เพราะว่าเมื่อคือผมนอนไม่ค่อยหลับ อาจเพราะกินกาแฟมากเกินไปมั้ง ผมเลยได้ใช้เวลานอนคิดคิดอะไรเรื่อยเปื่อยไปทั้งคืน แล้วก็เคนคิดอะไรสนุกๆออกมาได้ เลยอยากเอามาเล่าให้ทุกคนฟังกันครับ
คือเรารู้อยู่แล้วใช่ไหมครับว่าสรรพสิ่งล้วยประกอบด้วย สสาร และ พลังงาน ซึ่งทั้งสองนั้นมีความเกี่ยวข้องกัน หรืออาจพูดได้ว่าเป็นสิ่งเดียวกัน
ดั่งสมการ E = mc^2 อันโด่งดัง ดั่งน้ำ และ น้ำแข็ง ที่ทั้งสองล้วนถูกสร้างขึ้นมาจากโมเลกุลน้ำเหมือนกัน แตกต่างกันที่สถานะ
แต่ถ้าเป็นอย่างงั้นจริง แล้วมันควารจะมีสถานะที่3หรือไม่ เทียบได้กับ น้ำที่อยู่ในสถานะแก๊ส แล้วมันคืออะไรหละ
ผมเลยลองกลับไปคิดว่าแล้วอะไรที่ทำให้ น้ำแข็ง น้ำในรูแของแหลว และ ไอน้ำนั้น แต่ต่างกันหละ
และผมได้คำตอมคือ ความเร็วในการเคลื่อนที่ไง โมเลกุลของน้ำแข็งนั้นแทบจะอยู่นิ่งๆหรือไม่เคลื่อนที่เลย แต่โมเลกุลของน้ำของเหลวนั้นเคลื่อนที่ด้วยความเร็วค่าหนึ่ง ส่วนโมเลกุลไอน้ำนั้นเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงมาก เมื่อเทียบกับสองสถานะที่ผ่านมา
ซึ่งพอกลับมาเอาคิด สสาร และ พลังงานก็เป็นแบบนั้น วัตถุใดๆมี่มีมวลจะมีความเร็วสูงสุดต่ำกว่าความเร็วแสงเสมอ และพลังงานที่อยู่ในรูป ของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ากลับมีความเร็วเท่าแสง ดังนั้นสสารในสถานะที่3ที่เปรียบเป็นไอน้ำนั้น ควรจะสามารถเคลื่อนที่ด้วยความเร็วมากกว่าแสงได้
และเมื่อกลับมาคิดถึงสถานะของน้ำ เรารู้ว่ามันสามารถเปลี่ยนกลับไปมาได้ แต่มันมักมีจุดสูญกลางอยู่ นั่นคือน้ำในรูปแบบของเหลว เพราะถ้าน้ำแข็งจะเปลี่ยนเป็นไอน้ำส่วนใหญ่มันก็ต้องละลายเปลี่ยนกลับเป็นน้ำก่อน ไอน้ำก็เช่นกันถ้าจะเปลี่ยนเป็นน้ำแข็ง ส่วนใหญ่ก็ต้องกลั่นตัวเป็นน้ำก่อน ดังนั้นน้ำในรูปแบบของเหลวคือจุดผ่านที่ถ้าสสารส่วนใหญ่จะเปลี่ยนสถานะไปมาต้องผ่านก่อน
ดังนั้นเมื่อเราเปรียบน้ำในรูปแบบของเหลวแล้ว สสารที่มีมวลจะเปลี่ยนเป็นสารในสถานะที่3ยอมต้องเปลี่ยนเป็นพลังงานก่อน และสารในสถานะที่3จะเปลี่ยนเป็นสสารที่มีมวลก็ต้องเปลี่ยนเป็นพลังงานก่อน อาจไม่ทั้งหมดแต่ส่วนใหญ่ควรเป็นแบบนั้น
ดังนั้นผมเลนคิดถึงปีศาจแมกซ์เวลล์ ซึ่งกล่าวถึงการที่ปีศาจสามารถสร้างพลังงานได้จากความว่างเปล่า และการลดลงของเอนโทรปี
โดยมีทฤษฎีหนึ่งออกมาแย้งว่าปีศาจไม่สารมารถลดเอนโทรปีได้เพราะการที่ปีศาจจะเปิดปิดประตูได้ถูกต้องปีศาจต้องรู้ข้อมูลของอนุภาคที่ผ่านประตู และในการเขียนหรือลบข้อมูลย่อมต้องใช้พลังงานไม่น้อยกว่าพลังงานที่ได้มา ดังนั้นโดยทฤษฎีนี้แสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูล และพลังงาน โดยสมมุติว่าเรามีข้อมูลการเคลื่อนที่ของอนุภาคทั้งหมดในกล่อง ณช่วงเวลาหนึ่ง เราก็สามารถสร้างพลังงานขึ้นมาจากการเปิดปิดประตูได้ และเมื่อเราใช้ข้อมูลนั้นในการเปิดปิดประตูแล้วข้อมูลนั้นจึงใช้ไม่ได้อีกต่อไป ดังนั้น ความสัมพันธ์นี้ แสดงให้เห็นว่า ข้อมูล และ พลังงาน นั้นสามารถเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาได้
แล้วอะไรคือตัวแทนของข้อมูลหละ ถ้าหากอนุภาคมูลฐานที่มีมวลคือตัวแทนของสสาร คลื่นต่างๆ คือตัวแทนของพลังงาน ดังนั้นตัวแทนของข้อมูลคืออะไร
จากการสังเกตุสสารนั้นมีทั้งมวลและพลังงาน แต่คลื่นกลับมีพลังงานแต่ไม่มีมวล ถ้าคิดดูดีๆแล้วทั้งสสารและพลังงานนั้นก็มีข้อมูลอยู่ในตัว ดังนั้นตัวแทนของข้อมูล ควรที่จะไม่มีมวล ไม่มีพลังงาน แต่สามารถตรวจวัดและสังเกตุว่ามีอยู่จริงได้ ดังนั้นตัวแทนของข้อมูลผมนึกถึงความว่างเปล่า
ยกตัวอย่างเช่นรูบนผนัง เรารู้ว่ารูบนผนังนั้นมีอยู่จริง เราสามารถสังเกตุเห็นและตรวจวัดมันได้ มันมีข้อมูลของตัวเอง เช่นความกว้างความลึก ตำแห่ง แต่รูบนกำแพงนั้นไม่มีมวล และไม่มีพลังงาน แล้วตัวจริงของรูบนกำแพงนั้นคืออะไร คำตอบก็คือไม่มีอะไร เพราะมันไม่มีอะไรมันถึงเป็นรู ดังนั้นมันคือความว่างเปล่า
และถ้าสสารที่3ต้องเคลื่อนที่เร็วกว่าแสงจริง ผมเลยได้สร้างแบบจำลองทางความคิดขึ้นมากล่องหนึ่ง โดยในกล่องนั้นมีด้านกว้างเท่าไหร่ก็ได้ และสูง3ปีแสง ยาว6ปีแสง โดยมีกล่องที่กว้างเท่ากับกล่องแรกแต่สูง2ปีแสง ยาวแค่2ปีแสง อยู่ตรงกลาง เมื่อเราเลื่อนกล่องไปทางขวา1ปีแสงโดยใช้เวลา1.2ปี ช่องว่างด้านขวาของกล่องจะหายไป2ปีแสง กลับกัน ช่องว่างด้านซ้ายของกล่องกลับเพิ่มมาอีก2ปีแสง ช่องว่างนี้มาจากไหน เมื่อพิจารณาในกล่องแล้วช่องว่างไม่ได้เพิ่มขึ้นหรือลดลงมันเท่าเดิมตลอด หรือก็คือมันไม่ได้หายไปไหน ช่องว่างนั้นเคลื่อนที่จากที่หนึ่งไปสู่ที่หนึ่ง และช่องที่ให้เคลื่อนที่นั้นแคบกว่ากล่องเล็ก2เท่ามันจึงต้องเคลื่อนที่เร็วกว่า2เท่า ที่ดังนั้นเรานิยามได้ว่าช่องว่างนั้นเคลื่อนที่ระยะทาง2ปีแสง ในเวลา1.2ปี หรือก็คือมันเคลื่อนที่เร็วกว่าแสง
และจากเมื่อกี้ที่เราพูดถึงเราพูดถึงเอนโทรปีที่มีแต่จะเพิ่มขึ้น พอเรามามองดูในจักรวาลเราแล้ว ทุกอย่างนั้นกำลังพุ่งสู่การกลายเป็นพลังงาน อย่างการดาวฤกษ์ หลุมดำ ดาวนิวตรอน หรือแม้กระทั้งแค่เรากระพริบตา ทุกอย่างมันทำให้เกิดพลังงาน และการลดลงของมวล แปลว่าสารในสถานะพลังงานนั้นมีเอนโทรปีสูงกว่าสสารที่มีมวล และเอนโทรปีสูงกว่าไม่ได้หมายถึงความยุ่งเหยิงที่มากกว่าอย่างที่เราเข้าใจกัน แต่หมายถึงความเป็นไปได้ที่มากกว่า ความเป็นไปได้ที่มากกว่าย่อมหมายถึงข้อมูลที่มากกว่า กล่าวอีกนัยหนึ่งข้อมูลนั้นมีสถานะเอนโทรปีที่สูงกว่าพลังงานนั่นเอง
หรือก็คือตามความคิดผมเราสามารถสรุปได้ว่าสสาร พลังงาน หรือสิ่งรอบตัวเราประกอบขึ้นจากสิ่งที่เล็กที่สุดคือข้อมูล ข้อมูลที่มากมายมหาสารอัดแน่นกันจนกลายเป็นพลังงาน และพลังงานมากมายมหาสารอัดแน่นกันจนกลายเป็นสสาร และมีความว่างเปล่าคือตัวแทนของข้อมูล แปลได้ว่าทุกสรรพสิ่งนั้นล้วนก่อกำเนิดขึ้นมาจากความว่างเปล่า หรือก็คือเมื่อเวลาผ่านไปสสารเหล่านั้นจะกลับไปเป็นข้อมูลที่แตกตัวกระจัดกระจายออก ดั่งหมึกที่หยดลงบนมหาสมุทรที่กระจายตัวออกไปไม่มีที่สิ้นสุด และตัวเรา ทุกสิ่งรอบตัวเรา ล้วนจะกลายเป็นเพียงความความเปล่า
สถานะอื่น นอกจาก สสารและพลังงาน
คือเรารู้อยู่แล้วใช่ไหมครับว่าสรรพสิ่งล้วยประกอบด้วย สสาร และ พลังงาน ซึ่งทั้งสองนั้นมีความเกี่ยวข้องกัน หรืออาจพูดได้ว่าเป็นสิ่งเดียวกัน
ดั่งสมการ E = mc^2 อันโด่งดัง ดั่งน้ำ และ น้ำแข็ง ที่ทั้งสองล้วนถูกสร้างขึ้นมาจากโมเลกุลน้ำเหมือนกัน แตกต่างกันที่สถานะ
แต่ถ้าเป็นอย่างงั้นจริง แล้วมันควารจะมีสถานะที่3หรือไม่ เทียบได้กับ น้ำที่อยู่ในสถานะแก๊ส แล้วมันคืออะไรหละ
ผมเลยลองกลับไปคิดว่าแล้วอะไรที่ทำให้ น้ำแข็ง น้ำในรูแของแหลว และ ไอน้ำนั้น แต่ต่างกันหละ
และผมได้คำตอมคือ ความเร็วในการเคลื่อนที่ไง โมเลกุลของน้ำแข็งนั้นแทบจะอยู่นิ่งๆหรือไม่เคลื่อนที่เลย แต่โมเลกุลของน้ำของเหลวนั้นเคลื่อนที่ด้วยความเร็วค่าหนึ่ง ส่วนโมเลกุลไอน้ำนั้นเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงมาก เมื่อเทียบกับสองสถานะที่ผ่านมา
ซึ่งพอกลับมาเอาคิด สสาร และ พลังงานก็เป็นแบบนั้น วัตถุใดๆมี่มีมวลจะมีความเร็วสูงสุดต่ำกว่าความเร็วแสงเสมอ และพลังงานที่อยู่ในรูป ของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ากลับมีความเร็วเท่าแสง ดังนั้นสสารในสถานะที่3ที่เปรียบเป็นไอน้ำนั้น ควรจะสามารถเคลื่อนที่ด้วยความเร็วมากกว่าแสงได้
และเมื่อกลับมาคิดถึงสถานะของน้ำ เรารู้ว่ามันสามารถเปลี่ยนกลับไปมาได้ แต่มันมักมีจุดสูญกลางอยู่ นั่นคือน้ำในรูปแบบของเหลว เพราะถ้าน้ำแข็งจะเปลี่ยนเป็นไอน้ำส่วนใหญ่มันก็ต้องละลายเปลี่ยนกลับเป็นน้ำก่อน ไอน้ำก็เช่นกันถ้าจะเปลี่ยนเป็นน้ำแข็ง ส่วนใหญ่ก็ต้องกลั่นตัวเป็นน้ำก่อน ดังนั้นน้ำในรูปแบบของเหลวคือจุดผ่านที่ถ้าสสารส่วนใหญ่จะเปลี่ยนสถานะไปมาต้องผ่านก่อน
ดังนั้นเมื่อเราเปรียบน้ำในรูปแบบของเหลวแล้ว สสารที่มีมวลจะเปลี่ยนเป็นสารในสถานะที่3ยอมต้องเปลี่ยนเป็นพลังงานก่อน และสารในสถานะที่3จะเปลี่ยนเป็นสสารที่มีมวลก็ต้องเปลี่ยนเป็นพลังงานก่อน อาจไม่ทั้งหมดแต่ส่วนใหญ่ควรเป็นแบบนั้น
ดังนั้นผมเลนคิดถึงปีศาจแมกซ์เวลล์ ซึ่งกล่าวถึงการที่ปีศาจสามารถสร้างพลังงานได้จากความว่างเปล่า และการลดลงของเอนโทรปี
โดยมีทฤษฎีหนึ่งออกมาแย้งว่าปีศาจไม่สารมารถลดเอนโทรปีได้เพราะการที่ปีศาจจะเปิดปิดประตูได้ถูกต้องปีศาจต้องรู้ข้อมูลของอนุภาคที่ผ่านประตู และในการเขียนหรือลบข้อมูลย่อมต้องใช้พลังงานไม่น้อยกว่าพลังงานที่ได้มา ดังนั้นโดยทฤษฎีนี้แสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูล และพลังงาน โดยสมมุติว่าเรามีข้อมูลการเคลื่อนที่ของอนุภาคทั้งหมดในกล่อง ณช่วงเวลาหนึ่ง เราก็สามารถสร้างพลังงานขึ้นมาจากการเปิดปิดประตูได้ และเมื่อเราใช้ข้อมูลนั้นในการเปิดปิดประตูแล้วข้อมูลนั้นจึงใช้ไม่ได้อีกต่อไป ดังนั้น ความสัมพันธ์นี้ แสดงให้เห็นว่า ข้อมูล และ พลังงาน นั้นสามารถเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาได้
แล้วอะไรคือตัวแทนของข้อมูลหละ ถ้าหากอนุภาคมูลฐานที่มีมวลคือตัวแทนของสสาร คลื่นต่างๆ คือตัวแทนของพลังงาน ดังนั้นตัวแทนของข้อมูลคืออะไร
จากการสังเกตุสสารนั้นมีทั้งมวลและพลังงาน แต่คลื่นกลับมีพลังงานแต่ไม่มีมวล ถ้าคิดดูดีๆแล้วทั้งสสารและพลังงานนั้นก็มีข้อมูลอยู่ในตัว ดังนั้นตัวแทนของข้อมูล ควรที่จะไม่มีมวล ไม่มีพลังงาน แต่สามารถตรวจวัดและสังเกตุว่ามีอยู่จริงได้ ดังนั้นตัวแทนของข้อมูลผมนึกถึงความว่างเปล่า
ยกตัวอย่างเช่นรูบนผนัง เรารู้ว่ารูบนผนังนั้นมีอยู่จริง เราสามารถสังเกตุเห็นและตรวจวัดมันได้ มันมีข้อมูลของตัวเอง เช่นความกว้างความลึก ตำแห่ง แต่รูบนกำแพงนั้นไม่มีมวล และไม่มีพลังงาน แล้วตัวจริงของรูบนกำแพงนั้นคืออะไร คำตอบก็คือไม่มีอะไร เพราะมันไม่มีอะไรมันถึงเป็นรู ดังนั้นมันคือความว่างเปล่า
และถ้าสสารที่3ต้องเคลื่อนที่เร็วกว่าแสงจริง ผมเลยได้สร้างแบบจำลองทางความคิดขึ้นมากล่องหนึ่ง โดยในกล่องนั้นมีด้านกว้างเท่าไหร่ก็ได้ และสูง3ปีแสง ยาว6ปีแสง โดยมีกล่องที่กว้างเท่ากับกล่องแรกแต่สูง2ปีแสง ยาวแค่2ปีแสง อยู่ตรงกลาง เมื่อเราเลื่อนกล่องไปทางขวา1ปีแสงโดยใช้เวลา1.2ปี ช่องว่างด้านขวาของกล่องจะหายไป2ปีแสง กลับกัน ช่องว่างด้านซ้ายของกล่องกลับเพิ่มมาอีก2ปีแสง ช่องว่างนี้มาจากไหน เมื่อพิจารณาในกล่องแล้วช่องว่างไม่ได้เพิ่มขึ้นหรือลดลงมันเท่าเดิมตลอด หรือก็คือมันไม่ได้หายไปไหน ช่องว่างนั้นเคลื่อนที่จากที่หนึ่งไปสู่ที่หนึ่ง และช่องที่ให้เคลื่อนที่นั้นแคบกว่ากล่องเล็ก2เท่ามันจึงต้องเคลื่อนที่เร็วกว่า2เท่า ที่ดังนั้นเรานิยามได้ว่าช่องว่างนั้นเคลื่อนที่ระยะทาง2ปีแสง ในเวลา1.2ปี หรือก็คือมันเคลื่อนที่เร็วกว่าแสง
และจากเมื่อกี้ที่เราพูดถึงเราพูดถึงเอนโทรปีที่มีแต่จะเพิ่มขึ้น พอเรามามองดูในจักรวาลเราแล้ว ทุกอย่างนั้นกำลังพุ่งสู่การกลายเป็นพลังงาน อย่างการดาวฤกษ์ หลุมดำ ดาวนิวตรอน หรือแม้กระทั้งแค่เรากระพริบตา ทุกอย่างมันทำให้เกิดพลังงาน และการลดลงของมวล แปลว่าสารในสถานะพลังงานนั้นมีเอนโทรปีสูงกว่าสสารที่มีมวล และเอนโทรปีสูงกว่าไม่ได้หมายถึงความยุ่งเหยิงที่มากกว่าอย่างที่เราเข้าใจกัน แต่หมายถึงความเป็นไปได้ที่มากกว่า ความเป็นไปได้ที่มากกว่าย่อมหมายถึงข้อมูลที่มากกว่า กล่าวอีกนัยหนึ่งข้อมูลนั้นมีสถานะเอนโทรปีที่สูงกว่าพลังงานนั่นเอง
หรือก็คือตามความคิดผมเราสามารถสรุปได้ว่าสสาร พลังงาน หรือสิ่งรอบตัวเราประกอบขึ้นจากสิ่งที่เล็กที่สุดคือข้อมูล ข้อมูลที่มากมายมหาสารอัดแน่นกันจนกลายเป็นพลังงาน และพลังงานมากมายมหาสารอัดแน่นกันจนกลายเป็นสสาร และมีความว่างเปล่าคือตัวแทนของข้อมูล แปลได้ว่าทุกสรรพสิ่งนั้นล้วนก่อกำเนิดขึ้นมาจากความว่างเปล่า หรือก็คือเมื่อเวลาผ่านไปสสารเหล่านั้นจะกลับไปเป็นข้อมูลที่แตกตัวกระจัดกระจายออก ดั่งหมึกที่หยดลงบนมหาสมุทรที่กระจายตัวออกไปไม่มีที่สิ้นสุด และตัวเรา ทุกสิ่งรอบตัวเรา ล้วนจะกลายเป็นเพียงความความเปล่า