🔴มาลาริน/3ธ.ค.ไทยพบโควิด 13 ราย จาก ตปท./สาวลอบเข้าไทยมีโทษแรง/สั่งเข้มทุกจังหวัด/เมียนมาวิกฤตแพทย์-พยาบาลติดโควิด

🔴วันนี้เพิ่ม 13 คน! ศบค.รายงานไทยพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ เดินทางมาจากต่างประเทศ



วันนี้ (3 ธ.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รายงานถึงสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย ว่า
ล่าสุด สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ โควิด-19 ในไทยวันนี้ (3 ธ.ค.) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 13 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้า State Quarantine ดังนี้....⬇️

อินเดีย 1 ราย
สหรัฐอเมริกา 1 ราย
เม็กซิโก 1 ราย
สวีเดน 1 ราย
ปากีสถาน 1 ราย
เนเธอร์แลนด์ 2 ราย
และมีผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากเมียนมา แต่ไม่ได้เข้ากักตัว 6 ราย (ที่มีการแถลงข่าวยืนยันไปเมื่อวานนี้)

เปิดไทม์ไลน์ 6 สาวเวิร์กแอนด์ทราเวลท่าขี้เหล็ก ข้ามฝั่งมาตรวจเจอโควิด-19
ส่งผลให้ผู้ป่วยติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 4,039 ราย หายป่วยแล้ว 3,832 ราย โดยยังมีผู้ป่วยที่รักษาอาการอยู่ 147 คน ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม มีผู้เสียชีวิตรวม 60 ราย

https://www.sanook.com/news/8308666/

🔴สธ.ย้ำ 10 สาวลอบเข้าไทยคนมีโทษรุนแรง พบผู้สัมผัส 699 ราย ยังไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม
วันพฤหัสบดี ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2563, 14.43 น.



วันที่ 3 ธันวาคม 2563 ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต แถลงสถานการณ์โรคติดเชื้อโควิด-19 ว่า ขณะนี้ทั่วโลกมีการติดเชื้อเกือบ 65 ล้านคน โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านไทย เช่น เมียนมามีการติดเชื้อในระยะที่ Active มีอัตราผู้ป่วยมากขึ้น และยังไม่มีแนวโน้มจะลดลง สำหรับประเทศไทยมีรายงานพบผู้ติดเชื้อวันนี้ (3 ธ.ค.) 13 ราย โดย 7 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและอยู่ในสถานที่กักกัน ส่วนอีก 6 ราย คือคนที่ลักลอบเข้ามาในประเทศไทย โดยข้ามมาจากท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ซึ่งมีการรายงานไปแล้วเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา ทั้งนี้กรณีผู้ติดเชื้อหลบหนีข้ามแดนจากเมียนมาเข้ามาโดยไม่ผ่านกระบวนการกักตัวนั้น อยู่ในระบบการดูแลควบคุมป้องกันโรคทั้ง 10 ราย และสามารถระบุเส้นทางที่เกี่ยวข้องได้ มีการค้นหาผู้เสี่ยงสูงเสียงต่ำและเข้าสู่ระบบควบคุมป้องกันโรคในสถานที่ปลอดภัย
 
“จากการตรวจสอบ พบว่าการลักลอบเข้ามานั้นมีการอาศัยช่วงเปลี่ยนเวรพอดี ซึ่งกลุ่มนี้จับจ้องอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ฝ่ายปกครองมีการดำเนินการอย่างเข้มข้นแล้ว” นพ.เกียรติภูมิ กล่าว 

ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รักษาการอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สำหรับกรณีที่มีคนไทยลักลอบเข้าประเทศมาและตรวจเจอเชื้อโควิด-19 รวม 10 ราย ตามที่แถลงรายละเอียดไปแล้วนั้น โดยอยู่ที่เชียงใหม่ 3 ราย เชียงราย 3 ราย กรุงเทพฯ 1 ราย พิจิตร 1 ราย ราชบุรี 1 ราย และพะเยา 1 ราย ทั้งหมดจุดเริ่มต้นติดเชื้อมาจากฝั่งท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ซึ่งผู้เกี่ยวข้องจะมีการดำเนินการเอาผิดตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ 2558, พ.ร.บ.คนเข้าเมือง, และ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ขณะนี้เจ้าหน้าฝ่ายปกครองได้คุมเข้มตามแนวชายแดน สแกนทุกตารางนิ้ว แต่ก็ประสานไปยังฝั่งเมียนมาว่ามีคนไทยต้องการกลับเข้าประเทศกี่คน เพื่อให้เข้าสู่ระบบกักตัวเพื่อควบคุมป้องกันโรค ซึ่งได้รับรายงานเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (3 ธ.ค.) ว่ามี 150 ราย ที่แจ้งความประสงค์เข้ามา อย่างไรก็ตามตัวเลขอาจจะยังไม่นิ่ง
 
นพ.โอภาส กล่าวต่อว่า สำหรับคนที่ลักลอบเข้ามาแล้วตั้งแต่เดือน พ.ย.เป็นต้นมา ขอให้รายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่เพื่อให้การดูแล ควบคุมป้องกันโรคต่อไป ขณะเดียวกันขอให้เจ้าของบ้านพัก โรงแรม คอนโดฯ ถ้าพบว่ามีคนเดินทางมาจากฝั่งเมียนมาโดยเฉพาะจากท่าขี้เหล็กให้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่บ้านเมือง หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุข นอกจากนี้ยังได้สั่งการให้สถานพยาบาลคัดกรอง ซักประวัติอย่างเข้มถ้าเป็นคนที่มาจากท่าขี้เหล็ก ให้ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทุกราย รวมถึงสั่งการ อสม.ตรวจสอบเคาะประตูบ้านด้วย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ในเรื่องของการเฝ้าระวังควบคุมป้องกันโรคนั้นได้สั่งการไปยังทุกจังหวัดทั่วประเทศ ไม่เฉพาะจังหวัดชายแดนเท่านั้น
 
กรณีที่ตรวจพบว่ามีการติดเชื้อ 10 ราย นั้น มีการสอบสวนโรคพบผู้สัมผัสรวมทั้งหมด 699 ราย แยกเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 175 ราย เท่าที่ตรวจขณะนี้ยังให้ผลเป็นลบแต่จะตรวจสอบอีกครั้ง และกักตัวจนกว่าจะพ้นระยะฟักตัว ส่วนผู้สัมผัสเสียงต่ำ 524 คนขณะนี้อยู่ระหว่างแยกกักตัวเพื่อคุมไม่สังเกตอาการร่วมมีผู้สัมผัสทั้งหมด 699 คน และว่าขอชื่นชมศิลปินที่ยกเลิกการแสดง แล้วกักตัวเองทันที หลังได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ว่ามีการสัมผัสกับผู้ป่วย ซึ่งมาตรการป้องกันตัวเองส่วนบุคคลคือการสวมหน้ากากอนามัย และปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่นั้น เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เราสามารถควบคุมสถานการณ์ ได้ ส่วนคนไทยกลุ่มอื่นใช้ชีวิตได้ตามปกติไม่ต้องกังวล เราเชื่อว่าเราสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ถ้าทุกคนช่วยกัน

นพ.โอภาส กล่าวต่อว่า สำหรับที่งานฟาร์ม Festival ที่สิงห์ปาร์ค จังหวัดเชียงราย ซึ่งมีกลุ่มผู้ติดเชื้อไปเที่ยวนั้น และมีนักท่องเที่ยวไปเที่ยวเยอะจึงกังวลสอบถามเข้ามามาก โดยเฉพาะวันที่ 29 พ.ย. ทั้งนี้ แต่จากการตรวจสอบพบว่าหญิงพะเยาที่มีการติดเชื้อโควิด-19 นั้นมีการเข้าพื้นที่ดังกล่าวดังนี้ เวลา19.30 น.ไปซื้อตั๋ว เวลา 19.38 น.ไปที่จุดตรวจอาวุธ เวลา 19.41 น. ไปห้องน้ำและเข้าฟาร์ม ดังนั้นจุดสำคัญคือถ้าผู้ร่วมงานแล้วไปที่หน้าเวที ไปโซนลานเบียร์ ไปห้องน้ำในเวลาดังกล่าวนั้นขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อให้เจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำรายละเอียดและให้การตรวจต่างๆ ที่จำเป็นกับท่าน หากท่านสงสัยสามารถติดต่อสำนักงานสาธารณสุขเชียงใหม่ โทร. 08-4805-3131 หรือ 08-4805-2121 หรือ 0-5428-1027-15, 09-1007-2384 หรือ 08-1883-0415 และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย โทร. 0-5391-0384, 0-5391-0385

https://www.naewna.com/local/536121

🔴ศบค.มท. สั่งทุกจังหวัดเพิ่ม 4 ข้อ สกัดโควิดช่วงคริสต์มาส-ปีใหม่


ศบค.มท. สั่งทุกจังหวัดดำเนินมาตรการเพิ่มเติม 4 ข้อ สกัดกั้นการแพร่ระบาดโควิด-19 สร้างความปลอดภัยประชาชนช่วงคริสต์มาส-ปีใหม่ 2564

เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2563  นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ได้ประชุมเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.2563 พิจารณากรณีพบชาวไทยที่ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายจากประเทศเพื่อนบ้านและติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จำนวน 10 ราย โดยได้กำหนดมาตรการเพิ่มเติมให้แจ้งผู้ว่าราชการจังหวัด/ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด เน้นย้ำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการควบคุมอย่างเคร่งครัดในห้วงวันที่ 1-31 ธันวาคม 2563 เพื่อให้ประชาชนเดินทางไปร่วมกิจกรรมฉลองเทศกาลคริสต์มาสและเทศกาลขึ้นปีใหม่ 2564 เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ปลอดภัยจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19     



นายฉัตรชัย กล่าวว่า สั่งการและประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้ถือปฏิบัติตามมาตรการเพิ่มเติมของศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 โดยเคร่งครัด ได้แก่..  🏓

1.เฝ้าตรวจ/เฝ้าระวังการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายในพื้นที่ตอนใน โดยให้ความสำคัญเร่งด่วนและความเข้มข้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนด้านภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตามลำดับ

2. ตรวจกำกับดูแลกิจการหรือกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคฯ เช่น ห้างสรรพสินค้า โรงเรียน ร้านอาหาร สถานประกอบการ สถานบันเทิง สนามกีฬา สถานที่ท่องเที่ยว ให้มีความเข้มงวดในมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 มากขึ้น 

3. ให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน เฝ้าสังเกตและกำกับดูแลบุคคลที่กลับเข้ามาในพื้นที่ชุมชน เพื่อซักถามและให้คำแนะนำมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 และ 

4.สร้างการรับรู้ความเข้าใจในการขอความร่วมมือภาคประชาชนและภาคประชาสังคม ทั้งผู้ให้บริการ ผู้ใช้บริการ ผู้จัดกิจกรรม และผู้ร่วมกิจกรรมในพื้นที่สาธารณะ ปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ทำความสะอาดพื้นผิวและอุปกรณ์ที่มีการสัมผัสบ่อย เว้นระยะห่างหรือหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับบุคคลอื่น และใช้แพลตฟอร์ม "ไทยชนะ" ในการเข้า-ออกสถานที่สาธารณะ

https://www.banmuang.co.th/news/politic/214585

🔴ย่างกุ้งวิกฤต! “แพทย์-พยาบาล” 500 คนติดโควิด



สถานการณ์โควิดในพม่ายังไม่มีแววคลี่คลาย ยอดผู้ป่วยเกือบถึงหลักแสน ผู้เสียชีวิตใกล้แตะ 2 พันคน ย่างกุ้งหนักสุดป่วยสะสม 6.7 หมื่นคน ในจำนวนนี้เป็นแพทย์-พยาบาลกว่า 500 คน

กระทรวงสาธารณสุขและกีฬาพม่า รายงานสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (2 ธ.ค.) ยังคงพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอีก 1,411 คน ส่งผลให้มียอดผู้ป่วยสะสม 93,600 คน ใกล้แตะหลักแสนเข้าไปทุกขณะ

เมื่อวานพม่ามีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 26 คน ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตรวม 1,998 คน อย่างไรก็ตาม มีผู้ที่ได้รับการรักษาหายเพิ่มขึ้น 1,258 คน

จำนวนผู้ป่วยที่ยังคงนอนรักษาตัวอยู่ในพม่าขณะนี้มี 19,001 คน

ย่างกุ้งยังคงเป็นภาคที่มีผู้ป่วยสะสมมากที่สุด 67,455 คน รองลงมาเป็นภาคมัณฑะเลย์ 6,328 คน และภาคพะโคอันดับ 3 มีผู้ป่วยสะสม 5,401 คน(ดูรายละเอียดในตาราง)

วันที่ 1 ธันวาคม ในย่างกุ้งยังคงพบผู้ป่วยเพิ่มอีก 886 คน เพิ่มขึ้นจากวันที่ 30 พฤศจิกายน ที่พบผู้ป่วย 565 คน


 
เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน ดร.ทูนมิ่น รองอธิบดีกรมการแพทย์และสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์กับ MRTV สถานีโทรทัศน์ของรัฐบาล ว่า นับแต่เกิดการระบาดของโควิด-19 เมื่อเดือนมีนาคมจนถึงขณะนี้ แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในกรุงย่างกุ้ง ได้ป่วยเป็นโรคนี้รวมแล้วมากกว่า 500 คน ในจำนวนนี้เสียชีวิตไปแล้ว 2 คน

แพทย์และพยาบาลในย่างกุ้งที่ป่วยเป็นโควิด-19 มีอัตราการเพิ่มขึ้นสูงและรวดเร็วพอๆการเพิ่มขึ้นของผู้ป่วย โดยเมื่อปลายเดือนกันยายน มีรายงานว่าแพทย์และพยาบาลในย่างกุ้งที่ป่วยมีประมาณ 70 คน ได้เพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 200 คน ในปลายเดือนตุลาคม แต่ถัดจากนั้นอีกเพียงเดือนเดียว ยอดแพทย์และพยาบาลที่ป่วย ได้เพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัว

สำหรับจำนวนผู้ป่วยสะสมในรัฐและภาคที่มีชายแดนติดกับประเทศไทย ล่าสุดเมื่อคืนนี้ รัฐมอญมีผู้ป่วยสะสมมากที่สุด 1,496 คน รองลงมาเป็นรัฐกะเหรี่ยง 656 คน อันดับ 3 รัฐชาน 432 คน อันดับ 4 ภาคตะนาวศรี 393 คน และอันดับ 5 รัฐกะยา 18 คน

เมื่อวานนี้ จังหวัดท่าขี้เหล็ก ตรงข้ามกับอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย มีผู้ป่วยโควิด-19 ที่กำลังรับการรักษาตัวอยู่ 54 คน ส่วนจังหวัดเมียวดี ตรงข้ามกับอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก มี 175 คน



https://mgronline.com/indochina/detail/9630000124017

สถานการณ์เช่นนี้ 

ทุกคนต้องไม่ประมาทนะคะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่