ผมขาดทุนหมดตัวจากตลาด TFEX ครับ

ในวันที่ทุกคนกำลังเฉลิมฉลองกับการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นอย่างบ้าคลั่ง ขนาดที่เลื่อน Feed หน้าจอ Social ต่างก็พบเจอแต่นักลงทุนที่โชว์กำไรในพอร์ตพร้อม Caption เท่ๆ เรียกคำสรรเสริญและไลค์ได้เป็นหมื่นเป็นแสน แต่ในความจริงมันยังมีอีกมุมหนึ่ง ซึ่งเป็นมุมที่ไม่มีใครได้เห็นและไม่มีใครอยากที่จะเป็น ทั้งที่แท้จริงแล้ว นี่อาจจะเป็นเสียงส่วนใหญ่ของนักลงทุน … แต่มันไม่มีทางหรอกครับ ที่ “ซากศพ” จะเปล่งเสียงให้ดังออกมาได้ ดังนั้นในวันนี้ ในฐานะที่พวกเราเป็นคนที่ได้ใกล้ชิดกับนักลงทุนที่เทรด TFEX มากที่สุด จึงอยากขออาสาเป็นตัวแทนออกมาเล่าเรื่องจากปากของคนที่ “เจ๊ง” แต่ไม่อยากเปิดเผยตัว เพื่อเป็นอุทาหรณ์ ซึ่งมันอาจจะเป็นบทเรียนที่ดีที่สุดกับทุกคน ผ่านบทความนี้ 

วันอังคารที่ผ่านมา(10 พ.ย.63) มีนักเล่น TFEX ไลน์ส่วนตัวมาหาเราจำนวน 5 คน เม่าแพนิค

          จากเหตุการณ์วันจันทร์+อังคาร(9-10 พ.ย.) ตลาดหุ้นไทยได้ปรับตัวขึ้นอย่างรุนแรงกว่า 100 จุด หากเป็นการลงทุนหุ้นทั่วไป เราคงได้เห็นรอยยิ้มและเสียงหัวเราะและคงได้ยกแก้วดื่มฉลองไปพร้อมกับทุกคน แต่มันไม่ใช่สำหรับจุดที่เรายืนอยู่ … เพราะในตลาด TFEX เมื่อมีเศรษฐีเกิดขึ้นย่อมต้องมาจากความทุกข์และความเศร้าของผู้ร่วมทางคนอื่น โดยในวันนั้นได้บังเอิญมีนักลงทุน 5 คน ที่ทักมาคุยกับเราพร้อมกัน ด้วยเหตุผลเดียวกัน และ 1 ในนั้น คือ น้องคนสนิทของเรา โดยเรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไรพวกท่านสามารถรับรู้มันได้ในบทสนทนานี้

*บทสนทนาทั้งหมดนี้ได้รับการอนุญาตให้เปิดเผยตามความประสงค์ของเจ้าตัว ที่อยากให้ทุกคนได้รับรู้ถึงอารมณ์และความรู้สึกของคนที่ผิดพลาดในตลาด TFEX โดยอาจมีถ้อยคำที่รุนแรงไปบ้าง ขอให้ทุกท่านใช้วิจารณญาณในการรับชม










          และนี้คือประสบการณ์อีกด้าน ที่นักลงทุนหลายท่านเลือกจะซ่อนมันไว้ เพราะมันไม่ได้มีเกียรติเหมือนกับอีกฝั่ง ที่สามารถเชิดหน้าชูตาเจิดจรัสในสายตาของคนรอบข้าง พวกท่านอ่านแล้วรู้สึกอย่างไรกันบ้าง … สำหรับตัวผมที่เป็นคู่สนทนา สิ่งที่ผมคิด คือ “เหมือนเดิมอีกแล้ว” มันเกิดขึ้นอีกแล้วกับการที่ต้องมาร่วมระทมกับนักลงทุน และอารมณ์ยิ่งหนักขึ้น หากมันเป็นคนที่เราสนิท และเชื่อว่าในโลกนี้ยังมีคนอีกมากที่เราไม่รู้จักกำลังเผชิญหรือใกล้เผชิญกับชะตากรรมเดียวกัน ซึ่งเรายอมรับว่านี้คือ “สัจธรรม” ที่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกรรม แต่หากในฐานะของคนมีความรู้และประสบการณ์ คงเป็นเรื่องที่ดีที่จะช่วยให้อย่างน้อยสัก 1 คนได้ตระหนักและหลุดพ้นจากลูปนี้ เราจึงตกลงกันว่า เราพร้อมจะบอกเล่าข้อผิดพลาดทั้งหมดที่เกิดขึ้นอย่างไม่อายสังคม และบอกวิธีการแก้ไข โดยก่อนอื่นเราอยากขอให้ทุกท่านสัญญาก่อนว่า … หากใครคิดที่เล่น TFEX หรือเล่น TFEX อยู่แล้ว ขอให้ทุกท่านทำ 2 ข้อนี้ให้ได้

1.ห้าม Overtrade อย่างเด็ดขาด เม่าออม

          แม้ตลาด TFEX จะกำหนดเงินวางขั้นต้น(IM) ที่ใช้การเปิดสัญญาเล่นได้ แต่นั่นเป็นแค่เงื่อนไขจำเป็น ไม่ใช่เงื่อนไขเพียงพอที่จะทำให้พวกท่านประสบความสำเร็จ เพราะในทางปฏิบัติ คนที่ประสบความสำเร็จทุกคนเขารู้ดีว่าต้องวางเงินเผื่อไว้เสมอ สำหรับ SET50 โดยทั่วไปจะใช้กัน 30,000 บาท/สัญญา หรือประมาณ 3 เท่าของ IM ทั้งนี้ยิ่งวางเผื่อไว้มากกว่านี้ยิ่งดี เพราะมันจะยิ่งช่วยออกห่างจากคำว่าหมดตัวในตลาด
 
2.Cut loss ทุกครั้งที่ผิดทาง เม่าคัทลอส

          การ Cut Loss เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ง่ายที่สุด แต่ปฏิบัติตามได้ยากที่สุด โดยเราเข้าใจดีว่าคงไม่มีใครในโลกที่อยากเห็นตัวเองขาดทุนในแต่ละครั้งที่เดิมพัน แต่ทุกคนต้องยอมรับว่า ยังไงก็ต้องมีครั้งที่ผิดพลาด ดังนั้น โปรดอย่าลังเลเมื่อถึงจุดที่ต้องขาดทุนต่อให้ไม่อยากเสียมันก็ตาม และให้รู้ว่าหากทำได้ท่านจะเป็น 1 ในนักลงทุนไม่กี่คนที่รักษาวินัยได้อย่างเคร่งครัด ซึ่งเป็น Skill ที่หาได้ยากยิ่งในตลาดแห่งนี้

          สำหรับท่านที่อ่านมาถึงตรงนี้ คงนึกขึ้นในใจว่า ต่อให้เราไม่ขอให้สัญญาพวกท่านก็พร้อมจะปฏิบัติมันอยู่แล้ว เพราะ 2 ข้อข้างบนนี้ เปรียบเสมือน “กฎ” ที่แม้แต่ระดับ Novice ในตลาดก็รู้ว่าต้องทำ แต่ก็เป็นเรื่องตลกร้ายนะครับ … ที่เพื่อนของเราคนนี้เขาเองสัญญากับเราไว้เช่นกัน และรวมไปถึงคนที่เจ๊งหมดตัวคนอื่นๆ เขาเองก็รู้อยู่แล้วว่าต้องทำ ดังนั้น เราอยากให้ทุกคนเข้าใจว่า ไม่มีใครหรอกที่อยากให้เรื่องออกมาแบบนี้ แต่พอถึงสถานการณ์ที่ต้องทำจริงๆ มันมักมีเหตุผล(ข้ออ้าง)ร้อยแปดมาอ้างอิงให้ไม่ทำมัน ซึ่งเหตุผลทุกอย่างมันล้วนแล้วแต่เกิดจาก “ความคิดและจิตปรุงแต่ง” ณ ขณะนั้น  ดังนั้น พวกท่านต้องแก้จากราก ด้วยการปรับทัศนคติ นิสัยอะไรที่รู้ว่าไม่เหมาะกับตลาดยอมโยนทิ้ง ในวันนี้เราจึงอยากมาแชร์นิสัยเสียๆ ที่เทรดเดอร์ผู้ล้มเหลวพึงมีมัน โดยจากการได้เปิดใจพูดคุยกับนักลงทุนที่หมดตัว เขามีพฤติกรรมดังนี้ 

1.อยากเอาชนะอยู่ตลอดเวลา เม่าโกรธ

          เราคิดว่านี้เป็นนิสัยที่ “เลวร้าย” อันดับต้น ๆ ของเทรดเดอร์ เพราะมันเป็นตัวการที่ก่อให้เกิด “Bias” ทั้งการหาเหตุผลมาเข้าข้างสถานะที่ตัวเองถือ โดยไม่มองโอกาสอีกฝั่ง, เข้าข้างว่าตัวเองว่าต้องได้จุดเข้า-ออกที่ดีที่สุด และมันยังเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้นักลงทุนพยายามออกแบบกลยุทธ์ให้ “ซับซ้อน” เกินไป และเราเชื่อว่านี้เป็นปัญหาที่เทรดเดอร์เกินกว่าครึ่งกำลังเผชิญอยู่ มาดูตัวอย่างกัน
 
รูปแสดงแบบแผนที่ใช้ในการเทรด (Trade Setup) ของนักลงทุนท่านนี้



          จากรูปเป็นแผนการที่นักลงทุนท่านนี้ตั้งไว้ใช้ในการเทรด โดยจะเข้าสถานะเมื่อเกิดการเบรกระดับราคาสำคัญ และสวนกลับเมื่อเกิดสัญญาณ False Signal ตามเงื่อนไขที่กำหนด โดยดู 2-3 Time Flame ประกอบกัน แน่นอนว่าดูเหมือนทุกอย่างถูกกำหนดไว้อย่างชัดเจน แต่หากพิจารณาโดยลึก ๆ แล้ว “มันมีความไม่ชัดเจนซ่อนอยู่” เพราะด้วยเงื่อนไขที่พยายามออกแบบให้ละเอียดครอบคลุมกับทุกสภาวะตลาด มันกลับส่งผลในทิศทางตรงกันข้าม คือ มีความยืดหยุ่นมากเกินไป โดยยกตัวอย่างได้ ดังนี้
 
รูปแสดงตัวอย่างการเทรดจริงที่ไม่ชัดเจน



          “อย่างในวันศุกร์ พี่เห็นป่ะ ตอนที่มันเบรกขึ้นมาผมก็เข้าซื้อตามปกติ แต่พอผ่านมา 2 แท่ง มันเริ่มมีแท่งแดงมีหาง ผมก็เริ่มคิดละ เอาไงต่อดี จะถือต่อตามที่มันเบรกขึ้น หรือขายก่อนตามแท่งเทียนที่จะกลับตัว” นี่คือประโยคที่เขาอธิบายหลังจากได้พูดคุยกันในช่วงวันหยุด ซึ่งพวกท่านก็เห็นกันใช่ไหมครับว่า เขาก็ไม่ได้ผิด เพราะเขาก็เขียนลงไปในแผนจริง ๆ ว่า จะสวนเมื่อเมื่อมีแท่งแดงไส้ยาว และพอมีแดงต่ออีกแท่งก็ยิ่งตอกย้ำของความคิดในการเป็น False Break “เอาไงต่อดี” … ซึ่งนี้คือสิ่งนักลงทุนท่านนี้ต้องประสบกับมันในแทบทุกแท่งเทียน โดยครั้งใดชัดก็ตัดสินใจง่าย แต่ครั้งใดไม่ชัดก็เริ่มตัดสินใจไม่ถูก จนสุดท้ายก็เจอทางออกของการตัดสินใจ คือการ “หนี” ไปหาเหตผลอื่นประกอบ เช่น การดู Time Flame อื่นที่ใหญ่กว่า และด้วยกฎของเวลาที่มันไม่มีทางส่งสัญญาณพร้อมกัน โดยในระยะยาวย่อมให้ผลลัพธ์ที่ช้ากว่าเสมอ ดังนั้น มันจึงทำให้พวกท่านมีโอกาสเจอกับกรณีเลวร้ายที่สุด คือ …

รูปแสดงข้อมูลประกอบการตัดสินใจในวันที่ตลาดรีบาวกลับขึ้นมาในรอบนี้



          “ผมจะปิดที่ 770 ตามสัญญาณ แต่พอไปดูราย Day ยังลงอยู่”  นี่คือ 1 ประโยคสำคัญในแชทที่ทำให้เรารู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น เราเข้าใจเขานะ ในวันนั้นตอน Break 770 จุด แทบทุกคนก็ไม่เชื่อว่าจะเป็นขาขึ้น เพราะหากเราไปดูใน TF Day ยังมีต้านใหญ่รออยู่ที่ 785 จุด และไม่มีใครคิดว่าตลาดมันจะเอาผ่านในวันเดียว … ซึ่งใครถือ Short ไว้ คงไม่มีทางได้ปิด เพราะเมื่อมันเลยจุดแรกที่ต้องปิดไป ถึงจุดที่สอง ก็เริ่มหลอกตัวเองต่อว่า Time Flame สั้นมีแรงซื้อมากเกินไปแล้ว จนถูกลากกินหมดตัวไปในที่สุด …

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

          หากใครที่กำลังประสบปัญหานี้อยู่ ท่านต้องออกแบบกลยุทธ์ใหม่ โดยยอมเลือกแนวทางที่ดีรองลงมา แต่สามารถลดความสับสนในการตัดสินใจได้ เช่นการกำหนดกลยุทธ์แค่รูปแบบเดียว(ตามเทรนหรือสวนเทรน), หากมีหลายจุดตัดสินใจให้แบ่งไม้ซื้อ-ขายแยกออกจากกันอย่างชัดเจน(เบรกเทรนไลน์ 1 ไม้, เบรก Hi-Lo 1 ไม้), ให้น้ำหนักกับ เหตุผลและ Time Flame ที่ใช้(TF หลักใช้ในการตัดสินใจเข้าซื้อ-ขาย อีก TF ใช้ประกอบการการเพิ่ม-ลดสัญญา) สุดท้ายท่านต้องยอมวางตัวตนลง เพราะหากต่อให้มีกลยุทธ์ที่ชัดเจนแค่ไหน แต่ท่านยังมีความคิดอยากเอาชนะ มันก็ทำให้ท่านไม่อยากตัดสินใจตามแผน และกลายเป็นแค่เทรดเดอร์ด้อยคุณภาพที่บอกกับคนอื่นว่ามีความรู้,มีแบบแผนที่ชัดเจน แต่สุดท้ายก็ทำมันไม่ได้
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่