ลงโทษพนักงานแบบนี้ ดูสมเหตุสมผลมากน้อยแค่ไหนครับ?

เรื่องมีอยู่ว่า ที่บริษัทผมเป็นเกี่ยวกับงานบริการ มีทั้งหมด 3 สาขา
ช่วงหลังๆมานี้ เตี่ยกับม่าเริ่มวางมือและปล่อยให้ผมกับพี่ชายเข้ามาดูแลแทน
จริงๆผมกลับมาดูแลกิจการของที่บ้าน จะ 2 ปีแล้ว เพราะเรียนจบก็ไปทำงานตามใจตัวเอง 
ยังเรียนรู้ประสบการณ์ทำงานได้จะปี ก็ต้องกลับมาดูแลกิจการที่บ้าน ตอนแรกไม่ได้อยากทำกิจการตัวเองด้วยซ้ำ
เพราะไม่ชอบ และระบบมันดูซับซ้อน ส่วนตัวชอบงานลุยๆ คุยกับลูกค้ามากกว่า แต่ด้วยความที่พ่อแม่ก็แก่ลง พี่ชายที่ดูแลอยู่ก็เหนื่อย ไม่ไหว ผมเลยต้องออกมาช่วย

ตอนกลับมาทำ แรกๆก็ไม่มีอะไรครับ การทำงานราบรื่นดี 
มีวันนึง เอะใจบัญชี เพราะนั่งตรวจ มันก็เป็นเรื่องเงินๆทองๆนี่แหละ 
พอผมรู้ว่ามันมีอะไรผิดสังเกตุ เกี่ยวกับการไหลของเงินในระบบ วันนั้นหงุดหงิดมาก 
แต่ยังไม่ได้บอกกับที่บ้านและพี่ชาย เพราะพี่ชายงานก็ยุ่งอยู่แล้ว รับผิดชอบงานเยอะกว่าเราเท่าตัว
ผมแค่เข้ามาดูแลความเรียบร้อยโดยรวม และทำงานเป็นลูกมือให้พ่ออีกที 
วันที่นั่งตรวจบัญชีแล้วรู้ว่ามีคนโกงเงินบริษัท ผม cc ลูกค้าไปเยอะมาก ไม่มีอารมณ์จะคุย 
แล้วเรียกฝ่ายบัญชีอีก 2 คนมาคุย จึงได้รู้ว่า พนักงาน a ตำแหน่งการเงิน ชอบทำเงินหาย
และสุดท้าย บัญชีอีก 2 คนก็ต้องช่วยกันจ่ายตรงนี้ร่วมกับพนักงาน a ตลอดในช่วงหลังมานี้ โดยเป็นการหักจากเงินเดือน
ไม่รู้ว่าผู้จัดการ ไปคุยยังไง เรื่องนี้มันเป็นเรื่องทื่ผมยอมไม่ได้ เมื่อวานก็เรียกผู้จัดการไปคุยทีนึงเป็นชั่วโมง
ผมไม่สนนะว่าคุณอายุเท่าไหร่ ผมอายุ 24-25 คุณอายุ 30++ 40++ แต่เขาจะมาทำแบบนี้ไม่ได้ 

บริษัทผมมีบัญชีหลายคน เพราะระบบมันเยอะ และการหมุนเวียนและค่าใช้จ่ายค่อนข้างเยอะและหลายส่วน
โรงงานก็ต้องดูแล ออฟฟิศอีก และห้างอีก ฉะนั้นฝ่ายบัญชีเนี่ยแหละ ที่จะรู้เรื่องการเคลื่อนไหวของเงินในบริษัทดีที่สุด
ผมจับได้ว่าพนักงานฝ่ายการเงินได้ทำผิดกับบริษัทอย่างร้ายแรง ด้วยการยักยอกเงินบริษัทไป 5 แสนกว่าบาท
จริงๆ ผมรู้เรื่องนี้มาได้เกือบจะ 2 อาทิตย์ก่อนที่จะบอกกับเจ้าตัวให้เขาพิจารณาตัวเอง ว่าควรทำยังไงกับเรื่องนี้

แต่...เจ้าตัวก็ยังมาทำงานปกติ เหมือนเดิม ยังทำเนียนและไม่รู้ร้อนรู้หนาว ใดๆทั้งสิ้น 
วันที่พี่ชายและผู้ถือหุ้นท่านอื่น ได้มีการเรียกประชุม เกี่ยวกกับแผนงานบริษัท
ฝ่ายการเงินคนนั้นก็เข้าไปฟัง ผมเลยฉีกหน้าเขา ด้วยการประกาศผ่านโปรเจคเตอร์ พร้อมภาพประกอบทุกช็อตที่สืบได้จากคนในผมเลยในวันนั้น

ทุกคนดูตกใจกันมาก ว่าผมกำลังทำอะไร และกำลังจะบอกอะไร คือจะบอกว่ายังไงครับ
มันเหมือนละครในหนังช่อง 7 มาก ที่ตัวร้ายโดนเปิดโปง แล้วทุกคนก็เงียบกันหมดเลยในห้องประชุม
สุดท้ายเขายอมรับและร้องไห้ออกมา ว่าสามีติดพนัน เลยต้องทำแบบนี้ เพราะไม่งั้นบ้านจะโดนยึดและอาจถูกคุกคามจนถึงชีวิต

ผมเลยคุยกับเขาตรงๆ ผ่านหูทุกคนในห้องประชุมนั้น ว่าเขาจะเคลียร์ปัญหานี้ยังไง 
คุณคิดดูนะ ผมอายุแค่นี้ แต่ต้องไปคุยกับคนอายุ 35++ เพียงเพราะว่าเขาคิดว่าผมเป็นเด็กและจะตามเขาไม่ทันในห้องประชุม 
พร้อมกับคนอีก 30 กว่าคน ยังไม่รวมบุคลากรท่านอื่นอีก ผมยอมเสียหน้านะ แต่เรื่องนี้มันคือการคดโกงบริษัท 
ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมยอมรับไม่ได้ วันนั้นผมยอมรับว่าผมฟิวส์ขาดนะ

สุดท้ายเรื่องจบด้วยการ ผมไล่ออก และแจ้งกับทางประกันสังคมว่าไล่พนักงานคนนี้ออก เหตุเพราะช่อโกงบริษัท
แต่ผมไม่ได้แจ้งความหรืออะไรนะ เพราะเขาต้องหาเงินมาชดใช้คืนทุกบาททุกสตางค์

คำถามคือ

แจ้งกับทางประกันสังคมว่าไล่พนักงานคนนี้ออกเพราะช่อโกงบริษัท มันจะเป็นการตัดอนาคตของคนๆนึงหรือเปล่า?

ความผิดเช่นนี้ ผมสมควรสงสาร เพียงเพราะว่าผู้นั้นมีปัญหาครอบครับ และเอามาปนกับเรื่องงาน จนบริษัทเสียหายด้วยจำนวนเงินหลายแสน?

การไม่ให้เขาแก้ตัวใดๆ เพราะถือว่าผู้นั้นผ่านการทำงานมาเยอะมากแล้ว กับอายุ 30++ ในการผ่านบริษัทมาหลายที่ 
มีประสบการณ์ทำเยอะมาก แต่ใช้ประสบการณ์แบบผิดๆ ผมสมควรให้อภัยเขางั้นหรือ??

ผมกับเขาไม่ได้คุยกับนะครับ
ผมตัดสินใจด้วยการไล่ออก และไม่ฟังคำแก้ตัวใดๆถือว่าเป็นความผิดร้ายแรงต่อบริษัท 

ผมอาจจะยังไม่ทันพี่ๆและโลกการทำงานยังมีเรื่องที่เรายังต้องเรียนรู้ อีกร้อยพันเรื่องราว จึงอยากขอคำแนะนำพี่ๆในพันทิปหน่อยครับ 

ขอบคุณครับ