ในพระอภิธรรมมัตถสังคหบอกแค่ว่าการร้องไห้เกิดจากโทสะเท่านั้น เกิดจากโลภะ หรือโมหะไม่ได้ ผมแปลกใจอาการร้องไห้ของตัวผม ก็เลยค้นหาในเน็ตเจอ อ.สุจินต์ อธิบายเพิ่มดังนี้ "ขณะที่เราทำกุศลแล้วเกิดปิติน้ำตาไหล เป็นกุศลที่เกิดจากจิตที่ดีงาม เช่น ฟังธรรมแล้วเข้าใจปัญญาเกิด ซาบซึ้งในพระพุทธคุณ ธรรมคุณสังฆคุณ น้ำตาก็ไหล หรือไปอินเดีย เห็นสังเวชนียสถาน ๔ แห่ง เกิดโสมนัสจนน้ำตาไหลเป็นกุศลก็ได้" ตรงนี้ก็ยังไม่ตรงกับอาการร้องไห้ของผมครับ
ตือผมก็มีอารมณ์ปกตินี่แหล่ะครับ ดูทีวีแล้วเห็นชีวิตคนที่มาออกรายการน่าสงสารจนผมร้องไห้ ร้องไห้แบบปล่อยโฮเลยครับ ไม่ใช่แค่น้ำตาไหล ผมก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันครับว่าทำไมผมต้องร้องไห้เสียใจกับชีวิตคนอื่น ผมมั่นใจว่าที่ผมร้องไห้มันเกิดจากความสงสารอยากให้ชีวิตเขามีความสุขกว่าที่เขาเป็น ผมอาจมีโมหะที่หลงไปเห็นตัวตนของเขา ทั้งๆที่ผมควรวางอุเบกขาว่าเขาก็มีกรรมของเขา จริงๆก็ผ่านมาหลายวันจนเกือบลืมแล้วครับ แต่วันนี้พอดีทบทวนอภิธรรมแล้วก็มาติดตรงจิตตชรูปร้องไห้ เลยสำรวจการร้องไห้ที่เกิดกับตัวเอง มันไม่ตรงเลยครับ พอจะอธิบายอาการร้องไห้ที่ไม่เกิดจากโทสะ หรือ โสมนัสได้ไหมครับ แล้วทำไมในพระอภิธรรมถึงจำกัดการร้องไห้ให้เกิดจากโทสะมูลจิตแค่ 2 ดวงล่ะครับ แล้วการร้องไห้ที่เกิดจากความเมตตาสงสารนี่เป็นอกุศลล้วนๆเลยหรือเปล่าครับ
ทำไมร้องไห้ต้องเกิดจากโทสะครับ
ตือผมก็มีอารมณ์ปกตินี่แหล่ะครับ ดูทีวีแล้วเห็นชีวิตคนที่มาออกรายการน่าสงสารจนผมร้องไห้ ร้องไห้แบบปล่อยโฮเลยครับ ไม่ใช่แค่น้ำตาไหล ผมก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันครับว่าทำไมผมต้องร้องไห้เสียใจกับชีวิตคนอื่น ผมมั่นใจว่าที่ผมร้องไห้มันเกิดจากความสงสารอยากให้ชีวิตเขามีความสุขกว่าที่เขาเป็น ผมอาจมีโมหะที่หลงไปเห็นตัวตนของเขา ทั้งๆที่ผมควรวางอุเบกขาว่าเขาก็มีกรรมของเขา จริงๆก็ผ่านมาหลายวันจนเกือบลืมแล้วครับ แต่วันนี้พอดีทบทวนอภิธรรมแล้วก็มาติดตรงจิตตชรูปร้องไห้ เลยสำรวจการร้องไห้ที่เกิดกับตัวเอง มันไม่ตรงเลยครับ พอจะอธิบายอาการร้องไห้ที่ไม่เกิดจากโทสะ หรือ โสมนัสได้ไหมครับ แล้วทำไมในพระอภิธรรมถึงจำกัดการร้องไห้ให้เกิดจากโทสะมูลจิตแค่ 2 ดวงล่ะครับ แล้วการร้องไห้ที่เกิดจากความเมตตาสงสารนี่เป็นอกุศลล้วนๆเลยหรือเปล่าครับ