ขออนุญาตรีวิวเมืองเบตงต่อจาก EP.1 กินหรู
การเดินทางไปพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ ในครั้งนี้ ยอมรับว่ากล้า ๆ กลัว ๆ กับเหตุการณ์ความไม่สงบ และเชื่อว่าคนอื่น ๆ ที่ไปเที่ยวอำเภอเบตง จังหวัดยะลาจำนวนเกินครึ่งก็คงจะคิดเช่นเดียวกัน แต่เพื่อการสัมผัสทะเลหมอกอัยเยอร์เวง และจุดอื่น ๆ อีกมากมาย ทำให้หลายคนตัดสินใจเดินทางไปเที่ยว แต่จากประสบการณ์ที่เดินทางในครั้งนี้ ต้องขอบอกก่อนเลยครับ ว่า ความสวยงามของธรรมชาติและเมืองเบตงทำให้ลืมความกลัวไปหมดสิ้น และการเดินทางก็ปลอดภัยจริง ๆ โดยเฉพาะถนนตลอดเส้นทางขับขี่ปลอดภัยมาก (แต่เอะ...ระหว่างนั่งเขียนรีวิวอยู่ ก็มีข่าวยิงกันที่อำเภอยะหา จังหวัดยะลา) ภาพที่เรากลัวคงเป็นเพราะเราเสพข่าวความไม่สงบมากเกินไปแน่เลยเนอะ สติๆ พร้อมแล้วกลับมาๆๆเดินทางกันดีกว่า
 EP.2.1 ท่องเที่ยวท่ามกลางธรรมชาติและเมืองสวยงาม
วันที่ 23 ตุลาคม 2563 
หลังเดินทางออกจากอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เวลาประมาณ 9.00 โมงเช้า เรามุ่งหน้าปลายทางไปอำเภอเบตง จังหวัดยะลา แต่การท่องเที่ยวเราจะหาความสุขที่ปลายทางอย่างเดียวไม่ได้น่ะ...ความสุขระหว่างทางรออยู่เต็มเลย....จุดไหนดี ทีมรีวิวเราต้องทำงาน 
- จุดแรกที่เราเลือกแวะคือ วัดช้างให้ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี สักการะเอาฤกษ์เอาชัยก่อนเดินทาง สมาชิกในทีมขอพรอะไรไม่รู้ แต่ผมขออย่างเดียวเลย...ขอให้เดินทางปลอดภัย....ขอพรเสร็จก็ขึ้นรถเดินทางต่อ....ระหว่างเดินทางพูดคุยกัน...แหะๆๆใครขออะไรกับบ้างเอ่ย.....สรุปคือ เข้าใจตรงกัน....มันช่างดีเหลือเกินที่ทุกคนขอพรสิ่งเดียวกันโดยไม่ได้นัดหมาย..... 


- ออกจากวัดช้างให้ เราเดินทางมุ่งหน้าไปทานอาหารเที่ยงในตัวอำเภอเมืองยะลา เสร็จจากทานอาหารเที่ยงแสนอร่อย เราก็ขับรถวนดูบรรยากาศรอบ ๆ เมืองยะลา แล้วก็เลี่ยงเมืองออกไปถนนทางไปอำเภอเบตง เราเดินทางผ่านอำเภอบันนังสตา อำเภอธารโต เราคุยสนุกสนานไปตลอดทาง แต่เมื่อว่างจากการพูดคุยก็แอบคิดว่าบันนังสตา เคยมีเหตุการณ์ไม่สงบอะไรบ้างน่ะ อำเภอธารโตเคยมีเหตุการณ์อะไรบ้างน่ะ ไม่ซิ ๆ เราต้องชวนคุยกันตลอดเส้นทางซิ ระหว่างเส้นทางที่เราผ่านจุดไหนดีแต่ไม่อยู่ในรีวิว เราก็บอกกันว่า เดี่ยววันกลับเราจะมาแวะเที่ยว กี่จุดกี่จุดก็เป็นเช่นนี้ เพราะเราอยากจะไปถึงเบตงก่อนตะวันตกดินเพื่อความปลอดภัยนั่นแระ
- เดินทางมาถึงจุดหนึ่ง คือ สะพานข้ามทะเลสาบป่าฮาลา-บาลา เราต้องแวะเพราะอยู่ในรีวิวอันดับต้น ๆ ตอนเราแวะจะถ่ายรูป มีรถจอดเยอะมาก ใช่แล้วทุกคนก็ต้องการเก็บภาพบริเวณนี้ วิวหลักล้านจริง ๆ (นี่ขนาดถ่ายภาพมือสมัครเล่นแถมเป้นกล้องจากโทรศัพท์)
เราไปถึงที่พัก โรงแรม Garden View Betong ประมาณเวลา 15.30 น. เข้าที่พัก พักผ่อน ตอนเย็นเราก็ไปทานอาหารอร่อยร้านต้าเหยิน แล้วก็เดินเที่ยวชมบรรยากาศบริเวณหอนาฬิกา ตู้ไปรษณีย์ขนาดใหญ่ และถ่ายรูปกับไฟหลากสีสวยงามภายในอุโมงค์เบตง สวยงามจริง ๆ 
ปล. การเดินถ่ายรูปบริเวณหอนาฬิกา และตู้ไปรษณีย์ ข้อควรระวังอย่างยิ่งคือ ระวังโดนขรี้นกนางแอ่น ที่เกาะอยู่บนสายไฟตลอดเส้นทาง

หลังเดินผ่านอุโมงค์เบตงไปแล้ว ใกล้ ๆ โรงแรมที่พัก มีจุดเด็ดอีกต่างหาก อุย...นั่นรูปปั้นใครกันน่ะ.....พี่ตูนเหรอ...ไม่ใช่มั้ง...พี่ตูนนั่นแระ...ใช่เหรอ...ขอร้องเหอะ..มองให้เป็นพี่ตูน Bodyslam น่ะ
ขอแนะนำนิดนึงครับ ไหนก็จะปั้นรูปพี่ตูนเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ก็น่าจะลงทุนทำให้ดีสักนิดนึงครับ แบบประมาณว่าเห็นปุ๊บรู้เลยว่าเป็นใคร ไม่ต้องเดาสุ่ม5555 เพราะจุดนี้นักท่องเที่ยวเกือบทุกคนต้องมาแวะ
เดินมาอีกนิดใกล้ ๆ พี่ตูน ก็ยังมีป้ายเบตง และ รูปปั้นไก่เบตงอีก
หันไปทางซ้ายมือทางเดินไปที่พักยังมีอีก ภาพวาดสวยงามสีสันสดใส ดึงดูดใจให้เดินไปถ่ายภาพเก็บไว้เป้นที่ระลึก
กว่าจะเดินถึงโรงแรมก็เพลิดเพลินมากกับการเก็บภาพ เดินไปเดินมาอาหารเย็นย่อยหมดแระ...งั้นก็กลับที่พักนั่งปาร์ตี้โรตีที่ซื้อติดมือมากันดีกว่า ทานเสร็จก็พักผ่อนเก็บแรงไว้สัมผัสทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ที่เรารอลุ้นกันว่าพรุ่งนี้จะมีหมอกให้เราเห็นเปล่าน่ะ การบ้านก่อนนอนของเราคือ ทุกคนต้องสวดมนต์ภาวนาให้ฝนหยุดตกเพื่อจะได้มีทะเลหมอกที่สวยงามมมมม (**ข้อมูลในการตัดสินใจไปชมทะเลหมอก**หากมีฝนตกช่วงเวลาหัวรุ่งที่เราจะไปก็จะไม่มีหมอกหรือมีแต่จะไม่สวย แต่หากมีฝนตกตอนกลางคืนและหยุดตกตอนหัวรุ่งจะมีทะเลหมอกที่สวยงาม...ว่าตามเค้ามาอิอิ)
วันที่ 24 ตุลาคม 2563 
เราตื่นตอนตี 4 เปิดหน้าต่างดูสภาพอากาศสิ่งที่เราขอเป็นจริงแล้ว ฝนหยุดตก จะรอไรรีบอาบน้ำแต่งตัวและทำภารกิจส่วนตัว
4.30 น. ออกเดินทางจากที่พักเพื่อไปชมทะเลหมอกอัยเยอร์เวง และ Sky walk (ขอเขียนรายละเอียดใน EP.2.2) แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่ฮิตที่สุดในตอนนี้ ระยะทางจากที่พักถึงที่หมายประมาณ 25 กิโลเมตร
05.30 ถึงจุดชมทะเลหมอกที่อัยเยอร์เวง .... คนเยอะมากๆๆๆๆๆๆ รถติดยาว ต้องนั่งรถมอเตอร์ไซด์ 20 บาท ไปยังจุดชมทะเลหมอก และ Sky walk ต้องจองคิวขึ้น sky walk tower .... ระหว่างรอขึ้น เดินเล่นไปยังเส้นทางเก่าทางซ้ายมือ เจอทะเลหมอกที่แสนสวยงาม ตัดกับเส้นขอบรุ้งพระอาทิตย์ที่กำลังจะขึ้นจากขอบฟ้า อากาศสดชื่น เย็นสบาย หายใจโล่งปอด ถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนาน ได้วิวสวย ๆ มากมาย .... หลังจากนั้นมาจองคิวขึ้นไปเดินบน Sky walk รอนานนิดนึงเพราะคนเยอะมาก พอถึงเวลาก็รีบออกไปถ่ายรูป เค้าให้ออกไปกลุ่มละประมาณ 70 คน ได้เวลากลุ่มละ 5 นาที อิอิ ... เดินไปถ่ายรูปด้านหน้าสุด พื้นเป็นกระจกหนา มองไปข้างล่างแล้วเสียวจับใจ อิอิ โดยสรุปก็พอใจ. และถือว่าสวยงามมากครับ ตอนขึ้น Sky Walk เป็นช่วงสายหมอกหายไปแระ
จากชมทะเลหมอก ก็ไปทานข้าวมันไก่เบตง กล้วยทอด เฉาก๊วย ส้มโชกุน แล้วเดินทางไปอุโมงค์ปิยะมิตร ก่อนกลับมาเที่ยวชมสวนดอกไม้หมื่นบุปผา และปิดท้ายด้วยบ่อน้ำร้อน 
อุโมงค์ปิยะมิตร ค่าเข้าชมคนละ 40 บาท เป็นอุโมงค์ดินที่อดีตขบวนการโจรคอมมิวนิสต์มลายา สร้างขึ้น เพื่อเป็นฐานปฏิบัติการต่อสู้ทางการเมือง แต่ต่อมาได้กลับมาร่วมพัฒนาชาติไทย อุโมงค์ปิยะมิตร สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2519 ใช้หลบการโจมตีทางอากาศและสะสมเสบียง เดินชมพิพิธภัณฑ์ ลอดอุโมงค์ และชมต้นไม้พันปี รวมทั้งต้นไม้หลากหลายชนิด อากาศสดชื่น เย็นสบาย
จากนั้นขับรถไปเยี่ยมชมสวนหมื่นบุปผา พยายามเดินหาดอกไม้ที่สวยงาม แต่ไม่มี เลยไม่เข้าชม แวะถ่ายรูปกับป้าย เพื่อบอกว่ามาถึงแล้วน่ะ