Vivo เป็นค่ายที่ทำมือถือหลายๆรุ่นออกมาเราจะเห็นการพัฒนาในหลายๆด้านของค่ายนี้ทั้งเรื่องเสียง งานออกแบบ แต่ที่เห็นชัดที่สุดคงหนีไม่พ้นเรื่องของกล้องครับ เราจะเห็นการพัฒนาขึ้นเยอะมากๆในสเปก เทคโนโลยี รวมถึงการถ่ายที่มีโหมดอะไรเข้ามาค่อนข้างหลากหลายมากขึ้น และในครั้งนี้ได้นำหน้าค่ายอื่นไปอีกเท่าตัวด้วยการใส่กล้องหน้าที่มีระบบ ออโต้โฟกัสในตัวพร้อมกับรองรับการโฟกัสดวงตาที่ล้ำหน้าค่ายอื่นจริงๆครับให้มาที่ 44MP แน่นๆเลยทีเดียว เมื่อเทียบกับราคานี้บอกเลยว่าโหดที่สุดในตอนนี้ ส่วนทางด้านฟีเจอร์การถ่ายนั้นยังคงจัดเต็มเช่นเดิม และในด้านหลังก็ไม่น้อยหน้าใส่มาให้ที่ 64MP และ ยังมาพร้อมกับเลนส์มุมกว้าง ที่มี ออโต้โฟกัสอีกเช่นกันที่ 8MP พร้อมถ่ายมาโครได้ 2.5 เซนติเมตรเท่านั้นถือว่าโหดอย่างมากในเรทราคานี้รวมถึง ชาร์จไว 33W ยังคงใส่เข้ามาให้ แต่ที่เด่นอีกเรื่องคืองานออกแบบที่เบา บาง และ ดีไซน์สวยหรูขึ้นแบบชัดเจน ฝาหลังเล่นสีสวยงามพร้อมวัสดุกระจกด้านทำให้ เป็นมือถือที่ลงตัวในหลายๆอย่างโดยเฉพาะกล้องหน้า และในรุ่นนี้มีการออกแบบไม่ต่างกับรุ่นพี่เลยทีเดียว
Vivo V20 เปิดตัวมาด้วยจุดเด่นๆคือ กล้องหน้าที่โหดที่สุดในบรรดามือถือเรทราคานี้ รวมถึงเด่นเกินหน้าเรือธงค่ายอื่นแบบชัดเจนครับ ทางด้านสเปกนั้นมาพร้อมกับ Snapdragon 720G และใช้งาน RAM 8GB LPDDR4X รวมถึง 128GB UFS 2.1 ครับ ทางด้านหน้าจอนั้นใช้งานหน้าจอแบบติ่งหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว ความละเอียด 2400 x 1080 20:9 มีอัตราส่วนที่ 91.2% รองรับการแสดงผลแบบ HDR10 และ ใช้งาน 3,000,000:1 Contrast Ratio รองรับความสว่างสุงสุด 600NITS อีกทั้ง ทางด้านกล้องหน้าให้มาที่ 2 ตัว 44MP รองรับ Eye Autofocus ถือว่าโหดมากๆ ส่วนทางด้านกล้องหลังให้มาแน่นๆที่ กล้องหลัก 64MP F1.8 + เลนส์มุมกว้าง 120 องศา 8MP F2.2 (Ultra wide) ใช้งานเป็นเลนส์ มาโคร เพียง 2.5 ซม. และ จับระยะในตัว พร้อม Auto Focus + เลนส์ 2MP F 2.4 (กล้องขาวดำ) และทางด้านแบตนั้นแอบน้อยลงนิดหน่อยให้มาที่ แบตเตอรี่ 4,000 mAh รองรับชาร์จไว Vivo Flash Charge 2.0 33W ครับ และยังคงใช้งาน USB-C และตัวเครื่องบางแค่ 7.38 มม.เท่านั้น และดีไซน์งานออกแบบพรีเมี่ยมเหมือนรุ่น Pro บางและเบาเช่นเดียวกันด้วยครับ
VIVO V20. เปิดตัวมาพร้อมกับ ราคา 11,999 บาท
สี MIDNIGHT JAZZ สีดำ // SUNSET MELODY ไล่สี // MOONLIGHT SONATA สีขาว
UNBOX
- ตัวเครื่อง VIVO V20
- เคสใส TPU
- ที่ชาร์จ VIVO FLASHCHARGE 2.0 33W
- สายชาร์จ USB-C
- หูฟัง In-Ear
- คู่มือ ที่จิ้มซิม
เคสถือว่ามีความหนาเหมือนกับรุ่นก่อนหน้าแต่ครั้งนี้ เหมือนจะทำวัสดุออกมาได้ดี ตัวขอบกินเข้ามาบนหน้าจอและมีความหนาสูงกว่าหน้าจอทำให้วางคว่ำได้สบาย ส่วนฝาหลังนั้นก็คลุมได้หมดครับรวมถึงตัวเลนส์กล้องนั้นก็ทำออกมาปิดได้ดีมีความหนาขึ้นมาปกป้องได้เวลาวางต่างๆใช้งานทั่วไป ส่วนตรงพอร์ตชาร์จไม่มีจุกปิดมาให้แล้วครับ และ เคสนั้นมีความนูนขึ้นมาปกป้องตัวเลนส์และหน้าจอขึ้นมาอีกครับ และ ทั้ง 4 มุมนั้นในด้านหน้าจะทำความสูงพิเศษขึ้นมาเพื่อที่จะปกป้องหน้าจอให้ดีขึ้นไปอีกเวลาตกหรือวางคว่ำครับ แต่ในแง่ของความสูงหรือหนาอาจจะไม่ได้สูงมากนักครับในรุ่นนี้ ตัวเคสภาพรวมปกป้องได้ดีแต่อาจจะไม่ได้หนามากนัก เวลาตกกระแทกแต่ก็ทำให้ไม่หนักมากเกินไป
จะเห็นว่าตัวเคสนั้นมีการปกป้องได้ดีพอสมควรในเรื่องเลนส์กล้องและหน้าจอ แต่อาจจะไม่ได้สูงหนาขึ้นมามากนักแต่ก็ถือว่าพ้นระยะเวลาวางคว่ำหรือใช้งานได้ดีพอสมควรเลยครับสำหรับเคสที่แถมมาให้ในกล่องรุ่นนี้ ขอบเครื่องมีการเพิ่มความหนาเข้ามาให้ทำให้เรื่องของการปกป้องเวลาตกอะไรทำได้ดีเลยแหละ ส่วนตัวพอร์ตมีจุกปิดกันฝุ่นมาให้
DESIGN
งานออกแบบในรุ่นนี้จะเป็นตัวที่ใช้งานสีที่เรียกว่าสี Midnight Jazz เป็นโทนสีเทาดำเล่นกับแสงได้สวยงามพร้อมกับใช้งานวัสดุกระจกด้าน AG Matte Glass เล่นกับแสงสวยงามมากครับ และจะสะท้อนออกมาเนียนๆนุ่มๆนิดหน่อยเป็นโทนสี สีดำลึกลับ และในด้านหน้าขอบจอที่มาพร้อมความโค้ง 2.5D ความหนาเพียง 7.39 มม. น้ำหนัก170กรัม ถือว่าเป็นรุ่นที่บางมากๆ และ ด้านหน้านั้นเป็นหน้าจอแบบติ่งตรงกลางพร้อมกล้องหน้ารวมถึงในด้านหลังนั้นเป็นดีไซน์แบบใหม่ที่เป็นเอกลักษณ์ของทางค่ายนี้เป็นเลนส์หลักขนาดใหญ่และเล่นกับขอบสีกล้องสวยงาม
หน้าจอนั้นแอบเสียดายไม่ใช่หน้าจอเจาะรูแล้วแต่ก็อาจจะเป็นข้อจำกัดในการใส่กล้องหน้าที่มี Eye Autofocus เข้ามาให้นั้นเองเลยทำให้ต้องมีพื้นที่พอสมควรครับ ส่วนทางด้านหน้าจอนั้นจะเป็นหน้าจอ หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว ความละเอียด FHD+ อัตราส่วน 20:9 + HDR10 สูงสุด 600NITS ถือว่าสวย คุณภาพ งามเช่นเดิม
ขอบหน้าจอด้านบนนั้นกลับมาใช้งานดีไซน์แบบติ่งหน้าจอพร้อมกับ แทรกลำโพงไว้ขอบบนรวมถึง กล้องหน้า 44MP F2.0 พร้อมระบบโฟกัส EYE AF อาจจะดูย้อนยุคไปนิดๆในส่วนนี้แอบเสียดายแต่ติ่งจะเล็กกว่ารุ่นพี่อยู่เหมือนกัน
ส่วนขอบด้านล่างนั้นถือว่าทำได้บางพอสมควรเมื่อเทียบกับราคาตัวนี้ครับ พร้อมกับปุ่มควบคุมแบบพื้นฐาน หรือจะใช้งานควบคุมแบบเต็มหน้าจอได้ทั้งหมดเลยถือว่ารองรับได้สบายๆและดีไซน์ขอบหน้าจอข้างๆก็บางพอสมควรเลยครับ
ถาดซิมอยู่ในด้านท้ายเครื่องพร้อมกับ มี ไมค์ตัดเสียง รับเสียงมาให้และใช้งาน USB-C พร้อมกับ รู 3.5 มม. ยังคงมีมาให้ไม่ได้ตัดออกไปแบบรุ่น Pro ครับ ส่วนลำโพงหลักนั้นใส่เข้ามาให้เช่นกันเป็นลำโพงตัวเดียวนะครับในรุ่นนี้
ในด้านขวาของตัวเครื่องนั้นจะเห็นว่ามีปุ่ม เพิ่ม-ลดเสียงสำหรับการใช้งาน และปุ่ม Power สำหรับการเปิดปิดเครื่องที่มีการเล่น Texture สวยงามและกดได้ง่ายมีความรู้สึกแตกต่างกับปุ่มทั่วไปอยู่พอสมควรเลยครับในด้านขวาข้างนี้
ตัวขอบด้านบนนั้นเราจะเห็นไมค์ รับเสียง ตัดเสียงมาให้ด้วย รวมถึงกล้องหลังก็ไม่ได้นูนเยอะแบบที่คิดไว้ครับส่วนนี้
ขอบเครื่องด้านซ้ายนั้นเราจะเห็นว่ามีความสมมาตรพอสมควรครับและฝาหลังนั้นเรียบเป็นแนวระนาบทั้งหมดเลยพร้อมกับขอบเครื่องที่มีการเล่นกับโครมเมี่ยมเงาสวยงามทำให้ดูตัดกับฝาหลังแบบด้านได้สวยและดูพรีเมี่ยมอย่างมากครับ และถาดซิมนั้นเป็นแบบ Triple Slot รองรับการใช้งานได้เต็มที่เลย เพิ่มความจุได้ด้วยเช่นกันครับ
ฝาหลังในรุ่นนี้ถือว่าเปลี่ยนแปลงจากรุ่นก่อนหน้าแบบชัดเจน นอกเหนือจากวัสดุแล้วที่เห็นการเปลี่ยนแปลงชัดๆนั้นคงหนีไม่พ้นกับตัวกล้อง และการวางที่แปลกใหม่และดีไซน์สวยแบบรุ่นพี่ V20 Pro เลยนั้นเอง อีกทั้งวัสดุฝาหลังนั้นเป็นแบบด้าน เล่นแสงสีสวยงาม โดยใช้งานวัสดุ AG Matte Glass เพิ่มความสวยงาม หรูหรา ให้กับตัวเครื่อง พร้อมทั้งให้คุณสัมผัสถึงความเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น ด้วยพื้นผิวที่ทนทานต่อรอยขีดข่วน อีกทั้งเทคโนโลยี AF ที่ช่วยป้องกันโทรศัพท์ของคุณจากรอยนิ้วมือถือว่าเป็นฝาหลังที่สวยและโดดเด่นอย่างมากแม้จะเป็นสีดำก็ตามแต่ดูสวยเอาเรื่อง
กล้องหลังถูกจัดวางอย่างระเบียบเป็นชั้นบางๆวางเลเยอร์สเต็ปขั้นแรกเป็นสีดำคลาสสิกที่บรรจุตัวกล้องไว้ ขั้นที่สองคือฐานกรอบตกแต่งโดยรอบที่มีสีกลมกลืนกับฝาครอบ ขั้นที่สามคือฝาหลังที่ใช้ครอบทั้งหมด กล้องหลัก 64MP F1.8 + เลนส์มุมกว้าง 120 องศา 8MP F2.2 (Ultra wide) ใช้งานเป็นเลนส์ มาโคร เพียง 2.5 ซม. และ จับระยะในตัว พร้อม Auto Focus + เลนส์ 2MP F 2.4 (กล้องขาวดำ) ถือว่าดีไซน์สวยงามและมีเอกลักษณ์ของตัวเองอย่างมาก จะคล้ายๆกับรุ่นพี่เลยทีเดียวและเลนส์หลักนั้นมีความใหญ่สวยงามชัดเจนมากๆครับ
SPEC
- Android 11 + FuntouchOS 11
- หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว ความละเอียด FHD+ อัตราส่วน 20:9 + HDR10 สูงสุด 600NITS
- CPU Snapdragon 720G 5G
- Qualcomm Adreno 620
- RAM 8GB (LPDDR4x)
- ความจุ 128GB (UFS 2.1) รองรับ MicroSD Card Triple Slot
- กล้องหลัก 64MP F1.8 + เลนส์มุมกว้าง 120 องศา 8MP F2.2 (Ultra wide) ใช้งานเป็นเลนส์ มาโคร เพียง 2.5 ซม. และ จับระยะในตัว พร้อม Auto Focus + เลนส์ 2MP F 2.4 (กล้องขาวดำ)
- กล้องหน้า 44MP F2.0 พร้อมระบบโฟกัส EYE AF
- พอร์ต USB-C
- รูหูฟัง 3.5 มม.
- WIFI 2.4GHz,5GHz
- 5G ความถี่ n41/n78/n1/n3/n77
- Bluetooth 5.0
- สแกนนิ้วบนหน้าจอ
- แบตเตอรี่ 4000 mAh รองรับชาร์จไว Vivo Flash Charge 2.0 33W
- ขนาด / น้ำหนัก : 158.82 x 74.2 x 7.38 มม. / 171 กรัม
PERFORMANCE
ประสิทธิภาพในรุ่นนี้ใช้งาน Snapdragon 720G 5 พร้อมกับ Storage UFS 128GB จัดเต็มด้วย RAM 8GB ส่วนทางด้านคะแนน UFS นั้นอ่านไปได้ที่ 801MB/s – เขียนไปได้ที่ 254 MB/s ส่วน DRL L3 ในแอป Netflix รองรับ SD นะครับ อาจจะเป็นเพราะ Android 11 และระบบยังปรับกันไม่เต็มที่ เพราะปกติ VIVO จะได้ L1 นะครับ ส่วนคะแนน Antutu ทำไปได้ 279507 คะแนนถือว่าตามระดับของ CPU และ Geekbench นั้นทำไปได้ 551/1656 คะแนน ถือว่าเป็นการอัพเกรดจากรุ่นเดิม 712 แล้วดีขึ้นแน่นอนและใช้งานลื่นไหลเล่นเกมได้ดีกว่าเดิมแบบรู้สึกได้จริงๆรุ่นก่อนนั้นเราบ่นว่าใช้งานตัวต่ำไปนิดแต่ในครั้งนี้ปรับมาใช้งาน 720G ตัวนี้แม้จะเป็นรุ่น V20 ครับ
[SR] รีวิว Vivo V20 ใช้งาน Snap 720G กล้องหน้าจัดเต็ม 44MP Eye Autofocus กล้องหลัง 64MP !
Vivo เป็นค่ายที่ทำมือถือหลายๆรุ่นออกมาเราจะเห็นการพัฒนาในหลายๆด้านของค่ายนี้ทั้งเรื่องเสียง งานออกแบบ แต่ที่เห็นชัดที่สุดคงหนีไม่พ้นเรื่องของกล้องครับ เราจะเห็นการพัฒนาขึ้นเยอะมากๆในสเปก เทคโนโลยี รวมถึงการถ่ายที่มีโหมดอะไรเข้ามาค่อนข้างหลากหลายมากขึ้น และในครั้งนี้ได้นำหน้าค่ายอื่นไปอีกเท่าตัวด้วยการใส่กล้องหน้าที่มีระบบ ออโต้โฟกัสในตัวพร้อมกับรองรับการโฟกัสดวงตาที่ล้ำหน้าค่ายอื่นจริงๆครับให้มาที่ 44MP แน่นๆเลยทีเดียว เมื่อเทียบกับราคานี้บอกเลยว่าโหดที่สุดในตอนนี้ ส่วนทางด้านฟีเจอร์การถ่ายนั้นยังคงจัดเต็มเช่นเดิม และในด้านหลังก็ไม่น้อยหน้าใส่มาให้ที่ 64MP และ ยังมาพร้อมกับเลนส์มุมกว้าง ที่มี ออโต้โฟกัสอีกเช่นกันที่ 8MP พร้อมถ่ายมาโครได้ 2.5 เซนติเมตรเท่านั้นถือว่าโหดอย่างมากในเรทราคานี้รวมถึง ชาร์จไว 33W ยังคงใส่เข้ามาให้ แต่ที่เด่นอีกเรื่องคืองานออกแบบที่เบา บาง และ ดีไซน์สวยหรูขึ้นแบบชัดเจน ฝาหลังเล่นสีสวยงามพร้อมวัสดุกระจกด้านทำให้ เป็นมือถือที่ลงตัวในหลายๆอย่างโดยเฉพาะกล้องหน้า และในรุ่นนี้มีการออกแบบไม่ต่างกับรุ่นพี่เลยทีเดียว
Vivo V20 เปิดตัวมาด้วยจุดเด่นๆคือ กล้องหน้าที่โหดที่สุดในบรรดามือถือเรทราคานี้ รวมถึงเด่นเกินหน้าเรือธงค่ายอื่นแบบชัดเจนครับ ทางด้านสเปกนั้นมาพร้อมกับ Snapdragon 720G และใช้งาน RAM 8GB LPDDR4X รวมถึง 128GB UFS 2.1 ครับ ทางด้านหน้าจอนั้นใช้งานหน้าจอแบบติ่งหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว ความละเอียด 2400 x 1080 20:9 มีอัตราส่วนที่ 91.2% รองรับการแสดงผลแบบ HDR10 และ ใช้งาน 3,000,000:1 Contrast Ratio รองรับความสว่างสุงสุด 600NITS อีกทั้ง ทางด้านกล้องหน้าให้มาที่ 2 ตัว 44MP รองรับ Eye Autofocus ถือว่าโหดมากๆ ส่วนทางด้านกล้องหลังให้มาแน่นๆที่ กล้องหลัก 64MP F1.8 + เลนส์มุมกว้าง 120 องศา 8MP F2.2 (Ultra wide) ใช้งานเป็นเลนส์ มาโคร เพียง 2.5 ซม. และ จับระยะในตัว พร้อม Auto Focus + เลนส์ 2MP F 2.4 (กล้องขาวดำ) และทางด้านแบตนั้นแอบน้อยลงนิดหน่อยให้มาที่ แบตเตอรี่ 4,000 mAh รองรับชาร์จไว Vivo Flash Charge 2.0 33W ครับ และยังคงใช้งาน USB-C และตัวเครื่องบางแค่ 7.38 มม.เท่านั้น และดีไซน์งานออกแบบพรีเมี่ยมเหมือนรุ่น Pro บางและเบาเช่นเดียวกันด้วยครับ
VIVO V20. เปิดตัวมาพร้อมกับ ราคา 11,999 บาท
สี MIDNIGHT JAZZ สีดำ // SUNSET MELODY ไล่สี // MOONLIGHT SONATA สีขาว
UNBOX
- ตัวเครื่อง VIVO V20
- เคสใส TPU
- ที่ชาร์จ VIVO FLASHCHARGE 2.0 33W
- สายชาร์จ USB-C
- หูฟัง In-Ear
- คู่มือ ที่จิ้มซิม
เคสถือว่ามีความหนาเหมือนกับรุ่นก่อนหน้าแต่ครั้งนี้ เหมือนจะทำวัสดุออกมาได้ดี ตัวขอบกินเข้ามาบนหน้าจอและมีความหนาสูงกว่าหน้าจอทำให้วางคว่ำได้สบาย ส่วนฝาหลังนั้นก็คลุมได้หมดครับรวมถึงตัวเลนส์กล้องนั้นก็ทำออกมาปิดได้ดีมีความหนาขึ้นมาปกป้องได้เวลาวางต่างๆใช้งานทั่วไป ส่วนตรงพอร์ตชาร์จไม่มีจุกปิดมาให้แล้วครับ และ เคสนั้นมีความนูนขึ้นมาปกป้องตัวเลนส์และหน้าจอขึ้นมาอีกครับ และ ทั้ง 4 มุมนั้นในด้านหน้าจะทำความสูงพิเศษขึ้นมาเพื่อที่จะปกป้องหน้าจอให้ดีขึ้นไปอีกเวลาตกหรือวางคว่ำครับ แต่ในแง่ของความสูงหรือหนาอาจจะไม่ได้สูงมากนักครับในรุ่นนี้ ตัวเคสภาพรวมปกป้องได้ดีแต่อาจจะไม่ได้หนามากนัก เวลาตกกระแทกแต่ก็ทำให้ไม่หนักมากเกินไป
จะเห็นว่าตัวเคสนั้นมีการปกป้องได้ดีพอสมควรในเรื่องเลนส์กล้องและหน้าจอ แต่อาจจะไม่ได้สูงหนาขึ้นมามากนักแต่ก็ถือว่าพ้นระยะเวลาวางคว่ำหรือใช้งานได้ดีพอสมควรเลยครับสำหรับเคสที่แถมมาให้ในกล่องรุ่นนี้ ขอบเครื่องมีการเพิ่มความหนาเข้ามาให้ทำให้เรื่องของการปกป้องเวลาตกอะไรทำได้ดีเลยแหละ ส่วนตัวพอร์ตมีจุกปิดกันฝุ่นมาให้
DESIGN
งานออกแบบในรุ่นนี้จะเป็นตัวที่ใช้งานสีที่เรียกว่าสี Midnight Jazz เป็นโทนสีเทาดำเล่นกับแสงได้สวยงามพร้อมกับใช้งานวัสดุกระจกด้าน AG Matte Glass เล่นกับแสงสวยงามมากครับ และจะสะท้อนออกมาเนียนๆนุ่มๆนิดหน่อยเป็นโทนสี สีดำลึกลับ และในด้านหน้าขอบจอที่มาพร้อมความโค้ง 2.5D ความหนาเพียง 7.39 มม. น้ำหนัก170กรัม ถือว่าเป็นรุ่นที่บางมากๆ และ ด้านหน้านั้นเป็นหน้าจอแบบติ่งตรงกลางพร้อมกล้องหน้ารวมถึงในด้านหลังนั้นเป็นดีไซน์แบบใหม่ที่เป็นเอกลักษณ์ของทางค่ายนี้เป็นเลนส์หลักขนาดใหญ่และเล่นกับขอบสีกล้องสวยงาม
หน้าจอนั้นแอบเสียดายไม่ใช่หน้าจอเจาะรูแล้วแต่ก็อาจจะเป็นข้อจำกัดในการใส่กล้องหน้าที่มี Eye Autofocus เข้ามาให้นั้นเองเลยทำให้ต้องมีพื้นที่พอสมควรครับ ส่วนทางด้านหน้าจอนั้นจะเป็นหน้าจอ หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว ความละเอียด FHD+ อัตราส่วน 20:9 + HDR10 สูงสุด 600NITS ถือว่าสวย คุณภาพ งามเช่นเดิม
ขอบหน้าจอด้านบนนั้นกลับมาใช้งานดีไซน์แบบติ่งหน้าจอพร้อมกับ แทรกลำโพงไว้ขอบบนรวมถึง กล้องหน้า 44MP F2.0 พร้อมระบบโฟกัส EYE AF อาจจะดูย้อนยุคไปนิดๆในส่วนนี้แอบเสียดายแต่ติ่งจะเล็กกว่ารุ่นพี่อยู่เหมือนกัน
ส่วนขอบด้านล่างนั้นถือว่าทำได้บางพอสมควรเมื่อเทียบกับราคาตัวนี้ครับ พร้อมกับปุ่มควบคุมแบบพื้นฐาน หรือจะใช้งานควบคุมแบบเต็มหน้าจอได้ทั้งหมดเลยถือว่ารองรับได้สบายๆและดีไซน์ขอบหน้าจอข้างๆก็บางพอสมควรเลยครับ
ถาดซิมอยู่ในด้านท้ายเครื่องพร้อมกับ มี ไมค์ตัดเสียง รับเสียงมาให้และใช้งาน USB-C พร้อมกับ รู 3.5 มม. ยังคงมีมาให้ไม่ได้ตัดออกไปแบบรุ่น Pro ครับ ส่วนลำโพงหลักนั้นใส่เข้ามาให้เช่นกันเป็นลำโพงตัวเดียวนะครับในรุ่นนี้
ในด้านขวาของตัวเครื่องนั้นจะเห็นว่ามีปุ่ม เพิ่ม-ลดเสียงสำหรับการใช้งาน และปุ่ม Power สำหรับการเปิดปิดเครื่องที่มีการเล่น Texture สวยงามและกดได้ง่ายมีความรู้สึกแตกต่างกับปุ่มทั่วไปอยู่พอสมควรเลยครับในด้านขวาข้างนี้
ตัวขอบด้านบนนั้นเราจะเห็นไมค์ รับเสียง ตัดเสียงมาให้ด้วย รวมถึงกล้องหลังก็ไม่ได้นูนเยอะแบบที่คิดไว้ครับส่วนนี้
ขอบเครื่องด้านซ้ายนั้นเราจะเห็นว่ามีความสมมาตรพอสมควรครับและฝาหลังนั้นเรียบเป็นแนวระนาบทั้งหมดเลยพร้อมกับขอบเครื่องที่มีการเล่นกับโครมเมี่ยมเงาสวยงามทำให้ดูตัดกับฝาหลังแบบด้านได้สวยและดูพรีเมี่ยมอย่างมากครับ และถาดซิมนั้นเป็นแบบ Triple Slot รองรับการใช้งานได้เต็มที่เลย เพิ่มความจุได้ด้วยเช่นกันครับ
ฝาหลังในรุ่นนี้ถือว่าเปลี่ยนแปลงจากรุ่นก่อนหน้าแบบชัดเจน นอกเหนือจากวัสดุแล้วที่เห็นการเปลี่ยนแปลงชัดๆนั้นคงหนีไม่พ้นกับตัวกล้อง และการวางที่แปลกใหม่และดีไซน์สวยแบบรุ่นพี่ V20 Pro เลยนั้นเอง อีกทั้งวัสดุฝาหลังนั้นเป็นแบบด้าน เล่นแสงสีสวยงาม โดยใช้งานวัสดุ AG Matte Glass เพิ่มความสวยงาม หรูหรา ให้กับตัวเครื่อง พร้อมทั้งให้คุณสัมผัสถึงความเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น ด้วยพื้นผิวที่ทนทานต่อรอยขีดข่วน อีกทั้งเทคโนโลยี AF ที่ช่วยป้องกันโทรศัพท์ของคุณจากรอยนิ้วมือถือว่าเป็นฝาหลังที่สวยและโดดเด่นอย่างมากแม้จะเป็นสีดำก็ตามแต่ดูสวยเอาเรื่อง
กล้องหลังถูกจัดวางอย่างระเบียบเป็นชั้นบางๆวางเลเยอร์สเต็ปขั้นแรกเป็นสีดำคลาสสิกที่บรรจุตัวกล้องไว้ ขั้นที่สองคือฐานกรอบตกแต่งโดยรอบที่มีสีกลมกลืนกับฝาครอบ ขั้นที่สามคือฝาหลังที่ใช้ครอบทั้งหมด กล้องหลัก 64MP F1.8 + เลนส์มุมกว้าง 120 องศา 8MP F2.2 (Ultra wide) ใช้งานเป็นเลนส์ มาโคร เพียง 2.5 ซม. และ จับระยะในตัว พร้อม Auto Focus + เลนส์ 2MP F 2.4 (กล้องขาวดำ) ถือว่าดีไซน์สวยงามและมีเอกลักษณ์ของตัวเองอย่างมาก จะคล้ายๆกับรุ่นพี่เลยทีเดียวและเลนส์หลักนั้นมีความใหญ่สวยงามชัดเจนมากๆครับ
SPEC
- Android 11 + FuntouchOS 11
- หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว ความละเอียด FHD+ อัตราส่วน 20:9 + HDR10 สูงสุด 600NITS
- CPU Snapdragon 720G 5G
- Qualcomm Adreno 620
- RAM 8GB (LPDDR4x)
- ความจุ 128GB (UFS 2.1) รองรับ MicroSD Card Triple Slot
- กล้องหลัก 64MP F1.8 + เลนส์มุมกว้าง 120 องศา 8MP F2.2 (Ultra wide) ใช้งานเป็นเลนส์ มาโคร เพียง 2.5 ซม. และ จับระยะในตัว พร้อม Auto Focus + เลนส์ 2MP F 2.4 (กล้องขาวดำ)
- กล้องหน้า 44MP F2.0 พร้อมระบบโฟกัส EYE AF
- พอร์ต USB-C
- รูหูฟัง 3.5 มม.
- WIFI 2.4GHz,5GHz
- 5G ความถี่ n41/n78/n1/n3/n77
- Bluetooth 5.0
- สแกนนิ้วบนหน้าจอ
- แบตเตอรี่ 4000 mAh รองรับชาร์จไว Vivo Flash Charge 2.0 33W
- ขนาด / น้ำหนัก : 158.82 x 74.2 x 7.38 มม. / 171 กรัม
PERFORMANCE
ประสิทธิภาพในรุ่นนี้ใช้งาน Snapdragon 720G 5 พร้อมกับ Storage UFS 128GB จัดเต็มด้วย RAM 8GB ส่วนทางด้านคะแนน UFS นั้นอ่านไปได้ที่ 801MB/s – เขียนไปได้ที่ 254 MB/s ส่วน DRL L3 ในแอป Netflix รองรับ SD นะครับ อาจจะเป็นเพราะ Android 11 และระบบยังปรับกันไม่เต็มที่ เพราะปกติ VIVO จะได้ L1 นะครับ ส่วนคะแนน Antutu ทำไปได้ 279507 คะแนนถือว่าตามระดับของ CPU และ Geekbench นั้นทำไปได้ 551/1656 คะแนน ถือว่าเป็นการอัพเกรดจากรุ่นเดิม 712 แล้วดีขึ้นแน่นอนและใช้งานลื่นไหลเล่นเกมได้ดีกว่าเดิมแบบรู้สึกได้จริงๆรุ่นก่อนนั้นเราบ่นว่าใช้งานตัวต่ำไปนิดแต่ในครั้งนี้ปรับมาใช้งาน 720G ตัวนี้แม้จะเป็นรุ่น V20 ครับ
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้