โรคกรดไหลย้อน จากการติดเชื้อแบคทีเรีย H. Pylori และ การส่องกล้องกระเพาะอาหาร ที่ไม่เจ็บเลยสักนิด!

สวัสดีเรามาส่องกล้อง เงียบเชียวสงสัยไปเร็วไปนิดนึงยังไม่แปดโมง นั่งรอยืนรอเจ้าหน้าที่ไปเรื่อย ๆ มีเสียงเด็กร้อง อัลแง้....อะแง้..... ซ้ายมือเป็นห้องทำคลอดนั่นเอง โอ้....เสียงแรกของชีวิต น้ำตาจะไหล (แกไม่ได้เป็นแม่เค้าจะอินไปไหน)


 

 
 ขวามือเป็นห้องผ่าตัด มีคนวิ่งไปวิ่งมาในนั้นเห็นแว๊บ ๆ เริ่มเดินไปอ่านนู่นอ่านนี่
พยาบาลคนหนึ่งเปิดประตูออกมาจากห้องคลอดถามว่ามาทำอะไรคะ บอกไปว่ามาส่องกล้องกระเพาะอาหาร พยาบาลบอกให้เลี้ยวซ้ายเข้าประตูไป แป่ว!! 
ห้องที่นั่งรอยืนรอมันไม่ใช่ ว่าแล้วทำไมไม่มีใครมาสักคน
 
หน้าห้องส่องกล้อง พยาบาลวัดความดัน ชีพจร ให้ทวนชื่อ นามสกุล วัน เดือน ปีเกิด เสร็จแล้วสวมกำไรคล้องข้อมือให้.....นั่งรอหมอมา
 
ระหว่างรอก็เปิดแอพลาซาด้าหาแว่นตากันลมอันใหม่ไปเรื่อย ๆ จะเอาไว้ใส่ทำคลิป 
 
นี่ ๆ แกไม่ตื่นเต้นเลยเหรอเดี๋ยวจะส่องกล้องแล้ว แกควรจะตื่นเต้นสักหน่อยนะ (เสียงในใจกระซิบ) ไม่อะ....ชั้นสวดมนต์มาแล้ว นั่งหาแว่นต่อ......🥽
 
ก่อนเก้าโมงห้านาทีพยาบาลมาเรียกให้ไปเตรียมตัว 

หมอมาแล้ว ขึ้นเตียงค่ะ ห๊ะ!! ยังไม่ได้เตรียมตัวเลย ขอฉี่ทีนึง
 
ขึ้นเตียง นอนค่ะ....ตอนพ่นยาชาอ้าปากกว้าง ๆ กลั้นหายใจตอนพ่นจะได้ไม่สำลัก แล้วกลืนลงไปให้หมดนะคะ....พยาบาลบอก เอ้ากลั้นหายใจค่ะ ฉีดฟิด ๆ เข้าไป
พอกลืนหมด พ่นต่ออีกรอบ กลั้นหายใจตอนพ่นนะคะ ดีมาก 
 
รสชาติก็ไม่เลวคล้ายยาแก้อักเสบแบบน้ำของเด็ก ขมหน่อย ๆ ซ่า นิด ๆ 
กลืนหมดยังคะ พยาบาลถาม
เริ่มรู้สึกบวม ๆ หนา ๆ ในคอ 
 
หมอหยิบสายยางดำ ๆ เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 cm. ใหญ่กว่าปากกาหน่อย เค้าเรียกกล้องเอ็นโดสโคป มีลักษณะเป็นท่อขนาดเล็ก ยืดหยุ่นโค้งงอได้ มีเลนส์กล้องและแสงไฟที่ปลายท่อ สอดเข้าไปทางปากผ่านทางหลอดอาหารและลงไปยังกระเพาะอาหาร ซึ่งจะทำให้เห็นความผิดปกติที่เกิดในหลอดอาหาร กระเพาะอาหาร และลำไส้เล็กส่วนต้น
 
พยาบาลเอาที่กันกัดมาใส่ปาก นอนตะแคงซ้ายแล้วก้มหน้าหน่อยค่ะ หมอเอากล้องใส่ลงปากไปแล้วให้ช่วยกลืน (อ้าปากอยู่จะกลืนยังไงในใจเถียง) หมอค่อย ๆ ยัดสายกล้องผ่านคอลงไปจนได้ มันไม่เจ็บสักนิดเดียวแค่กลืนให้ลงไปยากสักหน่อย กล้องเริ่มชอนไชไปในท้อง หมอมองจอไปเรื่อย ๆ เริ่มรู้สึกอึดอัด แน่นท้อง คลื่นไส้พอทน เพราะหมอเป่าลมให้กระเพาะขยาย 
 
ขออีกสองนาทีหมอบอก พยาบาลส่งอะไรไม่รู้คล้ายลวดสลิงเล็ก ๆ ให้หมอสอดเข้าไปในกล้องเพื่อตัดชิ้นเนื้ออกมาตรวจ ตอนตัดรู้สึกเหมือนโดนอะไรหนีบ ๆ นิดหน่อย ไม่เจ็บ หมอดูดลมออกแล้วค่อย ๆ ถอยกล้องออกมา
 
ที่ร่ายมายาว ๆ นี่ใช้เวลาประมาณห้านาที ซึ่งมันไม่เจ็บและไม่น่ากลัวเลยสักนิด ที่น่ากังวลคือผลตรวจ!
 
ทันทีที่เอาที่กันกัดออกจากปาก รีบถามหมอว่าเป็นยังไงบ้างคะ หมอให้ไปบ้วนน้ำลายก่อน ปากยังชา ๆ อยู่ น้ำลายอาจยืดไหลย้อยไม่รู้ตัว  เออ....ตอนส่องกล้องห้ามกลืนน้ำลายเพราะอาจสำลัก ปล่อยให้ไหลได้เลยมีผ้าลองคล้ายแพมเพิสเด็กลองอยู่ลืมบอกไป

หมอชี้ให้ดูที่จอ..... 
โอ้....นี่คือกระเพาะอาหารและลำไส้ส่วนต้นของเราเหรอเนี่ย....น้ำตาจะไหล ดีใจ! เหมือนได้เจอเพื่อนรัก เราอยู่ด้วยกันมานานมากเพิ่งเคยเห็นหน้ากันก็วันนี้ เธอเป็นยังไงบ้าง ฉันเป็นห่วงเธอนะ (คุยกับกระเพาะตัวเอง)

หมอบอกผลการตรวจ
เห็นจุดแดง ๆ กระจาย ๆ มั้ย อักเสบ เป็นแผลในกระเพาะอาหารแต่ไม่มาก ลำไส้ดี ปกติดี เอาแผ่นใส ๆ ยื่นให้ดู มีติดเชื้อ  H. Pylori (เอชไพโลไร) ปกติแผ่นที่ตรวจจะต้องเป็นสีเหลือง ของคุณมีวงชมพูเรื่อ ๆ 

หลายคงคงสงสัยว่าเชื้อ เอชไพโลไรคืออะไร? เราก็สงสัยเลยไปหาข้อมูลมา มันคือเชื้อเเบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุของแผลในกระเพาะอาหาร ลำไส้ และเป็นสาเหตุให้เกิดมะเร็งในกระเพาะอาหารได้ ถ้าปล่อยให้เป็นมาก ๆ เรื้อรัง

เชื้อแบคทีเรียตัวนี้ติดต่อได้จากคนสู่คนทางน้ำลาย และการปนเปื้อนของอาหาร รู้แบบนี้แล้วก็อย่าได้แลกน้ำลายกับใครซี้ซั้ว แต่ของเราน่าจะมากับอาหารชัวส์ แฮ่! 

เมื่อรู้ว่ามันติดง่ายก็ต้องระวังต้องกินอาหารที่ปรุงสุกสะอาด กินร้อนช้อนกลาง แต่ถ้าสถานการณ์ตอนนี้กินจานใครจานมันคนเดียวเงียบ ๆ น่าจะดีกว่า

แบคทีเรียตัวนี้บางคนติดเชื้อก็ไม่แสดงอาการ แต่คนเซ็นซิทิฟอย่างเราแสดงเร็วมาก อาการที่เราเป็นคือท้องอืด ท้องเฟ้อ มีลมในกระเพาะ เปรี้ยวปาก แสบคอ จุกลิ้นปี่ เมื่อยหลังตอนกินข้าว รู้สึกหวานในคอ อาการมันเหมือนโรคกระเพาะ โรคกรดไหลย้อน รักษาตามอาการไปไม่หายสักที เราเป็นอยู่สามเดือน กินอะไรไม่ค่อยได้ น้ำหนักลดไปเจ็ดกิโล 

มารู้ว่าติดเชื้อตัวนี้ด้วยการส่องกล้อง เห็นมีอีกวิธีคือตรวจลมหายใจ แต่การส่องกล้องจะทำให้เห็นพยาธิสภาพในกระเพาะทั้งหมดด้วย

สรุบได้ยาฆ่าเชื้อมาสองตัวกินสิบห้าวัน มียาลดกรดอีกตัวที่ขอออกมาซื้อข้างนอกเองคือ Nexium เพราะตัวเดิมกินมาสามเดือนและไม่ดีขึ้น เลยอยากเปลี่ยนยี่ห้ออื่นดูบ้าง แฮ่......แอบแพงอะยาตัวนี้

ถ้าเพื่อน ๆ มีอาการเหมือนกรดไหลย้อน กินยาแล้วไม่ดีขึ้น ควรตรวจหาสาเหตุอื่นร่วมด้วยเพราะเชื้อ เอชไพโลไร ทำให้เป็นแผลในกระเพาะได้เช่นกัน กินยาลดกรดจึงได้แค่ทุเลา เพราะเชื้อมันยังร่าเริงกะดี๊กะด๊าอยู่ในกระเพาะเรา

ช่วงกินยาแรก ๆ เราท้องอืด คลื่นไส้ ขมคอ มันน่าจะเป็นเอฟเฟคยา แต่พอยาหมดอาการเริ่มดีขึ้น กลับมากินได้มากขึ้น แต่ก็ต้องระวังเรื่องการกิน โรคนี้ต้องอาศัยยาและการปรับพฤติกรรมในการกินและใช้ชีวิตเลยก็ว่าได้
ขอให้เพื่อน ๆ ทุกคนโชคดี ผ่านอุปสรรคและปัญหาต่าง ๆ ในช่วงสถานการณ์แบบนี้ไปได้ด้วยดี และมีสุขภาพแข็งแรง ๆ กันทุกคนนะคะ💪
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่