🔴มาลาริน/12ธ.ค.ไทยพบโควิด 12 รายจากตปท./ท่าขี้เหล็กติดเพิ่ม 4 บุคลากรการแพทย์คงที่ 6 ราย/พบผู้อาศัยติดเชื้อที่คอนโดกทม.

🔴ศบค.รายงานวันนี้ ไทยพบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่ม 12 ราย ไม่พบติดเชื้อในประเทศ



วันนี้ (12 ธ.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รายงานถึงสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย ว่า
ล่าสุด สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ โควิด-19 ในไทยวันนี้ (12 ธ.ค.) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 12 ราย
ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้า State Quarantine ดังนี้....🔺️

สวีเดน 1 ราย
เยอรมนี 1 ราย
บาห์เรน 7 ราย
คูเวต 1 ราย
อินเดีย 1 ราย
สหราชอาณาจักร 1 ราย

ส่งผลให้ผู้ป่วยติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 4,192 ราย หายป่วยแล้ว 3,915 ราย โดยยังมีผู้ป่วยที่รักษาอาการอยู่ 217 คน ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม มีผู้เสียชีวิตรวม 60 ราย



https://www.sanook.com/news/8314578/

🔴สธ. เผยคนไทยกลับจากท่าขี้เหล็กติดเชื้อเพิ่มอีก 4 'บุคลากรการแพทย์' ยังคงที่ 6 ราย



🔴“ศบค.” พบผู้ป่วยโควิดใหม่ 12 ราย มาจากต่างประเทศทั้งหมด ขณะ “สธ.” เผย จากท่าขี้เหล็กพบติดเชื้อเพิ่มอีก 4 ราย ส่งรักษาแล้ว อาการไม่รุนแรง ส่วนเคส “บุคลากรทางการแพทย์” ยังคงที่ 6 ราย ไม่พบติดเพิ่ม

12 ธ.ค.63 - ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 12 ราย ในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ทั้งหมด ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสม 4,192 ราย ยอดหายป่วยสะสม 3,915 ราย มีผู้ป่วยรักษาในโรงพยาบาล 217 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสมคงที่ 60 ราย สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ มาจากเยอรมนี 1 ราย สวีเดน 1 ราย สหราชอาณาจักร 1 ราย บาห์เรน 7 ราย อินเดีย 1 ราย และคูเวต 1 ราย
 
ต่อมาเวลา 11.30 น. ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผอ.กองโรคติดต่อทั่วไป แถลงว่า สำหรับความคืบหน้าการสอบสวนโรคในเคสบุคลากรทางการแพทย์ ขณะยังมีผู้ป่วยแค่ 6 ราย ทุกรายอาการไม่รุนแรง มีอาการน้อยเหมือนไข้หวัด ส่วนไทมไลน์ของผู้ป่วยบุคลากรทางการแพทย์ รายที่ 6 อายุ 29 ปี จ.กรุงเทพฯ ในวันที่ 3 ธ.ค. กินข้าวเที่ยงกับผู้ป่วยรายที่ 1 และเวลา 15.00 น.เจอกันอีกรอบ นั่งโต๊ะเดียวกัน ระยะห่าง 1 เมตร ไม่ได้สวมหน้ากาก เนื่องจากเป็นกิจกรรมในชีวิตประจำวัน จากนั้นวันที่ 4 ธ.ค.ขับรถมอเตอร์ไซด์ไปปฏิบัติงานที่โรงพยาบาลเอกชน วันที่ 5 ธ.ค.เมื่อทราบว่ารายที่ 1 ติดเชื้อ ผู้ป่วยจึงไปตรวจที่คลินิกโรคทางเดินหายใจ มีการสวมหน้ากาก และช่วงเย็นระหว่างรอผลตรวจได้ไปซุปเปอร์มาร์เก็ต โดยสวมหน้ากากและหลีกเลี่ยงใกล้ชิดกับผู้อื่น ต่อมาวันที่ 6 ธ.ค. ผลตรวจออกมาติดเชื้อ ได้รับคำสั่งให้กักตัวที่พัก และวันที่ 8 ธ.ค.มีอาการไข้ 37.6 องศา เวลา 10.00 น. เข้ารับการตรวจอีกครั้ง ที่โรงพยาบาลบีเอ็นเอช ผลพบเชื้อจึงเข้ารับการรักษาในห้องแยก ส่วนเพื่อนร่วมงาน 10 คน ที่เป็นผู้สัมผัสได้รับการตรวจแล้ว ผลไม่พบเชื้อ  

ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ส่วนกรณีผู้ติดเชื้อจาก จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา 49 ราย ขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อเพิ่มเติม และวันเดียวกันนี้ จ.เชียงรายได้ร่วมกับจ.ท่าขี้เหล็ก จัดระบบให้กับคนไทยที่ยังตกค้างอยู่จ.ท่าขี้เหล็ก ให้กลับสู่ประเทศไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมายทางด่านปกติ ซึ่งมีผู้แสดงความจำนงกลับเข้ามา เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 107 คน ประกอบด้วย ผู้ใหญ่ 104 คน เด็ก 3 คน และจากการประสานงานกันล่วงหน้าทางเมียนมาได้มีการตรวจหาเชื้อก่อน พบมีผู้ติดเชื้อในกลุ่มนี้ 5 ราย ส่งไปรักษาเรียบร้อยแล้ว ส่วนที่เหลือเข้าสู่สถานกักกันโรคของรัฐ ที่ จ.เชียงราย โดยมีการตรวจหาเชื้อทันที พบอีก 4 รายติดเชื้อ และนำเข้าสู่การรักษาเรียบร้อยแล้ว ฉะนั้นในกลุ่มแรกจากท่าขี้เหล็ก 107 รายนี้ รวมพบผู้ติดเชื้อ 9 ราย ซึ่งมีอาการน้อยมาก ไม่น่าเป็นห่วง ขณะนี้เรากำลังตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมจาก จ.เชียงราย

นพ.โอภาส กล่าวอีกว่า ที่มีการสอบถามว่าสายพันธุ์ของเชื้อจากท่าขี้เหล็กต่างกับสายพันธุ์อื่นอย่างไร ขอเรียนว่าปัจจุบันเชื้อโคโรนาไวรัสมีการกลายพันธุ์อยู่ตลอดเวลา ซึ่งสายพันธุ์ที่ระบาดในปัจจุบันเรียกง่ายๆว่าสายพันธุ์ G จากข้อมูลที่เราติดตามจากท่าขี้เหล็กและมาติดในประเทศไทยในหลายราย ผลเบื้องต้นจากการเอาเชื้อไปถอดรหัสพันธุกรรมทั้งตัวพบว่า รหัสพันธุกรรมตรงกัน บ่งชี้ว่าจุดแพร่กระจายเชื้อมาจากจุดเดียวกันคือท่าขี้เหล็ก และเมื่อไปเทียบสายพันธุ์นี้จากแหล่งระบาดอื่นๆ พบว่าตรงกับสายพันธุ์ที่มาจากประเทศอินเดีย ฉะนั้นจากข้อมูลนี้เราสรุปเบื้องต้นได้ว่า การแพร่ระบาดของสายพันธุ์นี้เริ่มต้นจากประเทศอินเดีย มาเมียนมา มาที่จ.ท่าขี้เหล็ก และตอนนี้มาสู่ประเทศไทย แต่ทั้งหมดเราสามารถควบคุมให้อยู่ในวงจำกัดได้

https://www.thaipost.net/main/detail/86656

🔴เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. ฝ่ายบริหารจัดการ นิติบุคคลอาคารชุด คอนโดย่าน สาทร-ท่าพระ ได้ออกประกาศ เรื่อง ชี้แจงพบผู้อาศัยติดเชื้อไวรัส โควิด-19 ในโครงการดังกล่าว 



โดยภายในประกาศ ระบุว่า ตามที่เจ้าหน้าที่กรมควบคุมโรค เข้าพบฝ่ายบริหารจัดการฯ แจ้งว่า เจ้าของร่วมภายในโครงการ ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลได้รับการยืนยันผลการติดเชื้อโควิด-19 เมื่อวันที่ 10 ธ.ค.63 ขณะนี้ผู้ติดเชื้อพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลเรียบร้อย และแนะนำให้รณรงค์การสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา
ฝ่ายบริหารจัดการฯ ตรวจสอบข้อมูลการเดินทาง ภายในอาคารชุด จากระบบกล้องวงจรปิด และการระบบคีย์การ์ด ย้อนหลัง 10 วัน ตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ 1-10 ธ.ค.63 พบว่าผู้ติดเชื้อเดินทางผ่านโถงต้อนรับ ล็อบบี้ A ลิฟต์โดยสาร และเคาน์เตอร์รับพัสดุ ขณะนี้ทราบว่ามีผู้พักอาศัยร่วมซึ่งอยู่ในห้องชุดเดียวกันได้ไปกักตัวที่โรงพยาบาลเรียบร้อยเช่นกัน

จากสถานการณ์ดังกล่าว ฝ่ายบริหารจัดการฯ มีมาตรการลดความเสี่ยง และป้องกันการแพร่ระบาด ภายในโครงการเร่งด่วนแล้ว ดังนี้...🔺️

1.งดการให้บริการใช้พื้นที่ส่วนกลางชั้น 7
2.ฉีดพ่นฆ่าเชื้อไวรัส เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.63 เวลา 14.00 น.พื้นที่ ล็อบบี้ A โถง ล็อบบี้ B ห้องนิติบุคคลอาคารชุด โถงสันทนาการ ห้องจดหมาย ทางเดินส่วนกลางชั้น 15 ลิฟต์โดยสาร โถงลิฟต์ A และโถงลิฟต์ B
3.ทำความสะอาดจุดสัมผัส บริเวณภายในลิฟต์ โถงชั้นจอดรถ โถงล็อบบี้ และบริเวณพื้นทางเดิน ชั้น 15 ทั้งหมด ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้ออย่างสม่ำเสมอ
4.วัดอุณหภูมิพนักงาน นิติฯ รปภ. แม่บ้านและคนสวนทุกคน ไม่พบอุณหภูมิสูงและมีอาการทางกายภาพอย่างใด

ขอความร่วมมือท่านเจ้าของร่วมและผู้พักอาศัย ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ณ บริเวณล็อบบี้ สังเกตอาการตนเอง 14 วัน หากมีไข้ ไอ เจ็บคอ เหนื่อยหอบ อ่อนเพลีย ขอให้พบแพทย์ และแจ้งให้ฝ่ายบริหารจัดการฯทราบทันที



อ่านต่อที่ : https://www.dailynews.co.th/regional/812436

สถ่นการณ์ยังไม่น่ากังวล  แต่อย่าทำการ์ดตกนะคะ....เพี้ยนปักหมุด

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่