แม่ค้าพ่อค้าออนไลน์ ระวัง 6 อย่า ! ถ้าไม่อยากโดนลูกค้า เซบาย

                   กับยุคออนไลน์แบบนี้อะไร ๆ ก็ง่ายขึ้นไปเสียหมด ผู้คนต่างหันมาสนใจในเรื่องของความสะดวกสบายมากขึ้น การค้าขายก็เช่นกัน เชื่อว่ายุคนี้เป็นยุคที่ใครก็สามารถเป็นแม่ค้าพ่อค้าได้ โดยไม่ต้องถึงขั้นไปรับของมาขายแบบจริงจัง แต่หลายคนก็ใช้วิธีการขายของมือสองที่ตัวเองไม่ใช้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องสำอาง หนังสือ สารพัดอย่างที่จะขุดกันมาขายได้ จะสังเกตเห็นได้ว่า อาชีพแม่ค้าพ่อค้าออนไลน์จึงเป็นอีกอาชีพที่คนหันมาทำกันเยอะมาก ๆ 
 
 
ในเรื่องสไตล์การขายของในออนไลน์ แน่นอนว่าแม่ค้าพ่อค้าก็มีความแตกต่างออกไป  มีทั้งใจดี  อินดี้  สายฮา และก็มีแม่ค้าพ่อค้าอีกหลายประเภทเลยที่มีพฤติกรรมแบบที่ไล่ลูกค้าโดยที่ไม่รู้ตัว

ลองมาดูกันว่า 6 อย่า ในการขายแบบไหน ที่จะเป็นการไล่ลูกค้ามากที่สุด ?

         บางร้านจะขายของทั้งทีแต่ “ไม่ยอมติดราคา” หรือ ไม่บอกราคานั่นเอง  (บางร้านมาครบยันความยาวของกางเกง ตำหนิ ขนาดเอว ขนาดสะโพก ใส่ได้ทุกอย่างยกเว้นราคา!) ต้องให้ลูกค้าทักหลังไมค์เพื่อไปถามราคาอีกทีหนึ่ง ซึ่งวิธีการขายแบบนี้ เป็นการตัดลูกค้าไปเยอะเลย บางทีลูกค้าก็แค่อยากเห็นราคาเพื่อตัดสินใจไปเลยว่า “คุ้มค่า” ที่จะซื้อหรือไม่ และจะได้สามารถนำไปเปรียบเทียบกับร้านอื่น ๆ ได้ พอเห็นว่าไม่บอกราคาก็เปลี่ยนใจไปดูร้านอื่น และสิ่งสำคัญ พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์หากไม่ติดราคาสินค้านั้น ๆ หรือต้องให้ลูกค้าทักไปถามหลังไมค์ ระวังจะโดนปรับกันด้วย

 
               2.อย่า…เปลี่ยนช่องทางการติดต่อบ่อย ๆ
         หลายร้านที่ลงขายใน เฟสบุ๊ก ทวิตเตอร์ หรืออินสตาแกรม หรือช่องทางอื่น ๆ  แต่พอจะซื้อของแล้วลูกค้าต้องทักไลน์หรือต้องเปลี่ยนแอปพลิเคชันบ่อย ๆ ซึ่งก็ทำให้ความอยากซื้อของลูกค้าลดลงไปเหมือนกัน เพราะอย่าลืมว่าบางครั้ง ลูกค้าต้องการความสะดวก และรวดเร็วทันใจ ณ ตอนนั้น
 

 
               3.อย่า…ดุลูกค้า
         แน่นอนว่าเมื่อเป็นแม่ค้าพ่อค้าก็ต้องเจอคนมากมายหลากหลายประเภท ลูกค้าก็มีทั้งปกติ แปลก ไปถึงแปลกมาก หรือเป็นลูกค้าแย่ ๆ อย่างการจองของไปแล้วไม่เอา ยกเลิก ไม่โอนเงิน ต่าง ๆ นานา ก็มี  ซึ่งวิธีที่แม่ค้าพ่อค้าจะจัดการก็แตกต่างกันไป หลายร้านก็เลือกใช้วิธีแคปประจานหรือไม่ก็ตั้งกฎอย่างจริงจัง แต่บางคำที่พิมพ์ออกมาอาจจะทำให้ลูกค้าคนอื่น ๆ ไม่สบายใจเพราะเหมือนโดนด่าไปด้วย 
เชื่อว่าลูกค้าหลายคนชอบแม่ค้าพ่อค้าใจดี ถึงจะมีกฎที่เข้มงวดยังไงแต่ถ้ามีการจัดการที่สุภาพและเป็นระบบก็ย่อมจะดีกว่าเสมอ
 

               4.อย่า…นำรูปจากร้านอื่นมาใช้
         บางร้านที่ขายสินค้าแบบ Pre-Order ซึ่งตัวร้านค้าก็ยังไม่มีสินค้าอยู่เหมือนกัน แต่จะสั่งจากเว็ปไซต์ต่างประเทศหรือซื้อจากร้านที่ต่างประเทศตาม
ออเดอร์ของลูกค้า ร้านจึงต้องนำรูปที่มีอยู่แล้วในเว็ปไซต์นั้น ๆ มาลงเพื่อขายก่อน ในมุมมองของลูกค้ามีหลายคนเลยทีเดียวที่ไม่มั่นใจ และวิตกกังวลว่าจะได้ของตรงปกหรือเปล่า ทำให้ความอยากซื้อของลูกค้าก็ลดลงไป และเปลี่ยนใจไปร้านอื่นที่ชัดเจนและชัวร์กว่านั่นเอง
 

               5.อย่า…ให้ลูกค้ารอของนาน สินค้าต้องพร้อมส่ง
        เวลาเห็นร้านที่ต้องรอของนาน ๆ เพราะเป็นสินค้า Pre-Order ก็จะทำให้ลูกค้าท้อได้เหมือนกัน (เพราะส่วนใหญ่จะรอประมาณครึ่งเดือนขึ้นไปเลยทีเดียว) ทำให้เปลี่ยนใจไปหาร้านที่มีสินค้าพร้อมส่ง มีรูปสินค้าจริงให้ดูเพิ่มเติม ถึงแม้ว่าจะแพงกว่านิดหน่อยแต่ก็สั่งแบบสบายใจ ได้ของเลยไม่ต้องรอนาน งานนี้ร้านพรีออเดอร์อาจจะต้องทำใจไว้เลย หรือบางร้านที่มีของพร้อมส่งก็จริงแต่ว่าส่งช้าลูกค้าต้องรอนาน ทำให้การกลับมาซื้อครั้งหน้ายากมาก ๆ เหมือนกัน
 

               6.อย่า…ขึ้นราคาแบบ(ไม่)แนบเนียน
        แน่นอนว่าค้าขายก็ต้องมีกำไรแต่บางร้านก็โหดมาก ๆ เหมือนกัน เพราะเมื่อสินค้าในร้านมีคนให้ความสนใจมากขึ้น ร้านฮอตขึ้น ราคาก็ขึ้นตามไปด้วย ทำให้ลูกค้าเก่า ๆ ที่เคยซื้ออาจจะช็อคกับการเปลี่ยนแปลงนั้น (บางร้านอัพราคาเป็นสองเท่ากันไปเลย) ถึงแม้จะไม่ได้ถือว่าแพงมากแต่ก็ทำให้คนที่เคยซื้อเปลี่ยนใจเลื่อนหนีไปซื้อร้านอื่นได้เหมือนกัน