บทความนี้ทำขึ้นเพื่อทำความเข้าใจเรื่องการเปรียบเทียบคำว่า แสงสว่างของชีวิต ในนิยามของผม
1 เข้าใจธรรมชาติ และ สิ่งพื้นฐานของธรรมชาติ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้การเข้าใจเรื่องนี้จะนำมาสู่การยอมรับความแตกต่างของสรรพสิ่งในจักรวาล ที่นำมาสู่ทางเลือกต่างๆ
ซึ่งผมจำเป็นต้องยกความรู้เรื่องของ อนุภาค และ อะตอม ซึ่งเป็นสิ่งพื้นฐานของจักวาลมาอ้างอิง
ผมจะไม่เจาะลึกไปถึงอนุภาคมูลฐานที่เป็นส่วนประกอบของอนุภาค
แต่จะพูดในระดับของอนุภาคพื้นฐานได้แก่ อิเล็กตรอน โปรตรอน และ นิวตรอนเท่านั้น
โดยสิ่งที่ผมจะยกมาคือเรื่อง อนุภาค มีประจุทางไฟฟ้าเป็น + - และ เป็นกลาง นั่นคือ 3 ทางของธรรมชาติ
นอกเหนือจาก space สรรพสิ่งล้วนเกิดจากการมีอยู่ของอนุภาคดังนั้น
เราต้องยอมรับก่อนว่าที่ว่าง space มีจริง และ ในที่ว่างก็มีบางสิ่งจริงแม้จะมองไม่เห็น
นั่นคือ อนุภาคต่างๆ ที่ประกอบขึ้นเป็นอะตอม
อะตอม เป็นหน่วยพื้นฐานของสสาร ประกอบด้วยส่วนของนิวเคลียสที่หนาแน่นมากอยู่ตรงศูนย์กลาง
ล้อมรอบด้วยกลุ่มหมอกของอิเล็กตรอนที่มีประจุลบ
นิวเคลียสของอะตอมประกอบด้วยโปรตอนที่มีประจุบวก กับนิวตรอนซึ่งเป็นกลางทางไฟฟ้า
(ยกเว้นในกรณีของ ไฮโดรเจน-1 ซึ่งเป็นนิวไคลด์เสถียรชนิดเดียวที่ไม่มีนิวตรอน)
คุณสมบัติเบื้องต้นของ อนุภาค ขนาดมวล
โดยขนาดของมวลนิวตรอน กับ โปรตรอนใกล้เคียงกันมาก แต่นิวตรอนจะมีมวลมากกว่าโปรตรอนเล็กน้อย
ส่วนอิเล็กตรอนขนาดมวลเล็กกว่าโปรตรอนกับนิวตรอนมาก โดยมีขนาดมวลขนาด 1 ใน 18636 เท่าของโปรตอน
ประจุทางไฟฟ้า
อิเล็กตรอน มีประจุเป็น -
โปรตรอน มีประจุเป็น +
และ นิวตรอนมีประจุเป็นกลาง หรือไม่มีประจุไฟฟ้า
แม้ขนาดมวลของอิเล็กตรอนที่มีประจุ - จะน้อยกว่าโปรตรอนที่มีประจุ + มาก
แต่อิเล็กตรอนประจุ - 1 ตัว ก็สามารถหักล้างกับโปรตรอน ประจุ + 1 ตัว ให้เป็นกลางทางไฟฟ้าได้
ดังนั้น ขนาดมวลใหญ่เล็ก ไม่มีผลต่อการแสดงตัวสถานะทางประจุของไฟฟ้าของอะตอม
อะตอม ที่เล็กที่สุด คือ ไฮโดรเจน เป็นธาตุเคมีที่มีเลขอะตอม 1 มีน้ำหนักอะตอมเฉลี่ย 1.00794 u (1.007825 u สำหรับไฮโดรเจน-1)
ไฮโดรเจน 1 อะตอม มี โปรตรอน 1 ตัว และ อิเล็กตรอน 1 ตัว ดังนั้นจึงมีประจุ + และ - อยู่เท่ากัน อะตอมของไฮโดรเจนจึงมีสถานะเป็นกลาง
ไฮโดรเจนเป็นธาตุที่เบาที่สุดและพบมากที่สุดในเอกภพ ซึ่งคิดเป็นมวลธาตุเคมีประมาณร้อยละ 75 ของเอกภพ
สรุปสั้นๆว่าในระดับอะตอม มีประจุทางไฟฟ้าได้ 3 แบบคือ + - และเป็นกลาง
มันก็คือ 3 ทางเลือกขั้นพื้นฐานของคนเรา
ไปซ้ายไปขวา หรืออยู่ตรงกลาง
ไปบนไปล่าง หรืออยู่ตรงกลาง
ชอบ ไม่ชอบ หรือเฉยๆ
เห็นด้วย ไม่เห็นด้วย หรือไม่ออกความเห็น 9ล9
เราจึงควรต้องยอมรับความแตกต่าง 3 แบบ ที่สามารถอยู่แบบใดก็ได้
2 พลังของการรวม และ พลังของการแตกแยก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้พลังของการรวม (มวล)
ปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชั่น
ปฏิกิริยาชนิดนี้เกิดจากการที่นิวเคลียสของอะตอมธาตุเบาหลอมตัวเข้าด้วยกันและได้นิวเคลียสที่หนักกว่าเดิมและมีเสถียรภาพมากขึ้น
พลังงานจากดวงอาทิตย์ที่แผ่ออกไปในระบบสุริยะเกิดจากปฏิกิริยานิวเคลียร์ชนิดนี้
ซึ่งต้องอาศัยความร้อนที่อุณหภูมิสูงนับล้านองศาเซลเซียสและมาจากการรวมนิวเคลียสของไฮโดรเจน 2 อะตอม ได้เป็นฮีเลียม 1 อะตอม
โดยเกิดขึ้นบริเวณแกนกลางของดวงอาทิตย์
พลังของการแตกแยก (มวล)
ปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิชชัน เป็นปฏิกิริยานิวเคลียร์หรือกระบวนการการสลายกัมมันตรังสีอย่างหนึ่งที่นิวเคลียสของอะตอม แตกออกเป็นชิ้นขนาดเล็ก
(นิวเคลียสที่เบากว่า) กระบวนการฟิชชันมักจะผลิตนิวตรอนและโปรตอนอิสระ (ในรูปของรังสีแกมมา) พร้อมทั้งปลดปล่อยพลังงานออกมาจำนวนมาก แม้ว่าจะเป็นการปลดปล่อยจากการสลายกัมมันตรังสีก็ตาม
โดยพลังงานต่อมวลของปฏิกิริยาฟิวชั่นมากกว่ากระบวนการฟิชชันมาก อีกทั้งผลิตผลจากปฏิกิริยานี้จะไม่เป็นสารกัมมันตรังสี
คำว่า มวล ในที่นี้เปรียบเปรยได้กับคำว่า มวลชน นั่นคือ การรวมคนเข้าหากัน หรือ การแตกแยกคนออกจากกัน
3 ผู้ให้กำเนิดแสงสว่างด้วยตัวเอง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ในที่นี้ผมจะยกเอา ดาวฤกษ์ ที่กำเนิดแสงด้วยตัวเองได้มาเปรียบเทียบ ซึ่งขอใช้ดวงอาทิตย์ของเราเองในการอธิบาย
ดวงอาทิตย์ เป็นแหล่งพลังงานสำคัญที่สุดสำหรับสิ่งมีชีวิตบนโลก
มวลประมาณ 75 % ของดวงอาทิตย์เป็นไฮโดรเจน ส่วนที่เหลือเป็นฮีเลียมเป็นหลัก
โดยมีปริมาณธาตุหนักกว่าเล็กน้อย รวมทั้งออกซิเจน คาร์บอน นีออนและเหล็ก
ดวงอาทิตย์ก่อตัวขึ้นเมื่อประมาณ 4.6 พันล้านปีก่อน จากการยุบของแรงโน้มถ่วง (gravitational collapse)
ของสสารภายในบริเวณกลุ่มเมฆโมเลกุลขนาดใหญ่ สสารนี้ส่วนใหญ่รวมอัดแน่นอยู่ที่ใจกลาง
ซึ่งมวลใจกลางร้อนและหนาแน่นมากจนเริ่มเกิดปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชั่น ณ แก่นดาว
ซึ่งเชื่อว่าเป็นกระบวนการเกิดดาวฤกษ์ส่วนใหญ่
ทุก ๆ วินาที จะมีนิวเคลียสของไฮโดรเจน 3.4×1038 ตัว ถูกแปรรูปเป็นฮีเลียม
ผลิตพลังงานได้ 383×1024 จูล หรือเทียบได้กับระเบิดไตรไนโตรโทลูอีน (TNT) ถึง 9.15×1019 กิโลกรัม
ดาวฤกษ์ เช่น ดวงอาทิตย์ คือผู้รวมมวลเข้าหากันแล้วปลดปล่อยแสงสว่างไปรอบทิศทางโดยไม่มีแบ่งแยกว่าจะปล่อยแสงไปทางใด
พลัง + พลัง - แสงสว่าง และ ความมืดในชีวิตของคน
จากหัวข้อ 1-3 ผมจึงเทียบได้ว่าการให้กำลังใจคือแสงสว่าง เช่นดวงอาทิตย์ คือการไม่แบ่งแยกและรวมมวลเข้าหากัน
แล้วปล่อยพลังงานแสงสว่างออกมาโดยไม่เลือกทิศทางใดๆและไม่เป็นสารกัมมันตรังสี ให้เป็นตัวแทนของพลังด้าน +
ส่วนการทำลายกำลังใจ คือสิ่งที่ตรงข้ามกับสิ่งที่ดวงอาทิตย์ทำ นั่นคือการแตกแยกมวลออกจากกันแล้วปล่อยพลังงานออกมา
แม้จะปล่อยพลังงานแสงสว่างไม่เลือกทิศทางได้เช่นกัน แต่ก็มาพร้อมกัมมันตภาพรังสีที่เป็นอันตราย จึงถึอเป็นตัวแทนพลังงานด้าน -
หากเทียบกับการมีชีวิตของคน การได้รับพลังด้านดีก็เหมือนได้รับกำลังใจ ได้พลังด้าน +
การได้รับพลังด้านที่ไม่ดี ก็เหมือนการถูกบูลลี่ต่างๆ หรือพลังด้าน -
และตามธรรมชาติการมีสถานะเป็นกลาง ก็มีอยู่จริงในระดับของอะตอมแล้ว ผมจึงขออธิบายเรื่องแสงสว่างของชีวิต ดังรูป

ดังนั้นสำหรับคนเราทุกคน จึงควรเรียนรู้เข้าใจการเป็นคนที่ดีขึ้นและพัฒนาตัวเองไปเป็นดังแสงสว่างให้ชีวิตอื่นๆให้ได้
ทำได้มากน้อยแค่ไหน ก็ขึ้นกับความพยายามฝึกฝนของคนๆนั้น
จะถามว่าทำไมผมถึงยกเรื่องนี้มาใน tag วงไอดอล 48 เพราะเคยมีคนกล่าวไว้ว่า

แต่ คำว่าแสงสว่างของชีวิต ที่ผมได้รับมาก็เพราะคำว่า การให้กำลังใจกัน นี่แหละครับ
ผมเลยอยากให้สังคมนี้มันดีขึ้น ด้วยการที่ให้เราได้เข้าใจ และ ความพยายามที่จะเป็นคนที่ดีขึ้น
ด้วยการก้าวเข้าสู่
เส้นทางของการเป็นดังเช่นแสงสว่างในชีวิตของคนอื่น ไปด้วยกัน
เส้นทางไปสู่ แสงสว่างของชีวิต
1 เข้าใจธรรมชาติ และ สิ่งพื้นฐานของธรรมชาติ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
2 พลังของการรวม และ พลังของการแตกแยก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
3 ผู้ให้กำเนิดแสงสว่างด้วยตัวเอง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
พลัง + พลัง - แสงสว่าง และ ความมืดในชีวิตของคน
จากหัวข้อ 1-3 ผมจึงเทียบได้ว่าการให้กำลังใจคือแสงสว่าง เช่นดวงอาทิตย์ คือการไม่แบ่งแยกและรวมมวลเข้าหากัน
แล้วปล่อยพลังงานแสงสว่างออกมาโดยไม่เลือกทิศทางใดๆและไม่เป็นสารกัมมันตรังสี ให้เป็นตัวแทนของพลังด้าน +
ส่วนการทำลายกำลังใจ คือสิ่งที่ตรงข้ามกับสิ่งที่ดวงอาทิตย์ทำ นั่นคือการแตกแยกมวลออกจากกันแล้วปล่อยพลังงานออกมา
แม้จะปล่อยพลังงานแสงสว่างไม่เลือกทิศทางได้เช่นกัน แต่ก็มาพร้อมกัมมันตภาพรังสีที่เป็นอันตราย จึงถึอเป็นตัวแทนพลังงานด้าน -
หากเทียบกับการมีชีวิตของคน การได้รับพลังด้านดีก็เหมือนได้รับกำลังใจ ได้พลังด้าน +
การได้รับพลังด้านที่ไม่ดี ก็เหมือนการถูกบูลลี่ต่างๆ หรือพลังด้าน -
และตามธรรมชาติการมีสถานะเป็นกลาง ก็มีอยู่จริงในระดับของอะตอมแล้ว ผมจึงขออธิบายเรื่องแสงสว่างของชีวิต ดังรูป
ดังนั้นสำหรับคนเราทุกคน จึงควรเรียนรู้เข้าใจการเป็นคนที่ดีขึ้นและพัฒนาตัวเองไปเป็นดังแสงสว่างให้ชีวิตอื่นๆให้ได้
ทำได้มากน้อยแค่ไหน ก็ขึ้นกับความพยายามฝึกฝนของคนๆนั้น
จะถามว่าทำไมผมถึงยกเรื่องนี้มาใน tag วงไอดอล 48 เพราะเคยมีคนกล่าวไว้ว่า
แต่ คำว่าแสงสว่างของชีวิต ที่ผมได้รับมาก็เพราะคำว่า การให้กำลังใจกัน นี่แหละครับ
ผมเลยอยากให้สังคมนี้มันดีขึ้น ด้วยการที่ให้เราได้เข้าใจ และ ความพยายามที่จะเป็นคนที่ดีขึ้น
ด้วยการก้าวเข้าสู่ เส้นทางของการเป็นดังเช่นแสงสว่างในชีวิตของคนอื่น ไปด้วยกัน