เรื่องสั้น DREAM 1: เจ้าลัทธิ
ผมอยู่ในยุค 2150 ที่เหล่านักวิทยาศาสตร์กำลังประดิษฐ์คิดค้น การเดินทางข้ามมิติจากจุดหนึ่งไปสู่อีกจุดหนึ่ง และก็มีนักวิทยาศาสตร์คนหนึ่งที่โดดเด่นกว่าใคร มีนามว่า โจ บาลัค เขาได้ทำการประดิษฐ์อุปกรณ์ที่สามารถขนย้ายคนข้ามมิติได้ โดยได้ทดลองกับสิ่งของ เพื่อเคลื่อนย้ายจากพื้นที่หนึ่งไปสู่พื้นที่หนึ่ง ด้วยระยะทางที่ไกลขึ้นเรื่อยๆ เริ่มตั้งแต่ระยะ 1 เซนติเมตร ไป 10 เซนติเมตร 1 เมตร 100 เมตร 1 กิโลเมตร จนไปถึง 100 กิโลเมตร
ณ เวลานั้น โจ บาลัค ได้รับเสียงตบมืออย่างล้นหลามจากนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลก ความสำเร็จครั้งนี้ ทำให้ โจ บาลัค เกิดความเชื่อมั่นในการขนย้ายสิ่งมีชีวิตผ่านมิติ เขาเลยทำการทดลองกับสิ่งมีชีวิตต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น หนู สุนัข หรือลิง โดยผลของการทดลองการเป็นไปด้วยดี
โจ บาลัต คิดว่าผลงานการประดิษฐ์ ของเขานั้น ไม่มีอะไรผิดพลาดแล้ว เขาเลยอยากทำการทดลองกับมนุษย์จริงๆ แต่เขาก็ไม่สามารถหาอาสาสมัครจากที่ไหนๆ ได้เลยสักคน สุดท้ายเขาเลยทำการทดลองกับตัวเอง เขาได้ติดตั้งอุปกรณ์เข้ากับตัวเอง แล้วเริ่มเดินเครื่อง ณ เวลา 15.00 น. พอเริ่มเดินเครื่องเท่านั้น โจ บาลัค พบว่ามีลำแสง ที่สว่างมากผ่านตัวเขา จนเขาไม่สามารถทนต่อการมองแสงเหล่านั้นได้ ทำให้เขาหลับตาแล้วยกแขนขึ้นมาบังที่ตา เมื่อผ่านไปสักพัก โจ บาลัค ได้รู้สึกว่าแสงเหล่านั้นได้หายไปแล้ว เขาจึงลืมตาขึ้น พบว่าภาพที่เห็นนั้น เป็นความมืดมิด แล้วดวงดาว อยู่ล้อมรอบตัวเขา แล้วก็พบว่าตัวเขาลอยอยู่ในอากาศ ร่างกายไม่จำเป็นต้องหายใจ ร่างกายค่อยๆใสขึ้น จากผิวหนังที่โปร่งแสงจนไปถึงกระดูกที่โปร่งแสง พอมองไปรอบๆ อีกครั้ง เขาก็รู้สึกได้ว่าเขาอยู่ในตำแหน่งเดิมที่เขาเริ่มเดินเครื่องเว้นเสียแต่ว่าไม่พบสิ่งมีชีวิตใดๆ จากนั้นเขาก็พยายามเคลื่อนตัวไปในทิศทางต่างๆ พบว่าเขาสามารถที่จะนึกคิดไปจุดใดเขาก็สามารถไปได้แล้วไปอยู่ในจุดนั้น โดยขยับจาก 1 เซนติเมตร ไป 10 เซนติเมตร 1 เมตร 100 เมตร 1 กิโลเมตร จนไปถึง 100 กิโลเมตร โจ บาลัค พบว่าเขาใช้เวลามาเนิ่นนานแล้ว โดยเขาดูในนาฬิกาข้อมือของเขา เขาใช้เวลาอยู่ที่นี้เป็นเวลา 3 ชั่วโมง เขาต้องหาทางกลับไปมิติเดิมที่เขาจากมาได้แล้ว โจ บาลัค พยายามจะเดินเครื่องอีกครั้งหนึ่ง เพื่อกลับไป แต่พบว่ามันไม่สามารถกลับได้
จากเวลา 3 ชั่วโมง ไป 6 ชั่วโมง
จากเวลา 6 ชั่วโมง ไป 18 ชั่วโมง
จากเวลา 18 ชั่วโมง ไป 24 ชั่วโมง
จากเวลา 24 ชั่วโมง ไปเป็น 1 เดือน
จนไปสู่ 3 ปี
ระหว่างนั้นที่ติดอยู่ โจ บาลัค ได้สังเกตุ สิ่งรอบข้างตามสถานที่ต่างๆ ค่อยเสื่อมถอยไป ต้นไม้ที่เคยชุ่มช่ำก็โรยรา ตึกราวบ้านช่องก็ค่อยๆทรุดโทรม แต่ก็มีต้นไม้ที่เกิดใหม่ ตึกใหม่ ขึ้นมา เขาสังเกตุอีกครั้งพบว่า มิติข้างนอกยังดำเนินไปตามกาลเวลาเช่นเดิม ยกเว้นแต่ตัวเขาที่อย่างเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง โจ บาลัค เริ่มปลงกับชีวิตว่าเขาไม่มีทางได้กลับไปมิติเดิมอีกครั้งเป็นแน่แล้ว เขาเลยใช้เวลาเดินทาง ไปตามสถานที่ต่างๆ เรื่อยๆ จนเข้าไปยอดเขาแห่งหนึ่งในเอเชีย ระหว่างอยู่บนยอดเขานั้นเอง เขาก็พบว่ามีสิ่งมีชีวิตที่นอกจากตัวเขา รูปร่างเหมือนมนุษย์ พอเขาไปดูใกล้ๆ ก็พบว่า เป็นชายร่างกายกำยำ ผมหยักศก ผิวขาวเหลือง ชายผู้นั้นได้เอ่ยถามว่า เจ้ามาทำอะไรที่นี้ โดยทีชายผู้นั้นไม่ได้ขยับปาก แต่ โจ บาลัค กลับได้ยินเสียงในหัว โจ บาลัค ได้ตอบกลับไปว่าเขาเป็นนักวิทยาศาสตร์ ที่ประดิษฐ์อุปกรณ์เคลื่อนย้ายมิติ แล้วเกิดการผิดพลาดขึ้น จนทำให้เขาติดอยู่ที่นี้ ชายผู้นั้นได้ฟังแล้ว ก็เข้าใจและเอ่ยตอบมาว่า “ทางกลับนั้นมันก็คือทางไป ทุกอย่างในมิตินี้คืออนันต์ ไม่มีรูปร่างที่แน่นอน หรือพูดง่ายๆ ไม่มีการยึดติดรูปร่าง” หลังจากที่ชายผู้นั้นพูดจบ ชายผู้นั้นก็ค่อยๆเปลี่ยนรูปร่างเป็นชายแก่ แล้วก็เปลี่ยนไปเป็นเด็กสาว
โจ บาลัค ถึงกับงง แล้วไม่เข้าใจ โจ บาลัค เลยได้ถามไปว่าแล้วคุณเป็นใคร เด็กสาวคนนั้น ได้ตอบว่า ฉันคือ “ โจ บาลัค” พร้อมกับเปลี่ยนรูปร่างเป็น โจ บาลัค และก็ไม่ใช่โจ บาลัค พร้อมกับค่อยๆ กระจายตัวออกมาเป็น 2 คน เป็น 4 คน จนเป็น 100 คน แล้ว โจ บาลัค อีกคนได้พูดขึ้นว่า เจ้าถึงเวลากลับบ้านของเจ้าได้แล้ว พร้อมกลับเดินมาแตะตัวของ โจ บาลัค อีกคน หลังจากนั้น แสงสว่างที่เขาเคยเห็นก็พวยพุ่งออกมาอีกครั้ง
โจ บาลัค ลืมตาตื่นขึ้น พบว่า เขาอยู่ในห้องการทดลองของตัวเอง โดยระยะที่เข้าขยับจากจุดเดิมคือ 1 เซนติเมตร เขาเหลือบไปมองนาฬิกาที่ห้องที่ห้องการทำลองพบว่า เวลาไม่ได้เปลี่ยนไปเลย จากที่เขาจากมา แล้วก็เหลือบไปมองนาฬิกาข้อมือของเขา พบว่า เวลานั้นผ่านไปเป็นระยะเวลา 3 ปี
โจ บาลัค ได้นั่งทบทวนเรื่องที่ผ่านมา แล้วได้ลงมือจดบันทึกทุกอย่างอีกครั้ง แล้วก็ได้เผยแพร่ไปสู่โลกออนไลน์ จากนั้นเขาก็ตัดสินใจ ทำการทดลองอีกครั้ง คราวนี้เขาใช้เวลาอยู่ในมิตินานกว่าเดิม เป็นระยะ 5 ปี แต่เขาไม่สามารถrพบเห็น โจ บาลัค อีกคน หรือสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ได้ เขาใช้เวลานั้นจนล่วงเลยเวลาเป็น 10 ปี แล้วเขาก็ได้พบสิ่งมีชีวิตแรก ก็คือ ชายแก่ ตามมาด้วย เด็กสาว และก็คนอื่นๆ ตามมา ทุกคน ได้ถามกลับ โจ บาลัค คุณคือ โจ บาลัค ใช่มั้ย โจ บาลัค ได้ตอบไปว่าใช่ แล้วทุกคนก็ตะโกน โห่ร้อง ว่าเราได้เจอ ศาสดา ของเราแล้ว พร้อมกลับค่อยๆเขามากอด จนเป็นกลุ่มก้อนของสิ่งมีชีวิต ค่อยๆร่วมกันไปเรื่อยๆ จนเกิดเป็นรูปร่างใหม่ ที่เป็นชายกำยำ ผมหยักศก ผิวขาวเหลือง และได้เดินท่องไปตามสถานที่ต่างๆ ตราบนานเท่านาน
DREAM 1: เจ้าลัทธิ
ผมอยู่ในยุค 2150 ที่เหล่านักวิทยาศาสตร์กำลังประดิษฐ์คิดค้น การเดินทางข้ามมิติจากจุดหนึ่งไปสู่อีกจุดหนึ่ง และก็มีนักวิทยาศาสตร์คนหนึ่งที่โดดเด่นกว่าใคร มีนามว่า โจ บาลัค เขาได้ทำการประดิษฐ์อุปกรณ์ที่สามารถขนย้ายคนข้ามมิติได้ โดยได้ทดลองกับสิ่งของ เพื่อเคลื่อนย้ายจากพื้นที่หนึ่งไปสู่พื้นที่หนึ่ง ด้วยระยะทางที่ไกลขึ้นเรื่อยๆ เริ่มตั้งแต่ระยะ 1 เซนติเมตร ไป 10 เซนติเมตร 1 เมตร 100 เมตร 1 กิโลเมตร จนไปถึง 100 กิโลเมตร
ณ เวลานั้น โจ บาลัค ได้รับเสียงตบมืออย่างล้นหลามจากนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลก ความสำเร็จครั้งนี้ ทำให้ โจ บาลัค เกิดความเชื่อมั่นในการขนย้ายสิ่งมีชีวิตผ่านมิติ เขาเลยทำการทดลองกับสิ่งมีชีวิตต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น หนู สุนัข หรือลิง โดยผลของการทดลองการเป็นไปด้วยดี
โจ บาลัต คิดว่าผลงานการประดิษฐ์ ของเขานั้น ไม่มีอะไรผิดพลาดแล้ว เขาเลยอยากทำการทดลองกับมนุษย์จริงๆ แต่เขาก็ไม่สามารถหาอาสาสมัครจากที่ไหนๆ ได้เลยสักคน สุดท้ายเขาเลยทำการทดลองกับตัวเอง เขาได้ติดตั้งอุปกรณ์เข้ากับตัวเอง แล้วเริ่มเดินเครื่อง ณ เวลา 15.00 น. พอเริ่มเดินเครื่องเท่านั้น โจ บาลัค พบว่ามีลำแสง ที่สว่างมากผ่านตัวเขา จนเขาไม่สามารถทนต่อการมองแสงเหล่านั้นได้ ทำให้เขาหลับตาแล้วยกแขนขึ้นมาบังที่ตา เมื่อผ่านไปสักพัก โจ บาลัค ได้รู้สึกว่าแสงเหล่านั้นได้หายไปแล้ว เขาจึงลืมตาขึ้น พบว่าภาพที่เห็นนั้น เป็นความมืดมิด แล้วดวงดาว อยู่ล้อมรอบตัวเขา แล้วก็พบว่าตัวเขาลอยอยู่ในอากาศ ร่างกายไม่จำเป็นต้องหายใจ ร่างกายค่อยๆใสขึ้น จากผิวหนังที่โปร่งแสงจนไปถึงกระดูกที่โปร่งแสง พอมองไปรอบๆ อีกครั้ง เขาก็รู้สึกได้ว่าเขาอยู่ในตำแหน่งเดิมที่เขาเริ่มเดินเครื่องเว้นเสียแต่ว่าไม่พบสิ่งมีชีวิตใดๆ จากนั้นเขาก็พยายามเคลื่อนตัวไปในทิศทางต่างๆ พบว่าเขาสามารถที่จะนึกคิดไปจุดใดเขาก็สามารถไปได้แล้วไปอยู่ในจุดนั้น โดยขยับจาก 1 เซนติเมตร ไป 10 เซนติเมตร 1 เมตร 100 เมตร 1 กิโลเมตร จนไปถึง 100 กิโลเมตร โจ บาลัค พบว่าเขาใช้เวลามาเนิ่นนานแล้ว โดยเขาดูในนาฬิกาข้อมือของเขา เขาใช้เวลาอยู่ที่นี้เป็นเวลา 3 ชั่วโมง เขาต้องหาทางกลับไปมิติเดิมที่เขาจากมาได้แล้ว โจ บาลัค พยายามจะเดินเครื่องอีกครั้งหนึ่ง เพื่อกลับไป แต่พบว่ามันไม่สามารถกลับได้
จากเวลา 3 ชั่วโมง ไป 6 ชั่วโมง
จากเวลา 6 ชั่วโมง ไป 18 ชั่วโมง
จากเวลา 18 ชั่วโมง ไป 24 ชั่วโมง
จากเวลา 24 ชั่วโมง ไปเป็น 1 เดือน
จนไปสู่ 3 ปี
ระหว่างนั้นที่ติดอยู่ โจ บาลัค ได้สังเกตุ สิ่งรอบข้างตามสถานที่ต่างๆ ค่อยเสื่อมถอยไป ต้นไม้ที่เคยชุ่มช่ำก็โรยรา ตึกราวบ้านช่องก็ค่อยๆทรุดโทรม แต่ก็มีต้นไม้ที่เกิดใหม่ ตึกใหม่ ขึ้นมา เขาสังเกตุอีกครั้งพบว่า มิติข้างนอกยังดำเนินไปตามกาลเวลาเช่นเดิม ยกเว้นแต่ตัวเขาที่อย่างเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง โจ บาลัค เริ่มปลงกับชีวิตว่าเขาไม่มีทางได้กลับไปมิติเดิมอีกครั้งเป็นแน่แล้ว เขาเลยใช้เวลาเดินทาง ไปตามสถานที่ต่างๆ เรื่อยๆ จนเข้าไปยอดเขาแห่งหนึ่งในเอเชีย ระหว่างอยู่บนยอดเขานั้นเอง เขาก็พบว่ามีสิ่งมีชีวิตที่นอกจากตัวเขา รูปร่างเหมือนมนุษย์ พอเขาไปดูใกล้ๆ ก็พบว่า เป็นชายร่างกายกำยำ ผมหยักศก ผิวขาวเหลือง ชายผู้นั้นได้เอ่ยถามว่า เจ้ามาทำอะไรที่นี้ โดยทีชายผู้นั้นไม่ได้ขยับปาก แต่ โจ บาลัค กลับได้ยินเสียงในหัว โจ บาลัค ได้ตอบกลับไปว่าเขาเป็นนักวิทยาศาสตร์ ที่ประดิษฐ์อุปกรณ์เคลื่อนย้ายมิติ แล้วเกิดการผิดพลาดขึ้น จนทำให้เขาติดอยู่ที่นี้ ชายผู้นั้นได้ฟังแล้ว ก็เข้าใจและเอ่ยตอบมาว่า “ทางกลับนั้นมันก็คือทางไป ทุกอย่างในมิตินี้คืออนันต์ ไม่มีรูปร่างที่แน่นอน หรือพูดง่ายๆ ไม่มีการยึดติดรูปร่าง” หลังจากที่ชายผู้นั้นพูดจบ ชายผู้นั้นก็ค่อยๆเปลี่ยนรูปร่างเป็นชายแก่ แล้วก็เปลี่ยนไปเป็นเด็กสาว
โจ บาลัค ถึงกับงง แล้วไม่เข้าใจ โจ บาลัค เลยได้ถามไปว่าแล้วคุณเป็นใคร เด็กสาวคนนั้น ได้ตอบว่า ฉันคือ “ โจ บาลัค” พร้อมกับเปลี่ยนรูปร่างเป็น โจ บาลัค และก็ไม่ใช่โจ บาลัค พร้อมกับค่อยๆ กระจายตัวออกมาเป็น 2 คน เป็น 4 คน จนเป็น 100 คน แล้ว โจ บาลัค อีกคนได้พูดขึ้นว่า เจ้าถึงเวลากลับบ้านของเจ้าได้แล้ว พร้อมกลับเดินมาแตะตัวของ โจ บาลัค อีกคน หลังจากนั้น แสงสว่างที่เขาเคยเห็นก็พวยพุ่งออกมาอีกครั้ง
โจ บาลัค ลืมตาตื่นขึ้น พบว่า เขาอยู่ในห้องการทดลองของตัวเอง โดยระยะที่เข้าขยับจากจุดเดิมคือ 1 เซนติเมตร เขาเหลือบไปมองนาฬิกาที่ห้องที่ห้องการทำลองพบว่า เวลาไม่ได้เปลี่ยนไปเลย จากที่เขาจากมา แล้วก็เหลือบไปมองนาฬิกาข้อมือของเขา พบว่า เวลานั้นผ่านไปเป็นระยะเวลา 3 ปี
โจ บาลัค ได้นั่งทบทวนเรื่องที่ผ่านมา แล้วได้ลงมือจดบันทึกทุกอย่างอีกครั้ง แล้วก็ได้เผยแพร่ไปสู่โลกออนไลน์ จากนั้นเขาก็ตัดสินใจ ทำการทดลองอีกครั้ง คราวนี้เขาใช้เวลาอยู่ในมิตินานกว่าเดิม เป็นระยะ 5 ปี แต่เขาไม่สามารถrพบเห็น โจ บาลัค อีกคน หรือสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ได้ เขาใช้เวลานั้นจนล่วงเลยเวลาเป็น 10 ปี แล้วเขาก็ได้พบสิ่งมีชีวิตแรก ก็คือ ชายแก่ ตามมาด้วย เด็กสาว และก็คนอื่นๆ ตามมา ทุกคน ได้ถามกลับ โจ บาลัค คุณคือ โจ บาลัค ใช่มั้ย โจ บาลัค ได้ตอบไปว่าใช่ แล้วทุกคนก็ตะโกน โห่ร้อง ว่าเราได้เจอ ศาสดา ของเราแล้ว พร้อมกลับค่อยๆเขามากอด จนเป็นกลุ่มก้อนของสิ่งมีชีวิต ค่อยๆร่วมกันไปเรื่อยๆ จนเกิดเป็นรูปร่างใหม่ ที่เป็นชายกำยำ ผมหยักศก ผิวขาวเหลือง และได้เดินท่องไปตามสถานที่ต่างๆ ตราบนานเท่านาน