ที่สุดของรถคันนี้ของผมเลย และไม่มีการซ่อมครั้งไหนเสียค่าใช้จ่ายเยอะขนาดนั้นมาก่อน ซึ่งสาเหตุน่าจะเป็นรถมือสองของผมคันนี้น่าจะเคยผ่านการติดแก๊สมาก่อนที่จะมาจอดขายให้ผม
สรุป: ส่วนบทเรียนและอุทาหรณ์จากการซื้อรถมือสองที่ได้ในครั้งนั้น ก่อนจะซื้อรถมือสองทุกครั้ง ถ้าคุณไม่มีความรู้เรื่องรถยนต์หรือเครื่องยนต์เลย อย่างน้อยควรจะหาข้อมูลรถรุ่นนั้นๆก่อน ผมแนะนำให้หาคนรู้จักที่มีความรู้เรื่องรถและเครื่องยนต์หรือจ้างช่างอู่ซ่อมรถ จ่ายค่าเสียเวลาช่างสัก ห้าร้อย-พันนึงหรือตามตกลงไปตรวจเช็คให้จะดีกว่า ส่วนตอนลองรถ ขอทางเต๊นท์ออกถนนใหญ่ไปเลย ให้คนของทางเต๊นท์นั่งไปด้วย ถ้าไม่ถูกใจก็ขอจ่ายค่าเสียเวลาหรือแลกกับการเติมน้ำมันให้กับทางเต๊นท์ไป สุดท้ายนี้ขอให้ทุกท่านโชคดีกับรถยนต์คันโปรดที่ได้มาจากหยาดเหงื่อและน้ำพักน้ำแรงทุกบาททุกสตางค์ครับ
"เสียน้อยเสียยาก..เสียมากเสียง่าย"
แชร์ประสบการณ์เสียรู้เต๊นท์รถมือสอง (เจ็บใจ)
เรื่องนี้ผ่านมานานหลายปีมากแล้วแต่ยังจำฝังใจจนถึงทุกวันนี้ เป็นการซื้อรถยนต์คันแรกของผม แต่เป็นรถยนต์มือสอง ตอนนั้นยอมรับครับว่า ดูรถ, เลือกรถยนต์ไม่เป็น
เรื่องเกิดจากตอนนั้นอยากมีรถยนต์ไว้ใช้ขับเดินทางไปทำงานสักคัน เนื่องจากที่บ้านกับที่ทำงานต้องเดินทางโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวถึงจะสะดวก
วันนั้นผมอยากไปเดินดูรถเผื่อเจอที่ชอบและถูกใจ เพราะตอนนั้นยังไม่มีตัวเลือกในใจ แล้วผมก็ได้เข้าไปในเต๊นท์รถยนต์มือสอง "xxx Good Cars" ซึ่งเป็นโซนเต๊นท์รถที่ใหญ่มากๆ มีหลายเต๊นท์ หน้าปากทางเข้า รามอินทรา กม.8 ผมก็ได้เข้าไปเดินดูหลายๆเต๊นท์แล้ว มีรับแขกบ้าง ไม่รับแขกบ้าง..จนมาจบที่เต๊นท์นี้!!
แล้วก็มาถึงเต๊นท์ที่ผมจะกล่าวถึง ไม่แน่ใจว่าเต๊นท์นี้ยังขายรถอยู่มั้ยหรือว่าเปลี่ยนชื่อไปแล้ว ถ้าชื่อเต๊นท์ที่ผมเอ่ยถึง ชื่อไปพ้องคล้ายๆเต๊นท์ใครก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ เต๊นท์นี้มีรถอยู่ประมาณสิบกว่าคัน จอดอยู่ภายในเต๊นท์ และมีที่ผมสนใจอยู่สองคัน คันแรกราคาสูงมากสู้ไม่ไหวจริงๆ เลยเลือกคันที่สอง ซึ่งเจ้าของเต๊นท์เป็นคนมารับแขกเองเลยนะครับ ก็ปกติของคนค้าขายครับ รับแขกดี แนะนำดี อันนี้ขอชื่นชมครับ
แล้วก็มาถึงรถยนต์ที่ผมตัดสินใจซื้อ เขาก็ให้ลองขับวนภายในบริเวณเต๊นท์โดยมีคนของเต๊นท์นั่งไปด้วยบริเวณข้างคนขับ ผมก็ได้ลองสตาร์ทครั้งแรกก็ติดเลยดูปกติดี แต่พอลองเปิดแอร์เท่านั้นแหละ แอร์ติดสักพักปรากฎว่าแอร์ไม่ค่อยเย็น คือเย็นแปลกๆ มันจะมีไอเย็นออกมาปนกับไอร้อนอุ่นๆ เขาก็บอกผมว่าไม่มีอะไรหรอกครับปกติแบบนี้แหละ ต้องใช้เวลาสักพัก เดี๋ยวก็เย็นเอง
แล้วผมก็ขับวนรอบๆ เต๊นท์ ฟังเสียงรอบเครื่อง แอร์ก็เย็นๆ ปนกับไอร้อนอุ่นๆ อยู่แบบนั้นแหละครับ ก็ไม่ได้เอะใจอะไร แล้วก็ลองปรับนู้นปรับนี่ไปเรื่อย ก็ปกติดีทุกอย่าง เสร็จแล้วก็ไปจอดคืนที่เต๊นท์ เดินดูรอบรถ สีรถ ริ้วรอยต่างๆ ก็ยังสวยดี จนมาถึงดูเครื่องยนต์ เปิดดูฝากระโปรงหน้า โอ้โห..แวววาวไปหมด (เขาไปล้างห้องเครื่องเช็ดน้ำยาให้ดูเหมือนใหม่ก่อนจะมาจอดขายหน่ะครับ)
หลังจากนั้นผมก็สอบถามเรื่องการดาวน์ การจัดไฟแนนซ์ ผมเป็นคนไม่มีเครดิตนะครับ สะอาดมาก ไม่เคยมีบัตรเครดิต ไม่เคยผ่อนของอะไรเลยทั้งสิ้น เพราะตอนนั้นเข้าใจว่า การเป็นหนี้มันไม่ค่อยเข้าท่าเท่าไร ซึ่งผมจะบอกว่าประโยชน์ของการมีเครดิต ข้อดีก็มีอยู่มากนะครับ ถ้าใช้เป็น ผมเลยลองยื่นเอกสาร จัดไฟแนนซ์ครั้งแรกในชีวิตดู เจ้าของเต๊นท์ก็ปลอบผมก่อนว่า จะลองยื่นดูเผื่อมีโอกาสผ่าน แต่ไม่รับปากนะครับ เพราะเขาว่าผมไม่มีเครดิต (ประวัติทางการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย) ใครที่ติดแบล็คลิส เครดิตบูโร เขาก็จะเช็คข้อมูลได้จากที่นี่แหละครับ และผมก็ได้กลับไปรอลุ้นฟังผลที่บ้าน ตอนนั้นตื่นเต้นมาก เพราะเป็นหนี้ก้อนแรกของผม และเป็นก้อนที่ใหญ่มากสำหรับผม
หลังจากผ่านไปประมาณ 2-3วัน ทางเต๊นท์ก็โทรมาบอกข่าวดี แต่ในข่าวดีมันก็มีข่าวร้ายเช่นกัน คือเนื่องจากที่ผมกล่าวไปตอนต้นเรื่องที่ผมไม่มีเครดิต
ทางเจ้าของเต๊นท์ก็เลยบอกว่าต้องวางเงินดาวน์ 5หมื่น ตอนนั้นคิดในใจ..มาๆ เอาก็เอาวะ ลองดูสักตั้ง
จนมาถึงวันที่ผมเข้าไปเซ็นสัญญาเช่าซื้อรถยนต์และวางเงินดาวน์ ทางไฟแนนซ์ก็คำนวณเงินผ่อนกับดอกเบียร์ให้เรียบร้อย ก็ตกลงเซ็นสัญญาเช่าซื้อรถคันนั้นมาครอบครอง เนื่องจากทางเต๊นท์ต้องเช็คสภาพรถให้พร้อมส่งรถครั้งสุดท้ายก่อนที่จะส่งให้ลูกค้า แล้วก็นัดวันรับรถ ผมจึงเอาฤกษ์เอาชัยกับหนี้ก้อนแรกซะหน่อย
แล้วก็มาถึงวันที่ผมต้องไปรับรถกลับบ้าน ไปถึงเต๊นท์ก็เช็ครถ เดินดูรอบรถ เปิดฝากระโปรง ลองสตาร์ทเปิดแอร์ก็ยังเหมือนเดิม ก็เลยถามเจ้าของเต๊นท์ว่าแอร์มันจะเป็นอย่างนี้ไปตลอดเลยหรอ เขาก็ตอบว่าเดี๋ยวก็หายครับ ตอนนั้นเลยคิดในใจว่าเอาหน่า นิดๆ หน่อยๆ เดี๋ยวค่อยเอาไปซ่อมอู่นอกเองก็ได้
จากนั้นก็ได้เซ็นรับรถ ขับรถกลับบ้าน
ตอนนี้มาถึงตอนที่ขับไปได้สักระยะนึง ก็รู้สึกแอร์เริ่มงอแง เดี๋ยวเย็นบ้าง เดี๋ยวร้อนบ้าง บางทีก็ร้อนตลอดเวลา เลยลองจอดฝากระโปรงรถดู ถึงกับอุทาน แม่เจ้า!! น้ำในหม้อพักหม้อน้ำหายไปในหมดวะเนี่ย ลองเติมน้ำเปล่าดู แล้วก็ขับไปอีกสักระยะนึง ลองเปิดฝากระโปรงดูอีกครั้ง น้ำหายอีกแล้ว
จึงตัดสินใจ นำรถเข้าอู่มีชื่อเสียงเรื่องการซ่อมรถยี่ห้อที่ซื้อมาโดยเฉพาะ (ย่านเกษตร-นวมิน) ได้มีโอกาสเจอเจ้าของอู่เองเลย อัธยาศัยดีมากๆ ประทับใจ เจ้าของอู่บอกเดี๋ยวจะให้ช่างจัดการตรวจเช็คให้เลย ผมจึงได้แจ้งอาการเบื้องต้นให้ทางเจ้าของอู่ซ่อมและช่างฟัง คือ แอร์มีไอร้อนออกมาเป็นระยะๆ เป็นๆ หายๆ และน้ำในหม้อพักหาย เจ้าของอู่จึงลองสตาร์ทรถ เปิดฝากระโปรงตรวจเช็คหม้อน้ำปรากฎว่าน้ำหมุนเป็นพายุเลย และมีน้ำดันกระฉอกออกมาจากหม้อน้ำที่กำลังเปิดฝา เจ้าของอู่กับช่างมองหน้ากันแล้วแจ้งผมว่าน่าจะอาการหนัก เนื่องจากรถรุ่นที่ผมใช้ไม่มีเกจวัดความร้อนบอกที่หน้าปัด จึงต้องใช้เครื่องอ่านกล่อง ECU ตรวจเช็ค ปริ้นสลิปออกมาดู ทางเจ้าของอู่แจ้งว่าเครื่องยนต์มีอาการแปลกๆ และมีอาการน้ำในหม้อน้ำดัน ต้องรื้อเครื่องและหม้อน้ำตรวจเช็คละเอียด ให้จอดทิ้งไว้ที่อู่ ตอนนั้นผมยังไม่พร้อมเรื่องค่าซ่อมซึ่งคิดว่าน่าจะหลายตังค์ จึงขอนำรถกลับไปใช้ก่อน แต่ยังไม่ทันขยับรถเลย รถก็มีอาการสะอึกและดับไป ช่างบอกว่า แย่แล้วครับ!! น้ำเข้าเครื่อง สตาร์ทอีกครั้งก็ไม่ติด ผมเลยต้องจำใจเดินมาเรียกแท็กซี่กลับบ้าน
สักประมาณอาทิตย์กว่า ทางอู่ซ่อมรถก็ได้โทรมาแจ้งว่า รถผมฝาลูกสูบโก่ง ถ้าจะให้รถหายขาดต้องเปลี่ยนหม้อน้ำเป็นอลูมิเนียมและจะต้องทำการเปลี่ยนหัวเทียนกับตัวจุดระเบิดลูกสูบทั้งหมด ผมก็ถามว่าแล้วพี่จะซ่อมอาการฝาโก่งยังไง ทางเจ้าของอู่แจ้งว่าจะต้องไสฝาหรือการปาดลูกสูบและเปลี่ยนประเก็น ทางอู่จะโทรมาแจ้งค่าเสียหายหลังจากใกล้จะซ่อมเสร็จ
กระทู้อ้างอิงอาการเสียซึ่งเป็นอาการเดียวกันกับรถผม :
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หลังจากผ่านไปได้สักประมาณอีกเกือบเดือน เนื่องจากคิวซ่อมของทางอู่เยอะ ทางเจ้าอู่ได้แจ้งค่าเสียหายเป็นจำนวนเงินประมาณ 5หมื่นกว่าบาท ในใจผมคิดเอาหล่ะวะ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เนื่องจากตอนนั้นมีเงินสดในมือไม่พอ ประจวบเหมาะกับพึ่งได้รับการอนุมัติวงเงินจากบัตรเครดิตมาจำนวนนึง
วันรับรถกลับจึงได้ทำการรูดเต็มวงเงินบัตรเครดิตและจ่ายเงินสดส่วนต่างกับทางเจ้าของอู่ไป ทางอู่ได้ทำการตรวจเช็ครถก่อนส่งมอบ ใช้เวลาสักพักใหญ่ๆ ทางอู่ได้แจ้งว่านำรถกลับได้เลย จึงเปิดประตูเข้าไปนั่งในรถ อื้อหือ!! แอร์จะหนาวไปไหนเนี่ย เหมือนอยู่ขั้วโลกเหนือ (ก็เวอร์ปายยย)
ปัจจุบันผมก็ยังใช้รถคันนี้อยู่ ถึงแม้จะขับๆ ซ่อมๆ เสียค่าบำรุงรักษาบ้างเป็นระยะๆ แต่การซ่อมครั้งน้ันถือได้ว่าเป็นการซ่อมครั้งใหญ่ที่สุดของรถคันนี้ของผมเลย และไม่มีการซ่อมครั้งไหนเสียค่าใช้จ่ายเยอะขนาดนั้นมาก่อน ซึ่งสาเหตุน่าจะเป็นรถมือสองของผมคันนี้น่าจะเคยผ่านการติดแก๊สมาก่อนที่จะมาจอดขายให้ผม
สรุป: ส่วนบทเรียนและอุทาหรณ์จากการซื้อรถมือสองที่ได้ในครั้งนั้น ก่อนจะซื้อรถมือสองทุกครั้ง ถ้าคุณไม่มีความรู้เรื่องรถยนต์หรือเครื่องยนต์เลย อย่างน้อยควรจะหาข้อมูลรถรุ่นนั้นๆก่อน ผมแนะนำให้หาคนรู้จักที่มีความรู้เรื่องรถและเครื่องยนต์หรือจ้างช่างอู่ซ่อมรถ จ่ายค่าเสียเวลาช่างสัก ห้าร้อย-พันนึงหรือตามตกลงไปตรวจเช็คให้จะดีกว่า ส่วนตอนลองรถ ขอทางเต๊นท์ออกถนนใหญ่ไปเลย ให้คนของทางเต๊นท์นั่งไปด้วย ถ้าไม่ถูกใจก็ขอจ่ายค่าเสียเวลาหรือแลกกับการเติมน้ำมันให้กับทางเต๊นท์ไป สุดท้ายนี้ขอให้ทุกท่านโชคดีกับรถยนต์คันโปรดที่ได้มาจากหยาดเหงื่อและน้ำพักน้ำแรงทุกบาททุกสตางค์ครับ
"เสียน้อยเสียยาก..เสียมากเสียง่าย"