ตอนที่ 269 การข่มอารมณ์
ทั่วทั้งมณฑล SY ต่างตกใจด้วยเสียงของไซเรน ที่เกิดขึ้นอย่างตลอดเวลาทันที
ขณะที่กลุ่มเจ้าหน้าที่ตํารวจต่างรีบมาหลังจาก ได้ยินเสียง ในขณะที่พวกเขามาถึงแล้วพวกเขา ก็จัดกลุ่มเป็นแนวป้องกัน ตํารวจปราบจราจล นับร้อยคนได้ประจํากันอยู่ใกล้ๆ ก็ได้มีการ เคลื่อนพลอย่างรวดเร็วมาป้องกันที่ด้านหน้า
ซิงหยูได้นําคนไปพบกับเจ้าหน้าที่ตํารวจที่ยัง ไม่เปิดฉากการยิง ผู้รอดชีวิตที่ครอบครอง บังเกอร์ไว้มากมายต่างและถืออาวุธเริ่มเผชิญ หน้าตรงกันข้ามกับตํารวจ
สวัสดี พี่ชายตัวเล็กที่อยู่ตรงนั้นอ่ะ ผมเป็น หัวหน้าสํานักงานตํารวจของสถานนี ชื่อ หนิว จินเป่า ผมไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นที่ทําให้ฝ่าย ของพวกคุณเริ่มก่อการจราจลเช่นนี้ ......
ชายวัยกลางคนรูปร่างอ้วนคนหนึ่งที่พุงโตและ เหงื่อแตกพลั่กไหลย้อยลงมา ได้ใช้ลําโพงเปลี่ ยงเสียงดังมายังฝั่งของซิงหยู หนิวจินเป่ามี อาการลังเลอย่างมากที่จะต่อสู้กับกองกําลัง ฝ่ายซิงหยู ถ้าทั้งสองฝ่ายต่างเริ่มต่อสู้กัน มัน จะเป็นการยากที่จะหลีกเหลี่ยงการเสียชีวิต และตัวเขาเองก็ไม่ได้อยากตาย ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าเขาเป็นคนเปิดฉากการยิงคนแรง จากนั้นสิ่ง ต่าง ๆ ก็จะมีปัญหาขึ้นมาเรื่อย ๆ
ซิงหยูข่มขู่อย่างไม่แยแสว่า คนของคุณกล้าที่ จะลอบสังหารผู้บัญชาการยูของเรา คุณคิด ว่าเราเป็นคนง่าย ๆ ที่จะข่มเหงรังแกได้เหรอ ถ้าพวกคุณไม่ให้คํารับสารภาพผิดกับเรา เราก็
คงจะไม่มีทางเลือกได้แต่ต้องสู้กับมัน แม้ว่า การรบจะดําเนินต่อจนกว่าจะมีคนเหลือแค่คน เดียว เราก็จะไม่ยอมละทิ้งการแก้แค้นของพวก
เรา หนิวจินเป่าตอบกลับเสียงดังด้วยท่าที่สงบ เข้าใจผิดแล้ว นี่เป็นแค่เรื่องเข้าใจผิด เท่านั้น พวกคุณรอสักครู่ ; อย่างแรกเลยให้ผม ไปหานายกเทศมนตรีเหวินเพื่อรายงานเรื่องนี้ อย่างรวดเร็ว ต้องคิดอย่างรอบคอบ เรื่องนี้ น่าจะเป็นความเข้าใจผิดเท่านั้น พวกคุณควร จะแยกย้ายไปกันแล้ว , ดีมั้ย
ซิงหยูยังคงข่มขู่อย่างไม่แยแสต่อไปเรื่อย ๆ ว่า ฮืมม เราจะคอยอยู่ที่นี่ ผมจะคอยคุณ 4 ชั่วโมง ถ้า 4 ชั่วโมงนี้ได้ผ่านไปแล้ว และผมยัง ไม่เห็นเหวินเป่ากั๋วหรือเผิงหมิงเตอหล่ะก็ พวก เราจะดําเนินการต่อสู้ แม้ว่าพวกเราทั้งหมดจะ ตายในสนามรบก็ตาม แต่พี่น้องของพวกเรา 4000 คนในมณฑลหนิงกวงจะยังคงแก้แค้นให้ พวกเรา ซิงหยูรับรู้ดีว่าในความเป็นจริงอวี๋จงไม่ค่อย เต็มใจที่จะต่อสู้กับกองกําลังของมณฑล SY อย่างไรก็ตามถ้ามันดําเนินเรืองมาถึงขั้นนี้แล้ว ก็เป็นเรื่องยากที่จะล้มเลิกได้ พวกเขาจะต้องได้ รับผลประโยชน์มหาศาลด้วยการเริ่มรุนแรงให้ มากขึ้น
หนิวจินเป่าเช็ดเหงื่อและเรียกผู้ช่วยของเขา หวู เอิ้น พูดด้วยน้ําเสียงเข้มงวด หวูเอิ้น ผมต้อง ไปพบนายกเทศมนตรีเหวิน , ดังนั้นสถานที่นี่จิ้ง ทิ้งไว้ให้คุณ จะเอาไว้ อย่าไปกระตุ้นฝ่ายตรงกัน ข้าม และเราต้องไม่ยิงนัดแรกก่อน ถ้ามีอะไร บางอย่างเกิดขึ้น คุณจะต้องรับผิดชอบแต่เพียง
ผู้เดียวเข้าใจแล้ว จ้องตาหนิวจินเป่า หวูเอิ้นก็ตอบอย่างเย็นชา
ความสามารถของหนิวจินเป่านั้นต่ํากว่าของหวู เอิ้นอย่างมากมันเป็นที่หนิวจินเป่าเป็นที่ โปรดปรานและมีผู้สนับสนุนอย่างมาที่อยู่เบื้อง หลังเขา นี่นเป็นเหตุผลเดียวเท่านั้นที่ทําให้เขา ก้าวข้ามหัวของหวูเอิ้นได้ เพราะฉะนั้นหวูเอิ้นจึง ได้มีความรังเกียจหนิวจินเป่า
หลังจากที่ออกคําสั่งให้กับหวูเอิ้นแล้ว หนิวจิน เป่าก็ไปที่รถยนต์เขาทันทีและรีบไปที่ทํางานเห วินเป่ากั๋ว เขารายงานทุกอย่างตั้งแต่ต้นจนจบ
อะไรนะ อวี๋จงได้ถูกลอบสังหาร เขาตาย หรือไม่
เมื่อได้ยินการรายงานของหนิวจินเป่าแล้ว สีหน้าของเหวินเป่ากั๋วก็ซีดเซียวและถามอย่าง
เคร่งขรึม เรื่องการมีชีวิตอยู่หรือความตายขอ งอวี๋จงส่งผลโดยตรงต่อทิศทางของมณฑล SY ต่อกองกําลังของเขา
หนิวจินเป่าลดศีรษะของเขาลงและคิดครู่หนึ่ง ก่อนที่จะพูดว่า ผมไม่ทราบครับ
คุณเพิ่งจะพูดอยู่ว่า ลูกน้องของอวี๋จงได้นํา กองกําลังไปเผชิญหน้ากับคุณ
คิ้วของเหวินเป่ากั๋วเกิดรอยย่นขึ้นขณะที่เขายัง คงถามคําถามต่อ หนิวจินเป่าตอบกลับอย่าง รวดเร็ว อืมมม มันก็เป็นแบบนั้นแหล่ะ ครับ
สายตาของเหวินเป่ากั๋วแสดงความผิดหวังออก มา ถ้าอย่างนั้นเขาก็ยังมีชีวิตอยู่ ไม่อย่าง นั้นลูกน้องของเขาก็คงไม่มาสู้ที่นี่และไม่ สามารถข่มอารมณ์ได้แบบนี้
ถ้าอวี๋จงตายแล้ว กองกําลังขนาดใหญ่ก็อาจจะ แตกสลายอย่างแน่นอน ก็ทําให้ฐานมณฑล SY จะต้องส่งกองกําลังไปจัดการพวกมันจนกลาย เป็นผู้มีอํานาจที่ท้จริงของทั้งภูมิภาค ทางด้านอวี๋จงและมณฑล SY นั้นทั้งคู่ต่างระงับ การต่อสู้เพราะความแข็งแกร่งของแต่ละฝ่าย มี ความแข็งแกร่งพอกัน แม้ว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะ ได้รับชัยชนะ ก็ยังคงได้รับความเสียหายอย่าง ร้ายแรง
เหวินเป่ากั๋วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะลุกขึ้น ยืนและเดินออกจากที่ทํางานของเขา
ผมคือเหวินเป่ากั๋ว นายกเทศมนตรีมณฑล SY
, ผมมาที่นี่เพื่อพบอวี๋จง
เหวินเป่ากั๋วรีบวิ่งขึ้นไปถึงแนวหน้าของการ เผชิญหน้าทั้งสองฝ่ายและพูดกับซิงหยูว่า ให้ ผมเขาไป
ซิงหยูจ้องมองไปที่เหวินเป่ากั๋วและเอนตัวไป ด้านข้าง ปล่อยให้เขาผ่านเข้าไป โดยไม่แสดง อาการหวาดหวั่นแต่อย่างใด เหวินเป่ากั๋วจึง ก้าวเดินไปตามถนนโดยไม่มีผู้คุ้มกัน ปัจจุบันถนนทั้งสายสายที่เก่าได้รับการคุ้มกัน อย่างมาก นักรบที่ติดอาวุธปืนไรเฟิล type03 ปกป้องถนนแต่ละสายและทุกถนนดูทุกอย่างที่ เกิดขึ้นอย่างเย็นชา แก๊งทั้งหมด (แก๊งพยัคฆ์ ทมิฬ , แก๊งฟินิกซ์เพลิง) เริ่มออกตัวสอบถาม รายละเอียดเกี่ยวกับการลอบสังหารและมือ สังหาร
นักรบ 15 จากกองกําลังพิเศษก็กลับมาด้วยเช่น กัน แต่ละคนซ่อนตัวอยู่บริเวณใกล้เคียงกับ ที่พักของอวี๋จง ด้วยการรักษาความปลอดภัย อย่างแน่นหนา มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะ มีใครบางคนจะตั้งใจเอาชีวิตอวี๋จงอีกครั้ง
ภายในบ้านพัก , เหวินเป่ากั๋วได้เห็นอวี๋จง ที่นอนยู่บนเตียงพร้อมกับศีรษะของเขาอยู่ใน อ้อมกอดของตงเสี่ยวหยุนอย่างแนบชิด ใบหน้าของอวี๋จงเต็มไปด้วยรอยช้ําสีม่วงและ รอยไหม้ มีกองเลือดเล็ก ๆ ไหลลงมาจากร่าง ของเขาย้อมผ้าปูที่นอนจนสีแดงเข้มที่มาจาก บาดแผลจํานวนมากยทั่วตัวเขา
เหวินเป่ากั๋วแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผู้ชายที่ เสียโฉมตรงหน้าเขานี้จะเป็นอวี๋จงจริง ๆ
อวี๋จงเหลือบมองไปที่เหวิ่นเป่ากั๋วและพูดอย่าง กระชับ ด้วยน้ําเสียงที่เอ่อล้นไปด้วยเจตนาฆ่า นายกเทศมนตรีเหวิน , คุณมาแล้ว ระบบ รักษาความปลอดภัยของมณฑล SY ต่ํากว่า มาตรฐานจริง ๆ วันนี้ผมเกือบจะตายที่มณฑล SY แล้ว
มณฑล SY มีบุคคลที่มีทักษะได้ซ่อนตัวอยู่ ทําให้ผมต้องไปหาความสําราญจากการฆ่า
และใช้ปืนใหญ่ห้ําหั่นสถานที่แห่งนี้พร้อมกัน ถึงที่สุด ถ้าคุณและเลขาธิการเผิงไม่สามารถ ให้ความยุติธรรมกับผมได้ งั้นผมขอใช้ปืนใหญ่ และดาบปลายปืนเพื่อแลกกับความยุติธรรม แทนก็แล้วกัน
อวี๋จง , คุณอย่าเพิ่งหุนหันพลันแล่น เหตุการณ์ ในวันนี้ ไม่มีใครต้องการที่จะเจอกับมันแบบนี้ ผมจะให้คนสอบสวนเหตุการณ์นี้และนําความ ยุติธรรมมาให้คุณ
คิ้วของเหวินเป่ากั๋วขมวดลงขณะที่เขาพูดด้วย เสียงต่ํา เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าความ
แข็งแกร่งทางทหารของมณฑล SY จะด้อยไป กว่าของอวี๋จง แต่ถ้าพวกเขาทั้งหมดต่อสู้กัน ทั้งสองฝ่ายก็ต้องเกิดการสูญเสียอย่าง มหาศาล เขากลัวว่าอวี๋จงที่มีนิสัยหุนหันพลัน แล่นอย่างเด็ก อาจจะนํากองกําลังของเขาไปสู้ กับทหารของมณฑล SY
อวี๋จงจ้องมองที่เหวินเป่ากั๋วและพูดด้วยน้ํา เสียงหนักแน่นว่า ซู่เทียนหยาง คนที่ ต้องการสังหารผมคือ ซู่เทียนหยาง และมี Enhancer ทั้งหมด 15 คน ที่มีระดับมากกว่า 10 มาฆ่าผมวันนี้ ส่วน 3 คนจากกลุ่มนั่นเป็นผู้ เชี่ยวชาญการซุ่มยิง และมันเห็นได้ชัดเลยว่า ทางทหารหรือทางรัฐบาลได้มีคําสั่งให้ผู้ เชี่ยวชาญเหล่านั้น หลังที่มาที่มณฑล SY คน เดียวมีความคิดเห็นไม่ตรงกันกับผมคือ ซู่เทียน หยาง ผมเชื่อว่า เขาจะต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญเหล่า นั้น ดังนั้นคนเดียวที่สามารถสั่งให้ลอบสังหาร ผมได้ก็คือ ซู่เทียนหยาง
เหวินเป่ากั๋วย่นคิ้วและตอบอย่างเบาๆ ว่า นี่ เป็นเพียงการคาดคะเนของคุณ คุณมีหลักฐาน หรือเปล่า หากไม่มีหลักฐาน คุณก็อย่าไปพัวพัน เรื่องเหลวไหลแบบนี้
ซู่เทียนหยางเป็นลูกชาย ของ 1 ตําแหน่งสูงสุด ของกองทัพ บุคคลที่อยู่เบื้องหลังเขาไม่ สามารถใส่ร้ายป้ายสีหรือลงความเห็นว่าผิด โดยไม่มีหลักฐานเพียงเพราะแค่คําพูดของอวี๋ จง
อวี๋จงจ้องมองที่เหวินเป่ากั๋วอย่างเย็นชา หลัก ฐานเหรอ ผมจะหามันให้คุณ ผมเหนื่อยแล้ว กลับไปได้แล้ว
งั้นพักผ่อนให้สบายเถอะ เหวินเป่ากั๋วพูด ขณะที่เขาก็เดินไปทางออก
อวี๋จงได้รับสมบัติจากร่างกายของซู่เฉินและได้ สํารวจอย่างละเอียด
สมบัติระดับ 3 : เกราะศักดิ์สิทธิ์ เมื่อสวมใส่ ความแข็งแกร่ง +2 , ทําให้ผู้ใช้งานเกราะ ศักดิ์สิทธิ์ป้องกันตัวเองจากอันตรายได้ จับ เวลา : 24 ชั่วโมง
ซู่เฉินได้ใช้การคุ้มครองที่ศักดิ์สิทธิ์นี้ป้องกันตัว เองเป็นทางเลือกสุดท้าย อย่างไรก็ตามการ โจมตีของอวี๋จงก็โหดเ**้ยมเกินไปและการ ป้องกันที่ศักดิ์สิทธิ์อยู่ได้ไม่นาน เพียงแค่การ โจมตีไม่กี่ครั้ง ก่อนจะมันจะแตก
อวี๋จงได้ติดเกราะศักดิ์สิทธิ์ทันที ใครจะรู้ว่ามัน จะอาจจะช่วยชีวิตเขาไว้กับเหตุการณ์วิกฤติที่ จะเกิดขึ้นในอนาคต
ตอนนี้ซู่เทียนหยางได้ซ่อนตัวอยู่ภายในค่าย ทหาร จิตใจของเขาอยู่ในช่วงความสับสน วุ่นวาย
ทําไมมันไม่ตายวะ ไอ้เวรเอ๊ย ซู่เฉินช่างโง่ เง่าไร้ประโยชน์อะไรอย่างนี้วะ แค่ทําทุกอย่าง ให้เรียบร้อยง่าย ๆ แค่นี้ กลับล้มเลวในการฆ่า
ไอ้ชั่วอวี๋จงได้
ตอนนี้ซู่ตงหมิงเดินเข้ามาด้วยท่าทีแข็งกระด้าง พ่อ , พ่อมาทําไม ซู่เทียนหยางปืนป่ายออก จากร่างของเด็กสาวที่มาบริการเขา ขณะที่เขา ถามอย่างอาย ๆ เล็กน้อย
ออกไปซะ ซู่ต่งหมิงดูเหตุการณ์ที่น่าเหลว ไหลในห้องและบอกกับพวกสาวบริการ 2-3 คน อย่างเย็นชา
เมื่อพวกเธอเก็บเสื้อผ้าและออกจากห้องโดยไม่ หันกลับไปมองทันที
แกทําอะไรลงไป ซู่ต่งหมิงจ้องมองไปที่ซู่ เทียนหยางขณะที่ถาม
ซู่เทียนหยางลังเลชั่วขณะหนึ่งก่อนที่จะบอกว่า ไม่ได้ทํา
นี่แกยังกล้าที่จะปฏิเสธอีกเหรอ ซู่ต่งหมิง คํารามด้วยความโกรธเกรี้ยว จากนั้นเขาก็ตบซู่
เทียนหยางไปที่หน้าอย่างรุนแรง ทําให้หน้า ของเขาบวม
ซู่เฉินมันตายแล้ว หลิวจุ่น ก็ตายแล้ว ทั้งหมด เป็นเพราะแก แกมันไอ้สารเลว สูญเสียผู้ เชี่ยวชาญไป 8 คน 8 คน นี่แกยังไม่ยอมรับผิด ผิดอีกเหรอ หรือแกต้องการผลักพ่อไปฝัง อย่างนั้นเหรอ
ในขณะที่จํานวนผู้เชี่ยวชาญในด้านทหารมีอยู่
มากมาย การที่จะยกระดับให้เป็น Enhancer
ไม่ใช่เรื่อง่าย ทีมสังหารของซู่เฉิน เป้นหนึ่งใน 2 Enhancer ที่เก่งกาจ ที่ซู่ตงหมิงควบคุมดูแล อยู่ ตั้งแต่ได้สูญเสียผู้เชี่ยวชาญ 8 คน ซู่ตงหมิ งอาจจะมองแค่ว่าเสียผู้เชี่ยวชาญไปแค่ 25% ซู่ เทียนหยางลุกขึ้นมาขณะที่เขาก็ตะโกนเสียงดัง ใส่ซู่ตงหมิง
ผมทําผิดอะไร พ่อเองก็ไม่ได้ต้องการที่จะ ฆ่าไอ้โง่อวี๋จงหรอเหรอ ผมก็แค่ทําในสิ่งที่พ่อไม่ กล้าทํา ผมเป็นลูกชายของพ่อนะ พ่อตบผม เพราะใครบางคนด้านนอกนั่น พ่อยังเป็นพ่อ ของผมอยู่หรือเปล่า หลังจากที่แม่จากไป พ่อ ก็เริ่มที่จะปฏิบัติกับผมไม่ดีใช่มั้ย พ่อไม่ได้ ทําให้แม่ผิดหวังใช่มั้ย
ซู่ต่งหมิงโมโหจนลมออกหูขณะที่ชี้ไปที่ซู่เทียน หยาง ไอ้อกตัญญู แกช่างเป็นลูกอกตัญญู ทั้งเดือนนี้แกไม่ได้รับอณุญาติให้ออกจากที่พัก
แกต้องอยู่ที่นี่อย่างเชื่อฟัง
หลังจากนั้นซู่ตงหมิงก็ออกจากห้องด้วย อารมณ์ด้วยความฉุนเฉียว
เขามีเพียงซู่เทียนหยางและมักจะตามใจเขาจน ทําให้เขาเสียคน สิ่งเหล่านี้ทําให้ซู่เทียนหยางมี นิสัยที่แยแบบนี้ ทุกครั้งที่ซู่เทียนหยางทําอะไร ผิด เขาก็จะยับยั้งเหตุการณ์โดยอาศัยนามของ เขา
การลอบสังหารของอวี๋จงทําให้เกิดความตกใจ ทั่วมณฑล SY เหวินเป่ากั๋วและผิงหมิงเตอได้ พบปะหารือและสั่งให้ตํารวจดําเนินการ สอบสวนทั่วทั้งมณฑล มันเป็นเพียงพวกมือสังหารที่ซ่อนตัวอยู่ที่ค่าย ทหารของซู่ตงหมิง ไม่ว่าเจ้าหน้าที่ตํารวจจะ เข้มงวดเท่าไร ก็ไม่มีผลอะไรเลย
อวี๋จงยังคงพักฟื้นอยู่ที่วิลล่าของเขาด้วยผล ของทักษะระดับ 4 : การฟื้นฟู ภายในวันเดียว กระดูกของเขาที่แตกเป็นเสี่ยง ๆ จากกระสุน ปืนก็ได้รับการซ่อมแซมเรียบร้อยแล้ว
หลังจากผ่านไป 2 วัน บาดแผลที่ใบหน้าจาก ทักษะลูกบอลไฟและเศษระเบิดนับไม่ถ้วนก็ได้
บาดแผลก
เชือดซอมบี้พิชิดฮาเร็ม
ทั่วทั้งมณฑล SY ต่างตกใจด้วยเสียงของไซเรน ที่เกิดขึ้นอย่างตลอดเวลาทันที
ขณะที่กลุ่มเจ้าหน้าที่ตํารวจต่างรีบมาหลังจาก ได้ยินเสียง ในขณะที่พวกเขามาถึงแล้วพวกเขา ก็จัดกลุ่มเป็นแนวป้องกัน ตํารวจปราบจราจล นับร้อยคนได้ประจํากันอยู่ใกล้ๆ ก็ได้มีการ เคลื่อนพลอย่างรวดเร็วมาป้องกันที่ด้านหน้า
ซิงหยูได้นําคนไปพบกับเจ้าหน้าที่ตํารวจที่ยัง ไม่เปิดฉากการยิง ผู้รอดชีวิตที่ครอบครอง บังเกอร์ไว้มากมายต่างและถืออาวุธเริ่มเผชิญ หน้าตรงกันข้ามกับตํารวจ
สวัสดี พี่ชายตัวเล็กที่อยู่ตรงนั้นอ่ะ ผมเป็น หัวหน้าสํานักงานตํารวจของสถานนี ชื่อ หนิว จินเป่า ผมไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นที่ทําให้ฝ่าย ของพวกคุณเริ่มก่อการจราจลเช่นนี้ ......
ชายวัยกลางคนรูปร่างอ้วนคนหนึ่งที่พุงโตและ เหงื่อแตกพลั่กไหลย้อยลงมา ได้ใช้ลําโพงเปลี่ ยงเสียงดังมายังฝั่งของซิงหยู หนิวจินเป่ามี อาการลังเลอย่างมากที่จะต่อสู้กับกองกําลัง ฝ่ายซิงหยู ถ้าทั้งสองฝ่ายต่างเริ่มต่อสู้กัน มัน จะเป็นการยากที่จะหลีกเหลี่ยงการเสียชีวิต และตัวเขาเองก็ไม่ได้อยากตาย ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าเขาเป็นคนเปิดฉากการยิงคนแรง จากนั้นสิ่ง ต่าง ๆ ก็จะมีปัญหาขึ้นมาเรื่อย ๆ
ซิงหยูข่มขู่อย่างไม่แยแสว่า คนของคุณกล้าที่ จะลอบสังหารผู้บัญชาการยูของเรา คุณคิด ว่าเราเป็นคนง่าย ๆ ที่จะข่มเหงรังแกได้เหรอ ถ้าพวกคุณไม่ให้คํารับสารภาพผิดกับเรา เราก็
คงจะไม่มีทางเลือกได้แต่ต้องสู้กับมัน แม้ว่า การรบจะดําเนินต่อจนกว่าจะมีคนเหลือแค่คน เดียว เราก็จะไม่ยอมละทิ้งการแก้แค้นของพวก
เรา หนิวจินเป่าตอบกลับเสียงดังด้วยท่าที่สงบ เข้าใจผิดแล้ว นี่เป็นแค่เรื่องเข้าใจผิด เท่านั้น พวกคุณรอสักครู่ ; อย่างแรกเลยให้ผม ไปหานายกเทศมนตรีเหวินเพื่อรายงานเรื่องนี้ อย่างรวดเร็ว ต้องคิดอย่างรอบคอบ เรื่องนี้ น่าจะเป็นความเข้าใจผิดเท่านั้น พวกคุณควร จะแยกย้ายไปกันแล้ว , ดีมั้ย
ซิงหยูยังคงข่มขู่อย่างไม่แยแสต่อไปเรื่อย ๆ ว่า ฮืมม เราจะคอยอยู่ที่นี่ ผมจะคอยคุณ 4 ชั่วโมง ถ้า 4 ชั่วโมงนี้ได้ผ่านไปแล้ว และผมยัง ไม่เห็นเหวินเป่ากั๋วหรือเผิงหมิงเตอหล่ะก็ พวก เราจะดําเนินการต่อสู้ แม้ว่าพวกเราทั้งหมดจะ ตายในสนามรบก็ตาม แต่พี่น้องของพวกเรา 4000 คนในมณฑลหนิงกวงจะยังคงแก้แค้นให้ พวกเรา ซิงหยูรับรู้ดีว่าในความเป็นจริงอวี๋จงไม่ค่อย เต็มใจที่จะต่อสู้กับกองกําลังของมณฑล SY อย่างไรก็ตามถ้ามันดําเนินเรืองมาถึงขั้นนี้แล้ว ก็เป็นเรื่องยากที่จะล้มเลิกได้ พวกเขาจะต้องได้ รับผลประโยชน์มหาศาลด้วยการเริ่มรุนแรงให้ มากขึ้น
หนิวจินเป่าเช็ดเหงื่อและเรียกผู้ช่วยของเขา หวู เอิ้น พูดด้วยน้ําเสียงเข้มงวด หวูเอิ้น ผมต้อง ไปพบนายกเทศมนตรีเหวิน , ดังนั้นสถานที่นี่จิ้ง ทิ้งไว้ให้คุณ จะเอาไว้ อย่าไปกระตุ้นฝ่ายตรงกัน ข้าม และเราต้องไม่ยิงนัดแรกก่อน ถ้ามีอะไร บางอย่างเกิดขึ้น คุณจะต้องรับผิดชอบแต่เพียง
ผู้เดียวเข้าใจแล้ว จ้องตาหนิวจินเป่า หวูเอิ้นก็ตอบอย่างเย็นชา
ความสามารถของหนิวจินเป่านั้นต่ํากว่าของหวู เอิ้นอย่างมากมันเป็นที่หนิวจินเป่าเป็นที่ โปรดปรานและมีผู้สนับสนุนอย่างมาที่อยู่เบื้อง หลังเขา นี่นเป็นเหตุผลเดียวเท่านั้นที่ทําให้เขา ก้าวข้ามหัวของหวูเอิ้นได้ เพราะฉะนั้นหวูเอิ้นจึง ได้มีความรังเกียจหนิวจินเป่า
หลังจากที่ออกคําสั่งให้กับหวูเอิ้นแล้ว หนิวจิน เป่าก็ไปที่รถยนต์เขาทันทีและรีบไปที่ทํางานเห วินเป่ากั๋ว เขารายงานทุกอย่างตั้งแต่ต้นจนจบ
อะไรนะ อวี๋จงได้ถูกลอบสังหาร เขาตาย หรือไม่
เมื่อได้ยินการรายงานของหนิวจินเป่าแล้ว สีหน้าของเหวินเป่ากั๋วก็ซีดเซียวและถามอย่าง
เคร่งขรึม เรื่องการมีชีวิตอยู่หรือความตายขอ งอวี๋จงส่งผลโดยตรงต่อทิศทางของมณฑล SY ต่อกองกําลังของเขา
หนิวจินเป่าลดศีรษะของเขาลงและคิดครู่หนึ่ง ก่อนที่จะพูดว่า ผมไม่ทราบครับ
คุณเพิ่งจะพูดอยู่ว่า ลูกน้องของอวี๋จงได้นํา กองกําลังไปเผชิญหน้ากับคุณ
คิ้วของเหวินเป่ากั๋วเกิดรอยย่นขึ้นขณะที่เขายัง คงถามคําถามต่อ หนิวจินเป่าตอบกลับอย่าง รวดเร็ว อืมมม มันก็เป็นแบบนั้นแหล่ะ ครับ
สายตาของเหวินเป่ากั๋วแสดงความผิดหวังออก มา ถ้าอย่างนั้นเขาก็ยังมีชีวิตอยู่ ไม่อย่าง นั้นลูกน้องของเขาก็คงไม่มาสู้ที่นี่และไม่ สามารถข่มอารมณ์ได้แบบนี้
ถ้าอวี๋จงตายแล้ว กองกําลังขนาดใหญ่ก็อาจจะ แตกสลายอย่างแน่นอน ก็ทําให้ฐานมณฑล SY จะต้องส่งกองกําลังไปจัดการพวกมันจนกลาย เป็นผู้มีอํานาจที่ท้จริงของทั้งภูมิภาค ทางด้านอวี๋จงและมณฑล SY นั้นทั้งคู่ต่างระงับ การต่อสู้เพราะความแข็งแกร่งของแต่ละฝ่าย มี ความแข็งแกร่งพอกัน แม้ว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะ ได้รับชัยชนะ ก็ยังคงได้รับความเสียหายอย่าง ร้ายแรง
เหวินเป่ากั๋วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะลุกขึ้น ยืนและเดินออกจากที่ทํางานของเขา
ผมคือเหวินเป่ากั๋ว นายกเทศมนตรีมณฑล SY
, ผมมาที่นี่เพื่อพบอวี๋จง
เหวินเป่ากั๋วรีบวิ่งขึ้นไปถึงแนวหน้าของการ เผชิญหน้าทั้งสองฝ่ายและพูดกับซิงหยูว่า ให้ ผมเขาไป
ซิงหยูจ้องมองไปที่เหวินเป่ากั๋วและเอนตัวไป ด้านข้าง ปล่อยให้เขาผ่านเข้าไป โดยไม่แสดง อาการหวาดหวั่นแต่อย่างใด เหวินเป่ากั๋วจึง ก้าวเดินไปตามถนนโดยไม่มีผู้คุ้มกัน ปัจจุบันถนนทั้งสายสายที่เก่าได้รับการคุ้มกัน อย่างมาก นักรบที่ติดอาวุธปืนไรเฟิล type03 ปกป้องถนนแต่ละสายและทุกถนนดูทุกอย่างที่ เกิดขึ้นอย่างเย็นชา แก๊งทั้งหมด (แก๊งพยัคฆ์ ทมิฬ , แก๊งฟินิกซ์เพลิง) เริ่มออกตัวสอบถาม รายละเอียดเกี่ยวกับการลอบสังหารและมือ สังหาร
นักรบ 15 จากกองกําลังพิเศษก็กลับมาด้วยเช่น กัน แต่ละคนซ่อนตัวอยู่บริเวณใกล้เคียงกับ ที่พักของอวี๋จง ด้วยการรักษาความปลอดภัย อย่างแน่นหนา มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะ มีใครบางคนจะตั้งใจเอาชีวิตอวี๋จงอีกครั้ง
ภายในบ้านพัก , เหวินเป่ากั๋วได้เห็นอวี๋จง ที่นอนยู่บนเตียงพร้อมกับศีรษะของเขาอยู่ใน อ้อมกอดของตงเสี่ยวหยุนอย่างแนบชิด ใบหน้าของอวี๋จงเต็มไปด้วยรอยช้ําสีม่วงและ รอยไหม้ มีกองเลือดเล็ก ๆ ไหลลงมาจากร่าง ของเขาย้อมผ้าปูที่นอนจนสีแดงเข้มที่มาจาก บาดแผลจํานวนมากยทั่วตัวเขา
เหวินเป่ากั๋วแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผู้ชายที่ เสียโฉมตรงหน้าเขานี้จะเป็นอวี๋จงจริง ๆ
อวี๋จงเหลือบมองไปที่เหวิ่นเป่ากั๋วและพูดอย่าง กระชับ ด้วยน้ําเสียงที่เอ่อล้นไปด้วยเจตนาฆ่า นายกเทศมนตรีเหวิน , คุณมาแล้ว ระบบ รักษาความปลอดภัยของมณฑล SY ต่ํากว่า มาตรฐานจริง ๆ วันนี้ผมเกือบจะตายที่มณฑล SY แล้ว
มณฑล SY มีบุคคลที่มีทักษะได้ซ่อนตัวอยู่ ทําให้ผมต้องไปหาความสําราญจากการฆ่า
และใช้ปืนใหญ่ห้ําหั่นสถานที่แห่งนี้พร้อมกัน ถึงที่สุด ถ้าคุณและเลขาธิการเผิงไม่สามารถ ให้ความยุติธรรมกับผมได้ งั้นผมขอใช้ปืนใหญ่ และดาบปลายปืนเพื่อแลกกับความยุติธรรม แทนก็แล้วกัน
อวี๋จง , คุณอย่าเพิ่งหุนหันพลันแล่น เหตุการณ์ ในวันนี้ ไม่มีใครต้องการที่จะเจอกับมันแบบนี้ ผมจะให้คนสอบสวนเหตุการณ์นี้และนําความ ยุติธรรมมาให้คุณ
คิ้วของเหวินเป่ากั๋วขมวดลงขณะที่เขาพูดด้วย เสียงต่ํา เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าความ
แข็งแกร่งทางทหารของมณฑล SY จะด้อยไป กว่าของอวี๋จง แต่ถ้าพวกเขาทั้งหมดต่อสู้กัน ทั้งสองฝ่ายก็ต้องเกิดการสูญเสียอย่าง มหาศาล เขากลัวว่าอวี๋จงที่มีนิสัยหุนหันพลัน แล่นอย่างเด็ก อาจจะนํากองกําลังของเขาไปสู้ กับทหารของมณฑล SY
อวี๋จงจ้องมองที่เหวินเป่ากั๋วและพูดด้วยน้ํา เสียงหนักแน่นว่า ซู่เทียนหยาง คนที่ ต้องการสังหารผมคือ ซู่เทียนหยาง และมี Enhancer ทั้งหมด 15 คน ที่มีระดับมากกว่า 10 มาฆ่าผมวันนี้ ส่วน 3 คนจากกลุ่มนั่นเป็นผู้ เชี่ยวชาญการซุ่มยิง และมันเห็นได้ชัดเลยว่า ทางทหารหรือทางรัฐบาลได้มีคําสั่งให้ผู้ เชี่ยวชาญเหล่านั้น หลังที่มาที่มณฑล SY คน เดียวมีความคิดเห็นไม่ตรงกันกับผมคือ ซู่เทียน หยาง ผมเชื่อว่า เขาจะต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญเหล่า นั้น ดังนั้นคนเดียวที่สามารถสั่งให้ลอบสังหาร ผมได้ก็คือ ซู่เทียนหยาง
เหวินเป่ากั๋วย่นคิ้วและตอบอย่างเบาๆ ว่า นี่ เป็นเพียงการคาดคะเนของคุณ คุณมีหลักฐาน หรือเปล่า หากไม่มีหลักฐาน คุณก็อย่าไปพัวพัน เรื่องเหลวไหลแบบนี้
ซู่เทียนหยางเป็นลูกชาย ของ 1 ตําแหน่งสูงสุด ของกองทัพ บุคคลที่อยู่เบื้องหลังเขาไม่ สามารถใส่ร้ายป้ายสีหรือลงความเห็นว่าผิด โดยไม่มีหลักฐานเพียงเพราะแค่คําพูดของอวี๋ จง
อวี๋จงจ้องมองที่เหวินเป่ากั๋วอย่างเย็นชา หลัก ฐานเหรอ ผมจะหามันให้คุณ ผมเหนื่อยแล้ว กลับไปได้แล้ว
งั้นพักผ่อนให้สบายเถอะ เหวินเป่ากั๋วพูด ขณะที่เขาก็เดินไปทางออก
อวี๋จงได้รับสมบัติจากร่างกายของซู่เฉินและได้ สํารวจอย่างละเอียด
สมบัติระดับ 3 : เกราะศักดิ์สิทธิ์ เมื่อสวมใส่ ความแข็งแกร่ง +2 , ทําให้ผู้ใช้งานเกราะ ศักดิ์สิทธิ์ป้องกันตัวเองจากอันตรายได้ จับ เวลา : 24 ชั่วโมง
ซู่เฉินได้ใช้การคุ้มครองที่ศักดิ์สิทธิ์นี้ป้องกันตัว เองเป็นทางเลือกสุดท้าย อย่างไรก็ตามการ โจมตีของอวี๋จงก็โหดเ**้ยมเกินไปและการ ป้องกันที่ศักดิ์สิทธิ์อยู่ได้ไม่นาน เพียงแค่การ โจมตีไม่กี่ครั้ง ก่อนจะมันจะแตก
อวี๋จงได้ติดเกราะศักดิ์สิทธิ์ทันที ใครจะรู้ว่ามัน จะอาจจะช่วยชีวิตเขาไว้กับเหตุการณ์วิกฤติที่ จะเกิดขึ้นในอนาคต
ตอนนี้ซู่เทียนหยางได้ซ่อนตัวอยู่ภายในค่าย ทหาร จิตใจของเขาอยู่ในช่วงความสับสน วุ่นวาย
ทําไมมันไม่ตายวะ ไอ้เวรเอ๊ย ซู่เฉินช่างโง่ เง่าไร้ประโยชน์อะไรอย่างนี้วะ แค่ทําทุกอย่าง ให้เรียบร้อยง่าย ๆ แค่นี้ กลับล้มเลวในการฆ่า
ไอ้ชั่วอวี๋จงได้
ตอนนี้ซู่ตงหมิงเดินเข้ามาด้วยท่าทีแข็งกระด้าง พ่อ , พ่อมาทําไม ซู่เทียนหยางปืนป่ายออก จากร่างของเด็กสาวที่มาบริการเขา ขณะที่เขา ถามอย่างอาย ๆ เล็กน้อย
ออกไปซะ ซู่ต่งหมิงดูเหตุการณ์ที่น่าเหลว ไหลในห้องและบอกกับพวกสาวบริการ 2-3 คน อย่างเย็นชา
เมื่อพวกเธอเก็บเสื้อผ้าและออกจากห้องโดยไม่ หันกลับไปมองทันที
แกทําอะไรลงไป ซู่ต่งหมิงจ้องมองไปที่ซู่ เทียนหยางขณะที่ถาม
ซู่เทียนหยางลังเลชั่วขณะหนึ่งก่อนที่จะบอกว่า ไม่ได้ทํา
นี่แกยังกล้าที่จะปฏิเสธอีกเหรอ ซู่ต่งหมิง คํารามด้วยความโกรธเกรี้ยว จากนั้นเขาก็ตบซู่
เทียนหยางไปที่หน้าอย่างรุนแรง ทําให้หน้า ของเขาบวม
ซู่เฉินมันตายแล้ว หลิวจุ่น ก็ตายแล้ว ทั้งหมด เป็นเพราะแก แกมันไอ้สารเลว สูญเสียผู้ เชี่ยวชาญไป 8 คน 8 คน นี่แกยังไม่ยอมรับผิด ผิดอีกเหรอ หรือแกต้องการผลักพ่อไปฝัง อย่างนั้นเหรอ
ในขณะที่จํานวนผู้เชี่ยวชาญในด้านทหารมีอยู่
มากมาย การที่จะยกระดับให้เป็น Enhancer
ไม่ใช่เรื่อง่าย ทีมสังหารของซู่เฉิน เป้นหนึ่งใน 2 Enhancer ที่เก่งกาจ ที่ซู่ตงหมิงควบคุมดูแล อยู่ ตั้งแต่ได้สูญเสียผู้เชี่ยวชาญ 8 คน ซู่ตงหมิ งอาจจะมองแค่ว่าเสียผู้เชี่ยวชาญไปแค่ 25% ซู่ เทียนหยางลุกขึ้นมาขณะที่เขาก็ตะโกนเสียงดัง ใส่ซู่ตงหมิง
ผมทําผิดอะไร พ่อเองก็ไม่ได้ต้องการที่จะ ฆ่าไอ้โง่อวี๋จงหรอเหรอ ผมก็แค่ทําในสิ่งที่พ่อไม่ กล้าทํา ผมเป็นลูกชายของพ่อนะ พ่อตบผม เพราะใครบางคนด้านนอกนั่น พ่อยังเป็นพ่อ ของผมอยู่หรือเปล่า หลังจากที่แม่จากไป พ่อ ก็เริ่มที่จะปฏิบัติกับผมไม่ดีใช่มั้ย พ่อไม่ได้ ทําให้แม่ผิดหวังใช่มั้ย
ซู่ต่งหมิงโมโหจนลมออกหูขณะที่ชี้ไปที่ซู่เทียน หยาง ไอ้อกตัญญู แกช่างเป็นลูกอกตัญญู ทั้งเดือนนี้แกไม่ได้รับอณุญาติให้ออกจากที่พัก
แกต้องอยู่ที่นี่อย่างเชื่อฟัง
หลังจากนั้นซู่ตงหมิงก็ออกจากห้องด้วย อารมณ์ด้วยความฉุนเฉียว
เขามีเพียงซู่เทียนหยางและมักจะตามใจเขาจน ทําให้เขาเสียคน สิ่งเหล่านี้ทําให้ซู่เทียนหยางมี นิสัยที่แยแบบนี้ ทุกครั้งที่ซู่เทียนหยางทําอะไร ผิด เขาก็จะยับยั้งเหตุการณ์โดยอาศัยนามของ เขา
การลอบสังหารของอวี๋จงทําให้เกิดความตกใจ ทั่วมณฑล SY เหวินเป่ากั๋วและผิงหมิงเตอได้ พบปะหารือและสั่งให้ตํารวจดําเนินการ สอบสวนทั่วทั้งมณฑล มันเป็นเพียงพวกมือสังหารที่ซ่อนตัวอยู่ที่ค่าย ทหารของซู่ตงหมิง ไม่ว่าเจ้าหน้าที่ตํารวจจะ เข้มงวดเท่าไร ก็ไม่มีผลอะไรเลย
อวี๋จงยังคงพักฟื้นอยู่ที่วิลล่าของเขาด้วยผล ของทักษะระดับ 4 : การฟื้นฟู ภายในวันเดียว กระดูกของเขาที่แตกเป็นเสี่ยง ๆ จากกระสุน ปืนก็ได้รับการซ่อมแซมเรียบร้อยแล้ว
หลังจากผ่านไป 2 วัน บาดแผลที่ใบหน้าจาก ทักษะลูกบอลไฟและเศษระเบิดนับไม่ถ้วนก็ได้
บาดแผลก