(ใครเป็นบ้าง) โรคซึมเศร้าแบบ (Dysthymia Depression)

โรคซึมเศร้าแบบดิสทีเมีย (Dysthymia Depression)

โรคซึมเศร้าชนิดนี้จะมีอาการรุนแรงน้อยกว่าชนิดแรก แต่จะมีอาการซึมเศร้าอย่างต่อเนื่องเรื้อรังเป็นเวลานาน 2-5 ปี ซึ่งผู้ป่วยจะรู้สึกสูญเสียความสามารถในการทำงาน อาทิเช่น นอนหลับมากเกินไป รู้สึกว่าตนเองไม่ประสบความสำเร็จ มองโลกในแง่ร้ายและหลีกเลี่ยงที่จะคบหาสมาคมกับผู้อื่น

เราเคยกินยาคลายเครียดสำหรับเด็ก ชนิดหนึ่งที่ตอนนั้นยังอ่านภาษาอังกฤษไม่ออก กินครั้งเเรกตั้งเเต่ เก้าขวบ
ปัจจุบันตอนนี้เราอายุ 23 เเล้ว เราว่างงาน ต้องออกตัวไว้ก่อน เพราะเรารู้สึกว่าเราไม่มีความฝัน ไม่มีความต้องการ หรือรู้สึกว่าตัวเองถนัดอะไรเป็นพิเศษ เราจบเเค่ชั้น มอปลาย จากกศน

ตั้งเเต่เก้าขวบ กินยา พบจิตแพทย์เด็กครั้งเเรก ต่อมาก็ตอนอายุสิบสอง ตบบ้องหูลูกพี่ลูกน้อง เพราะทะเลาะกัน เลยโดนลากไปคลีนิคจิตเวช เเล้วกินยาอีก กินสองสามตัว ก็จำไม่ได้ ต่อมาจนอายุ 21 ปี เรากลับมากินยา พบจิตเเพทย์อีกครั้ง

ช่วงนั้นกลับไปเรียนหนังสือ เเต่ก็ไปไม่รอด เรียนต่อปวส กลับไปเรียนหลังจากหยุดเรียนไปสี่ปีกว่าเกือบห้าปี เรารู้สึกปรับตัวกับอะไรไม่ได้เลย เวลานอน เวลาหลับ เรานอนไม่ค่อยหลับค่ะ (ได้มาใช้ยานอนหลับเพิ่ม ตอนช่วง 23) ไปเรียนเเล้วเรารู้สึกว่ามันจะต้องดี เเต่พอมีเรื่องอื่นประกอบเข้ามา เรื่องเงินค่าหนังสือ ที่ไปเรียนได้ไม่ถึงอาทิตย์ ประเดประดังเข้ามา พันกว่าบาท เราไม่มีเงินค่ะ คนซัพพอตคือน้าสาว เขาจ่ายเเค่ค่าเทอมสองพัน ที่ยังต้องจ่ายอีก หลังจากนัน เเผนการล่วงหน้าไม่มี เราก็ไปเเบบทั้งอย่างนั้น

ค่าหนังสือ การเดินทาง ที่วิทยาลัยอยู่ไกลบ้านมาก เเล้วเราไม่มีทางเลือกอื่น ด้วยความอยากเรียนตอนนั้น มันเป็นทุนของซีพี เซเว่น เรียนเทอมหนึ่ง ไปฝึกงานต่ออีกปีที่กรุงเทพ ถ้าฝึกไม่จบ ไม่ครบขวบปี ต้องจ่ายค่าชดเชย 30,000 บาท เรารีบถอนตัวออกมา เเล้วย้ายไปเรียนภาคเสาร์อาทิตย์ ที่ก็ไม่ได้ฟรีเหมือนเดิมค่ะ ต้องมีค่าใช้จ่าย (ผลก็คือไปเรียนไม่สำเร็จนะคะ การเดินทาง เเละปัญหาเรื่องการนอนหลับๆตื่นๆ)

เราว่างงาน เพราะเรากินยาโรคซึมเศร้า เเล้วเราไม่ได้ทำอะไร ปัญหาเรื่องที่ว่าทำไมไม่ไปทำงาน เราเป็นคนที่เเบบตื่นคน ไม่ชอบคนเยอะๆ เเล้วสมองเราจะเออเร่อค่ะ ไม่ได้ว่ากลัวคน จนตัวสั่นเวลาอยู่ในที่คนเยอะๆนะคะ สมองเหมือนไม่ค่อยสั่งงาน เพราะกินยาเยอะ เเล้วไม่ค่อยได้ใช้งาน เรามีอาการวิตกกังวล ชอบคิดอะไรไปเรื่อยไปใหญ่โต ทั้งๆที่มันจะไม่มีวันเกิด เเละไม่มีวันเป็นไปได้ (วันเกิดครบรอบ 23 ปี นั่งคิดอะไรไปเรื่อยในหัว ตอนดึกๆ เราคิดเเม้กระทั่งว่า ถ้าออกบ้านช่วงวันเกิด พรุ่งนี้เราอาจจะตายเเน่นอน นึกกลัวเเบบพิลึก เเต่ก็กลัวจริงๆ เราห้ามความคิดไม่ได้เลย)

ปัญหาอุปสรรคทางสุขภาพจิต นอกจากโรคซึมเศร้า เรายังมีอาการชอบล้วงคอ กลัวเชื้อโรคฝังใจค่ะ เป็นมาตั้งเเต่ 17-18 เราจะชอบคิดว่าไปไหนมาไหน อยู่เเม้กระทั่งที่บ้าน เข้าห้องน้ำห้องท่า หายใจอ้าปาก เราจะหลอนมาก มีอะไรเข้าคอฉัน เเล้วเราจะชอบเอาด้ามเเปรงสีฟัน มาล้วงคอค่ะ เราทำไปทำไม เราก็ห้ามตัวเองไม่ได้เหมือนกัน พยายามฝืนใจ หักห้ามใจไม่ทำ เราก็อยู่ไม่สุขเลย ถ้าไม่ได้ล้วงคอ จุดเริ่มต้นที่เริ่มเป็น สมัย 17-18 เราเคยไอเป็นเดือนๆ เเล้วฝังใจมากค่ะ ตั้งเเต่นั้น อาการนี้ก็เป็นๆหายๆมาตลอด เราเป็นถึงขนาดที่ออกกำลัง วิ่งวันละ 3-4 กิโล เเล้วเรายังต้องวิ่งเสร็จมาล้วงคออ่ะค่ะ ยิ้มน้ำลายออกมา วิ่งบางทีลมพัด เราคิดไปเเล้ว ฝุ่นพัด เข้าคอฉันเเล้ว ไม่ได้ๆ บางครั้งเราล้วงคอ ก่อนนอน ลุกขึ้นนั่ง นอนลง ลุกขึ้นนั่ง เพื่อมาล้วงคอ เพราะคิดว่าในห้องมีฝุ่นอ่ะค่ะ ทั้งๆที่มันไม่มีอะไรเลย

เเล้วเราก็มีปัญหาน้ำหนักตัว เราเป็นคนอ้วนง่าย บาดเจ็บจากการออกกำลังกายมาเเล้ว จนถึงขั้นเเพนิค วิตกจริต ต้องทำซีทีสเเกนสมอง เราเคยลดนน ได้ 21 กก เเล้วเราออกกำลังกายอย่างประมาท ทำให้เราเจ็บหัว เจ็บหลัง ต้นคอไม่ดี ดูกระทู้เก่าได้เลยนะคะ เราตั้งติดๆกันเเบบทุกข์ๆมาก
ปัจจุบันก็มีอาการเจ็บหลังเรื้อรัง จากที่ออกกำลังกายประมาทนั่นเเหละค่ะ ต้นคอไม่ดี หลังหัวบางครั้งก็ตึง ทำซีทีสเเกนตอนทำ ดีที่ผลปกติค่ะ เเต่อาการเป็นๆหายๆเเละยังอยู่ เราก้มมากไม่ค่อยได้ จะก้มทีต้องระมัดระวังประคองคอ หลังนี่ก็ต้องระวัง ปัจจุบันชีวิตก็วนลูปกับการต้องมาลดน้ำหนักอีก รอบที่สอง

ปัญหาสุขภาพจิตสุขภาพกายครบ เเต่ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับที่บ้านหรอกนะคะ นอกจากบางครั้งจะอดสูตัวเอง เเล้วเเค้นใจ เกลียดเเต่ตัวเองนี่เเหละค่ะ ที่ไม่มีอะไรดีเลย ช่วงเทคยาซึมเศร้าเเรกๆ เรากิน sertaline conazepam ตามโรคตามจิตเเพทย์จ่ายเเหละค่ะ เราเคยทำร้ายตัวเอง กรีดเเขน รู้สึกด้านชากับร่างกายมาก ถึงขนาดที่เเบบพกใบมีดโกนไว้ในกระเป๋า ล้วงมือควานหาของเพราะลืม เเล้วเราโดนใบมีดโกนบาดนิ้ว เรารู้สึกเหมือนมดกัด ไม่เจ็บ ไม่อะไร

เรากรีดเเขนไว้ข้างซ้าย ลึกกว่าทุกครั้งก่อนหน้าที่เคยกรีด เพราะโกรธโมโหเรื่องที่เราเครียดมาก ก่อนช่วงทำซีทีสเเกนสมอง เรานอนไม่หลับ เกือบเดือน จนได้กลับไปหาหมอ หมอให้ยานอนหลับมากิน
จากนั้นเราใช้ยาต่อเนื่องเลยค่ะ หกเดือน
ใช้ๆ เเล้วตอนนี้เราก็หยุดยาเอง เเต่บางครั้ง อาการเเพนิค เรายังมีอยู่ ห่างยาไป เราจะรู้สึกกลัวขึ้นสมอง ฉันจะนอนไม่หลับ นอนไม่ได้ เจอเรื่องกระทบจิตใจนิดเดียว เราเหมือนก้าวข้ามผ่านไปไม่ได้ ไปเอายามากินครั้งนึง ทั้งที่ยาหมดไป เพราะเลิกกินเอง เหตุผลเพราะทะเลาะกับเพื่อนค่ะ ทะเลาะหนัก กลัวขึ้นสมอง ความกลัวเเล่นขึ้นมาเลย ว่าจะนอนไม่หลับ เลยต้องไปเอามากันไว้

ทุกวันนี้ เรื่องเเผลเป็นที่ท้องเเขน เราไม่เเคร์ค่ะ เครื่องสำอางมีเยอะเเยะ เเต่เราอยากลดน้ำหนักให้ได้ ตอนนี้เราก็ไม่ได้กินยาจิตเวชนะคะ เเม่ไม่อยากให้กิน เราเองก็กลัวไตไม่ดี เเต่อาการทั้งหมดทังมวล เรายังมีอยู่ มีเเละไม่เคยหายไป

เราเคยคิดวางเเผน kil* self นั่นเเหละค่ะ กับเพื่อน มากหน้าหลายตา ที่คุยกันเรื่องชีวิต เเล้วเรารู้สึกไม่กลัวความตายนะ ถ้าเกิดชีวิตมันถึงขีดสุดจริงๆ เลือกวิธีที่เจ็บน้อยที่สุด เราไม่ได้รู้สึกพิสมัยชีวิตเท่าไหร่ เเต่ที่ยังอยู่ ก็เพราะว่าความรู้สึกมันวนลูป อาการทางจิต ทางกาย ส่งผลตีกันไปหมด รู้สึกเดี๋ยวอยากไป ไม่อยากไป เราก็รู้สึกวนมาเเบบนี้ ปีจะสองปีเเล้วล่ะค่ะ เดือนตุลาปีที่เเล้ว หมอโรคทั่วไป นัดเราพบนักจิตวิทยา ตอนเราไปเอายานอนหลับ ยาคลายเครียดประจำที่กิน เเต่นัดก็พลาด เพราะเราไปไม่ไหว นอนมากไปค่ะ (ไม่ได้กินเเล้วนอน เเต่นอนตอนง่วงจัด ง่วงจริงๆ ข่มตาไม่เกินสิบนาทีเเล้วหลับ เวลานอนเราไม่เคยเเน่นอน)

ความรู้สึกทั้งหมดยังคงอยู่ ไม่หายไป
เราเเค่มีความสามารถเขียนเรื่องสั้นนิดๆหน่อยๆ ติดตัว เขียนฟิคชั่น อะไรเเบบนัน เขียนคอมมิชชั่นก็พอได้ค่ะ ฝึกเองสามปี เคยเอาผลงานไปทดลองลงในกลุ่มขายคอมมิชชั่น เเต่ก็เเป๋ว เพราะเราก็รู้สึกตัวเองไปไหนไม่ได้ อาการดาวน์ในใจ จะมีเกิดตลอดเนืองๆนานๆครั้งค่ะ

เราควรจะทำยังไงต่อไปดี หรืองานอะไรที่เหมาะกับเรา ต้องรักษาตัวก่อนดีไหม หรือยังไงดี
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่