บันทึกการเดินทาง 3 วัน 2 คืน (กทม.-กาญจนบุรี-อิต่อง-สะพานมอญ)
แผนการเดินทาง
วันแรก : กทม. - ต้นจามจุรีย์ยักษ์ - บารมีคาเฟ่ต์ - ครัวไผ่ศรีสุข - อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ - ไทรโยคโฟลทเทล
วันที่สอง : บ้านอีต่อง พักเลิฟปิล๊อก โฮมสเตย์ - น้ำตกจ๊อกกระดิ่น - เหมืองสมศักดิ์ - เนินช้างศึก
วันที่สาม : สะพานมอญ - กทม.
ค่าใช้จ่าย 3,700 บาท/คน (ทริปนี้เดินทาง 4 คน รวม 14,800 บาท ไม่รวมของฝาก) เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว
รายละเอียดค่าใช้จ่าย
- ค่าที่พักคืนแรก ไทรโยคโฟลทเทล คนละ 1,400 บาท (ที่พัก 1 คืน พักห้องละ 2 คน อาหาร 2 มื้อ เช้า-เย็น บุฟเฟ่ต์ มีบริการแพลากพาเล่นน้ำตก ชมวิว)
- ค่าที่พักคืนที่สอง เลิฟปิล๊อก โฮมสเตย์ (บ้านอิต่อง) คนละ 500 บาท (ที่พัก 1 คืน พักห้องละ 2 คน เช้ามีบริการข้าวต้ม กาแฟ-โอวัลติน)
- ค่าเหมารถนำเที่ยว น้ำตกจ๊อกกระดิ่น - เหมืองสมศักดิ์ - เนินช้างศึก คนละ 500 บาท (กรุ๊ปเดี่ยว 4 คน)
- ค่าน้ำมัน คนละ 440 บาท
- ค่าอาหาร เครื่องดื่ม และอื่นๆ คนละประมาณ 860 บาท
ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่ได้ไปเยือนกาญจนบุรี เลยได้มีโอกาสไปเก็บสถานที่ท่องเที่ยวที่ยังไม่ได้แวะไปในครั้งที่แล้ว
ในวันแรกออกเดินทางจากกทม. มุ่งหน้าสู่ต้นจามจุรีย์ยักษ์ ถึงแม้จะเคยแวะถ่ายรูปไปแล้วในครั้งก่อน แต่หลังจากที่ดูรีวิวของท่านอื่นๆ พบว่าในปัจจุบันมีการปรับปรุงบริเวณโดยรอบไปมาก เลยแวะไปทักทายต้นไม้ใหญ่ต้นนี้อีกครั้ง
หลังจากถ่ายรูปกันจนเป็นที่พอใจแล้ว ก็มุ่งหน้าไปยัง BARME Tea&Taste บารมี ทีแอนด์เทสต์ ร้านกาแฟที่ตั้งอยู่ภายในบริเวณวัดถ้ำเขาปูน โซนด้านนอกมองเห็นวิวเขา และแม่น้ำแคว มีมุมถ่ายรูปเยอะมากๆ ทั้งภายในบริเวณร้าน และด้านนอกของร้าน
จุดเด่นของร้านนี้คือสามารถมองเห็นทางรถไฟ ที่มีรถไฟแล่นผ่านตามรอบเวลา สามารถเลือกมุมถ่ายรูปออกมาคู่กับรถไฟได้ด้วย
รอบเวลารถไฟที่แล่นผ่านร้าน
วันจันทร์-ศุกร์ รถไฟแล่นผ่านประมาณ 10.45 น. / 16.30 น. / 14.30 น. และ 17.30 น.
วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ รถไฟแล่นผ่านประมาณ 10.00 น. / 10.45 น. / 14.30 น. / 16.00 น. / 16.30 น. และ 17.30 น.
เป้าหมายต่อไปคือ อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์
แต่ก่อนจะไปต่อ เราแวะเติมพลังร้านริมทาง ซึ่งครั้งนี้ไม่ได้ทำการบ้านไป เลยตัดสินใจวัดดวง ฝากท้องกันที่ครัวไผ่ศรีสุข
อาหารดี ที่สั่งมาอร่อยทุกอย่าง ผัดไทกุ้งสดเส้นคือเหนียวนุ่ม บริการดี ค่าเสียหาย 400 บาทถ้วน
ใครผ่านไปแถวนั้น แล้วยังไม่มีร้านในใจ แนะนำให้ไปลอง
อิ่มท้องแล้วไปต่อกันที่ อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ เนื้อที่กว้างขวาง มีโบราณสถานที่สำคัญด้านใน 4 แห่ง และยังมีหลุมขุดค้นทางโบราณคดีอีกด้วย
ถ้าใครชอบเกี่ยวกับโบราณสถาน แนะนำให้เผื่อเวลาในการมาที่นี่ให้มากหน่อย ส่วนพวกเราเสียดายมาก มีเวลาเดินชมสถานที่น้อยไปหน่อย เนื่องจากต้องรีบเข้าที่พัก เพราะจะต้องไปให้ทันเวลาลากแพที่ทางที่พักจัดไว้
ก่อนเข้าที่พัก จะข้ามของอร่อยอย่างบังดุลโรตีมะพร้าวอ่อนไปไม่ได้เลย สาขาดั้งเดิมอยู่ไหนไม่รู้ แต่ที่แวะซื้อคือในปั๊ม ปตท.
แป้งโรตีหอมๆ ทอดกรอบนอกนุ่มใน ด้านในมีเนื้อมะพร้าวอ่อน โรยมะพร้าวอ่อนด้านบน ราดนมข้นไปอีก
คืนนี้เราพักค้างคืนกันที่ ไทรโยคโฟลทเทล ที่พักเดิมกับที่มาพักครั้งก่อน เพราะประทับใจในความสะอาด สงบ ไม่วุ่นวาย อาหารอร่อย บริการดี วิวสวย
ไปครั้งนี้ที่พักปรับปรุงบริเวณด้านนอกใหม่ แต่เสียดายที่ฝนตก ทำให้เก็บภาพที่พักมาได้น้อยมาก ถ้าใครสนใจเข้าพักที่นี่ก็หาใน Facebook ได้เลยค่ะ
ไปครั้งนี้ติดอย่างเดียว คือห้องน้ำ มีคราบน้ำเกาะทำให้ดูไม่สะอาด แต่อย่างอื่นยังคงมาตรฐานเดิมไม่เปลี่ยน
วันที่สอง ออกเดินทางพร้อมสายฝนปรอย วันนี้เราไปกันที่บ้านอิต่อง-ปิล็อก พักที่เลิฟปิล็อกโฮมสเตย์
ที่พักราคาน่ารัก อยู่ติดกับตลาดอิต่อง ห้องกว้างขวาง เดินไปร้านอาหารสะดวก
หลังจากเก็บของเข้าที่พักแล้ว เราเหมารถนำเที่ยวไว้ในราคา 2,000 บาท เพื่อไปเที่ยว น้ำตกจ๊อกกระดิ่น, เหมืองสมศักดิ์ และเนินช้างศึก
(ราคานี้ไม่รวมค่าเข้าน้ำตกนะคะ)
พี่คนขับชื่อ พี่นิพนธ์ ขับรถขึ้น-ลงเหมืองสมศักดิ์มาตั้งแต่ยังหนุ่ม รู้จักทางเป็นอย่างดี
ขออนุญาติฝากเบอร์ติดต่อ 089-803-5504, 087-156-1264 เผื่อใครกำลังจะไปปิล็อก แล้วกำลังหารถนำเที่ยว แนะนำติดต่อพี่นิพนธ์ได้เลยค่ะ
ตั้งใจว่าจะถ่ายรูปกับพี่แกไว้ตอนกลับ แต่พอมาถึงบ้านอีต่อง ฝนตกหนักมาก เลยอดเลย
พี่นิพนธ์พาเราไปน้ำตกจ๊อกกระดิ่นเป็นที่แรก เนื่องจาก COVID-19 ทำให้ไม่อนุญาติให้ลงเล่นน้ำ ได้แค่ถ่ายรูป และชมธรรมชาติโดยรอบ
จากนั้นเราก็ไปบ้านป้าเกล็น หรือเหมืองสมศักดิ์ กันค่ะ
เหมืองสมศักดิ์มีอะไร ทำไมต้องบุกบั่น นั่งรถโฟร์วีลฝ่าทางวิบาก ถนนลูกรังลงไปในเหมือง คำตอบคือจะไปกินเค้กแครอทฝีมือป้าเกล็นค่ะ
ที่เหมืองสมศักดิ์นอกจากจะมีเค้กฝีมือป้าเกล็นแล้ว รอบบริเวณยังมีสถานที่สวยๆ ให้ถ่ายรูปอีกด้วย
ที่นี่ยังมีโฮมสเตย์ให้บริการด้วย เป็นที่พักพร้อมกิจกรรม ตอนแรกก็ตั้งใจว่าจะมาพักที่นี่
แต่ก็เพราะพี่โควิท19 อีกนั่นแหล่ะ ที่ทำให้ทางที่พักหยุดให้บริการชั่วคราว ถ้าใครสนใจเข้าพัก เข้าไปดูที่ FB เพจ Somsak Mining ได้เลยค่ะ
จุดหมายสุดท้ายของวันนี้ คือจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่เนินช้างศึก พอไปถึงสภาพก็อย่างที่เห็น ฝนเทลงมา ฟ้ามืดมัวหม่น
ภาพพระอาทิตย์เบื้องหน้า เลยได้มาเป็นหมอกหนาๆ สีเทา
Bye Bye จุดชมวิวเนินช้างศึก แบบเปิดประสบการณ์ใหม่
กลับมาถึงที่พักแล้ว ฝนก็ยังคงตกหนักอย่างต่อเนื่อง โชคดีมากที่ที่พักเราติดกับตลาดอิต่อง ทำให้ไม่ต้องเดินตากฝนหาร้านกินข้าว
มื้อเย็นเลยจบลงที่ชาบูร้านใกล้ที่พัก อากาศเย็นๆ ได้ซดน้ำซุปร้อนๆ ความอร่อยเพิ่มไปอีกเท่าตัว
เช้าวันสุดท้ายของการเดินทางในครั้งนี้ เราตั้งใจแวะไปถ่ายรูปกันที่สะพานมอญ ก่อนเดินทางกลับ กทม.
ก่อนออกเดินทางฝากท้องไว้กับมื้อเช้าที่เลิฟปิล็อกโฮมสเตย์ ข้าวต้มธรรมดา แต่รสชาติไม่ธรรมดา อร่อยมากมีเติม
ระหว่างทางไปสะพานมอญ เราแวะไปถ่ายรูปด้านบนสันเขื่อนวชิราลงกรณ์ ฝนตกปรอยๆ ทำให้เห็นหมอกลอยบนภูเขา ด้านบนนี้อากาศดีมาก
ถึงแล้วววว สะพานมอญ มาถึงตอนแรกก็ไม่แน่ใจ ว่านี่คือสะพานมอญที่เค้ามาถ่ายรูปกันแน่ๆ ใช่มั๊ย หรือเรามาผิดสะพานมั๊ยยังไง ทำไมไม่มีใคร ทำไมมีแค่เรา เช็คแผนที่แล้ว ก็คือที่นี่แหล่ะไม่ผิดแน่ เลยเข้าไปหาข่าวดู พบว่ามีข่าวลือเรื่องการระบาดของโควิท19 บริเวณนี้ ทำให้นักท่องเที่ยวไม่มาเที่ยวกันตามปกติ แต่เราคิดว่าแบบนี้ปลอดภัยจากโรคระบาดมากกว่าตอนที่นักท่องเที่ยวมากันอีกนะ
ดูรีวิวร้านอร่อยแถวสะพานมอญไว้หลายร้าน แต่พอมาถึงร้านปิด ส่วนร้านที่เปิดก็ขายหมดแล้ว สุดท้ายเลยฝากท้องไว้กับร้านไหนซักร้านแถวๆ นั้น
ปิดท้ายการเดินทางครั้งนี้ ด้วยการแวะซื้อขนมหวานร้านแก้ว ในตัวเมืองกาญจนบุรี ก่อนกลับ กทม.
ประทับใจทุกอย่างในการเดินทางครั้งนี้ ทั้งเพื่อนร่วมทริป อาหาร ที่พัก ที่เที่ยว ประสบการณ์ แล้วเจอกันใหม่ทริปหน้า เมื่อเวลาลงตัว
[CR] บันทึกการเดินทาง 3 วัน 2 คืน กาญจนบุรี-อิต่อง-สะพานมอญ (18-20 กันยายน 63)
วันแรก : กทม. - ต้นจามจุรีย์ยักษ์ - บารมีคาเฟ่ต์ - ครัวไผ่ศรีสุข - อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ - ไทรโยคโฟลทเทล
วันที่สอง : บ้านอีต่อง พักเลิฟปิล๊อก โฮมสเตย์ - น้ำตกจ๊อกกระดิ่น - เหมืองสมศักดิ์ - เนินช้างศึก
ค่าใช้จ่าย 3,700 บาท/คน (ทริปนี้เดินทาง 4 คน รวม 14,800 บาท ไม่รวมของฝาก) เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว
- ค่าน้ำมัน คนละ 440 บาท
- ค่าอาหาร เครื่องดื่ม และอื่นๆ คนละประมาณ 860 บาท
วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ รถไฟแล่นผ่านประมาณ 10.00 น. / 10.45 น. / 14.30 น. / 16.00 น. / 16.30 น. และ 17.30 น.
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้