[CR] ทริป "อิหยังวะ" ณ ซาปา กับฟิลเตอร์สีขาว


หลังจากห่างหายการบันทีกความทรงจำมานานแสนนาน วันนี้จะมารีวิว+เล่าประสบการณ์การแบกเป้เที่ยวต่างประเทศครั้งแรก ขอนับเป็นการเที่ยวตปท.ครั้งแรกละกันนะ เพราะที่ผ่านมาไปภารกิจ ไปเรียน ไปเวิค ไม่นับบบ

ทริปนี้เป็นทริป 4 วัน 3 คืน โดยเริ่มต้นจากการวางเป้าหมายว่าช่วง Big Sale ของ Air Asia จะต้องได้ทริปสักทริปแหละน่า แล้วก็ตกเพื่อนเลิฟมาร่วมทริปได้ 1 EA ถ้วน จากนั้นก็นั่งนับวันรอที่จะได้ออกเดินทาง


FEB 2020 CNX-HAN บินตรงจากเชียงใหม่ที่เรารัก สู่ฮานอย เวียดนาม ก่อนไปก็ได้เซิชพยากรณ์อากาศไว้ 14-20 องศา ก็โอนะ กำลังดี โยนเสื้อกันหนาวลงกระเป๋า 1 ตัวถ้วน ขอบคุณโปรดีดีจากบัตรเครดิต Air Asia Bangkok Bank สำหรับการโหลดกระเป๋าไปเลยฟรีๆ สำหรับการบินจากสนามบินในประเทศ

ความ "อิหยังวะ" แรกได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อมีคุณลุงเดินมาแทรกแถวเรา ขณะรอขึ้นเครื่อง โอเค ชั้นจะไปเที่ยวอย่างมีความสุข ชั้นจะไม่หัวร้อน ก็เลยจบไป แต่หลังจากนั้นอีกไม่ถึง 5 นาที เมื่อขึ้นไปบนเครื่องบิน ที่นั่งของชั้น ...มีคนนั่งอยู่ !!
ตอนนั้นยอมรับว่าเหวอแหละเอาจริง ละก็คิดถึงทริปเชียงดาวตอนนั่งรถส้ม แล้วเจอคนนั่งที่ที่เป็นเลขตั๋วเรา แถมกระเป๋ารถก็บอกว่า นั่งๆไปเถอะน้อง เหมือนกัน แต่ไม่ไง นี่มันเครื่องบินป่ะ หลังจากดูเลขที่นั่งซ้ำ 3 รอบจนแน่ใจ ก็เลยพูดไปด้วยโทนเสียงที่ดังระดังพูดหน้าชั้นเรียน โทษนะคะ ตรงนี้ที่นั่งเรา ซึ่งคนที่นั่งอยู่ก็ทำหน้างงใส่ ละตอบกลับมาว่า อ่าวมีเลขด้วยหรอ 

ว้าดดดดดด "อิหยังวะ2" มีค่ะ เนี่ย 7D 7E ไหนขอดูตั๋วหน่อยค่ะ น้ำเสียงเริ่มเหวี่ยงละจ้า ต้องขออภัย ผดส คนอื่นๆด้วยนะ มนุษย์ป้าที่นั่งอยู่ที่ชั้นก็มีความเลิกลักละ แต่ก็ไม่ลุก อ่ะ ไม่สุดท้ายละ "แอร์คะ ขอโทษนะคะ แอร์คะ ตรงนี้มีคนนั่งไม่ตามตั๋วค่ะ" รอบนี้เสียงระดับ ตะโกนคุยกับเพื่อนวันงาน Sport day ละ แล้วมนุษย์ป้าก็ลุกขึ้น อ่ะๆ ย้ายๆ เดี๋ยวย้ายให้ ไหนว่านั่งไหนก็ได้วะ นางพูดแบบรมเสียนิดๆ แล้วก็มีพี่ผญ น่าจะเป็นหัวหน้าทัวร์ของป้า รีบเดินมาดูตั๋วป้า และพาป้าไป สรุปโซนนั้น มีลูกทัวร์ของทัวร์นี้นั่งไปเรื่อยอยู่ประมาณ 12 คน โดยหนึ่งในนั้นพูดประมาณว่า เห็นไกด์นั่ง เลยนั่งต่อเลย ไม่รู้ว่าต้องดูตั๋ว ว้าดดดดดดดดดด

หลังจากจบความวุ่นวายเรื่องที่นั่งจบลงก็ถึงเวลาหลับจ้า ก่อนนอน ก็ซดช้อคโกแลตร้อนไป 1 แก้วฟรีๆไปเลย โดยแสดงบัตรเครดิต Air Asia Bangkok Bank คนดีใบเดิม และเมื่อเครื่องเบินแลนปุ๊ป 14 องศา ตอนบ่ายโมงงงงง

 

อากาศแบบนี้แหละที่ชั้นอยากเจอ หลังจากลงเครื่องปุ๊ปก็พุ่งตรงไปแลกเงินก่อนเลยจ้า เนื่องจากตอนขามาเงิน VND หาแลกยาก เลยถือเงิน USD มาแลกที่นี่เอา แต่ก็เห็นอยู่นะว่าที่เคาน์เตอร์ รับแลกเงินสกุล THB ได้อยู่ และเคาน์เตอร์เดียวกัน ก็สามารถซื้อ SIM โทรศัพย์ได้ด้วย

SIM ที่ซื้อจะเป็น SIM Viettel เนื่องจากอ่านใน Review ถ้าจะไปซาปามีคนแนะนำแบรนด์นี้เยอะ ราคาอยู่ที่ 350k (490฿) ใช้ได้ 30 วัน
เวียดนามถือว่าเป็นดินแดนแห่ง Free WIFI ดังนั้นจริงๆ แนะนำว่าถ้าไม่วีดีโอคอล ดูยูทูป เล่นเกมส์หนักๆ สามารถซื้อซิม Net แค่ 1 คน ละใช้การแชร์ฮอตสปอต จะคุ้มค่ากว่า


จากนั้นก็ได้เวลาเข้าเมืองแล้วจ้า โดยวิธีการเข้าเมืองมีอยู่หลายทาง โดยเราได้เลือกรถบัสโดยสารที่จะส่งเราถึงสถานีรถไฟ GA HA NOI เลย
เดินออกจากสนามบินด้านซ้ายมือสุด จะเจอป้ายรถบัสอยู่ โดยราคาก็แค่ 35K (49฿) ต่อคน โดยจะวิ่งไปสุดสายที่สถานีรถไฟเลย ไม่ต้องกังวลเรื่องหาป้ายลงนะจ๊ะ ความโชคดีคือตอนเรานั่งงงในดงแบงค์ VND คนข้างเราเขาก็เลยช่วยเราเลือกแบงค์จ่ายค่ารถบัส คุยกันไปคุยกันมา พี่แกเป็นไกด์ เคยทำทัวร์ที่โซนอิสานบ้านเฮาอยู่ แกก็แนะนำที่เที่ยวให้เราอย่างดี แถมสนใจในเมืองไทยด้วย เราก็เบรคไปนะ อย่ามาเชียงใหม่เลยพี่ เดี๋ยวปอดพังจาก PM 2.5 ไปทะลงทะเล ไปเกาะเถอะช่วงนี้


เมื่อถึงสถานีรถไฟเรียบร้อยแล้ว สิ่งแรกที่เราทำก็คือไปซื้อตั๋วรถไฟ แบบชิคชิค ที่จะนั่งไป จังหวัด Lao Cai ก่อนจะต่อไป Sapa ซึ่ง ความ "อิหยังวะ" ที่ 3 ก็ตามมาติดๆ คือจากการอ่าน Review หลายที่ บอกว่าให้มาซื้อตั๋วรถที่สถานีเลย ถูกกว่า ดังนั้นเราเลยไม่ได้ซื้อตั๋วออนไลน์มา แต่พอมาเช็คราคา ในออนไลน์จะมีให้เลือก ว่าต้องการซื้อเป็นต่อคน ซึ่ง 1 ห้อง นอนได้ 4 คน หรือถ้าต้องการความ VIP คือเหมาตู้ จริงๆก็คือห้องนั้นแหละ แต่พับเตียงบนให้นอน 2 คน แบบ VIP ราคาก็จะแพงกว่าต่อหัวไปนิด แต่ที่ "อิหยังวะ" คือ Cash only นะจ๊ะ โอ้โหว จนไปเลยแม่ และซื้อที่สถานี เขาก็บังคับว่า ยูต้องซื้อ 4 หัวเลย ไม่งั้นก็ไม่ให้เหมา โอ้มายก้อด แต่ก็ด้วยความไม่ยอมแหละ เราก็ลองหาในเวปอื่น ลองถามเขาว่ามี เจ้าอื่นอีกไหม๊ หลายสิ่ง จนในที่สุด เขาก็ลดราคาให้เรา โดยจ่ายไปทั้งหมด 2,400K ต่อห้องนึง ก็คือ 1200K (1,680฿) ต่อคน หมดเป็นล้านครั้งแรก 555555555555


สิ่งที่ได้มาคือกระดาษ A4 1 แผน พร้อมชื่อบริษัทรถไฟ เวลาออกรถไฟ แต่ไม่มีเลขที่นั่ง โบกี้ หรือใดใด เราก็ทำหน้างงใส่ เอ้ะ แค่นี้หรอ คุณพนักงานขายตัวก็เยส โอเค โอเค อย่างเดียว งั้นก็โอเคก็ได้ เราก็เลยทำการฝากกระเป๋าเดินทางไว้ที่สถานี โดยใช้บริการตู้ล็อกเกอร์ 50K (70฿) สำหรับ 4 ชม.


จากนั้นได้เวลาหาของกินแล้วจ้า เราได้ทำการเดินเท้าจากสถานีรถไฟมายัง Old Quarter ซึ่งถือว่าเป็นการเดินที่ตื่นเต้นมาก เนื่องจากที่นี่ เขาขึ้นชื่อในเรื่องการบีบแตรรถ ก็ตามนั้นแหละ ซ้ายขวาหน้าหลัง ไม่รู้จะหลบหรือจะปล่อยเบลอเลยจ้า แล้วก็มาถึง Dong Kinh Nghia Thuc Square ซึ่งโอโห บ้านนี้เมืองนี้การจอดรถ "อิหยังวะ" อีกแล้วจ้า เพราะว่าบรรดา Bike Delievery และรถ Taxi จอดกันรอบวงเวียนเลยพ่อคุณ จัดว่าเป็นระบบจารจรที่น่าสนใจ

หลังจากตื่นเต้นกับการจอดรถเสร็จ เราก็เปิดรีวิวอาหารต่างๆนาๆ เลือกกันอยู่นานสองนาน แต่ระหว่างทางเดินไปร้านที่วางแผนไว้ ก็เจอกลุ่มพนักงานชายหนุ่มตะโกน ขอใช้คำว่าตะโกนนะ เรียกลูกค้าอยู่หน้าร้านที่เรากำลังเดินผ่าน เชี่ย ชอบเอเนจี้มาก เหมือนกำลังมีเรื่องกันอยู่อ่ะ แต่เปล่า เรียกลูกค้า ซึ่งร้านนี้ก็จะเป็นแนวของทอดกลิ่นก็หอมลอยมาเชียว โอเค แวะ


ร้านแรกที่เราเปิดประเดิม ลองทางอาหารประเทศนี้แบบท้องถิ่นที่แท้ทรู เป็น Street food ชื่อร้านว่า NOM THIT BO KHO เป็นร้านหัวมุมเล็กๆกับโต๊ะตัวเล็กๆ เก้าอี้ที่ภาษาเหนือเชียงใหม่มักเรียกว่า "ก่อมหน้อย" ทิ้งตัวลงนั่งได้ประมาณ 3 วิ คุณพนักงานก็รัวภาษาเวียดนามใส่ไม่ยั้ง ทำเอาสองชะนีทำหน้าเหวอไปตามๆกัน "เวียดนาม?" "โน แอม ไทย" "โอ้ ซอรี่ๆ" แล้วคุณเค้าก็เดินไปเอาเมนูมาให้ แต่ก็ขอบคุณนะพ่อ ไม่มีภาษาอื่นใดนอกจากภาษาเวียดนามไปอีก อ่ะ ถึงเวลาแรนดอมจ้า เราเลยได้ทำการแรนดอมอาหารจากรูปภาพ โดยก่อนสั่งก็จะมีถามก่อนแบบเบสิกๆ ว่าเป็นไก่หมูปลา หรือใดใด แล้วอาหารมื้อแรกก็มาถึง ตามภาพเลยจ้า ถือว่าประทับใจ ได้อยู่ ก็จะเป็นแนวๆ แหนมทอด กับปอเปี๊ยนึ่งไส้เห็ด ความน่ารักของพนักงานคือมีการเดินมาแล้วพยายามพูดภาษาไทย "จี๊นส้มทอด" โอ๊ยน้อง เป็นดีอินดู จากนั้นเมนูเรียกน้ำย่อยผ่านไป เราก็เดินตรงดิ่งไปยังร้านเฝอที่หมายตาไว้ นั่นก็คือ PHO GA TA ป้ายสีเขียวๆ กลิ่นน้ำซุปคือลอยคลุ้งไปทั้งแถบ เฝอถ้วยแรกเป็นเฝอไก่แบบเบสิคๆ มีพริกเป็นเครื่องเคียง ถือว่าคอมพลีทอยู่นะ

หลังจากท้องอิ่ม ก็ได้เวลานั่งชิว จิบเบียร์ จิบบรรยากาศวิวเมือง ฟังเสียงแตรรถ อากาศเย็นๆ บนร้าน Legend Beer ที่อยู่ชั้น 3 ของตึก ALDO ประมาณ 2 ทุ่ม บรรยากาศรอบๆก็ไม่วุ่นวาย บรรดารถก็หายไปกว่าครึ่ง ไม่น่าเชื่อเลยว่านี่จะเป็นเมืองหลวงจริงๆ พอใกล้ลถึงเวลาขึ้นรถไฟ เราก็ได้เดินเท้ากลับมายังสถานีรถไฟตามเดิม แล้วก็นั่งรถเวลาที่เขาจะเรียกขึ้นรถ ความ "อิหยังวะ" สุดท้ายของค่ำคืนนี้ คือการที่เราเดินไปถ้าย้ำกับพนักงานขายตั๋วว่า ไอสามารถใช้กระดาษ A4 นี้กับการขึ้นรถได้จริงๆใช่ไหม๊ ซึ่งพนักงานก็ยืนยันว่าได้ เราก็เดินไปโลด


และในที่สุดก็มีถึงตู้นอนของเรา เราก็ได้ยืนกระดาษให้พนักงานประจำตู้ คุณลุงก็พยักหน้าพร้อมกับพูดว่า "Wait Wait" แล้วก็หาอะไรบางอย่างจากกระเป๋า แล้วก็ยื่นตั๋วมาให้เรา โอเคซึ้ง ตั๋วรถไฟจริงๆ และเป็นตั๋ว 2 ที่จ้า ไม่ได้ระบุว่าเหมาห้อง แบ่งกันเพลินเลยนะพ่อคุณ 555555555 โอเค เอาเป็นว่าขึ้นรถไฟตู้นอนแบบปลอดภัย เจ็บใจเล็กน้อย ถือเป็นเซอร์วิสชาร์ทละกัน 

รีวิวรถไฟที่ทุกคนกล่าวถึงมาในหลายๆรีวิว พูดเลยว่าดีเลย สะอาด ประตูแน่นหนา เตียงนุ่มใช้ได้ ขนมน้ำผลไม้อยู่ท้อง ผ้าห่มหนานุ่ม เอาเป็นว่าเห็นสภาพห้องแล้ว ก็ลดความสะเทือนใจในราคาไปบ้าง ห้องเป็นห้องแบบ 4 เตียง สามารถโดยสารได้ 4 คน แต่ดูๆแล้ว เตียงบนปีนยากอยู่ไม่ต้องสืบ ห้องน้ำก็ใช้ได้เลยนะ สำหรับมาตรฐานห้องน้ำในขบวนรถไฟ โอเค งั้นก็คงจะถึงเวลาพักผ่อนตามอัทธยาศัย ฝันดีราตรีสวัสดิ์ พนักงานบนรถไฟ พูดภาษาอังกฤษได้น้อยมาก แต่สุดท้าย ทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดีนะจ๊ะ


รู้ไว้ใช่ว่า ใส่บ่าแบกหาม สำหรับการ Book ตั๋ว ไม่ว่าจะเป็น รถไฟ บัส มินิบัส ควรซื้อกับเอเจนซี่ หรือ Book Online ในเว็ปไปเลย เพื่อป้องกันการโดนบวกเพิ่มแบบงงๆนะจ๊ะ

เดี๋ยวกลับมาต่อนะจ๊ะ วันแรกพึ่งจะผ่านพ้นไป


✈ AIR ASIA X
📱 Viettel : 490฿
🚍 HanoiBus 86 : 49฿
🚂 Violette Trains Viêt Nam : 1,680฿

📷 Iphone11pro / Galaxy s10th
ชื่อสินค้า:   ซาปา เวียดนาม
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่