เมื่อหลายเดือนก่อน มีข่าวหนึ่งที่ฮือฮาอยู่พอสมควรในหน้าจอโทรทัศน์และทางสื่อโซเชียล เรียกได้ว่าเป็นเรื่องราวที่เกือบมีความคล้ายคลึงกับเรื่องคุณ ยายสปีด เรื่องเล่าสยองขวัญสุดคลาสสิคที่ขึ้นหิ้งระดับตำนานเลยทีเดียว
โดยเหตุการในครั้งนี้ได้เกิดขึ้นที่ จังหวัด อุทัยธานี เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน ที่ผ่านมา
คุณปัญญา อายุ 25 ปี ชาว อ.เมือง จ.อุทัยธานี ได้โพสลงในโซเชี่ยลด้วยความตื่นเต้นหลังเพิ่งเจอเรื่องราวขนหัวลุกที่เพิ่งเจอมามาหมาดๆ ว่า ถูกวิญญาณวิ่งไล่ตามรถตามหลอกหลอนแลบลิ้นยาว วิ่งไล่ตามรถ มากว่า 3 กิโลเมตร
โดยคุณปัญญา ได้เล่าให้ว่า
เหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นในช่วงวันที่ 21มิถุนายน ตนเองพร้อมด้วยภรรยาได้เดินทางไปบ้านภรรยาที่ อ.หนองฉาง หลังจากที่ไปถึง ก็นั่งกินข้าวกับญาติพี่น้อง
จนเวลาล่วงมาประมาณ ตีหนึ่ง ตนจึงชวนแฟนขับรถกลับเข้าตัวเมืองอุทัยธานี
ตนขับรถมาเรื่อยๆ บนถนนตลอดสองข้างทางมืด ไม่มีไฟฟ้าส่องสว่าง
และตลอดเส้นทางไม่มีรถสวนทางมาเลยสักคัน พอเลยมาถึงทางโค้งที่มีต้นยางขนาดใหญ่หลายต้น โอบล้อมศาลเจ้าพ่อขุนด่าน เลยหน้าวัดป่าพริก เริ่มมีฝนตกปรอย ๆ
ตอนนั้นแสงไฟรถยนต์จะมองสลัว ๆ ตนเหลือบมองข้างทาง เห็นคนยืนอยู่ข้างถนน แต่ไม่เห็นหน้า แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากจึงเงียบ ไม่ได้บอกแฟน พอขับไปได้สักพัก นกแสก ได้บินตัดหน้ารถยนต์ที่ตนขับอยู่ ตอนนั้นใจตนเริ่มไม่ดีแล้ว และรู้สึกเริ่มกลัว
คุณปัญญา ได้เล่าต่อว่า หลังขับรถต่อไปด้วยความระแวง ได้สังเกตเห็นจากกระจกรถคล้ายมีเงาเงาตะคุ่มตะคุ่มอยู่บริเวณหลังรถ
ตนมองไป 3-4 ครั้งก็เห็นเงาเช่นเดิม จากที่คิดว่าตนเองคงคิดไปคนเดียว แฟนที่นั่งข้าง ๆ ได้หันมาถามว่า เห็นอะไรบ้างรึเปล่า
พอมาถึงทางโค้งสามแยกเด่นรัง หมู่ 4 ที่จะแยกเข้าบ้านเด่นรัง ตนเองตัดสินใจมองไปที่กระจกเป็นครั้งที่ 5 แล้วก็ภาวนาอย่าเห็นอะไรอีกเลย
ซึ่งครั้งนี้ก็ไม่เห็น แต่พอมามองกระจกข้างรถเท่านั้น มีวิญญาณคล้ายผู้หญิงผมยาว วิ่งตีคู่ข้างประตูรถฝั่งที่ตนขับ ตนตกใจหันกลับมาด้วยความกลัว
พยามที่จะไม่มอง พร้อมขับรถด้วยความเร็ว 80 กม. แต่เมื่อเหลือบกลับไปมองอีก วิญญาณหญิงผมยาวยังคงวิ่งตีคู่ข้างรถ และแลบลิ้นใส่อีกด้วย

ตนขับรถมาเรื่อย ๆ ซึ่งจากจุดที่เห็นวิญญาณวิ่งตีคู่มา ก็ยาวกว่า 2 กิโลเมตร ขณะที่แฟนนั่งก้มหน้าตลอด ตนที่สติแทบจะหลุดแล้วพยายามประคองรถไม่ให้ลงข้างทาง จนมาถึงทางโค้งสะพานทางแยกเข้าวัดหนองเต่า ตนกลั้นใจหันไปมองอีกที แต่ก็ไม่พบวิญญาณตามมาแล้ว
คุณปัญญา กล่าวอีกว่า ตนค่อนข้างโล่งใจตอนที่ขับมาได้สักพัก เริ่มมีไฟส่องทางแล้ว ส่วนตัวเชื่อว่าวิญญาณมีจริง ถนนเส้นนี้เคยมีชาวบ้านพบเจอกันบ่อย เป็นคนนั่งอยู่หัวสะพานเด่นรังบ้าง บางทีก็ไม่มีหัวบ้าง โดยส่วนใหญ่จะเจอหลังเที่ยงคืน โดยมีชาวบ้านแถวที่ใช้เส้นทางเท่านั้นทราบดี
พระครูอุทิตธรรมคุณ เจ้าอาวาสวัดมะพร้าวสูง ก็ได้เล่าเหตุการที่เคยพบเจอมาให้ฟังด้วยว่า อาตมาได้มาเป็นเจ้าอาวาสวัดมะพร้าวหลายสิบปี
และก็ได้ยินญาติโยมบ่นให้ฟังเรื่อย ๆ ว่าเจอวิญญาณ มาแลบลิ้นปลิ้นตาตั้งแต่หัวสะพานเด่นรัง ชาวบ้านหรือวัยรุ่นแถวนี้จะทราบดี พอมืดแล้วก็ไม่มีใครออกจากบ้าน 3-4 ทุ่มบนถนนจะเงียบมาก ถ้าจำเป็นจะออกนอกบ้านก็หาทางไปเส้นทางอื่นๆ
ถ้าถามว่าอาตมาเคยเจอหรือไม่ อาตมาต้องบอกว่าเจอ เป็นพวกเปรต มานั่งกันบนหัวสะพานบ้าง บนถนนบ้างคิดว่าพวกเขาคงมาขอส่วนบุญ ส่วนก็ตัวไม่ได้รู้สึกกลัวอะไร
และคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่วิญญานบางส่วนยังไมสามารถหลุดพ้นจากเวรกรรมที่ตนได้กระทำมา เรื่องผีสางก็คงแล้วแต่ใครจะเชื่อ แต่ขอให้เชื่อเรื่องของเวรกรรมมากกว่า
คุณป้าประกายที่อาศัยอยู่ในระแวกใกล้ๆวัดก็ได้ก็ได้ร่วมให้ข้อมูลว่า
เมื่อกลางปีที่ผ่านมา ขณะเวลาใกล้เที่ยงคืน หลังกลับจากทำธุระตนขับมอเตอร์ไซต์มาตามทางระหว่างทางก็ได้พบเจอกับนกแสกบินตัดหน้าเช่นกันตนจึงบอกนกไปว่าทางใครทางมันนะ เมื่อเข้าใกล้สะพาน ตนก็สังเกตเห็นร่างสูงยืนโงนเงนอยู่ข้างหน้าเมื่อเพ่งมองจึงได้รู้ว่าเป็นเปรต
จึงบิดรถหนีไปด้วยความตกใจ ผู้รู้ในพื้นที่ก็ได้ให้ข้อมูลกับนักข่าวที่ไปทำข่าวในช่วงนั้นว่า
ผีที่หลายคนได้พบเจอ เป็นผีบริวารของเจ้าพ่อขุนด่านสองตน
ชื่อยายคืนกับยายมา นิสัยชอบหลอกชาวบ้าน อย่างไรก็ตามก็ไม่มีใครสามารถยืนยันได้อย่างแท้จริง
ถ้าเรื่องผีวิ่งแลบลิ้นตามรถและผีเปรตเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง ก็นับว่านับเป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่หลอนและน่ากลัวมากอีกเส้นทางหนึ่งของไทยเลยทีเดียว
ชมคลิปวีดีโอ ผีวิ่งตามรถ อุทัยธานี
ผีวิ่งตามรถ อุทัยธานี เก็บตกเล่าข่าวผี
โดยเหตุการในครั้งนี้ได้เกิดขึ้นที่ จังหวัด อุทัยธานี เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน ที่ผ่านมา
โดยคุณปัญญา ได้เล่าให้ว่า
เหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นในช่วงวันที่ 21มิถุนายน ตนเองพร้อมด้วยภรรยาได้เดินทางไปบ้านภรรยาที่ อ.หนองฉาง หลังจากที่ไปถึง ก็นั่งกินข้าวกับญาติพี่น้อง
จนเวลาล่วงมาประมาณ ตีหนึ่ง ตนจึงชวนแฟนขับรถกลับเข้าตัวเมืองอุทัยธานี
ตนขับรถมาเรื่อยๆ บนถนนตลอดสองข้างทางมืด ไม่มีไฟฟ้าส่องสว่าง
และตลอดเส้นทางไม่มีรถสวนทางมาเลยสักคัน พอเลยมาถึงทางโค้งที่มีต้นยางขนาดใหญ่หลายต้น โอบล้อมศาลเจ้าพ่อขุนด่าน เลยหน้าวัดป่าพริก เริ่มมีฝนตกปรอย ๆ
ตอนนั้นแสงไฟรถยนต์จะมองสลัว ๆ ตนเหลือบมองข้างทาง เห็นคนยืนอยู่ข้างถนน แต่ไม่เห็นหน้า แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากจึงเงียบ ไม่ได้บอกแฟน พอขับไปได้สักพัก นกแสก ได้บินตัดหน้ารถยนต์ที่ตนขับอยู่ ตอนนั้นใจตนเริ่มไม่ดีแล้ว และรู้สึกเริ่มกลัว
พอมาถึงทางโค้งสามแยกเด่นรัง หมู่ 4 ที่จะแยกเข้าบ้านเด่นรัง ตนเองตัดสินใจมองไปที่กระจกเป็นครั้งที่ 5 แล้วก็ภาวนาอย่าเห็นอะไรอีกเลย
คุณปัญญา กล่าวอีกว่า ตนค่อนข้างโล่งใจตอนที่ขับมาได้สักพัก เริ่มมีไฟส่องทางแล้ว ส่วนตัวเชื่อว่าวิญญาณมีจริง ถนนเส้นนี้เคยมีชาวบ้านพบเจอกันบ่อย เป็นคนนั่งอยู่หัวสะพานเด่นรังบ้าง บางทีก็ไม่มีหัวบ้าง โดยส่วนใหญ่จะเจอหลังเที่ยงคืน โดยมีชาวบ้านแถวที่ใช้เส้นทางเท่านั้นทราบดี
ถ้าถามว่าอาตมาเคยเจอหรือไม่ อาตมาต้องบอกว่าเจอ เป็นพวกเปรต มานั่งกันบนหัวสะพานบ้าง บนถนนบ้างคิดว่าพวกเขาคงมาขอส่วนบุญ ส่วนก็ตัวไม่ได้รู้สึกกลัวอะไร
และคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่วิญญานบางส่วนยังไมสามารถหลุดพ้นจากเวรกรรมที่ตนได้กระทำมา เรื่องผีสางก็คงแล้วแต่ใครจะเชื่อ แต่ขอให้เชื่อเรื่องของเวรกรรมมากกว่า
เมื่อกลางปีที่ผ่านมา ขณะเวลาใกล้เที่ยงคืน หลังกลับจากทำธุระตนขับมอเตอร์ไซต์มาตามทางระหว่างทางก็ได้พบเจอกับนกแสกบินตัดหน้าเช่นกันตนจึงบอกนกไปว่าทางใครทางมันนะ เมื่อเข้าใกล้สะพาน ตนก็สังเกตเห็นร่างสูงยืนโงนเงนอยู่ข้างหน้าเมื่อเพ่งมองจึงได้รู้ว่าเป็นเปรต
ผีที่หลายคนได้พบเจอ เป็นผีบริวารของเจ้าพ่อขุนด่านสองตน
ชื่อยายคืนกับยายมา นิสัยชอบหลอกชาวบ้าน อย่างไรก็ตามก็ไม่มีใครสามารถยืนยันได้อย่างแท้จริง