JJNY : ส่งออก10ด.ติดลบ7.6%/ศิริราชเผย‘โควิดพม่า’แพร่เร็ว/โฆษกพท.ยันยังไม่มีใครลาออกตาม”สุดารัตน์”/ปธ.ปปช.รับเรื่องสอบตู่

เศรษฐกิจ - ส่งออก10 เดือน 5.8 ล้านล้าน - ติดลบ7.6% 
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_5493191

 

ส่งออก10เดือน5.8ล้านล.-ลบ7.6% - น.ส.กัณญภัค ตันติพิพัฒนพงศ์ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวถึงการส่งออกเดือนต.ค. ที่ผ่านมาว่ามีมูลค่า 19,376 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 5.8 แสนล้านบาทติดลบ 6.71% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน นำเข้า 17,330 ล้านดอลลาร์ 5.2 แสนล้านบาท ติดลบ 14.32%
 
ส่งผลให้เดือนต.ค.ไทยเกินดุลการค้า 2,046 ล้านดอลลาร์ แต่เมื่อหักทองคำ น้ำมันและอาวุธยุทธปัจจัย เดือนต.ค.การส่งออกติดลบ 4.89% กลุ่มสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร ติดลบ 8.8% โดยสินค้าที่ขยายตัวได้ดีอยู่ คือ น้ำมันปาล์ม อาหารสัตว์เลี้ยง ยางพารา สิ่งปรุงรสอาหาร ผักผลไม้สดแช่แข็งกระป๋องและแปรรูป
 
สินค้ากลุ่มที่หดตัว คือ น้ำตาลทราย ข้าว ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ไก่สดแช่แข็งและแปรรูป ขณะที่กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม ติดลบ 4.7% โดยกลุ่มสินค้าที่มีการขยายตัว ได้แก่ อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์ และไดโอด เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน ผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ
 
ส่วนภาพรวม 10 เดือนแรก ตั้งแต่ ม.ค.-ต.ค.ไทยส่งออกรวมมูลค่า 192,372 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 5.8 ล้านล้านบาท ติดลบ 7.26% นำเข้ามีมูลค่า 169,702 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 5.1 ล้านล้านบาท ติดลบ 14.61% เมื่อหักทองคำและน้ำมันและอาวุธยุทธปัจจัยเดือนม.ค.-ต.ค. การส่งออกขยายตัวติดลบ 8.47%
  

 
ศิริราช เผย ‘โควิดจากพม่า’ แพร่เร็ว คนละสายพันธุ์กับอู่ฮั่น เตือนคนไทยยกการ์ดสูงขึ้น
https://www.matichon.co.th/local/news_2478023
 
ศิริราช เผย ‘โควิดจากพม่า’ แพร่เร็ว คนละสายพันธุ์กับอู่ฮั่น เตือนคนไทยยกการ์ดสูงขึ้น
 
เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล แถลงสถานการณ์โรคโควิด 19 และการผลิตวัคซีนป้องกันผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ของ Mahidol university ว่า จากการถอดบทเรียนการระบาดของพม่าที่พบการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วจากครั้งแรกที่เจอผู้ป่วยโควิดวันที่ 23 มี.ค. ถึง 6 ธ.ค. จำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นกว่า 200 เท่า และแพร่กระจายไปพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศอย่างรวดเร็ว
 
เพราะการตามสอบสวนโรคประชาชนที่เดินทางจากพื้นที่ระบาดทำได้น้อยกว่า 50% อีกทั้งสายพันธุ์ที่แพร่ในพม่าเป็นคนละสายพันธุ์กับอู่ฮั่นที่ระบาดในช่วงแรก D614 แต่พม่าเป็นสายพันธุ์ G614 ที่พบแพร่ระบาดในประเทศแถบตะวันตกและทั่วโลกขณะนี้ ซึ่งความต่างคือสายพันธุ์ที่แพร่ในพม่า ตัวเชื้อสามารถเพิ่มจำนวนได้เร็วกว่า 20% ทำให้แพร่ได้เร็วกว่าสายพันธุ์เดิม ทั้งนี้ คนไทยกลับจากพม่าโดยไม่ยอมเข้าระบบและปกปิดข้อมูลตนเองจะเป็นอันตราย ทั้งคนในครอบครัว สังคม บุคคลากรทางการแพทย์
 
“สถานการณ์นี้ทำให้เห็นว่าจุดอ่อนแม้แต่จุดเดียว อาจส่งผลมหาศาลต่อประเทศและส่งผลกระทบเชิงลบให้กับสังคม จึงขอความร่วมมือคนไทยยกการ์ดขึ้นสูง ใช้วัคซีนที่เรามีคือปฏิบัติตามคำแนะนำ สวมหน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่าง ลงทะเบียนเข้าออกเมื่อใช้สถานที่ แนะคนรู้จักให้ปฏิบัติอย่างถูกต้อง เพื่อให้เรามีภูมิป้องกันโควิดได้ทันทีโดยไม่ต้องรอวัคซีนที่ยังต้องใช้เวลาอีกนานไม่ต่ำกว่าครึ่งปีกว่าจะได้ใช้ หากสามารถยับยั้งการแพร่เชื้อได้เราก็จะได้ฉลองปีใหม่ แต่หากไม่สามารถทำได้ และเกิดการแพร่กระจายเชื้อก็อาจจะไม่ได้ฉลองปีใหม่” ศ.นพ.ประสิทธิ์กล่าว
 
ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า 3 ปัจจัยที่น่าห่วงขณะนี้ คือ อากาศเย็นที่ทำให้คนอยู่ในอาคาร ซึ่งเป็นพื้นที่ปิดและไม่สวมหน้ากากมากขึ้น ชายแดนที่มีการแพร่ระบาดรุนแรงมากขึ้น ทั้งพม่า และมาเลเซีย โดยเฉพาะคนที่ลักลอบเข้ามาเป็นปัจจัยเสริมให้เกิดการระบาดได้ และการชุมนุมต่างๆ แต่อยากให้เข้าใจและย้ำเตือน เพราะไม่มีใครชนะหากเกิดการระบาดขึ้น
 
จึงอยากขอให้หลีกเลี่ยง ในส่วนของ รพ.ขณะนี้ทุกแห่งได้เตรียมการรับมือแล้ว แต่ก็หวังจะไม่เกิดการระบาดรุนแรง ส่วนความคืบหน้าการผลิตวัคซีน ล่าสุดบริษัทต่างๆ ที่ผลิตใน 2 ล็อตแรกถูกจองหมดแล้ว สำหรับประเทศไทยที่มีข้อตกลงกับแอสตราเซนเนกา หากไทยได้รับข้อมูลองค์ความรู้มาเมื่อไร ก็จะต้องผ่านกระบวนการผลิตอีก 4 เดือน และต้องผ่านการตรวจสอบจากอย.อีก 3 รอบใช้เวลาประมาณ 1 เดือน คาดว่าจะได้ฉีดครั้งแรกหลังเดือนพ.ค. 2564
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่