หายไปนาน ไม่ได้หายไปไหน ปี2019 ไปวิ่งทิ้งทวนก่อนแขวนรองเท้าเทรล วิ่งมันทุกสนามทั้งเทรลทั้งโรดแบบคนคลุ้มคลั่ง ประทับช้าง CM6 โป่งแยง น่าน เชียวคาน ตะนาวศรี บางแสน สนามสุดท้ายเขาค้อซุปเปอร์ฟูล ที่บอกเลยว่าฟูลมาก เข็ด! แล้วก็มาเข้าสถานการณ์โควิด หยุดไปงานวิ่งยาวๆเหลือแค่วิ่งเล่นรอบบ้าน และก็หากิจกรรมอื่นเสริมสร้างประสบการณ์โควิด
ไอ้ต้าวกิจกรรมเสริมนี่แหล่ะที่ทำพังมากแม่ ตีเทนนิส เล่นสเก็ตบอร์ด เล่นนอกบ้านก็ไม่เท่าไหร่ ปลอดภัยดี แต่มีอยู่วันนึงเหมือนปีศาจมาดลใจ เหมือนมีใครมาป้ายยา (โทษลมโทษฟ้าไว้ก่อน) ไถ่สเก็ตในบ้าน แฟนก็ห้ามจนปากจะฉีกว่าอย่าเล่นในบ้าน มันอันตราย ก็หาได้าำนึกไม่ ซึ่งจริงๆก็แอบเล่นในบ้านทุกวันแหล่ะ ไถเข้าห้องโน้นออกห้องนี้ แต่วันนั้น วันที่19 พ.ย 63 ตอนบ่ายนิดๆฟ้าดินคงคิดลงโทษ มัวแต่ดูทีสีด้วยเล่นด้วย แล้วหลบไม่พ้นทีวี ด้วยความที่กลัวจะชนทีวีพัง เลยกระโดดหลบ แต่ไม่พ้นจ้า เท้าขวาพลิกฟาดกับพื้นดังป๊าบ ล้มตอนบ่ายๆ คิดว่าคงแค่เคล็ดแหล่ะ เลยนอนรอเวลาแบบใจเย็น เห้ย...เดี๋ยวก็บรรเทา
รอไปจน6โมงเย็น แฟนกลับมา ก็ได้แต่อ้อมแอ้มไปว่า "พาไปหาหมอหน่อย ลื่นล้ม เดินไม่ไหวเลยเจ็บจุง" (เสียง2ออดอ้อนต้องมา)
ไปถึงโรงพยาบาล เจอแต่หมอเวร ส่วนหมอกระดูกกลับบ้านแล้ว
คุณหมอถามว่าเจ็บระดับไหน 1-10 ให้บอกระดับมา เราก็อืม...เจ็บไม่มากแต่ปวดค่ะ ระดับ5ละกัน
ผล x-ray ปรากฏว่าหัก2ที่ นิ้วนาง และนิ้วก้อย นิ้วนางหักแบบแตกร้าว ส่วนนิ้วก้อยแค่หัก (ตามภาพเลยค่ะ)
แฟนก็พยายามถามว่าล้มยังไง เราก็ไม่บอก ก็ล้มล่ะ ล้มก็คือล้มอ่ะค่ะ ล้มป๊าบอ่ะค่ะ ความมาแตกตอนโดนซักประวัติเพื่อเคลมประกันนี่แหล่ะ โอโห...แฟนยืนทับถมสมน้ำหน้าตลอดเวลา รู้งี้พุ่งตัวใส่ทีวีให้พังไปเลยดีก่า 555+ (ไม่สำนึก)
สรุปว่าวันนั้นเข้าเฝือกอ่อน แบ้วให้กลับมาหาหมอกระดูกใหม่ในวันรุ่งขึ้น ถามหมอว่าจะกลับไปวิ่วได้ไหมคะ? ซึ่งหมอกระดูกก็ไม่ได้พูดอะไรมาก ถามแค่ว่านิ้วนางควรผ่าตัดดามเหล็กจัดกระดูก จะผ่าไหม? กระดูกจะได้เข้ารูป แค่รู้ว่าต้องบล็อคหลัง นอนรพ.ทางเราก็ขอ้ลือกเฝือกเถอะค่ะคุณหมอ ดังนั้น...คุณหมอจึงให้ไปนอนกอดเฝือก1สัปดาห์เพื่อให้เท้าหายบวมก่อน
อาทิตย์ถัดมาก็มาตามนัด คุณหมอเปลี่ยนเฝือกอันใหม่ให้กระชับขึ้น
แต่...ความซวยมันมายังเกิดตอนใข้ไม่ค้ำยันลงจากรถจะเข้าลิฟท์ที่คอนโด พนง.เค้าล้างพื้นกัน เราก็ไม่ทันระวัง ลื่นจ้าาา เอาส้นเท้าข้างที่เข้าเฝือกลงพื้น ปวดไปหมด จำได้ว่าปวดจนแขนขาสั่น แต่กลั้นไว้เพราะกลัวแฟนซ้ำเติม 555 (เดี๋ยวจะเสียเหลี่ยม) วันที่ลื่นคือวันศุกร์ นอนปวดอยู่3วัน ไม่ไหวแล้ว วันจันทร์เลยให้แฟนพาไปหาหมอ
คุณหมอบอกว่ากระดูกเคลื่อนเล็กน้อย ไอ้เราก็กลัวจะมีผลกระทบกับการวิ่งในภายหลัง เลยบอกคุณหมอว่ายัวไวก็ได้ค่ะ ไม่กลัวเจ็บแต่ไม่เอาผ่าตัด 555+ ชั้นไม่ควรพูดประโยคนี้!!! ไม่ควรท้าทายอำนาจมืดในมือหมอ
คุณหมอบอกว่างั่นเดี๋ยวจัดกระดูกใหม่อีกรอบ
รอบนี้อ่ะนะคะ...ให้นอน มีถุงทรายหนักๆวางพาดบนหน้าแข้ง มีเสาสแตนเลสที่เหมือนเอาไว้ห้อยน้ำเกลือมาวางที่ปลายเท้า คุณหมอเอาเชือกไนลอนเส้นเขื่องมาผูกที่นิ้วก้อย และนิ้วนาง แบ้วแขวนเชือกบนเสา ตอนนั้นก็ว่าเจ็บล่ะ อึดใจต่อมามีพยาบาลมากดแขนแนบลำตัว1คน แล้วหมอก็ส่งสัญญาณมรณะ ออกแรงดึง และกดไปบนจุดที่กระดูกหักเสียงดังกร๊อบสนั่นมาก ทางฝั่งเราไม่ได้ร้องส่งเสียงใดๆ เพราะมัวแต่กัดปากตัวเอง เหงื่อแตกท่วมตัว เอามือจกแขนคุณพยาบาลแน่นมากแบบตั้งการที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ 555+ ณ.จุดนี้ได้แต่อ้อมแอ้มบอกหมอไปว่า เจ็บจุงเบยค่ะ แฮ่ๆ
จากนั้นก็กลับมานอนกอดเฝือกนับไปอีก3สัปดาห์ งานวิ่งเพชรบุรี, เขาใหญ่, บางแสน21 ก็คือต้องเทเพราะหมอว่าหายไม่ทันหรอก
พอถึงวันนัด 23 ธ.ค 63 ไปรพ ด้วยจิตใจฮึกเหิม ได้ถอดเฝือกแน่ๆ เอา รองเท้าข้างขวาไปด้วย กะว่าจะใส่รองเท้ากลับบ้าน (มโนเก่ง คิดเองเออเองได้!!!) คุณหมอดูฟิลม์ x-ray จำได้ว่าถามคุณหมอไปว่ามีของขวัญวันวาเลนไทม์ไหมคะ? /คุณหมอส่ายหน้า หน้ามึนถามไปอีกว่า ของขวัญวันปีใหม่ล่ะคะ? / หมอส่ายหน้าอีก
ถามอีกอย่างไม่ย่อท้อ แล้วของขวัญวันเด็กล่ะคะ / หมอส่ายหน้าอีก (นี่หมอเป็นพัดลมเหรอ ทำไมเอาแต่ส่ายหน้า โอ่ยยย เปงเส้า) คุณหมอกล่าวว่าไปนอนกอดเฝือกเก่าข้ามปีอีก 3สัปดาห์ มาดูใหม่
ในระหว่างนี้...เราก็กระเผลกๆไปงานวิ่งจ่ะ สมัครงานวิ่งใกล้บ้านตัวเองลงฮาฟ ของแฟนลงฟันรัน ถ้าเราไม่ไปนางก็คงเท ไม่วิ่ง เราจึงส่งมอบจิตวิญญาณทั้งหมดให้แฟนวิ่งฟันรัน ส่วนตัวเรานั้นนั่งเชียร์ที่หน้าเส้นชัย
เราก็บิ้วนางมาก พาไปดูเส้นทาง บอกเทคนิค กลับตัวตรงไหน ทางตรงนี้มืด ตรวนี้ข้างทางมีก่อสร้าง วิ่งกลางๆถนนไว้ 555+ คายตะขาบสุดฤทธิ์ ปกตินางแค่เปนผู้ติดตามเพราะส่วนมากเราวิ่งเทรล ถ้าวิ่งโรดก็จะวิ่งด้วยกันเพราะนางอายุเยอะแล้ว ซี่งนางก็ไม่ทำให้คนพิการอย่างเราผิดหวัง คว้าที่4ของรุ่นมาเลยจ้าาาา
ด้านบนคือภาพประกอบการบรรยายค่ะ😅
เอาล่ะๆ กิจกรรมกากีฬาใดๆไม่มีเลย นอนดูซีรีส์จนตาเป็นหมีแพนด้า ตัวกลมๆเป้าตาดำๆกลิ้งไปมาหน้าทีวี มีรีโมทเป็นอาวุธข้างกาย เวทแขน วิดพื้นบ้างตามกำลังศรัทธา คือถ้าไม่เวทเลยมันปวดแขนมากเวลาใช้ไม้ค้ำยัน ตอนนี้เข้าใจจิตใจของคนใช้ไม้ค้ำยันเลยนะ สปีดที่คิดว่าเร็วสุด คือเต่าคลานมากจ่ะ จะกระดื๊บๆไปแต่ละก้าวนั้น อือหือ พล้งข้อมือ และพลังกล้ามแขนล้วนๆ ถ้าอยู่ในบ้านแล้วเราต้องการไปที่ตู้เย็น เราก็คลานเอา นึกภาพ รด.ใกทหารคลานลอดรั้วลวดหนามอ่ะค่ะ แต่แฟนบอกภาพเหมือนตะกวดมากกว่า ช่างไม่มีจินตนาการเสียเลยคุณพี่!!
555+ ในเลข5มีน้ำตาเอ่อล้น ในช่วงนี้แฟนก็นับวันรอให้ถึงวันนัดแบบใจจดจ่อ ก็คือว่า..งานบ้านทุกอย่างแฟนทำทั้งหมดเราแค่ประกอบอาหารเท่านั้น จึวเป็นเหตุให้พ่อบ้านใจกล้าลุ้นให้ถอดเฝือกมากกว่าเราอี๊ก
วันเวลาผ่านไปเร็วมาก ดูงานวิ่งบางแสน21ผ่านfb ผ่านเทศกาลคริสมาส และปีใหม่ ได้แต่ดูเพื่อนๆฉลองผ่านทางโซเชียล
เอาล่ะๆ วันที่13ม.ค64 ก็มาถึงจนได้ ไปหาหมอแบบไม่หวังอะไร ร้องเพลงพี่กบ ทรงสิทธิ์ในใจตลอดเวลา ...ปาฎิหาริย์ไม่มีจริง🎶 เข้าไปพบคุณหมอพร้อมประโยคที่ว่า หนูทำใจไว้แล้วค่ะคุณหมอ /คือไปอ่านกระทู้เพื้อนๆในพันทิปที่หักเหมือนเรา ทุกคนเข้าเใอกกันยาวนานมากต่ะ
แต่...คุณหมอดูแผ่น X-ray แล้วบอกว่า ถอดเฝือกได้แล้วนะ อยากถอดไหม? โอ้วววว...นาทีนั้น เหมือนสปอร์ตไลน์ส่องมาทีเรา แล้วเพลงก็ดังขึ้น "แหล่ะในวันนี้...เธอนั้นจงหยัดยืน แบะลุกขึ้นอีกครั้ง ด้วยพบังในหัวจายยย" ช้าก่อน...คุณหมอให้ถอดเฝือกแต่ยังไม่ให้ลุกเดินเต็มเท้า เอาส้นเท้าลงน้ำหนักได้ / คือแกอย่าเพิ่งดีใจเกินเบอร์ กลับไปกายภาพข้อเท้า และระวังตัวระวังทีนตัวเองให้ดี อีก2วีคมาเจอกันใหม่
สภาพหลังถอดเฝือก ผ่านการอาบน้ำแล้ว
ภาพ x-ray ล่าสุด
ถอดเฝือกออกมาสภาพดูไม่จืด
กลัวแล้วจ้าาาาาา ถ้าถามว่าเข็ดไหม? ไม่กล้าตอบ บอกได้แค่คืนแรกที่ถอดเฝือกคือในว่าเอาาเก็ตบอร์ดลงไปเล่นข้างล่าง 555+
ตอนนี้ก็เท้าบวมๆ แช่น้ำอุ่นกับบริหารข้อเท้าเบาๆ คุณหทออนุญาตให้ว่ายน้ำได้แต่ให้ระวังอย่าให้นิ้วเคลื่อนไหว ก็เลยคิดว่าครบ1สัปดาห์ให้เท้าลดบวมลงหน่อย ก็จะไปว่ายน้ำดูสักหน่อย
สรุปเบ็ดเสร็จ เข้าเฝือก3อัน เป็นเวลา7สัปดาห์
พอถอดเฝือกแล้วติดตามผลอีก2สัปดาห์
รอบหน้าไปหาหมอแล้วจะมาอัพเดทอีกทีนะคะ
ขอบคุณเพื่อนที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้นะคะ
โควิดครั้งนี้เป็นการกักตัวที่มากกว่าเหงา คือเรากักตัวแบบง่อยๆ
ปล.สุดท้าย ทำไมเราเขียนยาวจุง ตะมีคนอ่านจบไหมนะ เฮ้อ...
เมื่อถึงวันที่คนชอบวิ่ง เสพติดกีฬาต้องมาเข้าเฝือกเท้า #ชีวิตติดเฝือก
ไอ้ต้าวกิจกรรมเสริมนี่แหล่ะที่ทำพังมากแม่ ตีเทนนิส เล่นสเก็ตบอร์ด เล่นนอกบ้านก็ไม่เท่าไหร่ ปลอดภัยดี แต่มีอยู่วันนึงเหมือนปีศาจมาดลใจ เหมือนมีใครมาป้ายยา (โทษลมโทษฟ้าไว้ก่อน) ไถ่สเก็ตในบ้าน แฟนก็ห้ามจนปากจะฉีกว่าอย่าเล่นในบ้าน มันอันตราย ก็หาได้าำนึกไม่ ซึ่งจริงๆก็แอบเล่นในบ้านทุกวันแหล่ะ ไถเข้าห้องโน้นออกห้องนี้ แต่วันนั้น วันที่19 พ.ย 63 ตอนบ่ายนิดๆฟ้าดินคงคิดลงโทษ มัวแต่ดูทีสีด้วยเล่นด้วย แล้วหลบไม่พ้นทีวี ด้วยความที่กลัวจะชนทีวีพัง เลยกระโดดหลบ แต่ไม่พ้นจ้า เท้าขวาพลิกฟาดกับพื้นดังป๊าบ ล้มตอนบ่ายๆ คิดว่าคงแค่เคล็ดแหล่ะ เลยนอนรอเวลาแบบใจเย็น เห้ย...เดี๋ยวก็บรรเทา
รอไปจน6โมงเย็น แฟนกลับมา ก็ได้แต่อ้อมแอ้มไปว่า "พาไปหาหมอหน่อย ลื่นล้ม เดินไม่ไหวเลยเจ็บจุง" (เสียง2ออดอ้อนต้องมา)
ไปถึงโรงพยาบาล เจอแต่หมอเวร ส่วนหมอกระดูกกลับบ้านแล้ว
คุณหมอถามว่าเจ็บระดับไหน 1-10 ให้บอกระดับมา เราก็อืม...เจ็บไม่มากแต่ปวดค่ะ ระดับ5ละกัน
ผล x-ray ปรากฏว่าหัก2ที่ นิ้วนาง และนิ้วก้อย นิ้วนางหักแบบแตกร้าว ส่วนนิ้วก้อยแค่หัก (ตามภาพเลยค่ะ)
แฟนก็พยายามถามว่าล้มยังไง เราก็ไม่บอก ก็ล้มล่ะ ล้มก็คือล้มอ่ะค่ะ ล้มป๊าบอ่ะค่ะ ความมาแตกตอนโดนซักประวัติเพื่อเคลมประกันนี่แหล่ะ โอโห...แฟนยืนทับถมสมน้ำหน้าตลอดเวลา รู้งี้พุ่งตัวใส่ทีวีให้พังไปเลยดีก่า 555+ (ไม่สำนึก)
สรุปว่าวันนั้นเข้าเฝือกอ่อน แบ้วให้กลับมาหาหมอกระดูกใหม่ในวันรุ่งขึ้น ถามหมอว่าจะกลับไปวิ่วได้ไหมคะ? ซึ่งหมอกระดูกก็ไม่ได้พูดอะไรมาก ถามแค่ว่านิ้วนางควรผ่าตัดดามเหล็กจัดกระดูก จะผ่าไหม? กระดูกจะได้เข้ารูป แค่รู้ว่าต้องบล็อคหลัง นอนรพ.ทางเราก็ขอ้ลือกเฝือกเถอะค่ะคุณหมอ ดังนั้น...คุณหมอจึงให้ไปนอนกอดเฝือก1สัปดาห์เพื่อให้เท้าหายบวมก่อน
อาทิตย์ถัดมาก็มาตามนัด คุณหมอเปลี่ยนเฝือกอันใหม่ให้กระชับขึ้น
แต่...ความซวยมันมายังเกิดตอนใข้ไม่ค้ำยันลงจากรถจะเข้าลิฟท์ที่คอนโด พนง.เค้าล้างพื้นกัน เราก็ไม่ทันระวัง ลื่นจ้าาา เอาส้นเท้าข้างที่เข้าเฝือกลงพื้น ปวดไปหมด จำได้ว่าปวดจนแขนขาสั่น แต่กลั้นไว้เพราะกลัวแฟนซ้ำเติม 555 (เดี๋ยวจะเสียเหลี่ยม) วันที่ลื่นคือวันศุกร์ นอนปวดอยู่3วัน ไม่ไหวแล้ว วันจันทร์เลยให้แฟนพาไปหาหมอ
คุณหมอบอกว่ากระดูกเคลื่อนเล็กน้อย ไอ้เราก็กลัวจะมีผลกระทบกับการวิ่งในภายหลัง เลยบอกคุณหมอว่ายัวไวก็ได้ค่ะ ไม่กลัวเจ็บแต่ไม่เอาผ่าตัด 555+ ชั้นไม่ควรพูดประโยคนี้!!! ไม่ควรท้าทายอำนาจมืดในมือหมอ
คุณหมอบอกว่างั่นเดี๋ยวจัดกระดูกใหม่อีกรอบ
รอบนี้อ่ะนะคะ...ให้นอน มีถุงทรายหนักๆวางพาดบนหน้าแข้ง มีเสาสแตนเลสที่เหมือนเอาไว้ห้อยน้ำเกลือมาวางที่ปลายเท้า คุณหมอเอาเชือกไนลอนเส้นเขื่องมาผูกที่นิ้วก้อย และนิ้วนาง แบ้วแขวนเชือกบนเสา ตอนนั้นก็ว่าเจ็บล่ะ อึดใจต่อมามีพยาบาลมากดแขนแนบลำตัว1คน แล้วหมอก็ส่งสัญญาณมรณะ ออกแรงดึง และกดไปบนจุดที่กระดูกหักเสียงดังกร๊อบสนั่นมาก ทางฝั่งเราไม่ได้ร้องส่งเสียงใดๆ เพราะมัวแต่กัดปากตัวเอง เหงื่อแตกท่วมตัว เอามือจกแขนคุณพยาบาลแน่นมากแบบตั้งการที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ 555+ ณ.จุดนี้ได้แต่อ้อมแอ้มบอกหมอไปว่า เจ็บจุงเบยค่ะ แฮ่ๆ
จากนั้นก็กลับมานอนกอดเฝือกนับไปอีก3สัปดาห์ งานวิ่งเพชรบุรี, เขาใหญ่, บางแสน21 ก็คือต้องเทเพราะหมอว่าหายไม่ทันหรอก
พอถึงวันนัด 23 ธ.ค 63 ไปรพ ด้วยจิตใจฮึกเหิม ได้ถอดเฝือกแน่ๆ เอา รองเท้าข้างขวาไปด้วย กะว่าจะใส่รองเท้ากลับบ้าน (มโนเก่ง คิดเองเออเองได้!!!) คุณหมอดูฟิลม์ x-ray จำได้ว่าถามคุณหมอไปว่ามีของขวัญวันวาเลนไทม์ไหมคะ? /คุณหมอส่ายหน้า หน้ามึนถามไปอีกว่า ของขวัญวันปีใหม่ล่ะคะ? / หมอส่ายหน้าอีก
ถามอีกอย่างไม่ย่อท้อ แล้วของขวัญวันเด็กล่ะคะ / หมอส่ายหน้าอีก (นี่หมอเป็นพัดลมเหรอ ทำไมเอาแต่ส่ายหน้า โอ่ยยย เปงเส้า) คุณหมอกล่าวว่าไปนอนกอดเฝือกเก่าข้ามปีอีก 3สัปดาห์ มาดูใหม่
ในระหว่างนี้...เราก็กระเผลกๆไปงานวิ่งจ่ะ สมัครงานวิ่งใกล้บ้านตัวเองลงฮาฟ ของแฟนลงฟันรัน ถ้าเราไม่ไปนางก็คงเท ไม่วิ่ง เราจึงส่งมอบจิตวิญญาณทั้งหมดให้แฟนวิ่งฟันรัน ส่วนตัวเรานั้นนั่งเชียร์ที่หน้าเส้นชัย
เราก็บิ้วนางมาก พาไปดูเส้นทาง บอกเทคนิค กลับตัวตรงไหน ทางตรงนี้มืด ตรวนี้ข้างทางมีก่อสร้าง วิ่งกลางๆถนนไว้ 555+ คายตะขาบสุดฤทธิ์ ปกตินางแค่เปนผู้ติดตามเพราะส่วนมากเราวิ่งเทรล ถ้าวิ่งโรดก็จะวิ่งด้วยกันเพราะนางอายุเยอะแล้ว ซี่งนางก็ไม่ทำให้คนพิการอย่างเราผิดหวัง คว้าที่4ของรุ่นมาเลยจ้าาาา
ด้านบนคือภาพประกอบการบรรยายค่ะ😅
เอาล่ะๆ กิจกรรมกากีฬาใดๆไม่มีเลย นอนดูซีรีส์จนตาเป็นหมีแพนด้า ตัวกลมๆเป้าตาดำๆกลิ้งไปมาหน้าทีวี มีรีโมทเป็นอาวุธข้างกาย เวทแขน วิดพื้นบ้างตามกำลังศรัทธา คือถ้าไม่เวทเลยมันปวดแขนมากเวลาใช้ไม้ค้ำยัน ตอนนี้เข้าใจจิตใจของคนใช้ไม้ค้ำยันเลยนะ สปีดที่คิดว่าเร็วสุด คือเต่าคลานมากจ่ะ จะกระดื๊บๆไปแต่ละก้าวนั้น อือหือ พล้งข้อมือ และพลังกล้ามแขนล้วนๆ ถ้าอยู่ในบ้านแล้วเราต้องการไปที่ตู้เย็น เราก็คลานเอา นึกภาพ รด.ใกทหารคลานลอดรั้วลวดหนามอ่ะค่ะ แต่แฟนบอกภาพเหมือนตะกวดมากกว่า ช่างไม่มีจินตนาการเสียเลยคุณพี่!!
555+ ในเลข5มีน้ำตาเอ่อล้น ในช่วงนี้แฟนก็นับวันรอให้ถึงวันนัดแบบใจจดจ่อ ก็คือว่า..งานบ้านทุกอย่างแฟนทำทั้งหมดเราแค่ประกอบอาหารเท่านั้น จึวเป็นเหตุให้พ่อบ้านใจกล้าลุ้นให้ถอดเฝือกมากกว่าเราอี๊ก
วันเวลาผ่านไปเร็วมาก ดูงานวิ่งบางแสน21ผ่านfb ผ่านเทศกาลคริสมาส และปีใหม่ ได้แต่ดูเพื่อนๆฉลองผ่านทางโซเชียล
เอาล่ะๆ วันที่13ม.ค64 ก็มาถึงจนได้ ไปหาหมอแบบไม่หวังอะไร ร้องเพลงพี่กบ ทรงสิทธิ์ในใจตลอดเวลา ...ปาฎิหาริย์ไม่มีจริง🎶 เข้าไปพบคุณหมอพร้อมประโยคที่ว่า หนูทำใจไว้แล้วค่ะคุณหมอ /คือไปอ่านกระทู้เพื้อนๆในพันทิปที่หักเหมือนเรา ทุกคนเข้าเใอกกันยาวนานมากต่ะ
แต่...คุณหมอดูแผ่น X-ray แล้วบอกว่า ถอดเฝือกได้แล้วนะ อยากถอดไหม? โอ้วววว...นาทีนั้น เหมือนสปอร์ตไลน์ส่องมาทีเรา แล้วเพลงก็ดังขึ้น "แหล่ะในวันนี้...เธอนั้นจงหยัดยืน แบะลุกขึ้นอีกครั้ง ด้วยพบังในหัวจายยย" ช้าก่อน...คุณหมอให้ถอดเฝือกแต่ยังไม่ให้ลุกเดินเต็มเท้า เอาส้นเท้าลงน้ำหนักได้ / คือแกอย่าเพิ่งดีใจเกินเบอร์ กลับไปกายภาพข้อเท้า และระวังตัวระวังทีนตัวเองให้ดี อีก2วีคมาเจอกันใหม่
สภาพหลังถอดเฝือก ผ่านการอาบน้ำแล้ว
ภาพ x-ray ล่าสุด
ถอดเฝือกออกมาสภาพดูไม่จืด
กลัวแล้วจ้าาาาาา ถ้าถามว่าเข็ดไหม? ไม่กล้าตอบ บอกได้แค่คืนแรกที่ถอดเฝือกคือในว่าเอาาเก็ตบอร์ดลงไปเล่นข้างล่าง 555+
ตอนนี้ก็เท้าบวมๆ แช่น้ำอุ่นกับบริหารข้อเท้าเบาๆ คุณหทออนุญาตให้ว่ายน้ำได้แต่ให้ระวังอย่าให้นิ้วเคลื่อนไหว ก็เลยคิดว่าครบ1สัปดาห์ให้เท้าลดบวมลงหน่อย ก็จะไปว่ายน้ำดูสักหน่อย
สรุปเบ็ดเสร็จ เข้าเฝือก3อัน เป็นเวลา7สัปดาห์
พอถอดเฝือกแล้วติดตามผลอีก2สัปดาห์
รอบหน้าไปหาหมอแล้วจะมาอัพเดทอีกทีนะคะ
ขอบคุณเพื่อนที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้นะคะ
โควิดครั้งนี้เป็นการกักตัวที่มากกว่าเหงา คือเรากักตัวแบบง่อยๆ
ปล.สุดท้าย ทำไมเราเขียนยาวจุง ตะมีคนอ่านจบไหมนะ เฮ้อ...