JJNY : ประกันรายได้ข้าววุ่น ได้เงินช้า/รมว.สวีเดนย้ำตามชุมนุมไทยใกล้ชิด/เสรีพิศุทธ์ฟันธง!ตู่ไม่รอด/สิระรอแจกกล้วยเต้

ประกันรายได้ข้าววุ่น ชาวนานับล้านได้เงินล่าช้า
https://www.dailynews.co.th/economic/809069
 
ประกันรายได้ข้าววุ่น ชาวนานับล้านได้เงินล่าช้า หลังราคาข้าวตกต่ำหนักทำงบประมาณที่ตั้งไว้ไม่เพียงพอจ่าย ด้าน ธ.ก.ส. ปัดถังแตก ยังมีเงินพอแน่ แต่ต้องรอ ครม. อนุมัติก่อน คาดชง ครม.สัปดาห์หน้า 
 

 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ได้รับร้องเรียนจากชาวนาว่าได้รับเงินชดเชยส่วนจากโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ฤดูกาล 63/64 ล่าช้า โดยเฉพาะชาวนาที่ลงทะเบียนได้รับเงินงวดที่ 2 จำนวนกว่า 6 แสนคน และงวดที่ 3 อีกกว่า 1.5 ล้านคน โดยสาเหตุเนื่องจากงบประมาณที่รัฐบาลเตรียมไว้จ่ายชดเชยมีไม่เพียงพอ หลังปีนี้เกิดปัญหาราคาข้าวเปลือกตกต่ำอย่างหนัก
 
"เดิมกระทรวงพาณิชย์ได้ตั้งงบชดเชยโครงการประกันรายได้ข้าวเปลือกปีสองกว่า 2.3 หมื่นล้านบาท ซึ่ง ครม.ได้อนุมัติงบสำหรับใช้จ่ายมาให้ก้อนแรกแล้ว 1.8 หมื่นล้านบาท แต่เมื่อถึงเวลาจ่ายชดเชยจริง กลับพบว่าราคาข้าวตกต่ำกว่าที่พาณิชย์คาดไว้มาก ทำให้เงินที่เตรียมไว้จ่ายชดเชยไม่พอ สามารถจ่ายให้ชาวนาได้แค่งวดที่ 1 และ 2 ประมาณ 1.4 ล้านรายเท่านั้น จากชาวนาที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมส่งเสริมการเกษตรทั้งหมด 4.5 ล้านราย"
 
ทั้งนี้ชาวนาที่เหลือจะต้องรอกระทรวงพาณิชย์เสนอ ครม.ก่อน ถึงจะได้รับเงินชดเชยได้ โดยคาดว่าพาณิชย์จะเสนอเพิ่มวงเงินประกันรายได้ข้าวเป็น 4.8 หมื่นล้านบาทในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะทำให้รัฐบาลต้องหางบประมาณมาใช้ในโครงการประกันรายได้เพิ่มขึ้น 2.5-3 หมื่นล้านบาท
 
นายกษาปณ์  เงินรวง  รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ยืนยันว่า ธ.ก.ส มีสภาพคล่องเพียงพอสำหรับรองรับการดำเนินโครงการประกันรายได้พืชเศรษฐกิจทั้ง 5 ชนิด และไม่ได้ขาดสภาพคล่องตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด ส่วนสาเหตุที่จ่ายเงินล่าช้าเนื่องจากต้องรอกระทรวงพาณิชย์ขออนุมัติขยายวงเงินจาก ครม.ก่อน โดย ธ.ก.ส.ไม่มีอำนาจจะจ่ายเงินออกไปก่อนที่จะได้รับอนุมัติได้
 
ทั้งนี้ ตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 3 พ.ย. 63 ได้อนุมัติงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 63/64  เบื้องต้น 18,096 ล้านบาท ซึ่ง ธ.ก.ส. ได้โอนเงินชดเชยส่วนต่างฯ ให้แก่เกษตรกรงวดที่ 1 ไปแล้ว 786,219 ครัวเรือน เป็นเงิน 9,128  ล้านบาท ​ส่วนการจ่ายเงินในงวดที่ 2 ได้โอนให้ชาวนาที่ขึ้นทะเบียนเก็บเกี่ยว 9 - 14 พ.ย. 63 ไปแล้ว 636,118 ราย วงเงิน 5,684 ล้านบาท เมื่อวันที่  25 พ.ย.63  ซึ่งล่าช้ากว่าเดิมกำหนดจ่ายในวันที่ 19 พ.ย.63 แต่ยังเหลืออีก  602,485 ราย วงเงิน 5,641 ล้านบาทที่ยังไม่ได้รับเงิน
 

 
รมว.ตปท.สวีเดน ย้ำติดตามการชุมนุมไทยใกล้ชิด จี้รบ.เปิดให้แสดงออกเสรี ตามสิทธิมนุษยชน
https://www.matichon.co.th/foreign/news_2459130
 
รมว.ต่างประเทศ สวีเดน เผย ติดตามการชุมนุมไทยใกล้ชิด ย้ำรบ. ต้องสร้างหลักประกัน แสดงออกอย่างเสรี ตามสิทธิมนุษยชน
 
จากกรณีที่ นาย Olle Thorell สมาชิกรัฐสภาสวีเดน ได้ยื่นคำถามต่อ Ann Linde รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ สวีเดน ถึง มุมมองของสวีเดน และ สหภาพยุโรป ที่จะมีส่วนในการลดความเสี่ยงในการเกิดความรุนแรง กับการเคลื่อนไหวของผู้ชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยในไทย เมื่อวันที่ 19 พศฤจิกายน โดยได้กำหนดให้ตอบคำถามในวันที่ 25 พฤศจิกายน
 
สมาชิกสภาสวีเดน ตั้งคำถาม รมว.ตปท.หาทางป้องกันความรุนแรง ต่อกลุ่มเรียกร้องปชต.ในไทย
 
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน เว็บไซต์ riksdagen.se หรือ รัฐสภาสวีเดน (ริกซ์ดอก) ได้เผยแพร่ จดหมายคำตอบถึงนาย Olle Thorell ว่าได้ติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด และเน้นย้ำว่ารัฐไทยต้องมีหน้าที่ ที่สร้างหลักประกันในการแสดงออกอย่างเสรี ตามหลักสิทธิมนุษยชน โดยระบุว่า
 
“จากการที่ นาย Olle Thorell ได้ตั้งคำถามว่า สวีเดนและสหภาพยุโรป จะมีส่วนช่วยในการลดความขัดแย้งที่จะนำไปสู่ความรุนแรง และส่งเสริมการเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยในประเทศไทยได้อย่างไรนั้น
 
กลุ่มผู้ชุมนุม เคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยและการปฏิรูปทางการเมือง ส่วนใหญ่นั้น เป็นกลุ่มเยาวชนหนุ่มสาว รัฐไทย มีหน้าที่ที่ต้องสร้างหลักประกันและเปิดให้มีการแสดงออกทางความคิดอย่างเสรี ตามพันธกรณีของหลักสิทธิมนุษยชนสากล
 
ประเทศสวีเดน กำลังติดตามสถานการณ์ดังกล่างอย่างใกล้ชิด ซึ่งสิ่งสำคัญคือทุกฝ่ายต้องมีความอดทน อดกลั้น เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้สถานการณ์ลุกลานบานปลายต่อไป นอกจากนี้ การหันหน้าเข้าหากันและเปิดให้มีการเจรจาระหว่างผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ถือเป็นหัวใจหลักในการแก้ปัญหา เรื่องนี้ ประเทศสวีเดน และสหภาพยุโรป ได้เสนอแนะไป ทั้งที่กรุงสตอล์กโฮม และที่กรุงเทพฯ
 
สวีเดน ได้มีการเจรจาอย่างใกล้ชิด กับตัวแทนพรรคการเมือง และภาคประชาสังคม รวมถึง นักปกป้องสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย ทั้งยังได้สนับสนุนองค์กรด้านมนุษยชน องค์กรต่างๆ ที่ทำงานด้านส่งเสริมประชาธิปไตย และด้านสิทธิมนุษยชนผ่านโครงการพัฒนาด้านต่างๆ ในภูมิภาค สถานทูตสวีเดนในกรุงเทพฯ ยังได้สนับสนุนประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนอย่างเต็มที่ ได้เชิญผู้มีส่วนเกี่ยวข้องหลายคนเข้ามาพูดคุย ผ่านการเจรจาอย่างเป็นทางการ และสาธารณะ
 
ทั้งนี้ สถานทูต ได้ร่วมกับ สหภาพยุโรป เฝ้าติดตามสถานการณ์ดังกล่าว โดยเฉพาะการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน และเสรีภาพในการแสดงออกทางความคิด
 
สวีเดนจะติดตามการพัฒนาในประเทศไทยอย่างใกล้ชิด และทำงานเพื่อเสริมสร้างการเคารพสิทธิมนุษยชนการปฏิบัติตามหลักการประชาธิปไตยและหลักนิติธรรม
 
สตอกโฮล์ม 25 พฤศจิกายน 2020″
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่