ท่ามกลางวิกฤตไวรัสระบาดในประเทศเพื่อนบ้าน ทหารตรึงกำลังเข้มบริเวณชายแดน ผู้ใดที่จะข้ามมาต้องได้รับการตรวจเชื้อ และกักตัวเป็นเวลาสองสัปดาห์ แต่เนื่องจากเขตชายแดนมีพื้นที่ยาวเหยียด จึงมีโอกาสไม่น้อยที่จะมีผู้เล็ดลอดเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติ
‘นิด’ กับ ‘พลอย’ ใช้ช่องว่างตรงนั้น ก่อนหน้านี้พวกเธอไปทำงานที่ประเทศดังกล่าว แต่ทนการระบาดอย่างรุนแรงไม่ไหว จึงต้องเก็บข้าวของกลับมาที่บ้านเกิด สาเหตุที่ทั้งคู่ไม่ยอมเข้าเมืองแบบถูกต้อง ก็เพราะไม่อยากเสียเวลากักตัวสองสัปดาห์
ทั้งสองเดินลัดเลาะไปตามเส้นทางธรรมชาติ ข้ามผ่านภูเขา ลุยป่า ฝ่าดง ตามคำแนะนำของนักลักลอบมืออาชีพ การที่ต้องมาเดินทางแบบนี้มันก็ไม่ได้สุขสบายหรอก เสี่ยงอันตรายจากอุบัติเหตุ เสี่ยงเจอหน่วยลาดตระเวน เสี่ยงถูกจับ แต่ถ้าหากรอดผ่านไปได้ มันก็คุ้มกับการที่ไม่ต้องกักตัวสองสัปดาห์
อันที่จริงสองสาวก็กังวนเรื่องที่ตัวเองจะนำเชื้อมรณะไปเผยแพร่ในประเทศ แต่พวกเธอก็มั่นใจว่าตัวเองไม่ได้ติดเชื้อ เพราะก่อนเดินทางได้วัดไข้เรียบร้อยแล้ว
“เดินมาจะสามชั่วโมงแล้วนะ ถึงไหนแล้วเนี่ย” พลอยเอ่ยขึ้น ปาดเหงื่อที่ไหลเต็มหน้าผาก
นิดหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดดูแผนที่ “จะครึ่งทางแล้วล่ะ แกเห็นต้นไม้ตรงนั้นไหม เขาบอกต้องเดินเลี้ยวขวาไปอีกสิบกิโล น่าจะถึงจุดพัก”
“ตั้งสิบกิโลเลยเหรอ” พลอยทรุดลงกับพื้น เอนหลังพิงโคนต้นไม้
นิดส่ายหน้าเบา ๆ “แกเป็นคนหาเรื่องเองนะพลอย ถ้าเราเข้ามาตามปกติ ก็ไม่ต้องมาเหนื่อยแบบนี้หรอก”
“ก็ไม่นึกว่ามันจะเหนื่อยแบบนี้นี่หว่า” พลอยยันตัวเองขึ้นมา “แต่ถ้าให้เลือก ฉันก็เลือกแบบนี้อยู่ดีแหละ ใครจะไปเสียเวลาตั้งสิบสี่วัน” ว่าแล้วก็ทำท่าฮึกเหิม ก้าวเท้าฉับ ๆ ไปข้างหน้า
เวลาผ่านไปอีกร่วมชั่วโมง ดวงตะวันใกล้จะลับขอบฟ้า ทั้งสองเดินเข้าสู่จุดหยุดพัก ตามคำแนะนำจากนักลักลอบ ตรงนี้เป็นจุดที่ไม่มีทหารผ่านไปมาช่วงกลางคืน ทั้งสองตกลงกันว่าจะนอนพักเอาแรง ยังไงการเดินป่าช่วงกลางคืนก็ไม่สมควรอยู่แล้ว
“แกว่าในป่าแบบนี้จะมีเสือหรือเปล่าวะ” จู่ ๆ นิดก็เอ่ยขึ้น
“บ้า ไม่มีหรอก เขาบอกว่าเสือโดนล่าหมดป่าแล้วไม่ใช่เหรอ”
“เหรอ แล้วอย่างอื่นล่ะ”
พลอยขมวดคิ้ว “แกหมายถึงอะไร”
เรื่องเขย่าขวัญ : เชื้อมรณะ
‘นิด’ กับ ‘พลอย’ ใช้ช่องว่างตรงนั้น ก่อนหน้านี้พวกเธอไปทำงานที่ประเทศดังกล่าว แต่ทนการระบาดอย่างรุนแรงไม่ไหว จึงต้องเก็บข้าวของกลับมาที่บ้านเกิด สาเหตุที่ทั้งคู่ไม่ยอมเข้าเมืองแบบถูกต้อง ก็เพราะไม่อยากเสียเวลากักตัวสองสัปดาห์
ทั้งสองเดินลัดเลาะไปตามเส้นทางธรรมชาติ ข้ามผ่านภูเขา ลุยป่า ฝ่าดง ตามคำแนะนำของนักลักลอบมืออาชีพ การที่ต้องมาเดินทางแบบนี้มันก็ไม่ได้สุขสบายหรอก เสี่ยงอันตรายจากอุบัติเหตุ เสี่ยงเจอหน่วยลาดตระเวน เสี่ยงถูกจับ แต่ถ้าหากรอดผ่านไปได้ มันก็คุ้มกับการที่ไม่ต้องกักตัวสองสัปดาห์
อันที่จริงสองสาวก็กังวนเรื่องที่ตัวเองจะนำเชื้อมรณะไปเผยแพร่ในประเทศ แต่พวกเธอก็มั่นใจว่าตัวเองไม่ได้ติดเชื้อ เพราะก่อนเดินทางได้วัดไข้เรียบร้อยแล้ว
“เดินมาจะสามชั่วโมงแล้วนะ ถึงไหนแล้วเนี่ย” พลอยเอ่ยขึ้น ปาดเหงื่อที่ไหลเต็มหน้าผาก
นิดหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดดูแผนที่ “จะครึ่งทางแล้วล่ะ แกเห็นต้นไม้ตรงนั้นไหม เขาบอกต้องเดินเลี้ยวขวาไปอีกสิบกิโล น่าจะถึงจุดพัก”
“ตั้งสิบกิโลเลยเหรอ” พลอยทรุดลงกับพื้น เอนหลังพิงโคนต้นไม้
นิดส่ายหน้าเบา ๆ “แกเป็นคนหาเรื่องเองนะพลอย ถ้าเราเข้ามาตามปกติ ก็ไม่ต้องมาเหนื่อยแบบนี้หรอก”
“ก็ไม่นึกว่ามันจะเหนื่อยแบบนี้นี่หว่า” พลอยยันตัวเองขึ้นมา “แต่ถ้าให้เลือก ฉันก็เลือกแบบนี้อยู่ดีแหละ ใครจะไปเสียเวลาตั้งสิบสี่วัน” ว่าแล้วก็ทำท่าฮึกเหิม ก้าวเท้าฉับ ๆ ไปข้างหน้า
เวลาผ่านไปอีกร่วมชั่วโมง ดวงตะวันใกล้จะลับขอบฟ้า ทั้งสองเดินเข้าสู่จุดหยุดพัก ตามคำแนะนำจากนักลักลอบ ตรงนี้เป็นจุดที่ไม่มีทหารผ่านไปมาช่วงกลางคืน ทั้งสองตกลงกันว่าจะนอนพักเอาแรง ยังไงการเดินป่าช่วงกลางคืนก็ไม่สมควรอยู่แล้ว
“แกว่าในป่าแบบนี้จะมีเสือหรือเปล่าวะ” จู่ ๆ นิดก็เอ่ยขึ้น
“บ้า ไม่มีหรอก เขาบอกว่าเสือโดนล่าหมดป่าแล้วไม่ใช่เหรอ”
“เหรอ แล้วอย่างอื่นล่ะ”
พลอยขมวดคิ้ว “แกหมายถึงอะไร”