ถุงมือเรื่องสั้น เรื่องที่ 4 เปลี่ยนแนวมาเป็น THRILLER ผสมกับ DOCUMENTARY นิดหน่อยครับ ^^
เรื่องของการออกเดินทางผจญภัย แกะร่องรอยตามหาคณะนักเดินทางผู้ประสบชะตากรรมลึกลับหลังจากสูญหายไป เหตุเกิดในบริเวณใกล้เทือกเขาแห่งหนึ่งอันห่างไกลจากผู้คน ในประเทศรัสเซียในสมัยที่ยังเป็นสหภาพโซเวียต เป็นเรื่องราวที่โด่งดังทั่วโลก อันมีชื่อว่า
Dyatlov Pass Incident ล่าสุดมีการนำไปสร้างภาพยนตร์โดยมีการแต่งเสริมใส่ไข่ให้ตื่นเต้นมากขึ้นตามแบบฉบับหนังทริลเลอร์ครับ
และเรื่องสั้นเรื่องนี้ จขถม. ก็
"ใส่ไข่" อย่างในหนัง แต่ก็แตกต่างไปอีกแนว
เพราะเรื่องนี้ ตัวละครมีคนไทยด้วยครับ ^^
จะตื่นเต้นขนาดไหน ก็ตามมาดูด้วยกันครับ ป็อปคอร์นพร้อม น้ำดำน้ำแดงน้ำเขียว พร้อม..Let's go!
Footage : 20/12/2019
15:45 น.
เสียงลมพัดหวีดหวิว พายุหิมะก่อตัว และไม่นานก็พัดกรรโชก เสื้อผ้าที่นักท่องเที่ยว เท่าที่ปรากฏในจอภาพของกล้องที่บันทึก สะบัดไหวพริ้วไปตามแรงลม เห็นได้ชัดว่า พวกเขากำลังหนาวสั่น ทั้ง ๆ ที่สวมชุดกันหนาวหนาเตอะ แต่ก็ยังพยายามแข็งใจ เดินไปข้างหน้ากันต่อ
พวกเขากำลังมุ่งหน้าไปยัง
เทือกเขาโครัท ที่ซึ่งคณะเดินทางชาวรัสเซียในอดีตพากันไปตายอย่างมีปริศนา เคยหยุดพักกัน
“นี่คือ ที่ที่ อิกอร์ อเล็กไซวิช ดยัตลอฟ และเพื่อน ๆ ของเขา ได้มาตั้งเต็นท์ เพราะสภาพอากาศเลวร้าย ไปไหนต่อไม่ได้และพวกเขาพบว่ามาผิดทางด้วย จึงคิดว่าจะพักค้างคืนที่นี่ก่อน พรุ่งนี้ค่อยว่ากันอีกที พวกเรา ก็กำลังจะทำอย่างเขาแล้ว”
ชายหนุ่มหน้าตี๋ผิวขาว รูปร่างทะมัดทะแมง กล่าวกับกล้องที่กำลังบันทึก แล้วกล้องก็แพนไปยังเต็นท์ซึ่งเพื่อน ๆ กำลังช่วยกันตั้งบนพื้นหิมะขาวโพลน แต่มีเนินเหมือนภูเขาเล็ก พอจะเป็นที่กำบังลมและหิมะได้อยู่
“เราจะคอยเฝ้าดูเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นในคืนนี้ ถ้าโชคดี หรือโชคร้าย ก็ไม่รู้เหมือนกัน เราอาจจะได้เจออะไรอย่างที่คณะของดยัตลอฟได้เจอมาก่อน
ขอพระเจ้าจงคุ้มครองเราทุกคนให้ปลอดภัยด้วย ในนามพระเยซูคริสต์ อาเมน”
“
อาเมน” คนอื่น ๆ อีกหลายคนกล่าวตาม
“หยุดอัดวีดิโอได้แล้วมากินข้าวกันก่อน
มนัส” เพื่อนอีกคนร่างท้วมตัวดำกวักมือเรียกเขาให้เข้าไปในเต็นท์
.........................................
วีดิโอตัดข้ามไปที่เวลา 20:30 น.
เป็นภาพภายในเต็นท์ของมนัส เขากำลังนอน เพื่อนอีกคนเป็นคนถือกล้องถ่ายโดยใช้ Night Mode
มีเสียงของคนสองคน ชายกับหญิง ร้องครวญครางแข่งกัน ในเต็นท์อีกหลังใกล้ๆ กัน
“โธ่
ไอ้ไม้ค์ หอกหักสากกะเบือ หนาวจะตายห่า ยังเสรือกง่านอีก
อีแพ็ทก็เหมือนกัน” มนัสบ่นอุบ นอนขดตัวมากขึ้น สองมืออุดหูตัวเอง
“เฮ่ย ช่างมันสองคนเหอะ คนมันอยาก หนาวแค่ไหนมันก็ฮึบ ๆ กันได้หละวะ เดี๋ยวพวกมันเสร็จแล้วก็จะหลับปุ๋ยไปเลย ไม่นานหรอกน่า” คนถือกล้องว่า
“ฮึ่ยย ไม่ใช่ไรหรอก ได้ยินแล้วมันทำให้กูอยากไปด้วยเว้ย นี่
ไอ้ก้อง ถ้าเมิงเป็นอย่าง
ไอ้เบ๊นซ์นะ กูจัดการกับเมิงแน่ ถึงยังไม่ได้ผ่าตัดแปลงเพศก็ไม่สนละว่ะ”
เพื่อนชื่อก้องหัวเราะก๊าก
ทันใดนั้น...
ครื่นนนนนน...
แผ่นดินสะเทือนเหมือนถูกยักษ์เขย่า หรือไม่ก็ปลาดุกยักษ์ซึ่งอยู่ใต้พิภพพลิกตัว ตามความเชื่อชาวญี่ปุ่นโบราณ
สองเพื่อนเซถลาหัวทิ่มหัวตำ เต็นท์ล้มพันตัว ข้าวของข้างในกระจายเกลื่อนกลาด
“เวรแล้ว หิมะถล่มโว้ย” ก้องแหกปากตะโกน ตัวเองก็ตะเกียกตะกายมุดออกจากเต็นท์ซึ่งล้มพัวพันร่างกายอยู่อย่างทุลักทุเลกว่าจะหลุดพ้นออกมาได้แล้วยืนหันซ้ายหันขวา ป้องปากร้องหาเพื่อน ๆ
“เฮ้ยย ไอ้นัส อยู่ไหนวะ ไอ้เบ๊นซ์ ไอ้ไม้ค์ ไอ้แพ็ท อยู่ไหนกันบ้างวะ”
ครึ่นนนน.... หิมะจากยอดเขาถล่มลงมาเป็นรอบที่สอง ทิศทางคลื่นหิมะกองมโหฬารเคลื่อนมาทางเขาพอดี
“งานเข้าอีกกู โอ๊ยย SHIT !!” ตะโกนด่าธรรมชาติอันเลวร้าย แล้วตัดสินใจเผ่นแผลวไปทางซ้ายซึ่งเห็นว่าน่าจะปลอดภัยกว่าทางขวาที่กองทัพหิมะโดยมากเคลื่อนขบวนไปกันทางนั้น
แล้วภาพเหตุการณ์ก็ถูกตัดไปอีก
--------------------------------------------
22:15 น.
ภาพอันน่าสลดหดหู่ ปรากฏขึ้น ตั้งแต่เวลาที่เริ่มบันทึกต่อนั้น
หนุ่มสาวคู่รัก ไม้ค์ อเมริกันผิวสี และ แพ็ท สาวลูกครึ่งไทยอเมริกัน นอนกอดกันจมในหลุมหิมะลึกลงไปเกือบช่วงตัว คาดว่าน่าจะหมดลมหายใจไปพร้อมกันตอนถูกหิมะถล่มอย่างฉับพลัน หนีไม่ทันเพราะกำลังเมคเลิฟกันอยู่ กว่าเพื่อน ๆ จะมาเจออีกที ก็ตัวเขียวแข็งกระด้าง ตาเบิกโพลงขุ่นขาวอย่างกะตาปลาที่ตายแล้วกันทั้งคู่
“
STUPID COUPLE! แม่เมิง ถ้าไม่มัวเอากันอยู่ มันก็คงไม่ตายกันหรอก โง่ชิบเป๋ง” มนัสบ่นด้วยหน้าเศร้า ๆ
“พวกเรา จะทำไงกับพวกมันสองคนดีเนี่ย” ก้องถาม หน้าหดหู่พอกัน
“ทิ้งพวกมันไว้ที่นี่ก่อน แล้วค่อยกลับมาเอาศพกลับไปทีหลัง ถ้าพวกเรารอดกลับไปได้อะนะ” มนัสตอบ
“บันทึกจุดพิกัดตรงนี้ไว้ด้วย มาอีกทีจะได้มาถูก” เพื่อนหน้าตี๋ลูกคนจีนบอก
----------------------------------------------
23:45 น.
มนัส ก้อง ตี๋ เพื่อนลูกครึ่งไทยจีน และอีกสองคน เดินทางต่อจากจุดที่หิมะถล่มและคร่าชีวิตเพื่อนสองคนไปอีกร่วมสิบไมล์
วีดิโอ บันทึกการเดินทาง เพื่อตามหา มนัส ชาตรี และเพื่อน ๆ อีกหลายคน ที่หายสาบสูญไป ใกล้เทือกเขาโครัทมากขึ้น แล้วพากันหยุดกลางที่โล่ง ถ้าพวกเขาเข้าใกล้เชิงเขามากขึ้นอีกเพียงไม่ถึงห้าร้อยเมตรก็จะพบกับดงป่าไม้
ทั้งหมดปรึกษากันว่า จะเข้าสู่บริเวณป่าไม้ใกล้เชิงเขาดี หรือว่าจะตั้งเต็นท์พัก ณ ที่โล่งตรงนี้
“คณะเดินทางของดยัตลอฟในอดีต เคยพักกลางที่แจ้ง ไม่เข้าป่า ทั้ง ๆ ที่ในป่า น่าจะปลอดภัยกว่า และบังลมหนาวโคด ๆ อย่างในตอนนี้ได้ด้วย ทำไมพวกเขาตัดสินใจอย่างนั้น” มนัสตั้งข้อสงสัย
“ใครจะไปรู้” ก้องตอบ “แต่ที่แน่ ๆ พวกเขาตายกันหมด เพราะพักอยู่กลางแจ้ง แบบว่า ท้าทายอันตรายจากทุกทิศ เราว่าพวกเรา ไม่น่าทำตามอย่างพวกเขานะ เข้าไปในป่ากันเหอะ”
“แต่ถ้าเราเข้าป่าไป ไม่ทำตามอย่างที่พวกเขาเคยทำ เราก็จะไม่มีโอกาสได้รู้ได้เห็น ว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับพวกเขา ถูกมั้ย” อาตี๋ลูกครึ่งไทยจีนแย้ง
“มันก็จริงอย่างที่ไอ้ตี๋ว่านะ” มนัสคล้อยตาม “พวกนาย อีกสองคน ว่าไง” หันไปหาเพื่อนอีกสองคนคือเบ๊นซ์และอีกหนึ่งหนุ่ม
“ชั้นอยากเข้าไปในป่ามากกว่า” เบ๊นซ์ สาวประเภทสองเลือกหนทางที่เห็นว่าปลอดภัย ไม่อยากเสี่ยงอยู่กลางแจ้ง แล้วหันมาถามเพื่อนหนุ่มข้างกาย “เธอล่ะ
ประยุทธ คิดว่าไง”
“อ่า ไม่รู้ดิ แต่..เธอไปไหน ชั้นก็ไปด้วย” หนุ่มคู่ขา ชื่อเหมือนคนดื้อด้านแห่งประเทศแถว ๆ อาเซี่ยนนี้แหละคนหนึ่ง ตอบอย่างลังเลนิด ๆ
“งั้นสองเสียงละ เข้าป่า เริ่มโหวดเลยละกัน” เบ๊นซ์กล่าวเปิดการลงมติ
“ชั้นโหวด พักกลางแจ้ง ตรงนี้” มนัสว่าและยกมือขวาขึ้น
“เราด้วย” อาตี๋ยกมือตาม แล้วถามคนที่เหลือ “ก้อง เอาไง”
ก้องลังเลใจ ในที่สุดเมื่อไม่อาจตัดสินใจได้ จึงควักกระเป๋าหยิบเหรียญสิบรูเบิลของรัสเซียเหรียญหนึ่งออกมาถือไว้ในมือครู่หนึ่ง
“ให้โชคชะตาตัดสินก็แล้วกันว่ะ ถ้าออกหัว อยู่ตรงนี้ ถ้าออกก้อย เข้าป่า” พูดจบก็โยนเหรียญขึ้น เอาหลังมือซ้ายรับตอนเหรียญตก ฝ่ามือขวาปิด แล้วแบออก เพื่อน ๆ ที่เหลือ กลุ้มรุมเข้ามาชะเง้อดู
“หัว” ก้องขานคำตอบจากเหรียญ “งั้น เราโหวด อยู่ตรงนี้”
ทั้งหมดเหลือห้าคน คะแนนโหวดเพื่อพักอยู่กลางแจ้ง ไม่เข้าป่า จึงชนะ 3 ต่อ 2
----------------------------------------------
เที่ยงคืน กับ 35 นาที
ทุกคนซึ่งกำลังนอนหลับอยู่ในเต็นท์ รู้สึกได้ถึงไออุ่นประหลาดแผ่ลงมาจากที่สูง และมองเห็นแสงไฟดวงใหญ่สาดส่องลงมา พร้อมกับเสียงดังหึ่ง ๆ จากนั้นแสงไฟจากเบื้องบนก็ดับไปดื้อ ๆ และตามมาด้วยเสียงอะไรบางอย่างตกลงมาสู่พื้น
ตุ้บบ
ทุกคนหน้าตาตื่น ลุกขึ้นนั่งแล้วพรวดพราดออกจากเต็นท์ มนัสเห็นตัวอะไรสักอย่างวิ่งจากจุดที่มันตกลงมาสู่พื้นหิมะ มุ่งหน้าสู่ป่าไม้ที่เพื่อนสองคนอยากจะเข้าไปก่อนหน้า อย่างรวดเร็ว
“เฮ้ยนั่น มัน ตัวบ้าอะไร” เบ๊นซ์ร้องลั่นขณะชี้ไม้ชี้มือไปทางนั้น หน้าตาเหวอ ออกอาการหวาดกลัว
ก้องหยิบกล้องส่องทางไกลขึ้นมาส่อง แล้วอุทาน
“เยติ ! ให้ตายสิวะ”
“นายหมายถึง
บิ๊กฟุตเหรอ” อาตี๋ถาม และทำหน้าเบ้
“เออว่ะ มันหายเข้าป่าไปแล้ว”
ทันใดนั้น บนฟ้าก็ปรากฏแสงสว่างวาบ และดวงไฟสีส้ม เหนือพวกเขา แต่สูงขึ้นไปมาก
“นั่นมัน ยูเอฟโอ” ประยุทธแหกปากเพราะตื่นเต้นสุดขีด ไม่เคยคิดเคยฝันมาก่อนว่าชาตินี้จะได้เห็นกับตา แล้วทุกคนต่างยกมือถือบ้างกล้องบ้างขึ้นถ่ายภาพหรือวีดิโอไว้เพื่อเป็นหลักฐาน ไม่กี่วินาทีต่อมา วัตถุบินลึกลับก็บินสูงขึ้นสู่อวกาศหายลับไป
“ชั้นว่า คณะของดยัตลอฟ ตายเพราะพวกเอเลี่ยนแน่เลย” เบ๊นซ์พูดเสียงสั่น “แล้วยังมีไอ้ตีนโตหล่นลงมาจากฟ้าอีก ต้องเป็นเอเลี่ยนส่งมันลงมาแน่เลย พวกเรากลับกันเถอะ ไม่ต้องไปต่อแล้ว”
“ยังไงคืนนี้พวกเราก็ต้องพักค้างคืนที่นี่กันก่อน ไปตอนนี้จะไปอยู่ไหนกันเล่า เข้าป่าก็ไม่ได้ เห็นกันแล้วว่าไอ้ตีนโตนั่นวิ่งเข้าไปก่อนหน้าเรา” ก้องบอก “เธอใจเย็นไว้ก่อนนะเบ๊นซ์ เดี๋ยวนอนซะ เรากับเพื่อน ๆ จะผลัดกันเฝ้าเวรยามจนถึงเช้า แล้วค่อยเดินทางกลับกัน เห็นด้วยมั้ยเพื่อน ๆ” เขาหันไปถามเพื่อนอีกสามคน
ทุกคนพยักหน้า แต่ละคนล้วนแต่ตื่นกลัวกันหมดแล้วตอนนี้
------------------------------------------------------------------
02:55 น.
เบ๊นซ์ ประยุทธ และอาตี๋ หลับอยู่ในเต็นท์ ก้องและมนัสอยู่เฝ้ายามข้างกองไฟ
บรรยากาศรอบตัว เงียบกริบและอากาศเย็นเฉียบ แล้วมีกลุ่มหมอกประหลาดก่อตัวขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย แล้วหนาขึ้น หนาขึ้น มาพร้อมกับกลิ่นแปลก ๆ ที่ทั้งสองอธิบายไม่ถูกว่าคือกลิ่นอะไร แต่สูดดมแล้ว รู้สึกง่วงอย่างแรง
“เฮ้ย ก้อง อย่าหลับนะ เอาแมสก์มาสวม พยายามอย่าสูดดมกลิ่นจากหมอกบ้านี่” มนัสร้องบอกเพื่อน ตัวเองก็รีบหยิบแมสก์ออกมาสวม ก้องเห็นเช่นนั้นก็ทำตาม และบ่น
“มันมาจากไหนกันวะ ไอ้หมอกเนี่ย”
หมอกประหลาดหนาแน่นขึ้นทุกทีจนกลบร่างคนทั้งสองสนิท ต่างคนต่างมองไม่เห็นซึ่งกันและกัน และความง่วงงุนครอบงำหนักขึ้นทุกที ๆ แต่ทั้งสองก็ยังพยายามฝืนถ่างตายืนเฝ้ายามข้างกองไฟซึ่งต้องเติมไฟอยู่ตลอดเวลาไม่ให้ดับ
************* จบ PART-I ***************
โปรดติดตาม PART-II ตอนจบ หลังการเฉลยถุงมือครับ ^^
รายชื่อให้เลือกตอบครับ
1. Chi River
2. Christian Trevelyan Grey
3. KTHc
4. Ladylongleg - 2326325 (คุณเล็ก)
5. Lady Star 919 (น้องดาว)
6. Psycho G
7. Soul Master
8. TOSHARE - 5212378
9. WANG JIE (กรรมการ)
10. แจ๊คในสวนถั่ว
11. ดินสอสีน้ำ
12. นลินมณี
13. ป้ามล - 3650985
14. รัชต์สารินท์
15. ไร้นาม - 3842840
16. ลุงแผน
17. ลูนาติก
18. วนิล - 3188982
19. สวนดอก
20. สิงห์ริมถนน
🤷💀😯THE GLOVES 2020 ถุงมือเรื่องสั้น#88 Week#21, 16 - 20 พ.ย. / The Footage - ถุงมือ ตามรอย 1959🤷💀😯
เรื่องของการออกเดินทางผจญภัย แกะร่องรอยตามหาคณะนักเดินทางผู้ประสบชะตากรรมลึกลับหลังจากสูญหายไป เหตุเกิดในบริเวณใกล้เทือกเขาแห่งหนึ่งอันห่างไกลจากผู้คน ในประเทศรัสเซียในสมัยที่ยังเป็นสหภาพโซเวียต เป็นเรื่องราวที่โด่งดังทั่วโลก อันมีชื่อว่า Dyatlov Pass Incident ล่าสุดมีการนำไปสร้างภาพยนตร์โดยมีการแต่งเสริมใส่ไข่ให้ตื่นเต้นมากขึ้นตามแบบฉบับหนังทริลเลอร์ครับ
และเรื่องสั้นเรื่องนี้ จขถม. ก็ "ใส่ไข่" อย่างในหนัง แต่ก็แตกต่างไปอีกแนว
เพราะเรื่องนี้ ตัวละครมีคนไทยด้วยครับ ^^
จะตื่นเต้นขนาดไหน ก็ตามมาดูด้วยกันครับ ป็อปคอร์นพร้อม น้ำดำน้ำแดงน้ำเขียว พร้อม..Let's go!
Footage : 20/12/2019
15:45 น.
เสียงลมพัดหวีดหวิว พายุหิมะก่อตัว และไม่นานก็พัดกรรโชก เสื้อผ้าที่นักท่องเที่ยว เท่าที่ปรากฏในจอภาพของกล้องที่บันทึก สะบัดไหวพริ้วไปตามแรงลม เห็นได้ชัดว่า พวกเขากำลังหนาวสั่น ทั้ง ๆ ที่สวมชุดกันหนาวหนาเตอะ แต่ก็ยังพยายามแข็งใจ เดินไปข้างหน้ากันต่อ
พวกเขากำลังมุ่งหน้าไปยัง เทือกเขาโครัท ที่ซึ่งคณะเดินทางชาวรัสเซียในอดีตพากันไปตายอย่างมีปริศนา เคยหยุดพักกัน
“นี่คือ ที่ที่ อิกอร์ อเล็กไซวิช ดยัตลอฟ และเพื่อน ๆ ของเขา ได้มาตั้งเต็นท์ เพราะสภาพอากาศเลวร้าย ไปไหนต่อไม่ได้และพวกเขาพบว่ามาผิดทางด้วย จึงคิดว่าจะพักค้างคืนที่นี่ก่อน พรุ่งนี้ค่อยว่ากันอีกที พวกเรา ก็กำลังจะทำอย่างเขาแล้ว”
ชายหนุ่มหน้าตี๋ผิวขาว รูปร่างทะมัดทะแมง กล่าวกับกล้องที่กำลังบันทึก แล้วกล้องก็แพนไปยังเต็นท์ซึ่งเพื่อน ๆ กำลังช่วยกันตั้งบนพื้นหิมะขาวโพลน แต่มีเนินเหมือนภูเขาเล็ก พอจะเป็นที่กำบังลมและหิมะได้อยู่
“เราจะคอยเฝ้าดูเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นในคืนนี้ ถ้าโชคดี หรือโชคร้าย ก็ไม่รู้เหมือนกัน เราอาจจะได้เจออะไรอย่างที่คณะของดยัตลอฟได้เจอมาก่อน ขอพระเจ้าจงคุ้มครองเราทุกคนให้ปลอดภัยด้วย ในนามพระเยซูคริสต์ อาเมน”
“อาเมน” คนอื่น ๆ อีกหลายคนกล่าวตาม
“หยุดอัดวีดิโอได้แล้วมากินข้าวกันก่อน มนัส” เพื่อนอีกคนร่างท้วมตัวดำกวักมือเรียกเขาให้เข้าไปในเต็นท์
.........................................
วีดิโอตัดข้ามไปที่เวลา 20:30 น.
เป็นภาพภายในเต็นท์ของมนัส เขากำลังนอน เพื่อนอีกคนเป็นคนถือกล้องถ่ายโดยใช้ Night Mode
มีเสียงของคนสองคน ชายกับหญิง ร้องครวญครางแข่งกัน ในเต็นท์อีกหลังใกล้ๆ กัน
“โธ่ ไอ้ไม้ค์ หอกหักสากกะเบือ หนาวจะตายห่า ยังเสรือกง่านอีก อีแพ็ทก็เหมือนกัน” มนัสบ่นอุบ นอนขดตัวมากขึ้น สองมืออุดหูตัวเอง
“เฮ่ย ช่างมันสองคนเหอะ คนมันอยาก หนาวแค่ไหนมันก็ฮึบ ๆ กันได้หละวะ เดี๋ยวพวกมันเสร็จแล้วก็จะหลับปุ๋ยไปเลย ไม่นานหรอกน่า” คนถือกล้องว่า
“ฮึ่ยย ไม่ใช่ไรหรอก ได้ยินแล้วมันทำให้กูอยากไปด้วยเว้ย นี่ไอ้ก้อง ถ้าเมิงเป็นอย่างไอ้เบ๊นซ์นะ กูจัดการกับเมิงแน่ ถึงยังไม่ได้ผ่าตัดแปลงเพศก็ไม่สนละว่ะ”
เพื่อนชื่อก้องหัวเราะก๊าก
ทันใดนั้น...
ครื่นนนนนน...
แผ่นดินสะเทือนเหมือนถูกยักษ์เขย่า หรือไม่ก็ปลาดุกยักษ์ซึ่งอยู่ใต้พิภพพลิกตัว ตามความเชื่อชาวญี่ปุ่นโบราณ
สองเพื่อนเซถลาหัวทิ่มหัวตำ เต็นท์ล้มพันตัว ข้าวของข้างในกระจายเกลื่อนกลาด
“เวรแล้ว หิมะถล่มโว้ย” ก้องแหกปากตะโกน ตัวเองก็ตะเกียกตะกายมุดออกจากเต็นท์ซึ่งล้มพัวพันร่างกายอยู่อย่างทุลักทุเลกว่าจะหลุดพ้นออกมาได้แล้วยืนหันซ้ายหันขวา ป้องปากร้องหาเพื่อน ๆ
“เฮ้ยย ไอ้นัส อยู่ไหนวะ ไอ้เบ๊นซ์ ไอ้ไม้ค์ ไอ้แพ็ท อยู่ไหนกันบ้างวะ”
ครึ่นนนน.... หิมะจากยอดเขาถล่มลงมาเป็นรอบที่สอง ทิศทางคลื่นหิมะกองมโหฬารเคลื่อนมาทางเขาพอดี
“งานเข้าอีกกู โอ๊ยย SHIT !!” ตะโกนด่าธรรมชาติอันเลวร้าย แล้วตัดสินใจเผ่นแผลวไปทางซ้ายซึ่งเห็นว่าน่าจะปลอดภัยกว่าทางขวาที่กองทัพหิมะโดยมากเคลื่อนขบวนไปกันทางนั้น
แล้วภาพเหตุการณ์ก็ถูกตัดไปอีก
--------------------------------------------
22:15 น.
ภาพอันน่าสลดหดหู่ ปรากฏขึ้น ตั้งแต่เวลาที่เริ่มบันทึกต่อนั้น
หนุ่มสาวคู่รัก ไม้ค์ อเมริกันผิวสี และ แพ็ท สาวลูกครึ่งไทยอเมริกัน นอนกอดกันจมในหลุมหิมะลึกลงไปเกือบช่วงตัว คาดว่าน่าจะหมดลมหายใจไปพร้อมกันตอนถูกหิมะถล่มอย่างฉับพลัน หนีไม่ทันเพราะกำลังเมคเลิฟกันอยู่ กว่าเพื่อน ๆ จะมาเจออีกที ก็ตัวเขียวแข็งกระด้าง ตาเบิกโพลงขุ่นขาวอย่างกะตาปลาที่ตายแล้วกันทั้งคู่
“STUPID COUPLE! แม่เมิง ถ้าไม่มัวเอากันอยู่ มันก็คงไม่ตายกันหรอก โง่ชิบเป๋ง” มนัสบ่นด้วยหน้าเศร้า ๆ
“พวกเรา จะทำไงกับพวกมันสองคนดีเนี่ย” ก้องถาม หน้าหดหู่พอกัน
“ทิ้งพวกมันไว้ที่นี่ก่อน แล้วค่อยกลับมาเอาศพกลับไปทีหลัง ถ้าพวกเรารอดกลับไปได้อะนะ” มนัสตอบ
“บันทึกจุดพิกัดตรงนี้ไว้ด้วย มาอีกทีจะได้มาถูก” เพื่อนหน้าตี๋ลูกคนจีนบอก
----------------------------------------------
23:45 น.
มนัส ก้อง ตี๋ เพื่อนลูกครึ่งไทยจีน และอีกสองคน เดินทางต่อจากจุดที่หิมะถล่มและคร่าชีวิตเพื่อนสองคนไปอีกร่วมสิบไมล์
วีดิโอ บันทึกการเดินทาง เพื่อตามหา มนัส ชาตรี และเพื่อน ๆ อีกหลายคน ที่หายสาบสูญไป ใกล้เทือกเขาโครัทมากขึ้น แล้วพากันหยุดกลางที่โล่ง ถ้าพวกเขาเข้าใกล้เชิงเขามากขึ้นอีกเพียงไม่ถึงห้าร้อยเมตรก็จะพบกับดงป่าไม้
ทั้งหมดปรึกษากันว่า จะเข้าสู่บริเวณป่าไม้ใกล้เชิงเขาดี หรือว่าจะตั้งเต็นท์พัก ณ ที่โล่งตรงนี้
“คณะเดินทางของดยัตลอฟในอดีต เคยพักกลางที่แจ้ง ไม่เข้าป่า ทั้ง ๆ ที่ในป่า น่าจะปลอดภัยกว่า และบังลมหนาวโคด ๆ อย่างในตอนนี้ได้ด้วย ทำไมพวกเขาตัดสินใจอย่างนั้น” มนัสตั้งข้อสงสัย
“ใครจะไปรู้” ก้องตอบ “แต่ที่แน่ ๆ พวกเขาตายกันหมด เพราะพักอยู่กลางแจ้ง แบบว่า ท้าทายอันตรายจากทุกทิศ เราว่าพวกเรา ไม่น่าทำตามอย่างพวกเขานะ เข้าไปในป่ากันเหอะ”
“แต่ถ้าเราเข้าป่าไป ไม่ทำตามอย่างที่พวกเขาเคยทำ เราก็จะไม่มีโอกาสได้รู้ได้เห็น ว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับพวกเขา ถูกมั้ย” อาตี๋ลูกครึ่งไทยจีนแย้ง
“มันก็จริงอย่างที่ไอ้ตี๋ว่านะ” มนัสคล้อยตาม “พวกนาย อีกสองคน ว่าไง” หันไปหาเพื่อนอีกสองคนคือเบ๊นซ์และอีกหนึ่งหนุ่ม
“ชั้นอยากเข้าไปในป่ามากกว่า” เบ๊นซ์ สาวประเภทสองเลือกหนทางที่เห็นว่าปลอดภัย ไม่อยากเสี่ยงอยู่กลางแจ้ง แล้วหันมาถามเพื่อนหนุ่มข้างกาย “เธอล่ะ ประยุทธ คิดว่าไง”
“อ่า ไม่รู้ดิ แต่..เธอไปไหน ชั้นก็ไปด้วย” หนุ่มคู่ขา ชื่อเหมือนคนดื้อด้านแห่งประเทศแถว ๆ อาเซี่ยนนี้แหละคนหนึ่ง ตอบอย่างลังเลนิด ๆ
“งั้นสองเสียงละ เข้าป่า เริ่มโหวดเลยละกัน” เบ๊นซ์กล่าวเปิดการลงมติ
“ชั้นโหวด พักกลางแจ้ง ตรงนี้” มนัสว่าและยกมือขวาขึ้น
“เราด้วย” อาตี๋ยกมือตาม แล้วถามคนที่เหลือ “ก้อง เอาไง”
ก้องลังเลใจ ในที่สุดเมื่อไม่อาจตัดสินใจได้ จึงควักกระเป๋าหยิบเหรียญสิบรูเบิลของรัสเซียเหรียญหนึ่งออกมาถือไว้ในมือครู่หนึ่ง
“ให้โชคชะตาตัดสินก็แล้วกันว่ะ ถ้าออกหัว อยู่ตรงนี้ ถ้าออกก้อย เข้าป่า” พูดจบก็โยนเหรียญขึ้น เอาหลังมือซ้ายรับตอนเหรียญตก ฝ่ามือขวาปิด แล้วแบออก เพื่อน ๆ ที่เหลือ กลุ้มรุมเข้ามาชะเง้อดู
“หัว” ก้องขานคำตอบจากเหรียญ “งั้น เราโหวด อยู่ตรงนี้”
ทั้งหมดเหลือห้าคน คะแนนโหวดเพื่อพักอยู่กลางแจ้ง ไม่เข้าป่า จึงชนะ 3 ต่อ 2
----------------------------------------------
เที่ยงคืน กับ 35 นาที
ทุกคนซึ่งกำลังนอนหลับอยู่ในเต็นท์ รู้สึกได้ถึงไออุ่นประหลาดแผ่ลงมาจากที่สูง และมองเห็นแสงไฟดวงใหญ่สาดส่องลงมา พร้อมกับเสียงดังหึ่ง ๆ จากนั้นแสงไฟจากเบื้องบนก็ดับไปดื้อ ๆ และตามมาด้วยเสียงอะไรบางอย่างตกลงมาสู่พื้น
ตุ้บบ
ทุกคนหน้าตาตื่น ลุกขึ้นนั่งแล้วพรวดพราดออกจากเต็นท์ มนัสเห็นตัวอะไรสักอย่างวิ่งจากจุดที่มันตกลงมาสู่พื้นหิมะ มุ่งหน้าสู่ป่าไม้ที่เพื่อนสองคนอยากจะเข้าไปก่อนหน้า อย่างรวดเร็ว
“เฮ้ยนั่น มัน ตัวบ้าอะไร” เบ๊นซ์ร้องลั่นขณะชี้ไม้ชี้มือไปทางนั้น หน้าตาเหวอ ออกอาการหวาดกลัว
ก้องหยิบกล้องส่องทางไกลขึ้นมาส่อง แล้วอุทาน
“เยติ ! ให้ตายสิวะ”
“นายหมายถึง บิ๊กฟุตเหรอ” อาตี๋ถาม และทำหน้าเบ้
“เออว่ะ มันหายเข้าป่าไปแล้ว”
ทันใดนั้น บนฟ้าก็ปรากฏแสงสว่างวาบ และดวงไฟสีส้ม เหนือพวกเขา แต่สูงขึ้นไปมาก
“นั่นมัน ยูเอฟโอ” ประยุทธแหกปากเพราะตื่นเต้นสุดขีด ไม่เคยคิดเคยฝันมาก่อนว่าชาตินี้จะได้เห็นกับตา แล้วทุกคนต่างยกมือถือบ้างกล้องบ้างขึ้นถ่ายภาพหรือวีดิโอไว้เพื่อเป็นหลักฐาน ไม่กี่วินาทีต่อมา วัตถุบินลึกลับก็บินสูงขึ้นสู่อวกาศหายลับไป
“ชั้นว่า คณะของดยัตลอฟ ตายเพราะพวกเอเลี่ยนแน่เลย” เบ๊นซ์พูดเสียงสั่น “แล้วยังมีไอ้ตีนโตหล่นลงมาจากฟ้าอีก ต้องเป็นเอเลี่ยนส่งมันลงมาแน่เลย พวกเรากลับกันเถอะ ไม่ต้องไปต่อแล้ว”
“ยังไงคืนนี้พวกเราก็ต้องพักค้างคืนที่นี่กันก่อน ไปตอนนี้จะไปอยู่ไหนกันเล่า เข้าป่าก็ไม่ได้ เห็นกันแล้วว่าไอ้ตีนโตนั่นวิ่งเข้าไปก่อนหน้าเรา” ก้องบอก “เธอใจเย็นไว้ก่อนนะเบ๊นซ์ เดี๋ยวนอนซะ เรากับเพื่อน ๆ จะผลัดกันเฝ้าเวรยามจนถึงเช้า แล้วค่อยเดินทางกลับกัน เห็นด้วยมั้ยเพื่อน ๆ” เขาหันไปถามเพื่อนอีกสามคน
ทุกคนพยักหน้า แต่ละคนล้วนแต่ตื่นกลัวกันหมดแล้วตอนนี้
------------------------------------------------------------------
02:55 น.
เบ๊นซ์ ประยุทธ และอาตี๋ หลับอยู่ในเต็นท์ ก้องและมนัสอยู่เฝ้ายามข้างกองไฟ
บรรยากาศรอบตัว เงียบกริบและอากาศเย็นเฉียบ แล้วมีกลุ่มหมอกประหลาดก่อตัวขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย แล้วหนาขึ้น หนาขึ้น มาพร้อมกับกลิ่นแปลก ๆ ที่ทั้งสองอธิบายไม่ถูกว่าคือกลิ่นอะไร แต่สูดดมแล้ว รู้สึกง่วงอย่างแรง
“เฮ้ย ก้อง อย่าหลับนะ เอาแมสก์มาสวม พยายามอย่าสูดดมกลิ่นจากหมอกบ้านี่” มนัสร้องบอกเพื่อน ตัวเองก็รีบหยิบแมสก์ออกมาสวม ก้องเห็นเช่นนั้นก็ทำตาม และบ่น “มันมาจากไหนกันวะ ไอ้หมอกเนี่ย”
หมอกประหลาดหนาแน่นขึ้นทุกทีจนกลบร่างคนทั้งสองสนิท ต่างคนต่างมองไม่เห็นซึ่งกันและกัน และความง่วงงุนครอบงำหนักขึ้นทุกที ๆ แต่ทั้งสองก็ยังพยายามฝืนถ่างตายืนเฝ้ายามข้างกองไฟซึ่งต้องเติมไฟอยู่ตลอดเวลาไม่ให้ดับ
1. Chi River
2. Christian Trevelyan Grey
3. KTHc
4. Ladylongleg - 2326325 (คุณเล็ก)
5. Lady Star 919 (น้องดาว)
6. Psycho G
7. Soul Master
8. TOSHARE - 5212378
9. WANG JIE (กรรมการ)
10. แจ๊คในสวนถั่ว
11. ดินสอสีน้ำ
12. นลินมณี
13. ป้ามล - 3650985
14. รัชต์สารินท์
15. ไร้นาม - 3842840
16. ลุงแผน
17. ลูนาติก
18. วนิล - 3188982
19. สวนดอก
20. สิงห์ริมถนน