
ครเป็นสาวกของทั้งสามแบรนด์นี้ต้องไม่พลาด ราคาไม่แพง แถมหาซื้อได้ง่ายมากด้วยความอยากรู้ว่าแบรนด์ไหนใช้ดีกว่ากันยังไง เราเลยเอารีวิวเปรียบเทียบมาแชร์กันค่ะ
มาที่ตัวแรกกัน Vaseline Dry Serum Ultra

ตัวนี้เป็นเซรั่ม ช่วยปกป้องรักแร้ได้ยาวนานได้ถึง 48 ชม. ปราศจากแอลกอฮอลล์และพาราเบน ตัวนี้ยกให้เรื่องความขาวกระจ่างใสเลย ขาวขึ้นจริงใน 1 สัปดาห์ เนียนไบรท์จริงๆ

หลังจากที่ได้ลองใช้แล้ว รู้สึกได้ถึงความขาวขึ้น รอยดำคล้ำจางลง แห้งเร็วหลังทา และกลิ่นหอมอ่อนละมุนๆ
เนื้อสัมผัสนุ่ม เกลี่ยง่าย แต่ไม่เหนอะหนะ
เวลาเหงื่อออก กลิ่นหอมนานดีนะ เวลาขยับตัวจะได้กลิ่นหอมจากเซรั่มเลย
มาต่อกันตัวต่อไปกันเลย Rexona Dry serum Shower clean

สำหรับ Rexona ยกให้เรื่องความแห้งเร็วอีกตัว
แต่จะเน้นเป็นพิเศษในเรื่องของการคุมเหงื่อได้นาน48ชั่วโมง
ปราศจากแอลกอฮอลล์ กลิ่นหอมแบบสะอาด
ใครที่ชอบมีกลิ่นตัว หรือเหงื่อใต้วงแขนเยอะๆ ต้องตัวนี้เลยค่ะ

ตัวสุดท้ายเป็น Nivea Whitening Deep Serum

ตัวนี้เป็นเซรั่มเหมือนกัน แต่มาในรูปแบบของเหลว เป็นเนื้อใสๆไม่มีสี
กลิ่นหอมละมุน
แต่เสียดายเรื่องความแห้งช้าไปนิดนึง เพราะแห้งช้ามากพอเทียบกับตัวที่เป็น เซรั่ม แบรนด์อื่นๆ
แถมระหว่างวันมีความเหนียว เหนอะๆ กว่าตัวอื่น
สูตรนี้จะเน้นเรื่องผิวดูแลผิวหนังไก่ ฉะนั้นถ้าเรื่องความขาวกระจ่างใส อาจจะสู้วาสลีนไม่ได้เท่าไหร่

เราจะมาทดสอบเรื่องความแห้งไว ซึ่งเป็นอีกอย่างที่สาวๆอย่างเราคำนึงเนี่ย
เราก็มีเทสท์มาให้ด้วยว่า หลังจากการทดสอบทั้ง 3 ยี่ห้อ หลังทาเสร็จภายใน 30 วินาที จะเป็นยังไงบ้าง

เอาจริงงง จะเห็นได้ว่า Nivea จะแห้งช้ากว่า rexona และ Vaseline
วาสลีนคือแห้งไวมากจริง กระดาษไม่เปลี่ยนไปเลย
ส่วนเรื่องของความเหนอะหนะ จากการโปรยกระดาษ
วาสลีน กับ Rexona มีความสูสีกัน แต่ Nivea คือติดเยอะมาก
แปลว่ามีความแห้งช้ากว่าอีก 2 แบรนด์นะคะ

สำหรับมาย ส่วนตัว ชอบ Vaseline ที่สุด เพราะนอกจากเรื่องของการแห้งไว้แล้ว
ยังได้ในเรื่องของความขาว ผิวเรียบเนียนขึ้น กลิ่นหอมละมุน
ชนะอีกสองแบรนด์ไปเลยจ้า
[CR] เปรียบเทียบ แบรนด์ดูแลรักแร้ชื่อดัง! ใครชนะ!!!
ครเป็นสาวกของทั้งสามแบรนด์นี้ต้องไม่พลาด ราคาไม่แพง แถมหาซื้อได้ง่ายมากด้วยความอยากรู้ว่าแบรนด์ไหนใช้ดีกว่ากันยังไง เราเลยเอารีวิวเปรียบเทียบมาแชร์กันค่ะ
มาที่ตัวแรกกัน Vaseline Dry Serum Ultra
ตัวนี้เป็นเซรั่ม ช่วยปกป้องรักแร้ได้ยาวนานได้ถึง 48 ชม. ปราศจากแอลกอฮอลล์และพาราเบน ตัวนี้ยกให้เรื่องความขาวกระจ่างใสเลย ขาวขึ้นจริงใน 1 สัปดาห์ เนียนไบรท์จริงๆ
หลังจากที่ได้ลองใช้แล้ว รู้สึกได้ถึงความขาวขึ้น รอยดำคล้ำจางลง แห้งเร็วหลังทา และกลิ่นหอมอ่อนละมุนๆ
เนื้อสัมผัสนุ่ม เกลี่ยง่าย แต่ไม่เหนอะหนะ
เวลาเหงื่อออก กลิ่นหอมนานดีนะ เวลาขยับตัวจะได้กลิ่นหอมจากเซรั่มเลย
มาต่อกันตัวต่อไปกันเลย Rexona Dry serum Shower clean
สำหรับ Rexona ยกให้เรื่องความแห้งเร็วอีกตัว
แต่จะเน้นเป็นพิเศษในเรื่องของการคุมเหงื่อได้นาน48ชั่วโมง
ปราศจากแอลกอฮอลล์ กลิ่นหอมแบบสะอาด
ใครที่ชอบมีกลิ่นตัว หรือเหงื่อใต้วงแขนเยอะๆ ต้องตัวนี้เลยค่ะ
ตัวสุดท้ายเป็น Nivea Whitening Deep Serum
ตัวนี้เป็นเซรั่มเหมือนกัน แต่มาในรูปแบบของเหลว เป็นเนื้อใสๆไม่มีสี
กลิ่นหอมละมุน
แต่เสียดายเรื่องความแห้งช้าไปนิดนึง เพราะแห้งช้ามากพอเทียบกับตัวที่เป็น เซรั่ม แบรนด์อื่นๆ
แถมระหว่างวันมีความเหนียว เหนอะๆ กว่าตัวอื่น
สูตรนี้จะเน้นเรื่องผิวดูแลผิวหนังไก่ ฉะนั้นถ้าเรื่องความขาวกระจ่างใส อาจจะสู้วาสลีนไม่ได้เท่าไหร่
เราจะมาทดสอบเรื่องความแห้งไว ซึ่งเป็นอีกอย่างที่สาวๆอย่างเราคำนึงเนี่ย
เราก็มีเทสท์มาให้ด้วยว่า หลังจากการทดสอบทั้ง 3 ยี่ห้อ หลังทาเสร็จภายใน 30 วินาที จะเป็นยังไงบ้าง
เอาจริงงง จะเห็นได้ว่า Nivea จะแห้งช้ากว่า rexona และ Vaseline
วาสลีนคือแห้งไวมากจริง กระดาษไม่เปลี่ยนไปเลย
ส่วนเรื่องของความเหนอะหนะ จากการโปรยกระดาษ
วาสลีน กับ Rexona มีความสูสีกัน แต่ Nivea คือติดเยอะมาก
แปลว่ามีความแห้งช้ากว่าอีก 2 แบรนด์นะคะ
สำหรับมาย ส่วนตัว ชอบ Vaseline ที่สุด เพราะนอกจากเรื่องของการแห้งไว้แล้ว
ยังได้ในเรื่องของความขาว ผิวเรียบเนียนขึ้น กลิ่นหอมละมุน
ชนะอีกสองแบรนด์ไปเลยจ้า
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้