รหัสลับรัตติกาล ตอนที่ 9

กระทู้สนทนา
G.K.Line

          9.

          ในกาลก่อนได้มีอิสตรีนางหนึ่งถือกำเนิดขึ้นในแผ่นดินไกลโพ้น สตรีนางนี้เพียบพร้อมไปด้วยรูปโฉมงดงาม กิริยาท่าทางนุ่มนวลอ่อนช้อยแต่สวยสง่าอยู่ในที อีกทั้งยังเฉลียวฉลาดในการเจรจาจาพาทีแสดงความคิดเห็น รู้จักวางตัวและแสดงออกได้อย่างพอเหมาะ ไม่นิ่งเฉยเสียจนถูกค่อนขอดว่าเป็นหญิงโง่ และไม่สู่รู้จนถูกใครมองว่าอวดฉลาด ใครที่ได้พบปะพูดคุยด้วยล้วนอดนิยมชมชอบในตัวนางไม่ได้

                องค์จักรพรรดิเองก็ตกหลุมรักนางทันทีเมื่อแรกเห็น คนทั้งคู่ได้พบกันโดยบังเอิญในคราวที่พระองค์ลอบออกจากวังหลวงเพื่อเฝ้าสังเกตดูทุกข์สุขของอาณาประชาราษฎร์ บิดามารดาต่างเต็มใจถวายนางให้เป็นนางสนมรับใช้องค์เหนือหัว และแล้ววังหลวงก็กลายเป็นที่อยู่ใหม่ของนางนับแต่บัดนั้นเป็นต้นมา

                เมื่อแรกเข้าวัง ใครที่ได้พบเจอพูดคุยด้วยต่างก็พากันชื่นชมในความงาม และอดเอ็นดูในความเฉลียวฉลาด กับอุปนิสัยนอบน้อมถ่อมตัวของนางไม่ได้ ถึงกับเล่าลือกันว่าหญิงงามผู้นี้มีค่าควรเมือง

                ได้ยินดังนั้น เจ้าผู้ครองแผ่นดินยิ่งพอพระทัย และยิ่งเพิ่มความเสน่หาในตัวหญิงชาวบ้านผู้นี้เป็นทบทวีคูณ พระองค์รู้สึกว่ารักนางมากขึ้นทุกวัน เฉกเช่นเดียวกันกับนางที่เทิดทูนและหลงใหลในตัวของกษัตริย์หนุ่ม นับแต่ได้ครอบครองหญิงงามผู้นี้ พระองค์ก็ไม่เสด็จไปยังห้องของมเหสีหรือนางสนมคนใดอีกเลย

                แต่เมื่อมีคนรักก็ย่อมมีคนชัง ยิ่งถูกรักโดยเจ้าเหนือหัวด้วยแล้ว คนที่พร้อมจะชังนางย่อมมีมากขึ้นหลายเท่า และนั่นคือจุดพลิกผันชะตาชีวิตในวังหลวงของนางสนมคนโปรดของกษัตริย์ ชะตากรรมแห่งรักระหว่างพระองค์กับหญิงในดวงใจจึงได้เริ่มต้นขึ้น

                เมื่อถูกอิจฉา นางจึงเริ่มถูกกลั่นแกล้งจากมเหสีและบรรดานางสนมที่มีใจริษยา เริ่มจากหาเหตุกลั่นแกล้งเล็กๆ น้อยๆ ก่อน แล้วทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นตามลำดับ

                นางมักถูกหาเรื่องใส่ร้ายป้ายสี กล่าวหาว่าทำผิดทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำหรือไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วยเลย แม้นางจะพยายามอธิบายความจริง แต่คนหัวเดียวกระเทียมลีบหรือจะสู้กับอิทธิพลในวังได้

                ถูกกลั่นแกล้งบ่อยครั้งเข้านางก็เกิดความเบื่อหน่าย คร้านจะโต้เถียง จึงเลือกที่จะเงียบเสียแทนการโต้ตอบแก้ต่าง นางพูดน้อยลงทุกวัน จนในที่สุดแม้แต่รอยยิ้มสดใสที่เคยมีก็หายไปจากใบหน้านาง

                สนมคนโปรดที่เคยสวยสง่าสดใสร่าเริง และมีแววตาที่แสดงออกถึงความเฉลียวฉลาดคนเดิมได้หายไปเสียแล้ว เหลือไว้เพียงหญิงสาวผู้เงียบขรึมซึมเศร้า นางกลายเป็นคนเก็บตัว ไม่อยากพบปะกับใคร และไม่กล้าออกจากห้องของตนไปไหนในเวลากลางวันอีกเลย

                หลังจากนั้นก็เริ่มมีผู้สังเกตเห็นความผิดปกติบางอย่างขึ้นในวัง

                กลางดึกที่สงบเงียบและมืดสลัว ทหารยามที่กำลังยืนประจำการอยู่เห็นสตรีนางหนึ่งเดินเล่นอยู่ในสวน จู่ๆ ก็เกิดมีเปลวไฟลุกติดขึ้นไล่หลังนางไป จนทหารยามต้องร้องโวยวาย ตะโกนเรียกระดมทหารทั้งหมดให้มาช่วยกันดับไฟ

                เหตุระทึกสุดพิสดารนี้ถูกเล่าจากปากต่อปาก และกระจายออกไปอย่างรวดเร็วราวไฟลามทุ่ง มีใครบางคนบอกว่าสตรีนิรนามในสวนนางนั้น คือนางสนมคนโปรดขององค์จักรพรรดินั่นเอง

                เมื่อข่าวประหลาดเรื่องแรกถูกกระพือออกไปแล้ว ไม่นานนักข่าวอื่นที่เกี่ยวกับความแปลกพิสดารของนางก็ถูกแพร่สะพัดตามมาอย่างไม่ขาดสาย บ้างก็เล่าว่านางสนมผู้นี้หากไปหยิบจับถูกสิ่งใดเข้า สิ่งนั้นก็จะถูกเผาเป็นจุลในชั่วพริบตา หรือถ้าหากย่างกรายไปทางไหน ต้นไม้ใบหญ้าตามรายทางที่นางผ่านก็จะเหี่ยวเฉาลงทันที เพราะโดนความร้อนของเปลวเพลิงจากภายในกายนาง

                กระทั่งสุดท้ายก็ลือกันว่านางเป็นภูตผีปีศาจที่ปลอมตัวมาเพื่อล่อลวงองค์จักรพรรดิ

                ข่าวลือในทางเลวร้ายที่แพร่สะพัดออกไปทำให้ผู้คนเริ่มคล้อยตาม ต่างพากันเกิดความหวาดกลัวว่านางปีศาจจะนำหายนะมาสู่ราชวงศ์ ถึงแม้ระยะหลังองค์จักรพรรดิจะงดไปเยี่ยมนางที่ห้องเนื่องจากข่าวลือนั้น แต่ด้วยความที่พระองค์เองยังมีใจรักมั่นต่อนางไม่เสื่อมคลาย ดังนั้น จึงยังทรงลอบพบปะไต่ถามสารทุกข์สุกดิบในยามค่ำคืนอยู่เป็นระยะ

                แล้วในที่สุดก็มาถึงทางตัน เมื่อข่าวลือร้ายๆ ได้โหมกระหน่ำนางสนมขององค์จักรพรรดิเสียจนเกิดความหวาดกลัวไปทั่วเมือง แม้ที่ผ่านมาจะทำเป็นนิ่งเฉยเหมือนทองไม่รู้ร้อน แต่ข่าวลือถึงหญิงอาเพศที่แพร่กระจายไปทุกหย่อมหญ้าก็กำลังจะทำให้อาณาจักรของพระองค์อ่อนแอลง และนั่นเป็นสิ่งที่ยอมให้เกิดขึ้นไม่ได้

                แม้ต้องฝืนใจตนเองอย่างสุดกำลัง แต่เพราะหมดสิ้นหนทาง พระองค์จำต้องออกคำสั่งเนรเทศนางอันเป็นที่รักไปเสียจากเมืองทั้งน้ำตา

                เมื่อวันแห่งการพลัดพรากมาถึง หลังจากพยายามหักห้ามความอาลัยรัก สิ่งที่พอทำได้เพื่อช่วยนางก็คือ ทรงมีรับสั่งให้จัดบริวารและขบวนอารักขาให้ติดตามนางไปด้วย กับทั้งประทานข้าวของเครื่องใช้อีกมากมาย

                เรื่องนี้ได้สร้างความฉงนสนเท่ห์ให้เกิดกับคนทั่วไปว่าเหตุไฉนคนโดนลงโทษจึงได้รับการปฏิบัติอย่างดีเช่นนี้ ช่างไม่สมกับคนที่ถูกเนรเทศเอาเสียเลย นอกจากนั้นองค์จักรพรรดิยังเสด็จไปส่งขบวนเนรเทศด้วยพระองค์เอง ไกลที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ ทรงยืนมองหญิงคนรักเดินทางจากไปจนกระทั่งขบวนลับสายตา

                ขบวนเนรเทศของหญิงผู้โชคร้ายเดินทางไปเรื่อยๆ อย่างไร้จุดหมายปลายทาง จนในที่สุดก็มาถึงหุบเขาแห่งหนึ่ง ขณะทั้งหมดกำลังเดินทางกันอยู่ จู่ๆ หมอกก็ลงจัดโดยไม่มีเค้ารางมาก่อน และแล้วขบวนเดินทางก็หายเข้าไปในสายหมอกลึกลับนั้นและก็ไม่มีใครพบเห็นพวกเขาอีกเลย

                แท้ที่จริงแล้วพวกเขาเหล่านั้นต่างเข้ามาติดอยู่ในดินแดนแห่งสายหมอก เมื่อพากันหาทางออกไปจากดินแดนประหลาดนี้ไม่ได้ ผู้คนในขบวนที่เหลืออยู่จึงต้องช่วยกันประคับประคองชีวิต เพื่อให้สามารถอยู่รอดต่อไปได้

                หมู่บ้านได้ถูกสร้างขึ้นโดยยึดถือเอานางสนมเป็นศูนย์รวมของจิตใจ เหตุการณ์ภายในหมู่บ้านดูเหมือนกำลังดำเนินไปด้วยดี ทุกคนยอมรับชะตากรรมและใช้ชีวิตไปอย่างเรียบง่ายเป็นปกติ ถ้าเพียงแต่ในเวลานั้นนางสนมจะไม่มีอีกหนึ่งชีวิตถือกำเนิดขึ้นมาในกายของนาง

                หญิงสาวผู้อาภัพเกิดมีอารมณ์แปรปรวนเพราะการตั้งครรภ์ นางโศกเศร้าและดีใจไปพร้อมๆ กันเมื่อรู้ว่ากำลังจะมีลูก อีกทั้งยังเฝ้าคิดถึงองค์เหนือหัว บุรุษยอดรักของนางอยู่ทุกลมหายใจเข้าออก ความระทมทุกข์ทำให้เคืองแค้นกระวนกระวาย

                นางควบคุมอารมณ์เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายของตนเองได้ลำบาก และมันก็ส่งผลไปถึงการเกิดเปลวเพลิงซึ่งลุกไหม้อยู่รอบกายนาง ยิ่งฉุนเฉียวเกรี้ยวกราดมากเท่าใด เปลวเพลิงก็ยิ่งลุกไหม้รุนแรงและบ่อยครั้งขึ้น และมันจะดับมอดลงได้ก็ต่อเมื่อจิตใจของนางกลับมาอยู่ในสภาวะปกติเท่านั้น

                เปลวเพลิงอันไร้ที่มานั้นแม้จะยังไม่เคยเผาทำลายหรือทำอันตรายใดๆ แก่ชาวบ้าน แต่มันก็เริ่มสร้างความหวาดกลัวให้แก่พวกเขา ทำให้ในท้ายที่สุด เหล่าบรรดาลูกบ้านจึงจำต้องขอร้องให้นางผู้เคยเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจย้ายที่พำนักไปยังแห่งใหม่ที่ห่างไกลออกไปจากแหล่งชุมชน

                ‘เทพธิดาแห่งไฟ’ เป็นชื่อที่ใช้เรียกขานนางนับจากนั้น เพราะถึงอย่างไร นอกจากเป็นรับสั่งขององค์เหนือหัวแล้ว พวกเขาก็ล้วนรักและนับถือนาง ถึงได้ยอมติดตามมาโดยดีแต่แรก นางจึงถูกยกให้อยู่ในฐานะของเทพธิดา ผู้คอยค้ำจุนหมู่บ้านเกิดใหม่และถูกตัดขาดจากโลกภายนอกแห่งนี้

                ชื่อเทพธิดาแห่งไฟ ถูกตั้งขึ้นเพื่อเป็นการแก้เคล็ด และเพื่อให้นางตระหนักถึงสถานะพิเศษที่ตนมี จะได้พยายามควบคุมอารมณ์ความรู้สึกฉุนเฉียวแปรปรวนให้ได้ พวกเขาหวังว่าเมื่อนางอยู่เพียงลำพังแล้วก็จะเกิดมีสมาธิ และเมื่อได้พบปะพูดจากับคนอื่นน้อยลงการที่จะมีใครเผลอไปพูดอะไรที่กระทบจิตใจนางก็จะลดลงด้วยนั่นเอง

                หญิงประหลาดก็ตระหนักถึงเหตุผลเหล่านี้ เมื่อจิตใจเริ่มนิ่งสงบลง เปลวเพลิงปริศนารอบกายนางจึงเกิดขึ้นน้อยลง ดูเหมือนว่าสภาพจิตใจของนางจะกลับมาดีขึ้นตามลำดับจนทุกคนในหมู่บ้านคลายใจ

                พวกเขาต่างเริ่มกลับมาใช้ชีวิตกันได้อย่างปกติสุขตามอัตภาพ ทำไร่ ไถนา เพาะปลูกกันตามประสา จนกระทั่งถึงวันที่ทารกน้อยในครรภ์ของนางได้ลืมตาขึ้นมาดูโลก เด็กน้อยเป็นเพศหญิงผิวพรรณขาวสะอาดสะอ้าน หน้าตาน่ารักน่าชังไม่ต่างจากมารดา

                แต่แล้วหลังจากนั้นเพียงไม่นาน โศกนาฏกรรมใหญ่ของหมู่บ้านในสายหมอกก็เกิดขึ้น ไม่แน่ใจว่ามันเกิดขึ้นจากอะไร อาจเป็นเพราะลูกน้อยที่ถือกำเนิดมาได้กระตุ้นให้นางคิดถึงสวามียอดรัก เพราะนางคิดว่าลูกจะไม่มีโอกาสเห็นหน้าพ่อแน่ๆ หรืออาจเป็นเพราะอารมณ์แปรปรวนที่มีสาเหตุมาจากภาวะซึมเศร้าหลังคลอด 

                นางเกรี้ยวกราดและคลุ้มคลั่งจนไม่อาจควบคุมตัวเองเอาไว้ได้อีกต่อไป ความคลุ้มคลั่งคราวนี้รุนแรงมากกว่าทุกครั้ง มันได้จุดประกายไฟติดๆ กันจนเปลวเพลิงลุกโพลง มีเสียงระเบิดตูมตามดังขึ้น และแล้วตัวของนางก็ติดไฟลุกไหม้คล้ายลูกไฟก้อนใหญ่

                พระเพลิงนั้นลุกลามขยายวงกว้างขึ้นจนไม่มีใครสามารถเข้าใกล้ได้ ผู้คนในหมู่บ้านจึงต่างพากันแตกตื่นหนีเอาตัวรอดจากเปลวไฟร้อนแรงที่โหมกระหน่ำ จนในที่สุดก็เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ขึ้นตรงสถานพำนักท้ายหมู่บ้านที่นางอาศัยอยู่

                เปลวเพลิงเผาผลาญอยู่หลายวัน จนกระทั่งพื้นดินตรงนั้นกลายเป็นที่ดินเสื่อมสภาพ เพาะปลูกอะไรไม่ขึ้นอีกเลย เทพธิดาแห่งไฟถูกเปลวเพลิงที่นางสร้างขึ้นเผาผลาญตัวเองจนมอดไหม้ตามไปด้วย ไม่เหลือแม้เถ้าถ่าน มรดกเพียงหนึ่งเดียวของนางก็คือบุตรสาวที่ถูกช่วยเอาไว้ได้ทัน

                ทารกน้อยคนนั้นถูกเลี้ยงดูมาอย่างดี และเป็นตัวแทนเทพธิดาแห่งไฟในฐานะ ‘เทพธิดาแห่งน้ำ’หลังจากนั้นหมู่บ้านก็ไม่เคยประสบเหตุเช่นเดียวกันกับวันนั้นอีกเลย ชาวบ้านต่างอยู่กันอย่างสุขสงบตลอดมานับจากนั้นจนถึงบัดนี้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่