บ่นระงม! ยืนยันสิทธิ ‘เราชนะ’ วันแรกไม่ได้ งงใช้ฐานเงินเดือนปี 62-กรอกข้อมูลไม่ผ่าน
https://www.matichon.co.th/economy/news_2563436
 
บ่นระงม! ยืนยันสิทธิ ‘เราชนะ’ วันแรกไม่ได้ งงใช้ฐานเงินเดือนปี 62-กรอกข้อมูลไม่ผ่าน
 
เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ นับเป็นวันแรกที่โครงการ “เราชนะ” โอนเงินเข้าครั้งแรก สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งจะโอนเงินให้ทุกวันศุกร์ จนครบ 7000 บาท
 
ขณะที่ กลุ่มผู้ใช้ คนละครึ่ง และ เราเที่ยวด้วยกัน ก็สามารถเข้าไปกดยืนยันสิทธิ “เราชนะ” ได้ผ่านแอพพ์เป๋าตังแล้ววันนี้
 
อย่างไรก็ตาม หลายคนที่รอลงทะเบียน ต่างเผยว่า ประสบกับปัญหาต่างๆ ไม่น้อย หลายรายดำเนินการไม่สำเร็จ เนื่องจากระบบบอกว่าไม่พบเลขบัตรประชาชน ขณะที่ ประชาชนจำนวนมาก รู้สึกไม่ยุติธรรมที่มีการใช้ฐานเงินได้ปี 2562 ซึ่งยังไม่เกิดโควิด
 
จำนวนมากเกิดปัญหาว่า มีเงินได้มากกว่า 300,000 บาท ซึ่ง ไม่ได้มีรายได้มากขนาดนั้น ขณะที่บางคน ก็ไม่มีประกันสังคม แต่ก็ขึ้นว่ามีประกันสังคม โดยเฉพาะกับเหล่านักเรียน นักศึกษา
 
หลายราย มีการกรอกข้อมูลครบทุกช่อง เปลี่ยนหลายเครื่อง แต่ก็ขึ้นว่าดำเนินการไม่สำเร็จ เนื่องจากกรอกข้อมูลไม่ถูกต้อง
 
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ไม่ได้รับสิทธิ กระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า สามารถยื่นทบทวนสิทธิได้ใหม่ ในวันที่ 8 ก.พ. – 8 มี.ค. ที่ www.เราชนะ.com
 
จำนวนมากเกิดปัญหาว่า มีเงินได้มากกว่า 300,000 บาท ซึ่ง ไม่ได้มีรายได้มากขนาดนั้น ขณะที่บางคน ก็ไม่มีประกันสังคม แต่ก็ขึ้นว่ามีประกันสังคม โดยเฉพาะกับเหล่านักเรียน นักศึกษา
 
หลายราย มีการกรอกข้อมูลครบทุกช่อง เปลี่ยนหลายเครื่อง แต่ก็ขึ้นว่าดำเนินการไม่สำเร็จ เนื่องจากกรอกข้อมูลไม่ถูกต้อง
 

---

 
ยูเอ็นเอสซีเรียกร้องปล่อยตัว ‘ซูจี’ ย้ำต้องยึดมั่นปชต.
https://www.matichon.co.th/foreign/news_2563394

ยูเอ็นเอสซีเรียกร้องปล่อยตัว ‘ซูจี’ ย้ำต้องยึดมั่นปชต.

คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) เรียกร้องให้มีการปล่อยตัวนางออง ซาน ซูจี ผู้นำพรรคสันติบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) รวมถึงผู้ที่ถูกควบคุมตัวโดยกองทัพเมียนมาคนอื่นๆ

แถลงการณ์ของยูเอ็นเอสซียังได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นที่จะต้องมีการปกป้องกระบวนการและสถาบันประชาธิปไตย หลีกเลี่ยงความรุนแรง ให้ความเคารพอย่างเต็มที่ต่อสิทธิมนุษยชน และหลักการพื้นฐานของเสรีภาพรวมถึงหลักกฏหมาย

เนื้อหาในแถลงการณ์ของยูเอ็นเอสซีเบาบางลงกว่าร่างแถลงการณ์แรกซึ่งอังกฤษเป็นผู้ยกร่างขึ้น และไม่ได้ก้าวล่วงไปถึงการประณามการก่อเหตุรัฐประหารที่เกิดขึ้นเมื่อต้นสัปดาห์นี้ เพื่อให้ผ่านการยอมรับของจีนและรัสเซีย

ขณะที่ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐออกมาแสดงจุดยืนว่า กองทัพเมียนมาควรจะก้าวลงจากการยึดอำนาจ โดยสหรัฐจะทำงานร่วมกับชาติพันธมิตรเกี่ยวกับการยึดครองอำนาจของนายพลเมียนมา เพราะไม่มีข้อสงสัยว่ากองทัพในระบอบประชาธิปไตย ไม่ควรจะล้มล้างความต้องการของประชาชน หรือลบล้างผลการเลือกตั้งที่น่าเชื่อถือ

ขณะที่ทีมที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงของไบเดนชี้ว่า รัฐบาลสหรัฐกำลังพิจารณาออกคำสั่งผู้บริหาร ซึ่งรวมถึงการคว่ำบาตรต่อเมียนมา
  

---

เยาวชนหญิงเจอชายผมเกรียนขอดูบัตร อจ.ธรรมศาสตร์ถามกลับ 'คุณเป็นใคร?' ก่อนโต้เถียงวุ่น
https://www.matichon.co.th/politics/news_2563273
 
เยาวชนหญิงเจอชายผมเกรียนขอดูบัตร อจ.ธรรมศาสตร์ถามกลับ ‘คุณเป็นใคร?’ ก่อนโต้เถียงวุ่น
 
เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ที่หน้าสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาประจำประเทศไทย ถนนสาทรเหนือ เขตบางรัก กรุงเทพฯ สืบเนื่องกรณีประชาชนกลุ่มหนึ่งนัดการนัดหมายจัดกิจกรรม ส่องไฟต้านรัฐประหาร หน้าสถานทูตเมียนมาวันนี้ เวลา 20.00 น.เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์
 
บรรยากาศหลังการทำกิจกรรม เมื่อเวลา 20.20 น. ทั้งชาวเมียนมาและชาวไทย ยังคงปักหลักอยู่รอบบริเวณ โดยมีจำนวนหนาแน่นขึ้นตามลำดับ
เวลา 20.35 น. ตำรวจตั้งแถวตอนเรียง 1 กั้นระหว่างผิวการจราจรกับทางเท้า มีความพยายามขอร้องให้ผู้ทำกิจกรรมแยกย้ายกลับ แต่ประชาชนทั้งไทยและเมียนมายังคงปักหลักที่เดิม โดยกลุ่มชาวเมียนมานำขนมชนิดต่างๆ มาแจกจ่ายทั้งกับชาวไทยและชาวเมียนมาด้วยกัน
 
เวลาประมาณ 20.45 น. มีชายคนหนึ่ง ผมเกรียน แต่งกายด้วยชุดไปรเวต เดินเข้ามายังกลุ่มเยาวชนหญิง 2 รายซึ่งนั่งพูดคุยกันหน้าอาคารไนน์ทูไฟฟ์ข้างสถานทูตเมียนมา โดยกล่าวว่า ‘ขอดูบัตรหน่อยครับ’ เยาวชนหญิงถามว่า ขอดูด้วยสาเหตุใด และเอ่ยปฏิเสธ ชายรายดังกล่าวยังคงขอดูบัตรของเยาวชนรายอื่นๆ ต่อไป
 
เคท ครั้งพิบูลย์ อาจารย์คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ ซึ่งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงจึงตะโกนบอกว่า ‘ไม่ต้องให้ดู มีสิทธิอะไรมาขอดู’
 
จากนั้น มีชายอีก 2 ราย แต่งกายด้วยชุดไปรเวต เดินเข้ามายังกลุ่มเยาวชน สมทบชายหัวเกรียน โดยชายรายหนึ่งกล่าวว่า ‘ทำไมจะขอดูไม่ได้’ เคท จึงถามกลับว่า ‘แล้วคุณเป็นใคร’ ชายดังกล่าวตอบว่า ‘เป็นตำรวจ’ โดยยังเอ่ยชื่อ ‘เคท’ ด้วย

จากนั้น อาจารย์เคทพร้อมกลุ่มเยาวชนจึงกล่าวว่า หากเป็นเช่นนั้น ขอดูบัตรด้วย มาแลกกันดู การมาขอดูบัตรประชาชนผู้อื่นโดยแต่งกายนอกเครื่องแบบ และไม่แสดงบัตร ประชาชนจะทราบได้อย่างไรว่าเป็นใคร

จากนั้น เกิดการโต้เถียงกันเกิดขึ้นอีก โดยเยาวชนชายควักบัตรประชาชนให้ดู แต่ไม่ให้ชายที่อ้างเป็นตำรวจนำไปถือ โดยมีการสอบถามถึงสาเหตุการขอดูบัตร ชายที่อ้างเป็นตำรวจระบุว่า ต้องการทราบว่า ‘เป็นคนไทยหรือพม่า’
 
ต่อมา มีการโต้เถียงและพูดคุยอีกพักหนึ่ง เหตุการณ์จึงสงบ
 
บรรยากาศเวลา 21.20 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงประจำการหน้าสถานทูต และประกาศขอให้ผู้ทำกิจกรรมส่วนหนึ่งที่ยังคงปักหลักแยกย้ายกลับ
ต่อมา เมื่อเวลาราว 21.30 น. เจ้าหน้าที่อีโอดี ตรวจสอบพื้นที่โดยรอบ
 
บรรยากาศเวลาประมาณ 21.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงเข้าแถวตรึงกำลังหน้าประตูสถานทูตยาวจนสุดกำแพง รวมถึงมีตำรวจ 2 นายยืนสังเกตการณ์บนสะพานลอยใกล้เคียง ในขณะที่สื่อมวลชนและประชาชนชาวไทยและเมียนมาแยกย้ายกลับเกือบทั้งหมดแล้ว