กลุ่มดาวปริศนาที่ซ่อนอยู่ในจารึกวิหารอียิปต์โบราณ



จารึกนี้สลักภาพมัมมี่ และสัญลักษณ์ดาวห้าแฉก 7 ดวง เพื่อสื่อความหมายถึงกลุ่มดาวหนึ่งบนท้องฟ้า
Cr.AHMED AMIN
ทีมนักโบราณคดีของอียิปต์และเยอรมนี ค้นพบจารึกโบราณอายุเก่าแก่ราว 2,000 ปี สลักอยู่บนเพดานของวิหารแห่งเอสนา (Temple of Esna) โดยข้อความในจารึกได้กล่าวถึงชื่อกลุ่มดาวบนท้องฟ้าจำนวนหนึ่ง ซึ่งนักดาราศาสตร์ยุคใหม่ไม่เคยได้ยินมาก่อน จนถึงทุกวันนี้ยังคงเป็นปริศนา นอกจากนี้ยังมีการเปิดเผยสีดั้งเดิมที่ 'สวยงาม' ซึ่งวาดโดยชาวอียิปต์ในสมัยนั้นที่อยู่ในในวิหารแห่งนี้ด้วย

จารึกที่เป็นอักษรอียิปต์โบราณดังกล่าวนี้ ถูกค้นพบในระหว่างการบูรณะซ่อมแซมวิหารแห่งเอสนาครั้งล่าสุด โดยโบราณสถานแห่งนี้ตั้งอยู่ห่างจากเมืองลักซอร์ไปทางตอนใต้ราว 60 กิโลเมตร  การบูรณะครั้งล่าสุดนี้เริ่มขึ้นในปี 2018 เป็นความร่วมมือระหว่าง Institute for Ancient Near Eastern Studies (IANES) ที่มหาวิทยาลัย Tübingen และกระทรวงการท่องเที่ยวและโบราณวัตถุของอียิปต์

เจ้าหน้าที่ของกระทรวงการท่องเที่ยวและโบราณคดีของอียิปต์ ค่อย ๆ ใช้น้ำกลั่นผสมแอลกอฮอล์เช็ดคราบเขม่าควัน และสิ่งสกปรกที่จับแน่นตามเสาและผนังทุกด้าน จนจารึกตัวอักษรและรูปสลักนูนต่ำที่ยังคงมีสีสันสดใสปรากฏออกมา หลังการทำความสะอาดเพดาน ซึ่งสร้างขึ้นเป็นแผนที่ทางดาราศาสตร์โดยเลียนแบบท้องฟ้ายามราตรี ทีมผู้วิจัยพบว่า ชาวอียิปต์โบราณใช้หมึกเขียนจารึกอักษรภาพที่สื่อความหมายถึงกลุ่มดาวต่าง ๆ เอาไว้ โดยบางส่วนก็มีการแกะสลักและลงสีอักษรภาพเหล่านั้นด้วย

ชื่อของกลุ่มดาวบางส่วนที่จารึกวิหารแห่งเอสนากล่าวถึง เป็นกลุ่มดาวที่คนยุคใหม่รู้จักกันดี เช่น Orion (รู้จักกันในชื่อ Sah) และ กลุ่มดาวกระบวยใหญ่ (Big Dipper / เรียกว่า Mesekhtiu) หรือกลุ่มดาวหมีใหญ่ของชาวกรีก ซึ่งจารึกใช้รูปขาวัวที่เทพีทาเวเร็ต (Taweret )ในร่างฮิปโปโปเตมัสผูกล่ามเอาไว้ โดยมีสัญลักษณ์ดาวห้าแฉก 7 ดวงล้อมรอบ เพื่อสื่อความหมายถึงกลุ่มดาวสำคัญนี้

จารึกที่สื่อความหมายถึงกลุ่มดาวกระบวยใหญ่ (Big Dipper) หรือหมีใหญ่ของชาวกรีก ไทยเรียกว่ากลุ่มดาวจระเข้
Cr.AHMED AMIN




อย่างไรก็ตาม มีชื่อของกลุ่มดาวจำนวนหนึ่งที่นักดาราศาสตร์ไม่เคยรู้จักมาก่อน และไม่มีทั้งคำอธิบายหรือภาพวาดใด ๆ ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่าเป็นอีกชื่อหนึ่งของกลุ่มดาวที่มีการบันทึกไว้แล้วหรือไม่  นั่นคือ กลุ่มดาว "อะเพดู เอ็น รา" (Apedu n Ra) หรือ "The Geese of Ra" (ฝูงห่านของสุริยเทพ) ซึ่งเป็นเทพแห่งดวงอาทิตย์ของอียิปต์โบราณ ซึ่งยังไม่สามารถเทียบเคียงได้กับกลุ่มดาวใด ๆ ในระบบดาราศาสตร์ยุคปัจจุบัน และไม่มีทั้งคำอธิบายภาพวาดใด ๆ

ศาสตราจารย์ Christian Leitz (คริสเตียน ไลท์ซ) ของ Egyptology ที่มหาวิทยาลัยทูบิงเงน (Tübingen) ในเยอรมนี ผู้นำทีมวิจัยทางโบราณคดีในครั้งนี้บอกว่า "หากไม่มีภาพของกลุ่มดาวตามลักษณะการจัดเรียงตัวบนท้องฟ้าเขียนประกอบเอาไว้ด้วย ก็เป็นเรื่องยากที่เราจะทราบได้ว่า มันคือกลุ่มดาวที่มีอยู่จริงหรือไม่"
วิหารแห่งนี้ถูกขุดขึ้นครั้งแรกในศตวรรษที่ 20 โดย Serge Sauneron นักอียิปต์วิทยาชาวฝรั่งเศสผู้ล่วงลับ ตามที่หนังสือพิมพ์ระบุว่า "รับรู้ถึงความสำคัญของจารึก แต่ไม่สามารถตีความได้เนื่องจากอยู่ใต้เขม่าหนาและมูลนก"

ศาสตราจารย์ Leitz กล่าวว่า “ อักษรอียิปต์โบราณที่ Sauneron สำรวจนั้น ส่วนใหญ่จะถูกสกัดออกมาอย่างคร่าวๆ รายละเอียดอื่นๆถูกระบุได้จากสีดั้งเดิม ของภาพวาดเท่านั้น ซึ่งหมายความว่ามีการค้นคว้าเฉพาะจารึกในเวอร์ชันเบื้องต้น แต่ตอนนี้เราได้ส่วนทั้งหมดของตอนสุดท้ายแล้ว "

โดยจารึกของ Big Dipper / Mesekhtiu แสดงให้เห็นถึงเทพผู้ชั่วร้าย Seth ที่คาดว่าจะสังหาร Osiris พี่ชายของเขาและป้องกันไม่ให้เขาไปถึงยมโลก
มีดาวทั้งเจ็ดรวมตัวกันด้วยเทพธิดาฮิปโปทาวาเรต (the hippo goddess Tawaret) ถือโซ่ที่ล่ามติดกับขาวัว  ถือเป็นตำนานที่เกิดขึ้นเนื่องจากกลุ่มดาวไม่เคยลดลงต่ำกว่าขอบฟ้า

ชาวอียิปต์โบราณนั้นมีความก้าวหน้าในวิทยาการด้านดาราศาสตร์อย่างมาก โดยสันนิษฐานว่าเป็นผู้ริเริ่มการจัดระบบกลุ่มดาวจักรราศี สามารถสร้างพีระมิดและวิหารต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับตำแหน่งของดาวเหนือ รวมทั้งตรงกับแนวการขึ้นและตกของดวงอาทิตย์ในช่วงสำคัญของฤดูกาลต่าง ๆ ได้อย่างแม่นยำ จึงเป็นเรื่องน่าสนใจที่บรรดานักวิทยาศาสตร์จะติดตามศึกษา เพื่อไขความกระจ่างเรื่องกลุ่มดาวปริศนาจากจารึกอียิปต์โบราณนี้ต่อไป


วิหารแห่งเอสนา (Temple of Esna) ตั้งอยู่ห่างจากเมืองลักซอร์ไปทางตอนใต้ราว 60 กม.ภาพถ่ายเมื่อปี 2019


Esna อยู่ห่างจากไคโรไปทางใต้ประมาณ 776 กิโลเมตร (776 กิโลเมตร) และตั้งอยู่บนฝั่งตะวันตกของแม่น้ำไนล์ เป็นเมืองโบราณของ Senat ชาวกรีกเรียกว่า Latopolis  มันเป็น "เมืองแห่งปลา" (the city of the fish) ที่ซึ่งปลาที่อยู่ในแม่น้ำไนล์ได้รับการบูชาดุจพระเจ้า ปัจจุบันมีชื่อเสียงอย่างมากในเรื่องเขื่อนกั้นแม่น้ำ จึงเป็นจุดแวะพักสำหรับเรือสำราญหลายลำ Temple of Esna ซึ่งถูกฝังอยู่ใต้ซากปรักหักพังของตัวเองมานานหลายศตวรรษ ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองใกล้กับแม่น้ำไนล์ 

วัดนี้สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับเทพเจ้า Ram Headed God Khnum ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งการสร้าง Tuthmosis III ซึ่งเป็นผู้วางรากฐานของวัดในราชวงศ์ที่18 แต่จักรพรรดิปโตเลเมอิก (Ptolemaic) สร้างเสร็จระหว่าง 40 ถึง 250 AD และบันทึกชื่อของเขาไว้ทั่วผนังวิหาร

ห้องโถงที่นำไปสู่วิหารเดิมตั้งอยู่โดดเดี่ยวเนื่องจากโครงสร้างเดียวที่มองเห็นได้ ส่วนที่เหลือของวิหารถูกฝังอยู่ใต้เมืองสมัยใหม่เก้าเมตร เสา 24 ต้นรองรับโครงสร้างหินทรายขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังมีเสายืนอิสระ 18 เสาประดับด้วยภาพแกะสลักพรรณไม้ มีความยาวประมาณ 120 ฟุตกว้าง 65 ฟุตและสูง 50 ฟุต (37 x 20 x 15 เมตร) ผนังปกคลุมด้วยภาพนูนต่ำ 4 แถวแสดงให้เห็นจักรพรรดิปโตเลเมอิกที่แต่งกายด้วยชุดฟาโรห์เพื่อทำพิธีบวงสรวงพระเจ้าแห่งวิหาร มีห้องทั้งสองด้านของทางเข้าพระวิหาร ซึ่งนักบวชและผู้ดูแลพระวิหารใช้เป็นห้องเก็บของ โดยนักวิจัยสันนิษฐานว่าห้องโถงน่าจะถูกทำให้แคระแกร็นโดยวิหารจริง 
 
วิหารมีชื่อเสียงในเรื่อง เพดานซึ่งตกแต่งด้วยสิ่งแสดงทางดาราศาสตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับจารึกอักษรอียิปต์โบราณที่น่าสนใจที่สุด ทางด้านซ้ายของประตูวิหารจะเห็นเทพธิดาแห่งท้องฟ้าของอียิปต์  ดาวซิริอุส (Dog Star) ดาวไถ (Orion's Belt) และ ดาวแคระขาว Alpha Draconis (หรือ Dragon Star) รวมทั้งตัวเลขทางดาราศาสตร์ของอียิปต์ทางด้านเหนือและสัญลักษณ์จักรราศีของโรมันทางด้านใต้

และที่ผนังด้านตะวันตกทางด้านหน้าของพระวิหาร จะมีเทพเจ้าฮอรัส เทพเจ้าแห่งชัยชนะและพระเจ้า Khnum ที่กำลังลากอวนที่มีปลาจากแม่น้ำไนล์
รวมทั้งภาพนูนของนก  นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นภาพชีวิตของชาวอียิปต์เช่นการจับปลาและนกด้วยตาข่ายปรบมือ และเสาของวิหารซึ่งตกแต่งด้วยจารึกเป็นหลักแสดงพิธีกรรมในวัดเดียวที่รู้จักจากอียิปต์โบราณที่เก็บรักษาไว้อย่างครบถ้วน  แต่ที่สำคัญที่สุดคือส่วนท้ายของทั้งหมดนี้ มันคือจารึกอักษรอียิปต์โบราณที่รู้จักกันครั้งสุดท้ายที่เคยบันทึกไว้ ซึ่งสร้างเสร็จโดยจักรพรรดิแห่งโรมัน Dios ในปี 250 AD



เพดานรองรับด้วยเสา 24 ต้น มีเสาที่ตั้งอิสระ 18 เสา 
ซึ่งแต่ละเสาประดับด้วยลวดลายดอกไม้ที่แกะสลักอย่างประณีตที่แตกต่างกัน 





(ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลทั้งหมดและขออนญาตนำมา)

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่