ผมกับแฟนคบกันมาขึ้นปีที่ 4 โดยนิสัยทั่วไปเราสองคนเข้ากันดีมาก คบกันเหมือนพี่เหมือนเพื่อน จะมีแค่รสนิยมส่วนตัวบางอย่างที่ต่างกัน เช่น เขาชอบท่องเที่ยว แต่ผมไม่ชอบ ผมเลยไม่ค่อยได้พาเขาไปเที่ยวไหนเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นเที่ยวในจังหวัดหรือจังหวัดข้างเคียงเขาชวนผมก็พาไปตลอดบางครั้งผมก็ชวนไปเองไปหาอะไรกินบ้างไปเดินห้างบ้าง
....เวลาว่างผมจะเล่นเกมส์ แต่ถ้าเค้ามาหา ผมจะพักจากเกมส์มาอยู่กับเค้า แต่ก็ต้องให้จบเกมส์ก่อน
.....ผมไปบ้านเค้าได้เหมือนบ้านตัวเอง ด้วยความเป็นคนขยัน ไม่กินเหล้า ไม่สูป ไม่เที่ยวกลางคืน ทางว่าที่พ่อตาแม่ยายเลยชอบ ถึงกับสร้างที่จอดรถเก๋งให้ เพราะเห็นว่าบ้านผมไม่มีที่จอดรถ
เรื่องบนเตียงของเราสองคนถือว่าห่างมากสำหรับผู้ที่เพิ่งคบกันเพราะผมเป็นคนขี้กังวล ผมใส่ถุงยางไม่ได้เพราะมันรัดจนชาตลอดเวลา(เหมือนจะอวดว่าใหญ่) เคยสั่งแบบบางเฉียบมาใช้ก็ไม่ช่วยอะไร เคยหน้ามืดหลั่งในครั้งหนึ่งต้องซื้อยาคุมฉุกเฉินให้กินซึ่งพาลให้ผมโทษตัวเองว่ามันไม่ใช่แล้ว เอากันแล้วมาลำบากแบบนี้แถมทางผู้หญิงเสียสุขภาพจากยาอีก ผมเลยยอมห่างห่างเรื่องเซ็กส์ เวลาอยากก็ช่วยตัวเองเอา เวลาไปเที่ยวหรือไปสอบที่ต้องค้างคืนด้วยกัน บางครั้งผมก็ตีลูกอึนนอนหลับเลยเพื่อตัดความอยากของตัวเองด้วย ซึ่งก็โดนเขางอนเรื่องนี้บ่อยๆ เพราะเข้าใจแหละว่าเค้ามาเที่ยวค้างคืนเค้าก็ต้องการ
แต่เรื่องอื่นๆเราสองคนรักกันมากจากมุมมองของผมนะ ผมรักเขามากอะไรที่ตามใจได้ผมก็ตามใจเขาหมด บางอย่างคุยกันด้วยผมตามที่บอกผมก็คุย
แล้วเรื่องมันก็เริ่มขึ้นจาก เขาต้องทำล่วงเวลาทั้งแผนก จนวันสุดท้ายที่เขาทำล่วงเวลา ผมกะจะเซอร์ไพรส์ไปรับเขาไปหาอะไรกินกัน กลายเป็นผมโดนเซอร์ไพรส์ซะเองเพราะว่าเวรที่นอนเฝ้าตึกกลางคืนเขาบอกว่าวันนี้มันไม่มีใครทำงานหรอก
.....ผมก็ใจเย็นลองโทรหาดูทำอะไรอยู่....เขาก็บอกว่าทำโออยู่ใกล้เลิกแล้วพี่อยู่ไหน
.....ผมก็บอกเขาตรงๆที่นั่งอยู่หน้าตึกเนี่ย ทำโอตรงไหน
.....เหตุการณ์นี้เราทะเลาะกันใหญ่พักนึง แล้วผมก็เลิกซักไซ้ต่อเราก็สวีทวี่วีกันมาเรื่อยๆเหมือนเดิม
เนื่องจากแฟนผมเขาจะมีเวรเก็บเงินค่าตั้งแผงตามตลาดด้วย เขาจะเก็บเงินเช้าเย็น สัปดาห์ไหนที่เขาได้เวรเก็บเงิน ผมจะไม่กวนเขา เพราะรู้ว่าเขาเหนื่อย แล้วเหมือนผมเป็นคนมีเซ้นแปลกๆ อยู่ดีๆผมดันอยากจะเซอร์ไพรส์เขาอีกแล้ว
....ซื้อของกินที่เขาชอบรออยู่บ้าน จนกะเวลาว่าเขากลับบ้านแล้ว ผมเลยไปหาที่บ้านเค้า แต่กลายเป็นว่า เจอแต่แม่แฟนที่บอกว่า...ยังไม่กลับบ้านเลยลูก ทั้งไปที่ปกติควรจะถึงบ้านตั้งแต่สองชั่วโมทีแล้วด้วยซ้ำ ผมก็เลยขับมอเตอร์ไซค์วนหาเรื่อยๆ จนไปเจอรถเขาอยู่บ้านหลังหนึ่งซึ่งผมมารู้ว่าเป็นเพื่อนที่ทำงานเดียวกับเขา
ผมก็โทรหาเหมือนเดิมเลย
รอบนี้นั่งแอบออกจากห่างจากบ้านแล้วถึงโทร
เขาก็รับสายทันทีนะเสียงปกติทุกอย่าง ผมก็ถามว่าทำอะไรอยู่ อยู่ไหนแล้ว ด้วยความที่เขาคิดว่าผมจะไม่กวนสัปดาห์ที่เขาได้เวรหรือเปล่าก็ไม่ทราบ เขาตอบผมว่าอยู่ที่บ้าน
.....ตอนนั้นผมกับแฟนทะเลาะกันอีกยกนึงโดยโจทย์ที่ว่าโกหกกันอีกแล้วนะ คราวนี้เราทะเลาะกันหนัก ทะเลาะกันไปมา ผมกลายเป็นจำเลยเฉย เพราะเค้าบอกผมไม่ห่วงไม่คุยกับเค้า เค้าเลยต้องหาเพื่อนคุย หลักจากทะเลาะกัน เราสองคนถึงหันหน้ามาปรับความเข้าใจแล้วปรับตัวเข้าหากันอีก
แต่มีสิ่งหนึ่งที่กวนใจผมอยู่ลึกๆมาเรื่อยๆตั้งแต่ตอนนั้น เช่น
ปกติเราสองคนจะขับมอไซต์เล่นกันช่วงเย็น หากินนั่น กินนี่ แต่หลังๆเค้าจะไม่ไปเลย ถ้าจะเที่ยวด้วยกันคือไปเที่ยวไกลๆบ้านเท่านั้น พูดง่ายๆคือไม่ซ้อนท้ายผมเพราะว่ากลัวผมพาผ่านบ้านหลังนั้น
จนปลายปีที่ผ่านมา เราวางแผนกันไว้ว่า หมดช่วงทำโอของเค้า แล้วหลังปีใหม่ เราจะไปเที่ยวไกลๆกัน ไปนอนเกาะสักคืนสองคืน แต่แผนก็มาพัง เพราะผมกะจะเซอร์ไพรส์เขาตอนโอทีอีกแล้ว...
...ผมกะเวลาเลิกงานเหมือนเดิมแล้วก็ไปหาเขา ปรากฏว่าแฟนผมกลับบ้านไปแล้ว ผมก็ขับไปหาที่บ้าน ก็ยังไม่ถึงบ้าน เลยวนไปที่บ้านหลังเดิม ก็เจอว่าอยู่บ้านหลังนั้น ลองโทรหา จากปกติเราสองคนจะรับสายกันไวมาก ผมโทรหาเขา 2 สายไม่รับ ผมก็เลยพอแล้วกลับบ้านมาดู GPS หลังจากนั้นสักพักเขากลับถึงบ้านเขาก็โทรกลับหาผมบอกว่าซื้อของ
รอบนี้ผมก็เลยลองเออออไปก่อนไม่อยากให้เขารู้ว่าผมรู้ GPS เขา
หลังจากนั้นก็เป็นแบบนี้ทุกวัน ตอนเย็นเขาจะไปแวะบ้านหลังนั้น ผมก็จะโทรหา ซัก 10 นาทีเขาก็รีบกลับบ้านแล้วโทรกลับมาหาผมบอกว่าอยู่ในห้องน้ำบ้าง ซักผ้าบ้าง
ที่นี้ ผมกลายเป็นคนขี้ระแวงแล้วไง
ตอนกลางวันผมเลยลองดู GPS พบว่าพักกลางวันจุด GPS ก็อยู่บ้านหลังนั้น
และจากที่โทรหารับสายทันที กลายเป็นเค้าไม่รับสายผมเลย....
....วันต่อมาก็เริ่มจากบ้านหลังนั้นเเล้วไปที่อื่น พอผมขับรถกลับจากที่ทำงาน ก็ลองดูตำแหน่งสุดท้ายที่เขาเคลื่อนย้ายออกจากบ้านหลังนั้นตอนพักกลางวัน รัศมี 20 เมตรจาก gps มันเป็นโรงแรมสะงั้น โทรคุยกันตอนเย็นผมไม่ได้ถาม แต่เค้าชิงบอกผมว่า วันนี้หนูขับมอเตอร์ไซค์ไปถามงานกับอีกที่นึงมา ซึ่งไอ้ที่เค้าบอก มันไม่ใช่จุดนี้
ผมก็ยังนิ่งนะ
รอบนี้คือแบบนิ่ง...แต่มือไม้สั่นมาก...
พอตอนเย็นอีกวันหนึ่ง เป็นวันที่เขาทำโออีกเช่นเคย พิกัดของเขาเคลื่อนที่ออกจากที่ทำงานตั้งแต่ 1ทุ่ม (โอทีถึงสองทุ่ม) ไปที่บ้านหลังเดิม.......
ผมไปยืนถึงหน้าบ้านแล้วโทรหาเขา เหมือนเดิมเขาไม่รับสายเหมือนเดิม จากที่แฟนผมเป็นคนรับสายเร็วมาก ผมยืนอยู่หน้าบ้านชั่วโมงนึงโทรหาเขาประมาณ 7 สาย ใจหนึ่งอยากเอา โมโตลอฟคอกเทลขว้างหน้าบ้านให้วอดทั้งหลัง อีกใจก็ไม่อยากให้มันพังกันทั้งหมด
....พยายามบอกตัวเองแบบมือไม้สั่น....ว่าเรามีคนาคต เรามีอนาคต
คืนนั้นจากgps เค้ากลับถึงบ้านสองทุ่มครึ่ง และไม่ได้โทรกลับหาผมเลย
....วันต่อมา พักกลางวัน gps ไปอยู่ที่เดิม ผมรีบชิงโทรหา ปรากฏว่าไม่รับสายเช่นเดิม...
....หลังจากนั้นพอตกบ่อยแฟนผมก็โทรกลับมา บอกว่าหัวหน้าพามาเลี้ยงข้าวฉลองหมดโอที ....
.....ตอนนั้นผมตัดสินใจแล้ว.....
ผมถามเขาไปตรงๆว่า....ให้พี่ออกไปจากชีวิตหนูไหม หนูจะได้ไม่ต้องลำบากมาโกหกพี่ทุกวันแบบนี้....
....เขาไม่เข้าใจว่าผมพูดออกมาได้ยังไง .....
....ผมก็เลยเฉลยทุกอย่างกับเค้า .... แต่ผมก็บอกติดปลายนวมไปว่า ผมหวังว่าผมจะเข้าใจผิดผมรอคำอธิบายจากเค้าอยู่ ถ้าผมเข้าใจผิดไปเอง ผมจะได้ขอโทษ .....
เย็นวันนั้นเค้ามาหาผมที่บ้าน เค้าบอกไม่ยอมเลิกกับผม เค้ารักผม แต่ผมก็บอกไปว่า งั้นก็อธิบายมาว่ามันเป็นอย่างไร....ซึ่งเค้าก็ไม่ยอมบอก แต่เค้าไม่ยอมเลิก
......ครั้งแรกในชีวิตที่ผมร้องให้เพราะความรักหนักมาก.....
....เราอยู่ในสถานการณ์ปั้นปึงกัน เค้าพยายามง้อ แต่ผมบอกไปว่าขอแค่คำอธิบาย ซึ่งเค้าก็ไม่บอกอะไรเลย.....
.....จนสุดท้ายเราสองคนก็ไม่ได้คุยกันสองเดือนกว่าๆจนข้ามมาปีใหม่.....
.....เมื่อวาน ผมคิดว่าอารมณ์เราสองคนคงเย็นลงทั้งคู่ ผมฟอร์มโทรหาเค้าว่าจะเอากุญแจรถเก๋งผมที่อยู่กับเค้าไปปั๊มดอกใหม่ ดอกที่อยู่กับผมมันแตก ผมเลยได้ไหมคุยเคลียร์กันที่บ้านเค้า....
.....ผมกลับมาบ้านหลังนี้ในรอบสามเดือน....
....ผมคุยด้วยน้ำเสียงปลอบเค้า บอกเค้าว่า พี่อยากฟังทุกอย่างจากปากหนูนะ พี่สัญญาว่าจะไม่โกรธ เรื่องเป็นยังไง....
....แฟนผมบอกทุกอย่างทั้งน้ำตา เริ่มมีใจให้กันตั้งแต่ช่วงที่ไม่ซ้อนรถผม....
....ช่วงที่ห่างกันเพราะมีอะไรกับเขาแล้ว เลยรู้สึกผิดไม่กล้าเข้าหาผม..
....น้ำตาผมนี่จุกอกเลย แต่ผมไม่ร้องให้นะ ....
....ผมยิ้มให้เค้า แล้วบอกเค้าจะร้องให้ทำไม....
....เค้าบอกเค้ารู้สึกผิด แต่เค้ายังรักผม...
....ผมเลยบอกไปว่า หนูไม่ได้รักพี่แล้ว หนูเชื่อพี่เถอะ หนูรักเขา หนูแค่รู้สึกผิดกับพี่เฉยๆตอนนี้....
....เพราะถ้าหนูรักพี่หนูจะไม่มีเขา...
....เค้าก็บอกว่า เค้ารักผมจริงๆ....
....ผมก็เลยบอกว่า ถ้าหนูรักพี่ หนูไปบอกมันสิว่าผัวกูจับได้แล้ว กับกูเลิกยุ่งกันนะ....ซึ่งเขาก็ทำไม่ได้
.....ผมจึงบอกไปว่า นั่นแหละ หนูรักเค้า....
....หนูไม่ต้องร้องไห้ หนูไปให้สุด ให้ดีกว่าอยู่กับพี่ เขามีดีกว่าพี่ทุกอย่างนะ....พี่มายิ้มส่ง มาอวยพร แต่ถ้าแต่งกันพี่ไม่ไปงานนะ
.....เราเปิดอกคุยกันอีกนานพอสมควร ซึ่งผมยิ้มตลอดเวลาที่คุยกัน เพราะผมตั้งใจว่า วันนี้จะเป็นยังไงก็ช่าง ผมจะยิ้มให้เค้า.....ยิ้มส่งเค้า......
...... เค้าบอกว่าเมื่อถึงเวลา หนูจะไปตามหาพี่เองนะ....
....ผมกลับบ้าน พร้อมเอาโน็ตบุคที่ผมซื้อให้เค้ากลับมาด้วยซึ่งเค้าให้ผมเอามาอัพเดทและบอกว่าพี่ไว้ใช้เลยหนูไม่ค่อยได้เล่น เหมือนตั้งใจคืนมาซึ่งผมก็รับมาทำให้....
...ผมเปิดโน๊ตบุคเค้าเพื่อจะอัพเดท ระหว่างโหลดตัวอัพเดท ผมดันไปกดโดนอีเมล.....
...ในบรรดาเมลทั้งหลาย มีเมลชื่อแปลกๆว่า Women on Web เนื้อหาในเมลทำผมใจสั่น มือชาไปหมด...ชาถึงปลายนิ้วเลย.....
...ประจำเดือนมาครั้งสุดท้าย 13ตค. แต่ปีนี้เราไม่ได้มีอะไรกันเลย....
...เดือน ตค.คือเดือนที่ผมเฉลยทุกอย่างกับเค้า
..อีเมลวันที่ 24 พย.
..ตอนที่คุยกันเขาบอกว่าอารมณ์แปลกๆเพราะเป็นประจำเดือน
..เอาออกแล้วจริงหรอ...
....ผมชาไปทั้งตัว อาการร้อนซ่านตั้งแต่หัว ยันปลายนิ้วเท้ามันเป็นแบบนี้นี่เอง....
......เข้าวันนี้ ไปกินข้าวร้านหนึ่ง พยายามตัดความคิดสับานออก แม่เค้าร้านข้าวผัดที่เขาเอ็นดูผม เค้าแซวมาว่า ขยันจังเลยเนาะออกมาเข็นผักแต่ดึก เช้าก็ไปทำงานต่อ ใกล้เก็บเงินแต่งงานได้แล้วสิ .....
(.....ลืมบอกไป เรื่อรักร้าวของเรา คนรู้น้อยมาก....)
....ประโยคที่ผู้ใหญ่แซวด้วยความเอ็นดูประโยคเดียว คมยังกับมีด ....
.....ผมสั่งข้าวแล้วเดินไปที่มุมโต๊ะหลังร้าน...นั่งกินข้าวทั้งน้ำตาเงียบๆ.....
....ขนาดพิมพ์มาถึงตรงนี้ นำตาผมก็แตกขึ้นมาอีกแล้ว...
....เนื่องจากเปิดอกคุยกันเมื่อวาน เค้าเลยกล้าโทรหาผม หลังจากที่ผมเช็ดนำตาออกจากร้านข้าว เค้าโทรมาตอนผมเอารถเข้าจอดที่ทำงานพอดี ผมคุยเปิดใจแบบเมื่อคืนว่าให้เค้าไปให้สุด ไม่ต้องห่วงไม่ต้องกลับมา คุยกันหลายเรื่อง แต่ผมไม่กล้าถามเรื่องเมลนั้น หลังจากวางสาย ผมลางานครึ่งวันนั่งร้องให้อยู่ในรถ
....เมื่อคืนนี้ เค้าโทรหา เราคุยกันโดยผมพยายามคิดว่าคุยกับน้องสาว เป็นคนให้คำปรึกษา แต่เค้าจบด้วยคำว่าหนูยังรักพี่นะ
....ทำไมคำๆนี้มันเป็นคำที่เจ็บขนาดนี้นะ...
....ผมไปทำอะไรพลาดตรงไหนนะ....
....หรือพะวงมากเกิน จนไม่กล้าทำอะไรกัน
....หรือไม่แคร์ความต้องการของเค้า
....ที่ผมรู้แน่ๆคือตรงนั้นไม่ใช่คนรักของผมอีกแล้ว
....แต่ความเจ็บจนนอนไม่หลับต้องมานั่งระบายเป็นนิทานตอนดึกนี่มันคืออะไร
...ทำไมผมทีเป็นคนคอยปลอบน้องปลอบเพื่อนเสมอเวลาอกหัก ต้องมานั่งร้องให้เป็นเด็กแบบนี้
...ใครรู้ช่วยบอกผมที...
อาจจะพิมพ์ผิดพิมพ์ถูกนะครับ นิ้วมันชาไปหมด
คิดว่าอ่านเรื่องสั้นจากนักเขียนหน้าใหม่นะครับ
ตีสองผมต้องออกตลาด แต่ผมยังคิดวกวนจนนอนไม่หลับเลย
มีนิทานมาเล่าให้ฟังครับ ขอตั้งชื่อเรื่องว่า "เมื่อผมโดน ntr"
....เวลาว่างผมจะเล่นเกมส์ แต่ถ้าเค้ามาหา ผมจะพักจากเกมส์มาอยู่กับเค้า แต่ก็ต้องให้จบเกมส์ก่อน