[SR] รีวิว VIVO Y31 จัดเต็มถ่ายสนุกด้วยกล้องหลัง 48MP Snapdragon 662 พร้อม แบต 5,000 mAh !



VIVO เริ่มต้นปีด้วยการลุยตลาดมือถือตระกูล Y ที่เป็นตระกูลสายคุ้มและในครั้งนี้เปิดตัวมาด้วยการเปลี่ยนแปลงอะไรหลายๆอย่างรวมถึงงานออกแบบด้วยเช่นกัน ในรุ่นนี้เปลี่ยนงานออกแบบใหม่ทั้งหมด การวางกล้องหลังแบบใหม่รวมถึง สเปกหลายๆอย่างนั้นก็พัฒนาขึ้นจากตัว Y30 ก่อนหน้านี้ครับ กล้องหลังปรับมาใช้งาน 3 ตัวพร้อมความละเอียด 48MP เลนส์หลักคุณภาพสูง แต่น่าเสียดายเลนส์มุมกว้างไม่มีให้ใช้งานครับ ส่วนงานออกแบบสแกนนิ้วย้ายมาขอบเครื่องและ มาพร้อมกับ Snapdragon 662 รวมถึงใช้งานแบต 5,000 mAh พร้อมกับชาร์จ 18W รวมถึงหน้าจอ FHD+ แบบติ่งหยดน้ำ และมีความสวยงามคมชัดมากขึ้น อีกทั้งดีไซน์ฝาหลังแบบใหม่ด้วยเช่นกัน







VIVO Y31 นั้นมาพร้อมกับการใช้งาน Snapdragon 662 พร้อมกับ RAM 8GB และ STORAGE 128GB และใช้งานหน้าจอ แบบ Halo FullView ขนาด 6.58 นิ้ว ความละเอียดหน้าจอ FHD+ (2408×1080) มาตรฐานสี P3 Color Gamut พร้อมกับดีไซน์ฝาหลังแบบใหม่ รวมถึงการวางกล้องแบบใหม่เช่นกัน กล้องหลัง 3 ตัวมาพร้อมกับตัวเลนส์หลัก 48MP f1.79  และ มาโคร 2MP f2.4 จับระยะ 2MP f2.4 นั้นเอง รองรับการถ่ายโหมดกลางคืน และ Portrait  ส่วนทางด้านกล้องหน้ามาพร้อมกับ 8MP f1.8 พร้อมรองรับการถ่ายละลายหลัง ส่วนทางด้านระบบเสียงนั้นถือว่าทำได้ดี  สามารถเพิ่มระดับเสียงในการฟังเพลง เสียงเรียกเข้า รับชมวิดีโอหรือภาพยนต์อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเพิ่มเสียงได้สูงสุดถึง 73dB และเอฟฟเฟกต์เสียง Super Audio ที่เป็นเอกลักษณ์ของ vivo มอบประสบการณ์การรับชมทั้งภาพและเสียงที่ดียิ่งขึ้น นั้นเองถือว่าเสียงจะเน้นความดัง ฟังชัดมากว่าเดิมครับ ส่วน ทางด้านความจุแบตนั้นมาพร้อมกับ 5,000 mAh รองรับการชาร์จไวสูงสุด 18W และเป็น USB-C แล้วนะ  และใช้งาน Android 11 พร้อม Funtouch OS11 รวมถึง หน้าตาอะไรนั้นได้มีการเปลี่ยนแปลงจากเดิมเช่นกัน





VIVO Y31 เปิดตัวในไทยมาพร้อมกับ สเปก SDM 662 RAM 8GB STORAGE 128GB มาพร้อมกับสี ดำ Racing Black และ Ocean Blue ในราคา 7,499 บาทไทยครับ 





UNBOX

- ตัวเครื่อง VIVO Y31
- เคสใส TPU
- ที่ชาร์จ 9V / 2A. 18W
- สายชาร์จ USB-C
- หูฟัง VIVO EARBUD
- คู่มือ ที่จิ้มซิม







เคสที่เเถมมาในรุ่นนี้ยังคงเป็นเคสใสเหมือนกับในรุ่นก่อนๆ มีความหนาอยู่พอประมาณ ป้องกันการกระเเทกได้ดีในระดับนึง ตัวขอบของเคสกินเข้ามาบนหน้าจอ และมีความหนาสูงกว่าหน้าจอทำให้วางคว่ำได้อย่างๆสบาย ส่วนฝาหลังนั้นก็คลุมได้หมดครับ รวมถึงตัวเลนส์กล้องนั้นก็ทำออกมาปิดได้ดีมีความหนาขึ้นมาปกป้องได้เวลาวางต่างๆใช้งานทั่วไป ส่วนตรงพอร์ตชาร์จยังคงมีจุกปิดมาให้เหมือนเดิมตามเเบบฉบับของ VIVO ที่เเถมมาเหมือนกับในรุ่นก่อนๆ ตัวเคสนั้นมีความนูนขึ้นมาปกป้องตัวเลนส์และหน้าจอขึ้นมาอีกครับ และ ทั้ง 4 มุมนั้นในด้านหน้าจะทำความสูงพิเศษขึ้นมาเพื่อที่จะปกป้องหน้าจอให้ดีขึ้นไปอีกเวลาตกหรือวางคว่ำ แต่ในแง่ของความสูงหรือหนาอาจจะไม่ได้สูงมากนักครับในรุ่นนี้ ตัวเคสภาพรวมปกป้องได้ดีแต่อาจจะไม่ได้หนามากนัก เวลาตกก็สามารถกระแทกได้ในระดับนึง แบบไม่หนักมากนะครับ ก็ยังพอปกป้องตัวเครื่อง เลนส์กล้อง หน้าจอได้อยู่บ้างเวลาใช้งานวางคว่ำทั่วไปพวกนี้ครับ



DESIGN

งานออกแบบตระกูล Y ในรอบนี้ได้รับงานออกแบบจากรุ่นพี่มาเต็มๆเปลี่ยนทั้งเรื่องของกล้อง เส้นสายบริเวณกล้องและฝาหลังเช่นกันครับกล้องหลังในรอบนี้มาพร้อม 3 ตัวและเลนส์หลักนั้นจะเป็นตัวใหญ่ที่สุดค่อนข้างโดดเด่นและมีความหรูหรามากขึ้น การวางกล้องแบบนี้คุ้นตากันดีในรุ่น V Series ครับถือว่าได้รับอิทธิพลมาเยอะมากๆ ส่วนวัสดุงานออกแบบนั้นเป็นพลาสติกแต่เล่นแสงเงาสวยงาม และการย้ายสแกนนิ้วไปไว้ด้านข้างให้ฝาหลังสวยเรียบมากขึ้น



หน้าจอมาพร้อมกับงานออกแบบใหม่เป็นหน้าจอ แบบ Halo FullView™ ขนาดหน้าจอ 6.58 นิ้ว ความละเอียดหน้าจอ FHD+ (2408×1080) มาตรฐานสี P3 Color Gamut เป็นหน้าจอแบบ IPS LCD นะครับตัวนี้



หน้าจอขอบด้านบนเราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงจากหน้าจอเจาะรูด้านมุมซ้าย เป็นหน้าจอแบบติ่งตรงกลาง พร้อมกับกล้องหน้า 8MP F1.8 แต่จะได้หน้าจอแบบ FHD+ แทนครับถือว่าเป็นจุดที่พัฒนาขึ้นจากรุ่นก่อนชัดเจนมากๆ



ส่วนขอบหน้าจอส่วนล่างนั้นจะมีความใกล้เคียงของเดิม พร้อมกับปุ่มควบคุมในหน้าจอทั้ง 3 ปุ่ม และปรับแต่งได้ แน่นอนว่ามาพร้อมกับฟิล์มกันรอยหน้าจอติดตั้งมาให้เรียบร้อยครับ



ขอบเครื่องในด้านขวานั้นเราจะเห็นปุ่ม Power พร้อมการรองรับสแกนนิ้วในตัว และปุ่ม เพิ่ม ลด เสียงในด้านบน ขอบเครื่องจะเห็นว่ามีความบางพอสมควร และฝาหลังนั้นมีความโค้งเข้ามาถึงขอบข้างเยอะมากกว่าตัวก่อนหน้าครับ



ขอบเครื่องส่วนล่างนั้นจะเป็นที่อยู่ของลำโพงหลักในด้านซ้าย และ รู USB-C พร้อมกับ ไมค์ และ รู 3.5 มม. จะเห็นว่าขอบเครื่องค่อนข้างโค้งทำให้ซ้าย และ ขวานั้นสามารถรับกับมือเวลาถือได้ดีมากกว่าแบบเหลี่ยมทั่วไป





ขอบเครื่องส่วนบนนั้นเราจะเห็นว่าถาดซิมนั้นอยู่ข้างบนพร้อมกับการรองรับ Triple Slot และ จะเห็นว่ามีซีลกันน้ำใส่เข้ามาให้ถือว่าดีพอสมควรเลยแหละ และ ยังคงใส่ไมค์ตัวที่ 2 พร้อมการรองรับการตัดเสียงด้วยเช่นกันครับตัวไมค์



ขอบเครื่องในด้านซ้ายถือว่ามีความเรียบมากๆไม่มีส่วนปุ่มอะไรใส่เข้ามาและขอบฝาหลังโค้งลงมากินพื้นที่ขอบข้างเยอะมากขึ้นทำให้ตัวขอบเครื่องที่เป็นวัสดุด้านนั้นมีความบางมากกว่าเดิม เป็นการออกแบบทำให้ดูบางเบามากขึ้น



กล้องหลังเป็นจุดที่เปลี่ยนแปลงชัดเจน การวางเลนส์กล้อง การออกแบบทั้งหมดนั้นจะอิงไปยังรุ่น X50 เลยทั้งตัวเลนส์หลักด้านบนสุดขนาดใหญ่พร้อมกับเลนส์ มาโคร และ เลนส์จับระยะด้านล่างครับ และงานออกแบบไฟแฟลซ ด้านล่างสุดพร้อมกับการเขียนระยะเลนส์ไว้ด้านล่าง เล่นลวดลายแตกต่างกันนิดหน่อย แต่ทั้งหมดจะคลุมไปด้วยกระจกเลนส์อีกชั้นนึง ส่วนสเปกกล้องหลังนั้นมาพร้อมกับ 48MP F1.79 ที่พัฒนาจากเดิม ทั้ง MP และ รูรับแสงรวมถึงตัวคุณภาพ ส่วนทางด้านเลนส์รองนั้นจะเป็น มาโคร 2MP F2.4 และ เลนส์จับระยะ 2MP F2.4 เช่นกัน แต่น่าเสียดายเลนส์มุมกว้างนั้นได้ถูกเอาออกไปครับ แต่จะได้เลนส์หลักที่มีคุณภาพมากกว่าเดิมหลายเท่าตัวขึ้นมาจาก 13MP ไปยัง 48MP



ฝาหลังในรุ่นนี้จะเป็นสีดำเล่นกับแสงเงาได้สวยงามและจะออกโทนน้ำเงินในส่วนขอบเครื่องด้านบนครับแต่แน่นอนว่าจะเล่นกับแสงได้ยากนิดหน่อยเพราะว่ามันสะท้อนเงาได้เยอะมากๆ และแม้จะเป็นวัสดุพลาสติกก็ตามแต่ทำเรื่องของคุณภาพการทนรอยขีดข่วนอะไรได้เยอะมากกว่าเดิมอีกทั้งดีไซน์ส่วนกล้องทำให้มีความหรูหรามากกว่า Y รุ่นก่อนๆ



SPEC

- Android 11 + Funtouch OS 11
- หน้าจอ IPS LCD 6.58 นิ้ว ความละเอียดหน้าจอ FHD+ (2408×1080) มาตรฐานสี P3 Color Gamut
- CPU Snapdragon 662
- RAM 8 GB
- ความจุ 128 GB รองรับ Micro SD Card Triple Slot
- กล้องหลัก 48 MP f1.79 + สำหรับถ่ายมาโคร 2 MP F2.4 (Macro) + และเลนส์ 2MP F 2.4 (กล้องจับความลึก)
- กล้องหน้า 8 MP f1.8
- พอร์ต USB-C
- WIFI 2.4GHz,5GHz
- Bluetooth 5.0
- สแกนนิ้วด้านข้างตัวเครื่อง
- แบตเตอรี่ 5,000 mAh รองรับการชาร์จไว 18W
- ขนาด / น้ำหนัก 163.86×75.32×8.38 มม





PERFORMANCE

ประสิทธิภาพในรุ่นนี้ใช้งาน Snapdragon 662 พร้อมกับ Storage UFS 128 GB จัดเต็มด้วย RAM 8 GB ที่มากกว่าเดิมเท่านึงเลยครับ และ ประสิทธิภาพทำได้ดีขึ้นมากด้วย การอ่านเขียนไวขึ้น จากรุ่นก่อน 200 มารุ่นนี้ 490 เลยทีเดียวครับ ส่วนทางด้านคะแนน UFS นั้นอ่านไปได้ที่ 490  MB/s – เขียนไปได้ที่ 218 MB/s ส่วน DRL L1 ในแอป Netflix รองรับการดู Netflix HD นะครับจัดเต็มสบายๆ ส่วนคะแนน Antutu ทำไปได้ 190562 คะแนน และทางด้าน Geekbench นั้นทำไปได้ 315 และ 1408 คะแนนครับถือว่าประสิทธิภาพดีกว่า Y30 เยอะ



SYSTEM UI

ทางด้านหน้าตาระบบอะไรนั้นใช้ Funtouch OS 11 บนตัว Android 11 แล้วบอกเลยว่ามีการเปลี่ยนแปลงอะไรหลายๆอย่างครับทั้งหน้าตาการตั้งค่า Quick Setting มันไปอยู่ตำแหน่งที่ควรจะเป็นแล้วในด้านบนแน่นอนว่าหากเทียบกับ OS 10 ก่อนหน้าถือว่ามีหลายๆจุดต่างที่หน้าตั้งค่าตามที่แจ้งไปและฟีเจอร์ตามระบบ 11 นั้นเองครับ



การดูการแจ้งเตือนนั้นสามารถลากลงมาได้เหมือนรุ่นอื่นๆ ส่วนการตั้งค่าหลังจากรุ่นก่อนๆค่ายนี้จะเป็นการปัดขึ้นมาจากด้านล่าง แต่ครั้งนี้เลื่อนลงมาจากด้านบนแบบรุ่นอื่นๆแล้วเหมือนคนอื่นซะทีครับถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนหลักๆ ส่วนการแบ่งหน้าจออะไรสามารถทำได้สบายๆ และหน้าตามีการเปลี่ยนแปลงจากตอน OS10 อยู่พอสมควรเลยแหละครับ



Storage 128GB จะว่างให้ใช้งาน 110 โดยประมาณ และในส่วนของ RAM 8 GB นั้นใช้งานไป 3.8 GB ถือว่าน้อยพอสมควรเลยตัวระบบของมัน และทางด้านคีย์บอร์ดนั้นใช้งาน Google G Board นั้นเองครับเป็นมาตรฐาน



อีกส่วนที่น่าสนใจของแบรนด์นี้ถือว่าเป็นการปรับแต่งที่หลากหลายมากๆในการใช้งานครับทั้งตัว Animation เปลี่ยนได้หลากหลายมากๆครับทั้ง หน้าตาตอนชาร์จ แต่รุ่นนี้จะเปลี่ยนได้แค่ 2 ส่วนหลักๆตามภาพครับ แอบน้อยกว่าตัวอื่นๆอยู่เหมือนกัน ส่วนหน้าจอนั้นสามารถใช้งานโหมดมืดหรือถนอมสายตาได้เป็นปกติแต่น่าเสียดายยังคงเป็น 60Hz

ชื่อสินค้า:   vivo y31
คะแนน:     

SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - ได้รับสินค้ามาใช้รีวิวฟรี โดยต้องคืนสินค้าให้เจ้าของสินค้า
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่