JJNY : พท.ชี้วิกฤตสร้างจุดจบให้กับรัฐบาล/แอมเนสตี้จี้ไทยยกเลิกข้อหา/นักเคลื่อนไหวอินโดฯชม'ม็อบไทย'/สภาผวาม็อบล้อมรอบ2

เพื่อไทยชี้วิกฤตการเมือง-เศรษฐกิจ-ความเชื่อมั่น เป็นจุดตัดที่สร้างจุดจบให้กับรัฐบาล 
https://www.khaosod.co.th/politics/news_5178659
 

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทยชี้วิกฤตการเมือง-เศรษฐกิจ-ความเชื่อมั่น เป็นจุดตัดที่สร้างจุดจบให้กับรัฐบาล
 
วันที่ 24 ต.ค. นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ผู้อำนวยการศูนย์นโยบายและวิชาการพรรคเพื่อไทย และทีมเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า นับตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นเหตุของปัญหาความขัดแย้ง เปรียบเสมือนการซุกปัญหาไว้ใต้พรมมานานนับ 6 ปี จนถึงวันนี้ไม่สามารถปิดปัญหาได้อีก ถือเป็น 6 ปีที่สูญเปล่า รัฐบาลเลือกที่จะกลบวิกฤติการเมืองด้วยการสร้างวิกฤติการเมืองที่ใหญ่กว่า จากรัฐธรรมนูญบิดเบี้ยวที่พันธนาการสังคมไทย ซ้ำยังผลิตซ้ำแนวคิดที่ว่ารัฐบาลมาด้วยความถูกต้อง จึงเป็นแรงกดดันที่ได้ปะทุออกมา เป็นวิกฤตการเมืองที่ต้องจารึกในประวัติศาสตร์ชาติไทย
 
นอกจากนี้ ยังมีปัญหาด้านโครงสร้างเศรษฐกิจที่อ่อนแอและเปราะบางอยู่ก่อนแล้ว ทั้งด้านผลิตภาพ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่สุดของความสามารถในการผลิตของผู้ประกอบการ (อุปทาน) และตลาดแรงงาน ซึ่งเป็นหัวใจของการฟื้นตัวฝั่งความต้องการของผู้บริโภค (อุปสงค์) เหล่านี้ถูกตอกย้ำครั้งแรกด้วยโรคระบาด และครั้งที่สองด้วยนโยบายการเงินที่กระจุกตัวและล้มเหลว ทั้งที่เอกชนรายย่อยต้องการสินเชื่อเป็นอย่างมาก ทำให้สินเชื่อเอสเอ็มอีตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันหดตัวลงร้อยละ 2.6 ขณะที่สินเชื่อรายใหญ่ในช่วงเดียวกันขยายตัวร้อยละ 10.4
 
ส่วนมาตรการการคลังที่ไม่มีประสิทธิภาพ โดยพบว่า เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ถูกใช้จริงเพียง 5 แสนล้านบาท มาตรการภาครัฐเข้ามาไม่ทันกับรายได้ที่หายไป นำไปสู่ภาวะเหวทางการคลัง ซึ่งอันตราย ในขณะที่ภาวะการปิดกิจการยังไม่ถึงจุดต่ำสุด และภาวะการตกงานที่เห็นอยู่ ยังเป็นแค่จุดเริ่มต้น เพราะการตกงานมีจุดต่ำสุดในช่วงภาพรวม 6 เดือนถึง 1 ปี เมื่อตลาดแรงงานไม่ฟื้น กำลังซื้อภายในประเทศไม่ได้ถูกขับเคลื่อนด้วยอุปสงค์จริง แต่เป็นอุปสงค์เทียมที่สร้างขึ้นจากมาตรการภาครัฐ ซึ่งกำลังอ่อนแรงลงอย่างมีนัยสำคัญ
 

 
แอมเนสตี้ จี้ไทยยกเลิกข้อหา-ปล่อยตัวม็อบ
https://www.dailynews.co.th/politics/802991
  
แอมเนสตี้ เรียกร้องทางการไทยยกเลิกข้อหาที่ไม่ชอบธรรมและปล่อยตัวผู้ชุมนุมโดยสงบ
  
 เมื่อวันที่ 24 ต.ค. ราชัด โคเซีย ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัยและนโยบาย แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เผยว่า แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลออกแถลงการณ์ระบุ มีผู้ชุมนุมถูกดำเนินคดี 84 คนนับแต่วันที่ 13 ต.ค. โดยใช้ข้อกล่าวหาที่กำกวมและมีแรงจูงใจทางการเมือง ชี้แกนนำผู้ชุมนุมเหล่านี้ถูกคุมขังเพียงเพราะแสดงความคิดเห็นของตนโดยสงบ เรียกร้องให้ปล่อยตัวทันทีและโดยไม่มีเงื่อนไข ทั้งยังเรียกร้องทางการไทยให้เคารพพันธกรณีระหว่างประเทศที่จะต้องคุ้มครองสิทธิมนุษยชนที่จะมีสิทธิในเสรีภาพการแสดงออกและการชุมนุมโดยสงบ และปฏิบัติตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กด้วย
 
ในขณะที่การชุมนุมโดยสงบในประเทศไทยขยายตัวขึ้น ทางการไทยยังคงใช้กฎหมายที่มีเนื้อหากำกวมและจำกัดสิทธิมากเกินไป เพื่อคุกคามและปิดปากประชาชน แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล จึงเรียกร้องทางการไทยให้ยกเลิกข้อหาทั้งหมดต่อผู้ชุมนุมอย่างสงบโดยทันที และให้ปล่อยตัวคนที่ยังถูกควบคุมตัวอยู่
 
การชุมนุมที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องไปทั่วประเทศไทย เป็นสัญญาณบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าประชาชนให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับสิทธิในเสรีภาพการแสดงออก และการชุมนุมโดยสงบ แทนที่จะจัดพื้นที่ปลอดภัยให้ประชาชนเพื่อแสดงความคิดเห็น ทางการไทยกลับดำเนินคดีอาญาซ้ำแล้วซ้ำอีกกับการชุมนุมโดยสงบ ทั้งใช้กฎหมายที่ให้อำนาจอย่างกว้างขวางและมีเนื้อหากำกวม ข้อหาที่ทางการไทยใช้ดำเนินคดีกับแกนนำผู้ชุมนุมกลายเป็นเพียงยุทธวิธีเพื่อสร้างความหวาดกลัวให้ขบวนการ และอีกทั้งเป็นข้อหาโดยพลการ ไม่เหมาะสม และมีแรงจูงใจทางการเมือง
 
แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ระบุ แกนนำผู้ชุมนุมเหล่านี้ถูกคุมขังเพียงเพราะแสดงความคิดเห็นของตนโดยสงบ เพื่อเรียกร้องการปฏิรูปทางการเมืองและสิทธิมนุษยชน ไม่มีเหตุผลที่ต้องควบคุมตัวพวกเขา และต้องปล่อยพวกเขาทันทีและโดยไม่มีเงื่อนไข และทางการไทยต้องปฏิบัติตามพันธกิจล่าสุดที่จะลดความตึงเครียดของสถานการณ์ โดยต้องยุติการใช้กฎหมายในสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างมิชอบ ยุติการจับกุมและการใช้กฎหมายคุกคามประชาชนจำนวนมาก
 
แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ย้ำเรียกร้องทางการไทย ให้เคารพพันธกรณีระหว่างประเทศที่จะต้องคุ้มครองสิทธิมนุษยชนที่จะมีสิทธิในเสรีภาพการแสดงออก และการชุมนุมโดยสงบ ที่เป็นไปตามกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) รวมทั้งให้คุ้มครองสิทธิของบุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ที่ได้เข้าร่วมการชุมนุมตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ซึ่งมีผลบังคับใช้ต่อประเทศไทยทั้งสองฉบับ.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่