ขออนุญาตรีวิวการฉีดฟิลเลอร์ของ คุณหมอท่านหนึ่ง
ตั้งแต่ที่เคยฉีดฟิลเลอร์มา ไม่เคยเจอเหตุการณ์อะไรแบบนี้เลยค่ะ

เมื่อวาน 2/11/63 นัดคลินิกฉีดฟิลเลอร์ ที่มาทำแห่งนี้เพราะปกติเป็นลูกค้าเลเซอร์ขนประจำที่นี่ แล้วแอดมินก็เคยให้ดูรูปเคสฟิลเลอร์ใต้ตาของหมอท่านนี้ ก็รู้สึกว่าใช้ได้นะ

ก่อนฉีดแอดมินเข้ามาถ่ายรูปbeforeหวังจะไปรีวิว พอถ่ายรูปเสร็จ ผู้ช่วยหมอนำก้อนสแตนเลสแช่แข็งมาประคบเย็นจัดที่ใต้ตาข้างขวา(ฉีดฝั่งแรก)แล้วหมอก็ลงมือ ฉีดไปที่ใต้ตาข้างขวา รู้สึกว่าหมอแทงเข็มได้ชิดขอบตาล่างตามากๆความรู้สึกคือใต้ตาล่างโดนดันขึ้นมาหลายรอบมาก จนรู้สึกหวาดเสียวเพราะรู้สึกว่ามันชิดขอบตาล่างเลยค่ะ

หลังจากฉีดข้างขวาเสร็จ หมอก็เรียกแอดมินเข้ามาถ่ายรูป ตอนนั้นเห็นหน้าแอดมินคือหน้าเสียปนตกใจ เราก็คิดอยู่ในใจว่าตายแน่ๆใต้ตาเรา แอดมินก็เข้ามาถ่ายรูปด้านขวาที่ทำเสร็จ หมออธิบายกับแอดมินแต่ยังไม่ให้เราดูกระจกอีก เหมือนกับหมอพยายามปกปิดว่าตัวเองฉีดฟิลเลอร์เป็นลำใต้ตา เรียกได้ว่าฉีดไม่ชำนาญและพลาด หมอจึงนำกระจกออกไปจากมือผู้ช่วยไม่ให้เราดู จนเราต้องขอดูกระจกเองค่ะ

ตกใจมาก ทันทีที่เห็นหน้าตัวเอง ใต้ตาขวาขึ้นเป็นลำฟิลเลอร์ ตอนนั้นทำอะไรไม่ถูก รู้อย่างเดียวว่า พลาดมาก เลยบอกแอดมินและหมอไปว่าเคยไปฉีดอีกที่ คลินิกอื่น ไม่เป็นก้อนแบบนี้นะ หมอบอกว่ามันแค่บวมเฉยๆ เดี๋ยวจะให้ผู้ช่วยประคบเย็นให้แล้วจะดีขึ้น เราก็ต้องยอมไป ณ จุดนั้น นั้นเพราะเหลือข้างซ้ายยังไม่ได้ฉีด ถ้าเราไม่ฉีดต่อก็เท่ากับว่า ใต้ตาเราจะน่าเกลียดมากไม่เท่ากัน และฟิลเลอร์หลอดนั้นเราต้องเสียเงินไปฟรีๆ

เราเครียดมาก จนเริ่มออกสีหน้า หลังจากที่เห็นฟิลเลอร์ข้างขวา หมอก็เหมือนจะไม่พอใจเรา สวนเข็มแทงเข็มใต้ตาด้านซ้ายแรงมาก จนเรารู้สึกว่าหมอเหมือนควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ และพยายามคลึงแรงมากที่ด้านขวาไปด้วยจนเจ็บใต้ตามาก หมอฉีดด้านซ้ายให้น้อยกว่าด้านขวา คงกลัวพลาดอีก

ด้านซ้ายหมอแทงเข็มตรงแก้ม บริเวณหางตา ที่ไม่ใกล้ขอบตาล่าง แต่ด้านขวานั้นหมอแทงเข็มที่แก้มตรงบริเวณกลางตา ใกล้กับขอบตาล่าง 2ข้างหมอลงเข็มตำแหน่งต่างกันมากๆค่ะ

เราจำได้ว่าหมออีกคลินิกเขาฉีดตรงแก้มบริเวณหางตาและห่างจากเปลือกตาล่างมาก ระหว่างฉีดค่อยๆปั้นฟิลเลอร์ขึ้นไปชิดใต้ตา ต่างจากหมอคนนี้ที่ลงเข็มใกล้บริเวณเปลือกตาล่างเลยค่ะ

หลังจากฉีดเสร็จทั้งสองข้าง ผู้ช่วยก็เอาก้อนสแตนเลสแช่แข็งประคบจนแสบผิวใต้ตา เลยบอกให้เปลี่ยนเป็นเจลเย็นแทน คือเรารู้สึกว่าผู้ช่วยหมอและหมอนั้น ไม่ได้มีความทะนุถนอมใต้ตาของลูกค้าเลยค่ะ

เราถามย้ำไปว่าหมอคนนี้มีเคสฟิลเลอร์เยอะไหม แอดมินและผู้ช่วยก็บอกว่ามีเยอะ แล้วก็ถามไปว่าถ้าชำนาญทำไมจึงทำใต้ตาเราเป็นก้อน แอดมินก็ตอบว่าเป็นเทคนิคของคุณหมอ เราจึงถามไปอีกว่าเทคนิคนี้เรียกว่าอะไร แอดมินไม่สามารถตอบเราได้ค่ะ

หลังจากนั้นแอดมินก็มาเคลียร์ค่าใช้จ่ายกับเรา ฟิลเลอร์ restylane 1 ซีซี ราคา 11,000 บาท เท่ากับคลินิกแห่งหนึ่งที่เราเคยไปทำ (แอดมินบอกว่าขอส่วนลดให้เพราะราคาปกติ 18,000 บาท เรานึกในใจถ้าราคานี้เราสามารถไปฉีดกับจักษุแพทย์ดังๆได้เลยค่ะ)

จะบอกให้เป็นอุทาหรณ์กับใครที่คิดจะไปฉีดฟิลเลอร์ จริงๆแล้วเราตัดสินที่ราคาอย่างเดียวไม่ได้ ต้องเช็คความชำนาญของหมอด้วย ของแพงแต่ถ้าหมอฉีดให้ไม่ดีก็พังนะคะ

ฟิลเลอร์เล่อร์ราคาแพงๆก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าเป็นของแท้ ถ้าหากหมอไม่ได้แกะออกจากกล่องให้ดูและให้กล่องเรากลับมา จะบอกว่าคลินิกที่นี่ไม่ได้ให้กล่องกลับมาแล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าหมอแกะจากกล่องRestylaneจริงหรือเปล่าต่างจากอีกคลินิกหนึ่งที่ให้กล่องฟิลเลอร์เรามาเก็บไว้ ถ้าเป็นคลินิกเถื่อนเราคิดว่าสอดไส้แน่นอน โชว์ของแท้แต่จริงๆแล้วใช้ของอีกเกรดหนึ่ง นี่เราก็เริ่มไม่แน่ใจคลินิกนี้เหมือนกันค่ะ

เราเช็คชื่อนามสกุลหมอในแพทย์สภา ขึ้นว่าเป็นผู้ประกอบวิชาชีพปี 2562 เราคิดว่าน่าจะเป็นหมอใหม่มากๆ แล้วคงไปเข้าคอร์สฉีดฟิลเลอร์ระยะสั้นๆ

หลังจากผ่านไป 5 ชั่วโมง แอดมินได้โทรมาหาเรา บอกกับเราว่าจะให้ไปฉีดสลายฟิลเลอร์กับหมออีกคนหนึ่ง เราก็ตอบตกลงไป แต่เราก็กลัวเพราะเราไม่มั่นใจหมอทุกคนในคลินิกนั้นอีกแล้ว ถามแอดมินว่ามันคือฟิลเล่อร์แท้ฉีดสลายได้ใช่ไหม เพราะเราก็เริ่มไม่มั่นใจแอดมินเหมือนกันที่โชว์รูปเคสฟิลเลอร์ของคุณหมอคนนี้ให้เราดู แบบว่าฉีดมาแล้วไม่ตรงปกรีวิวเลย แอดมินก็บอกว่ากำลังคุยกับหมอเจ้าของคลินิกว่าจะรับผิดชอบเรายังไงค่ะ

ตอนนี้เราก็ได้แต่ภาวนาว่าฟิลเล่อร์ที่อยู่ใต้ตาเรานั้นจะเป็นของแท้ ที่สามารถฉีดสลายได้โดยไม่ต้องขูดออกค่ะ

สามารถให้คำแนะนำเราได้นะคะว่าควรจะไปฉีดสลายฟิลเลอร์ที่คลินิกนั้นอีกไหมหรือไปคลีนิกของจักษุแพทย์โดยตรงเลยดีไหม เครียดมากๆค่ะ

ต้องการรูปและข้อมูลหลังไมค์มาได้นะคะ