อยากให้มีการจัดการที่ดีในการเข้าชม​ "สกายวอล์คอัยเยอร์เวง"

แหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตของเบตง​ "สกายวอร์คอัยเยอร์เวง* ที่ฮิตมาก​ คนมาเที่ยวจากทั่วสารทิศ​ แต่การจัดการค่อนข้างแย่​ ส่วนตัวคิดว่าถ้ายังไม่มีการจัดระบบ​ อาจจะทำให้คนเข็ดหลาบและไม่มาเยือนซ้ำ​ ประกอบกับในยุคโซเชียลที่คนมาเที่ยวสามารถรีวิวได้​ คนที่มีแพลนจะมาอาจเปลี่ยนใจ​ ในฐานะคนที่มาหลายครั้งขอตั้งข้อสังเกต​การจัดการที่น่าจะปรับปรุงให้ดีขึ้นได้เป็นข้อๆดังนี้

- ในช่วงเทศกาลที่คนมากันเยอะ​ ต้องยืนรอคิวเป็นเวลานาน​ ช่วงวันหยุดยาวรอไป​ 2 ชั่วโมง​ผมมาหลายรอบ​ ก็คนเยอะเกือบทุกรอบ​ รอบนี้วันที่​ 11​ ธันวาคม​ วันหยุดยาว​ คนเยอะตามเคย​ ออกจากที่พักตี​ 4 จากตัวเมืองเบตง ถึงสถานที่ราวตี​ 5 รถบนลานจอดด้านบนเต็มแล้ว​ ต้องจอดข้างล่าง​ โดยต้องขึ้นด้วยรถกระบะของชาวบ้านคนละ​ 20​ บาท​ ไม่มีปัญหา​ อันนี้เข้าใจว่าช่วยชาวบ้าน​ แต่อดเป็นห่วงคนสูงอายุและเด็กไม่ได้เพราะต้องขึ้นท้ายรถกระบะ​ ทั้งยืนทั้งนั่งท้าย​ แน่นพอควร​ ทุลักทุเลมาก​ ถึงจุดลง​ ต่อมอเตอร์ไซค์อีก​ 20​ บาท​เป็นของชาวบ้าน​เช่นกัน​ ต้องเข้าใจว่านักท่องเที่ยวบางคนไม่กล้านั่งมอเตอร์ไซค์​ เพราะกลัว​ แล้วถ้าคนแก่เค้าจะไปยังไง​ ลองคิดดู​ มอเตอร์ไซค์ค่อนข้างขับเร็วเพราะต้องทำรอบ เห็นบางคนยอมเดินเพราะไม่เคยนั่ง​มอเตอร์ไซค์​ การเดินต้องเดินขึ้นเนินเขาราว​ 500​ เมตร​ ส่วนตัวผมมองว่าน่าจะมีการจัดรถเพื่อให้ผู้สูงอายุหรือผู้พิการได้ไปถึงได้สะดวกนะครับ​ เตรียมไว้ซักคัน2คัน​ (คหสต) น่าจะช่วยให้บุคคลดังกล่าวสะดวกในการเดินทาง

- พอถึงตัวอาคารสกายวอร์ค​ ประตูเปิดตี5.30 ต้องยืนรอคิว​ ซึ่งวันนี้ที่มา​ (11ธันวาคม)​ ยืนรอคิวเกือบ​ 2 ชั่วโมง​ แอบคิดว่าทำไม​ไม่ทำเป็นบัตรคิว​ ประมาณเหมือนรับยาที่โรงพยาบาล​ ใครมาถึงก็มารับคิว​ แล้วเรียกให้มาเข้าในอาคาร​ อาทิ​ หมายเลข1-20 คนมีบัตรก็มาขึ้น​ โดยนั่งรอละแวกนั้น​ เข้าห้องน้ำ​ได้ ถ่ายรูปรอไป​ จนได้ยินเสียงเรียกจากพนักงานก็มาขึ้น​ ดีกว่ามั้ยครับ​ ไม่น่าจะยาก​ นี่ต้องยืนรอ​ จะไปห้องน้ำก็กลัวคนอยู่หลังคิดว่าแซง​ คนแก่, เด็กก็ต้องยืน​ น่าสงสาร​ เวลาตี4, ตี5 นอนน้อยเพราะต้องรีบมาแล้วต้องมายืนตากน้ำค้างตากหมอก​ เสี่ยงต่อการไม่สบายเป็นอย่างมาก​ ถ้ามีฝนไม่ต้องพูดถึง​ เปียกไปรอไป

- พอได้เข้าด้านใน​ คนที่ไม่ซื้อถุงครอบเท้าต้องถอดรองเท้า​ ก็ถอดไว้ในอาคาร​ ส่งกลิ่นและสร้างความเกะกะ​ ดูแลไม่สวยงามตา​ น่าจะมีล้อกเกอร์​ หรือออกกฎใส่กระเป๋าถือไปน่าจะดีกว่า

- มีลิฟท์แต่ไม่เปิดให้คนมาเที่ยวได้ใช้บริการ มาหลายรอบคิดมาตลอดว่าลิฟท์คงยังไม่เรียบร้อยในการใช้งาน​ จนวันนี้เห็นคนแก่เป็นลมอยู่ด้านบน​ เพราะเดินขึ้นมาแล้วหน้ามืด​ นอนยาว​บนพื้น เพื่อนๆกำลังปฐมพยาบาลอย่างวุ่นวาย​ เห็นเจ้าหน้าที่ขึ้นๆลงๆมาดูด้วยลิฟท์ ซึ่งถือว่าช้ามากในการให้ความช่วยเหลือ​ ซักพักใหญ่จึงมีรถเข็นมากับลิฟท์ ทุลักทุเลพอควร​ในการพาลง อย่าว่าแต่คนแก่​ การขึ้นบันไดกับความสูงราวตึก​ 5-7​ชั้น​ คนธรรมดาปกติยังเหนื่อย​ ส่วนตัว​คิดว่า​ น่าจะให้คนสูงอายุ​ ใช้ลิฟท์ได้​ ตรวจดูจากบัตรประชาชนก็ได้นะ​ ด้วยอากาศ, การนอนน้อย, ความสูง​ ล้วนเป็นอุปสรรคและเสี่ยงต่อการเกิดการเป็นลมและเกิดโรคประจำตัวต่อผู้มาเที่ยวได้

- เป็นสถานที่ที่คนมานับหมื่นคน​ แต่กลับไม่เห็นห้องพยาบาล​หรือหน่วยพยาบาล​ น่าจะมีหน่วยแพทย์มาประจำการนะครับ​ เพราะสถานที่ก็ห่างไกลโรงพยาบาลพอควร​

- เข้าใจว่าต้องมีคนแย้งว่า​ ยังอยู่ในช่วงทดลองเปิด​ ทุกอย่างยังไม่เข้าที่​ แต่เปิดมาราว​ 3 เดือน​แล้ว​นะครับ​ ก็เห็นปัญหาอยู่หลายครั้งเวลาคนเยอะ​ ผ่านช่วงวันหยุดยาวมาก็หลายครั้ง ก็น่าจะแก้ในจุดที่แก้ได้ไปก่อน ก่อนที่คนจะพูดปากต่อปากว่ามันลำบากในการเที่ยว​ จนอาจเป็นกระแสในโซเชียล​ และไม่มาซ้ำ​อีก ได้ยินคนมาบ่นกันมาก​ วันก่อนก็การจัดคิวให้คนจาก​ภาคท่องเที่ยวขึ้นก่อน​ แถมนั่งรถตู้มาส่งถึงอาคารเลย​ โดยไม่ต้องนั่งมอเตอร์ไซค์​ คนก็บ่นกันมาก​ เพราะทุกคนเค้าก็รอ​นานจากคนมาเที่ยวเยอะแล้ว ยังมาเจอแถวพิเศษ​ ปกติที่ไปจะได้ยินคนขับมอเตอร​์ไซค์, รถกระบะที่ส่งนักท่องเที่ยว​ เรียกลูกค้าให้ใช้บริการ​ และมักพูดกับนักท่องเที่ยวว่าช่วยชาวบ้านให้มีรายได้ จนบางคนใช้บริการเพราะจะได้ช่วยชาวบ้าน แต่คณะดังกล่าวขึ้นถึงอาคารโดยไม่นั่งมอเตอร์ไซค์​ได้​ น่าเห็นใจชาวบ้าน​ มากันเป็นร้อยแต่ไม่ได้รายได้จากกลุ่มดังกล่าว​ แถมมาเข้าคิวพิเศษ​ ประชาชนคนรอคิวก็รู้สึกนะครับ​ ฝากไว้ให้คิด​ ผิดพลาดประการใดขออภัย​ด้วยนะครับ​ แค่อยากให้มีระบบที่ดี​ เพื่อคนจะได้มาเที่ยวเยอะๆ​ เศรษฐกิจ​เบตงก็จะยิ่งดีขึ้นดีขึ้น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่