ขออภัยในความยาวนะครับ และอาจจะเวิ่นเว่อพร่ำเพ้อ แต่ผมอึดอึดใจไม่ไหวแล้วครับ
ผมขออนุญาตใช้พื้นที่นี้ในการระบายนะครับ
สวัสดีครับ ผมกับอดีตแฟนเป็นคู่รัก ช-ช นะครับ
น้องเค้าอยู่มอปลายครับ ส่วนผมมหาลัยแล้ว
หลังผมกับน้องเค้าตกลงเป็นแฟนกันได้ไม่นาน ก็มีเรื่อง
พี่น้องคนนึงของ แม่น้อง เค้าเสียชีวิต ซึ่งญาติคนนี้ได้ไปสร้างครอบครัวอยู่ที่ประเทศนึงในทวีปยุโรปครับ ขอแทนว่าประเทศ A
ก่อนหน้า พ่อแม่น้องเค้าจะเลิกกันอยู่แล้วครับ เพราะแม่น้องจับได้ว่าพ่อน้องมีชู้
แต่ที่ไม่เลิกเพราะพ่อน้องใช้เหตุผลบางอย่างเพื่อยื้อเอาไว้
แต่เหตุการณ์นี้ทำให้แม่น้องตัดสินใจไปประเทศ A และใช้ชีวิตที่นั่นถาวร แบบลืมพ่อไปเลย
แม่น้องจะไปกับน้องเค้า 2 คนครับ แล้วน้องก็จะบินคนเดียวกลับมา เพราะโรงเรียนที่ไทยจะเปิดเทอม
ส่วนพี่น้องคนอื่นของน้องจะตามไปทีหลัง คนที่ยังเรียนไม่จบพาสปอร์ตหมดอายุ ส่วนที่เหลือที่จบแล้ว ก็ไม่ว่าง เหลือน้องคนเดียว
น้องเค้าจะไปเป็นเพื่อนแม่ อยู่จนครบช่วงกักตัว 2 วีค ก็บินกลับไทยทันที
ก็สมเหตุสมผลแหละครับ เพราะน้องเป็นลูกคนที่สนิทกับแม่มากที่สุด
ตอนที่รู้ข่าวการเสียชีวิต คือ เย็นวันเสาร์ครับ ซึ่งแม่น้องจองตั๋วสำหรับบินวันถัดไป วันอาทิตย์ เลย
หลังจากที่ผมรู้เรื่อง รู้ว่าน้องเองก็ไม่ได้อยากไป น้องบอกว่า ที่ไม่อยากไป เพราะเค้าห่วงเรื่อง
1. โควิด
2. การเรียน (กว่าจะกลับมากักตัวที่ไทยเสร็จ ก็เปิดเทอมไปเกือบเดือน)
3. คิดถึงผม
ตอนนั้น ผมเกือบทะเลาะกับน้องเค้าครับ ซึ่งผมผิดเอง ที่เอาแต่ห่วงเรื่องอยากคุยกับน้อง ถ้าน้องไปแล้วเราจะคุยกันยังไง
คือมันก็ด้วยความที่ปุบปับกะทันหันเกินด้วยแหละครับ แล้วพอออกจากสุวรรณภูมิ ก็คงหลายวันเลยกว่าจะได้คุย
ผมเลยคิดว่าอยากใช่ช่วงนี้คุยกันให้คุ้มที่สุด ชดเชยช่วงอดคุยไปครับ
น้องก็โวยผมครับว่า เห็นแก่ตัวเอาแต่ห่วงคุย ซึ่งผมก็ให้เหตุผลไปว่า ก็ดูเรื่องที่แฟนห่วงสิ
โควิด ทำอะไรไม่ได้ นอกจากป้องกันตัวเองให้ดี
การเรียน ยังไงเพื่อนก็ช่วย (เพื่อนน้องรักน้องมากครับจากที่เค้าเคยเล่า)
ก็เหลือแต่เรื่องเราแล้วมั้ย
พูดงั้นไปน้องเค้าก็เงียบแล้วหายไปซักพักเลยครับ
พอมาคิดดูจริงๆแล้ว ผมเองก็เห็นแก่ตัวนั่นแหละครับ
ตอนนั้น ผมโมโหแม่น้องด้วยครับ ที่ ลูกก็มีเยอะแยะ ทำไมต้องเอาแฟนผมไป และเอาไปคนเดียว (ตอนนั้นยังไม่รู้เหตุผลครับ ทีแรกน้องยังไม่ได้บอก) ก็เลยไม่ได้คิดถึงความรู้สึกแม่น้องครับ ไม่ได้เป็นห่วงเค้าและถามน้อง
แต่สุดท้ายน้องก็คุยกับแม่จนโอเคว่าจะไม่ไป จะซื้อบริการแอร์โฮสเตสดูแลตลอดเที่ยวบินให้แม่ น้องจะเป็นคนเดียวที่อยู่ไทยกับพ่อ
น้องให้เหตุผลทางครอบครัวเค้าว่า ควรมีอย่างน้อยซักคนที่อยู่เป็นเพื่อนพ่อ ซึ่งทำให้พี่น้องและแม่ของน้องเค้าไม่คุยกับน้องไปเลย
ความจริงแล้วทีแรกน้องเค้าก็ไม่ได้รักพ่อขนาดนั้นครับ แต่น้องตัดสินใจขนาดนี้เพราะผมเลย
น้องพูดด้วยว่า เราจะไม่มีทางแยกจากกันไปไหน จนกว่าฝ่ายนึงจะตายจากกันไป
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้บอกก่อนว่า ตลอดช่วงของการเป็นแฟน เรามีเรื่องบาดหมาง ทะเลาะกันเป็นช่วงๆตลอดเลย แต่สุดท้ายก็กลับมาดีกันตลอดครับ
ส่วนใหญ่แล้ว ผมเองนี่แหละที่ผิด ที่ตามตื๊อเกินไป
ผมบอกน้องเค้าครับ ว่า เป็นแฟนกันผมให้อิสระเต็มที่ อยากเที่ยวไหนไปได้หมดเลย แต่ขอให้บอก ผมไม่ได้จะห้ามไปเลย แต่ผมอยากรู้เฉยๆ เพราะจะได้ไม่รอเคว้ง คือผมพื้นฐานติดโทรศัพท์มากครับ เวลาน้องโทรมาผมรับทันทีแทบทุกครั้ง แต่ถ้ารู้ว่าน้องไปไหนผมจะได้ตัดใจไปทำอย่างอื่นโดยไม่กังวล มันจะได้แก้นิสัยติดโทรศัพท์ผมด้วย ซึ่งน้องก็ไม่ค่อยจะบอกเลยครับ และเราก็มีปัญหากันเพราะเรื่องนี้เรื่อยๆ
น้องเองเป็นคนที่เวลาโมโหแล้วคำพูดรุนแรงสุดๆครับ ซึ่งผมส่วนใหญ่ก็ฟังไม่ตอบโต้ รอน้องใจเย็น มาคุยด้วยเหตุผล น้องจะขอโทษทีหลังครับ
แต่มีครั้งนึง น้องผิด และคำพูดน้องรุนแรงมากจริงๆ ผมก็บอกน้องนะว่า เห้ยนี่มันมากไปหน่อยแล้ว
น้องเค้าก็อ้อนนะ บอกผมอย่าโกรธเค้าเลย มาดีกันเถอะนะ ก็เหมือนที่ผ่านมาไง
ประโยคนี้ ทำให้ผมเชื่อใจน้องมากนะครับว่า น้องจะซื่อสัตย์ต่อรักของเราจริงๆ
หลังจากที่น้องตัดสินใจอยู่ไทยไม่นาน น้องเค้าก็โดนเพื่อนที่เค้าไว้ใจมากๆคนนึงหักหลัง น้องถึงขั้นจะฆ่าตัวตายเลยครับ ซึ่งนี่คือคืนวันจันทร์ แค่วันเดียวหลังจากที่แม่เค้าบินไป แต่เพื่อนน้องก็เข้าไปช่วยทัน
ปลอดภัยดีแต่ได้บาดแผลมาเยอะและเสียเลือดไปมาก กลัวติดเชื้อเพื่อนเลยพาไปหาหมอ จากนั้นพ่อน้องก็มา
พ่อตัดสินใจพาน้องไปอยู่บ้านพร้อมมีจิตแพทย์ดูแลตลอดเวลา ทำให้น้องเริ่มเปิดใจให้พ่อมากขึ้นครับ
จากนั้นก็เริ่มมีม็อบก่อตัวพอดี น้องจะไปม็อบ พอพ่อรู้เลยโดนพ่อไล่ออกจากบ้านครับ ไล่ออกแบบให้ไปทันที ตอนบ่าย
เตะมากกว่า 1 รอบ และพยายามใช้กำลังให้โดนหน้า พร้อมยึดบัตรเครดิตน้องไปหมดทุกใบด้วยครับ (บัตรชื่อแม่)
เหตุการณ์ต่อจากนั้น คือตามกระทู้นี้ครับ
ผมโมโหแฟน จนเผลอถามไปว่า เห็นผมเป็นของเล่นหรอ สนุกมั้ย ที่ทำร้องไห้เลย ผมรู้สึกผิด อยากขอโทษ แต่แฟนไม่ยอมคุยกับผม (เรื่องย่อในสปอยล์)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ผมเห็นน้องไม่มีที่ไป และบ้านผมก็ทำธุรกิจอพาร์ทเมนต์ให้เช่าพอดี ผมเลยขอพ่อให้น้องเค้ามาอยู่ที่ห้องนึง ซึ่งก็โอเค
และน้องก็กลับมาถึงห้องดึกทุกวัน แต่มีวันนึงที่น้องเค้าบอกว่า จะกลับมาเร็ว เดี๋ยวถึงห้องจะโทรหา
ผมดีใจที่จะได้คุยสบายๆตอนหัวค่ำบ้างซะที พอค่ำผมโทรไป น้องบอกว่ากำลังคุยกับแม่
ผมก็ อะโอเค คิดว่าเดี๋ยวก็คงถึงห้องแล้ว น้องกำลังจะกลับนี่ แต่ว่า รอแบบเฝ้าโทรศัพท์เกือบ 2 ชั่วโมง น้องก็ยังไม่มาครับ
ผมมองแง่ดีนะว่า คงคุยเรื่องซีเรียสกับแม่ แต่ผมก็อยากยิงโทรไปให้รู้ว่า เออรออยู่นะ
แต่พอโทรไป น้องก็รับสาย และผมโดนน้องด่าเลยครับว่า จะโทรอะไรนักหนา เดี๋ยวถึงห้องจะโทรไปเอง
แต่พอผมถาม ว่ากำลังทำอยู่อะไร อยู่ไหน ถึงได้รู้ว่า อ้าว น้องไม่ได้กำลังกลับห้อง แต่กำลังเที่ยวกับเพื่อน ! เพื่อนชวนเลยไป
ผมก็โมโหและทะเลาะครับ
ก็เอ้า ทำไมไม่บอกล่ะ ผมจะได้ไปทำอย่างอื่น ไม่ใช่มาเฝ้าโทรศัพท์ มารอเคว้งไร้จุดหมาย
น้องเค้าตอบครับว่า ผมไม่ใช่พ่อแม่เค้านะ ที่เค้าต้องมารายงานว่าจะทำอะไร ผมเป็นแค่แฟน
แล้วถ้าผมจะมาบังคับเค้าขนาดนี้ เค้าจะกลับไปเก็บของย้ายออกจากอพาร์ทเมนต์ผมแล้ว
เราทะเลาะกันหนักขึ้น และนั่นทำให้น้องพาลว่าจะย้ายออกจากอพาร์ทเมนต์พ่อผม
แต่แล้วผมก็รู้ความจริงว่าน้องเค้าแค่ขู่ ก็คงรำคาญที่ผมบ่นเรื่องแอบไปกับเพื่อนแหละครับ
ตอนนั้นพอรู้ ผมร้องไห้โฮเลย
ก็ไม่รู้ครับว่าด้วยอารมณ์ไหน ดีใจที่น้องจะยังอยู่ หรือ โมโหที่โดนหลอก
แต่ด้วยอารมณ์ชั่ววูบนั้นเอง ผมส่งแชทไปครับว่า
เห็นพี่เป็นของเล่นหรอ สนุกมั้ยที่ทำร้องไห้เลย
น้องเค้าตอบครับว่า
ถ้าพี่มองผมแบบนั้น โอเคครับ ผมขอเก็บของแล้วย้ายออกเลยนะครับ
คนที่มองความรู้สึกคนอื่นเป็นของเล่นก็ไม่ควรอยู่ครับ ผมมันคง here (พิมพ์ here กันพันทิปเซนเซอร์ครับ)
หลังจากนั้นไม่นาน น้องเค้าปิดการสื่อสารหมดเลยครับ ไม่ตอบแชท โทรไม่รับ
วันรุ่งขึ้นมาน้องก็มาบอกเลิกผมเลยครับ น้องบอกว่าที่ผ่านมาเค้าอึดอัดมาตลอด (ที่ผมให้คอยบอกอะครับว่าจะไปไหนทำไร คือผมแค่อยากรู้ครับ แต่ไม่ได้ตามถ้าไม่จำเป็น ปล่อยให้น้องเค้าได้มีอิสระ) แต่เค้าก็ทน ยิ่งช่วงหลังที่ผมโทรแทบตลอด มันทำให้เค้ารู้สึกไม่ได้หายใจ
คือ น้องทั้งจะฆ่าตัวตาย ทั้งโดนไล่ออกจากบ้าน ทั้งไม่ได้มีแม่คอยกอด อะครับ ผมก็กลัวเค้าจะกลับไปฆ่าตัวตายอีกครั้ง
ผมคิดว่ามันจะดีถ้าทำให้น้องเค้าได้รู้สึกว่ามีใครอยู่กับเค้าตลอดเวลา
ผมเองก็เคยคิดฆ่าตัวตายครับ ผมรู้ว่าช่วงที่พ้นจากการกระทำใหม่ๆ มันอยู่คนเดียวไม่ได้เลย แต่ผมก็เห็นแก่ตัวแหละที่เอาตัวเองเป็นบรรทัดฐานแบบนั้น
ผมทำไปด้วยความหวังดี แต่ผมไม่คิดเลยครับว่ามันจะทำร้ายน้องอย่างรุนแรง
ตอนโดนบอกเลิก ผมก็ทวงคำพูดน้องเค้านะครับ ว่าอ้าวแล้วที่บอกว่า เราจะไม่มีวันแยกจากกัน หรือ การบอกรักที่น้องเคยพูดว่า ขอให้เรารักกันไปนานที่สุดเท่าที่จะนานได้ และอะไรต่ออะไร.. น้องเค้าตอบครับว่า ลืมน้องที่เป็นแบบนั้นไปเถอะ คิดซะว่าน้องคนนั้นได้ตายจากผมไปแล้ว
คืนวันก่อนบอกเลิกที่น้องเงียบไป น้องเค้าเล่าครับว่าเค้าปรึกษาแม่ (พอมีเรื่องพ่อไล่ออกจากบ้าน ทุกคนก็กลับมาสงสารน้องและคุยด้วยครับ) ย่า และ เพื่อนๆหมดแล้ว และก็ตัดสินใจกันเองเลย
แล้วน้องก็เงียบหายไปเลยครับ
ผ่านไป 2-3 วัน น้องโทรมาหาผม
บอกว่า เค้าอยากให้ทุกอย่างมันชัดเจนว่าให้ผมตัดใจจากน้องเค้า เพราะน้องเค้าไม่รู้สึกกับผมแบบนั้นแล้วจริงๆ แต่เรายังเป็นพี่น้องกันได้อยู่
น้องเค้าเล่าครับว่า ตอนนี้แม่กลับมาคุยกับน้องปกติแล้วและคอยส่งเงินมาให้ใช้ เค้าออกจากอพาร์ทเมนต์พ่อผมไปเช่าคอนโดอยู่แถวโรงเรียน แต่ก็ไม่ได้ไปเรียนครับ ไปลาออก และเดือนหน้าจะบินไปประเทศ A
น้องพร้อมตัดพ่อออกจากความทรงจำ จะไปเรียนซ้ำปีนึงที่ประเทศ A อยู่ที่นั่นไปตลอด
ส่วนมหาลัยก็จะไปประเทศ B ซึ่งเป็นความใฝ่ฝันน้องแต่เด็กแล้วครับว่าอยากเข้ามหาลัยที่นั่น
น้องบอกผมครับว่าเรายังเป็นพี่น้องกันได้อยู่ แต่ผมอยากได้ความสัมพันธ์แบบเดิมกลับคืนมา
น้องเลยตอบว่า เค้าเหลือเวลาให้ผมเดือนนึง แต่รอบนี้เค้าจะอยู่เฉยๆไม่เล่นด้วยอะไรนะ ถ้าคิดว่าทำได้ก็ลองดู
แต่หลังจากนั้นน้องก็ไม่รับสายผมเลย
ล่าสุดผมส่งแชทไป น้องเค้าตอบครับว่า เค้ายังต้องคุยกับผมอยู่หรอ
ผมเลยบอก ช่าย ก็เรายังเป็นพี่น้องกันอยู่นี่นา
น้องเค้าก็ตอบ อ่อ แล้วเงียบไปเลยครับ
ผมเองไม่ได้ขัดข้องอะไรนะครับ ที่น้องจะไปประเทศ A
มันก็ดีกว่าต่ออนาคตน้องเอง ทั้ง คุณภาพชีวิต และ ความอบอุ่นจากคนในครอบครัวที่ไว้ใจได้
แต่ผมก็อยากให้น้องไปแบบที่เรายังเป็นแฟนกันอะครับ
น้องเค้าบอกว่า พอมีเรื่องระยะทางแล้ว มันเป็นไปไม่ได้หรอกที่จะเป็นแฟนกันโดยไม่ระแวงว่าอีกฝ่ายจะนอกใจ ไม่เจอตัวเลยขนาดนั้นมันต้องมีโดดเดี่ยวและไปหาคนอื่นบ้างแหละ แถมตรวจสอบอะไรไม่ได้ ร้อนรุ่มจิตใจเปล่าๆ
แต่ผมไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้เลยครับ ผมควรทำไงดีครับ
ผมเห็นแก่ตัวเกินไปใช่มั้ยครับ แฟนถึงทิ้งผมไป ? ผมอยากกลับไปเริ่มต้นใหม่ครับ แต่เค้าเอาแต่บอกให้ผมตัดใจ ทำยังไงดีครับ
ผมขออนุญาตใช้พื้นที่นี้ในการระบายนะครับ
สวัสดีครับ ผมกับอดีตแฟนเป็นคู่รัก ช-ช นะครับ
น้องเค้าอยู่มอปลายครับ ส่วนผมมหาลัยแล้ว
หลังผมกับน้องเค้าตกลงเป็นแฟนกันได้ไม่นาน ก็มีเรื่อง
พี่น้องคนนึงของ แม่น้อง เค้าเสียชีวิต ซึ่งญาติคนนี้ได้ไปสร้างครอบครัวอยู่ที่ประเทศนึงในทวีปยุโรปครับ ขอแทนว่าประเทศ A
ก่อนหน้า พ่อแม่น้องเค้าจะเลิกกันอยู่แล้วครับ เพราะแม่น้องจับได้ว่าพ่อน้องมีชู้
แต่ที่ไม่เลิกเพราะพ่อน้องใช้เหตุผลบางอย่างเพื่อยื้อเอาไว้
แต่เหตุการณ์นี้ทำให้แม่น้องตัดสินใจไปประเทศ A และใช้ชีวิตที่นั่นถาวร แบบลืมพ่อไปเลย
แม่น้องจะไปกับน้องเค้า 2 คนครับ แล้วน้องก็จะบินคนเดียวกลับมา เพราะโรงเรียนที่ไทยจะเปิดเทอม
ส่วนพี่น้องคนอื่นของน้องจะตามไปทีหลัง คนที่ยังเรียนไม่จบพาสปอร์ตหมดอายุ ส่วนที่เหลือที่จบแล้ว ก็ไม่ว่าง เหลือน้องคนเดียว
น้องเค้าจะไปเป็นเพื่อนแม่ อยู่จนครบช่วงกักตัว 2 วีค ก็บินกลับไทยทันที
ก็สมเหตุสมผลแหละครับ เพราะน้องเป็นลูกคนที่สนิทกับแม่มากที่สุด
ตอนที่รู้ข่าวการเสียชีวิต คือ เย็นวันเสาร์ครับ ซึ่งแม่น้องจองตั๋วสำหรับบินวันถัดไป วันอาทิตย์ เลย
หลังจากที่ผมรู้เรื่อง รู้ว่าน้องเองก็ไม่ได้อยากไป น้องบอกว่า ที่ไม่อยากไป เพราะเค้าห่วงเรื่อง
1. โควิด
2. การเรียน (กว่าจะกลับมากักตัวที่ไทยเสร็จ ก็เปิดเทอมไปเกือบเดือน)
3. คิดถึงผม
ตอนนั้น ผมเกือบทะเลาะกับน้องเค้าครับ ซึ่งผมผิดเอง ที่เอาแต่ห่วงเรื่องอยากคุยกับน้อง ถ้าน้องไปแล้วเราจะคุยกันยังไง
คือมันก็ด้วยความที่ปุบปับกะทันหันเกินด้วยแหละครับ แล้วพอออกจากสุวรรณภูมิ ก็คงหลายวันเลยกว่าจะได้คุย
ผมเลยคิดว่าอยากใช่ช่วงนี้คุยกันให้คุ้มที่สุด ชดเชยช่วงอดคุยไปครับ
น้องก็โวยผมครับว่า เห็นแก่ตัวเอาแต่ห่วงคุย ซึ่งผมก็ให้เหตุผลไปว่า ก็ดูเรื่องที่แฟนห่วงสิ
โควิด ทำอะไรไม่ได้ นอกจากป้องกันตัวเองให้ดี
การเรียน ยังไงเพื่อนก็ช่วย (เพื่อนน้องรักน้องมากครับจากที่เค้าเคยเล่า)
ก็เหลือแต่เรื่องเราแล้วมั้ย
พูดงั้นไปน้องเค้าก็เงียบแล้วหายไปซักพักเลยครับ
พอมาคิดดูจริงๆแล้ว ผมเองก็เห็นแก่ตัวนั่นแหละครับ
ตอนนั้น ผมโมโหแม่น้องด้วยครับ ที่ ลูกก็มีเยอะแยะ ทำไมต้องเอาแฟนผมไป และเอาไปคนเดียว (ตอนนั้นยังไม่รู้เหตุผลครับ ทีแรกน้องยังไม่ได้บอก) ก็เลยไม่ได้คิดถึงความรู้สึกแม่น้องครับ ไม่ได้เป็นห่วงเค้าและถามน้อง
แต่สุดท้ายน้องก็คุยกับแม่จนโอเคว่าจะไม่ไป จะซื้อบริการแอร์โฮสเตสดูแลตลอดเที่ยวบินให้แม่ น้องจะเป็นคนเดียวที่อยู่ไทยกับพ่อ
น้องให้เหตุผลทางครอบครัวเค้าว่า ควรมีอย่างน้อยซักคนที่อยู่เป็นเพื่อนพ่อ ซึ่งทำให้พี่น้องและแม่ของน้องเค้าไม่คุยกับน้องไปเลย
ความจริงแล้วทีแรกน้องเค้าก็ไม่ได้รักพ่อขนาดนั้นครับ แต่น้องตัดสินใจขนาดนี้เพราะผมเลย
น้องพูดด้วยว่า เราจะไม่มีทางแยกจากกันไปไหน จนกว่าฝ่ายนึงจะตายจากกันไป
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หลังจากที่น้องตัดสินใจอยู่ไทยไม่นาน น้องเค้าก็โดนเพื่อนที่เค้าไว้ใจมากๆคนนึงหักหลัง น้องถึงขั้นจะฆ่าตัวตายเลยครับ ซึ่งนี่คือคืนวันจันทร์ แค่วันเดียวหลังจากที่แม่เค้าบินไป แต่เพื่อนน้องก็เข้าไปช่วยทัน
ปลอดภัยดีแต่ได้บาดแผลมาเยอะและเสียเลือดไปมาก กลัวติดเชื้อเพื่อนเลยพาไปหาหมอ จากนั้นพ่อน้องก็มา
พ่อตัดสินใจพาน้องไปอยู่บ้านพร้อมมีจิตแพทย์ดูแลตลอดเวลา ทำให้น้องเริ่มเปิดใจให้พ่อมากขึ้นครับ
จากนั้นก็เริ่มมีม็อบก่อตัวพอดี น้องจะไปม็อบ พอพ่อรู้เลยโดนพ่อไล่ออกจากบ้านครับ ไล่ออกแบบให้ไปทันที ตอนบ่าย
เตะมากกว่า 1 รอบ และพยายามใช้กำลังให้โดนหน้า พร้อมยึดบัตรเครดิตน้องไปหมดทุกใบด้วยครับ (บัตรชื่อแม่)
เหตุการณ์ต่อจากนั้น คือตามกระทู้นี้ครับ ผมโมโหแฟน จนเผลอถามไปว่า เห็นผมเป็นของเล่นหรอ สนุกมั้ย ที่ทำร้องไห้เลย ผมรู้สึกผิด อยากขอโทษ แต่แฟนไม่ยอมคุยกับผม (เรื่องย่อในสปอยล์)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หลังจากนั้นไม่นาน น้องเค้าปิดการสื่อสารหมดเลยครับ ไม่ตอบแชท โทรไม่รับ
วันรุ่งขึ้นมาน้องก็มาบอกเลิกผมเลยครับ น้องบอกว่าที่ผ่านมาเค้าอึดอัดมาตลอด (ที่ผมให้คอยบอกอะครับว่าจะไปไหนทำไร คือผมแค่อยากรู้ครับ แต่ไม่ได้ตามถ้าไม่จำเป็น ปล่อยให้น้องเค้าได้มีอิสระ) แต่เค้าก็ทน ยิ่งช่วงหลังที่ผมโทรแทบตลอด มันทำให้เค้ารู้สึกไม่ได้หายใจ
คือ น้องทั้งจะฆ่าตัวตาย ทั้งโดนไล่ออกจากบ้าน ทั้งไม่ได้มีแม่คอยกอด อะครับ ผมก็กลัวเค้าจะกลับไปฆ่าตัวตายอีกครั้ง
ผมคิดว่ามันจะดีถ้าทำให้น้องเค้าได้รู้สึกว่ามีใครอยู่กับเค้าตลอดเวลา
ผมเองก็เคยคิดฆ่าตัวตายครับ ผมรู้ว่าช่วงที่พ้นจากการกระทำใหม่ๆ มันอยู่คนเดียวไม่ได้เลย แต่ผมก็เห็นแก่ตัวแหละที่เอาตัวเองเป็นบรรทัดฐานแบบนั้น
ผมทำไปด้วยความหวังดี แต่ผมไม่คิดเลยครับว่ามันจะทำร้ายน้องอย่างรุนแรง
ตอนโดนบอกเลิก ผมก็ทวงคำพูดน้องเค้านะครับ ว่าอ้าวแล้วที่บอกว่า เราจะไม่มีวันแยกจากกัน หรือ การบอกรักที่น้องเคยพูดว่า ขอให้เรารักกันไปนานที่สุดเท่าที่จะนานได้ และอะไรต่ออะไร.. น้องเค้าตอบครับว่า ลืมน้องที่เป็นแบบนั้นไปเถอะ คิดซะว่าน้องคนนั้นได้ตายจากผมไปแล้ว
คืนวันก่อนบอกเลิกที่น้องเงียบไป น้องเค้าเล่าครับว่าเค้าปรึกษาแม่ (พอมีเรื่องพ่อไล่ออกจากบ้าน ทุกคนก็กลับมาสงสารน้องและคุยด้วยครับ) ย่า และ เพื่อนๆหมดแล้ว และก็ตัดสินใจกันเองเลย
แล้วน้องก็เงียบหายไปเลยครับ
ผ่านไป 2-3 วัน น้องโทรมาหาผม
บอกว่า เค้าอยากให้ทุกอย่างมันชัดเจนว่าให้ผมตัดใจจากน้องเค้า เพราะน้องเค้าไม่รู้สึกกับผมแบบนั้นแล้วจริงๆ แต่เรายังเป็นพี่น้องกันได้อยู่
น้องเค้าเล่าครับว่า ตอนนี้แม่กลับมาคุยกับน้องปกติแล้วและคอยส่งเงินมาให้ใช้ เค้าออกจากอพาร์ทเมนต์พ่อผมไปเช่าคอนโดอยู่แถวโรงเรียน แต่ก็ไม่ได้ไปเรียนครับ ไปลาออก และเดือนหน้าจะบินไปประเทศ A
น้องพร้อมตัดพ่อออกจากความทรงจำ จะไปเรียนซ้ำปีนึงที่ประเทศ A อยู่ที่นั่นไปตลอด
ส่วนมหาลัยก็จะไปประเทศ B ซึ่งเป็นความใฝ่ฝันน้องแต่เด็กแล้วครับว่าอยากเข้ามหาลัยที่นั่น
น้องบอกผมครับว่าเรายังเป็นพี่น้องกันได้อยู่ แต่ผมอยากได้ความสัมพันธ์แบบเดิมกลับคืนมา
น้องเลยตอบว่า เค้าเหลือเวลาให้ผมเดือนนึง แต่รอบนี้เค้าจะอยู่เฉยๆไม่เล่นด้วยอะไรนะ ถ้าคิดว่าทำได้ก็ลองดู
แต่หลังจากนั้นน้องก็ไม่รับสายผมเลย
ล่าสุดผมส่งแชทไป น้องเค้าตอบครับว่า เค้ายังต้องคุยกับผมอยู่หรอ
ผมเลยบอก ช่าย ก็เรายังเป็นพี่น้องกันอยู่นี่นา
น้องเค้าก็ตอบ อ่อ แล้วเงียบไปเลยครับ
ผมเองไม่ได้ขัดข้องอะไรนะครับ ที่น้องจะไปประเทศ A
มันก็ดีกว่าต่ออนาคตน้องเอง ทั้ง คุณภาพชีวิต และ ความอบอุ่นจากคนในครอบครัวที่ไว้ใจได้
แต่ผมก็อยากให้น้องไปแบบที่เรายังเป็นแฟนกันอะครับ
น้องเค้าบอกว่า พอมีเรื่องระยะทางแล้ว มันเป็นไปไม่ได้หรอกที่จะเป็นแฟนกันโดยไม่ระแวงว่าอีกฝ่ายจะนอกใจ ไม่เจอตัวเลยขนาดนั้นมันต้องมีโดดเดี่ยวและไปหาคนอื่นบ้างแหละ แถมตรวจสอบอะไรไม่ได้ ร้อนรุ่มจิตใจเปล่าๆ
แต่ผมไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้เลยครับ ผมควรทำไงดีครับ