JJNY : 4in1 TMB ชี้สัญญาณฟื้นศก.เริ่มแผ่ว/4มุมมองคนรุ่นใหม่/นศ.พระนครเหนือยืนรำลึก6ตุลา/ก้าวหน้าเตรียมแนะนำผู้สมัครอบจ.

TMB ชี้ สัญญาณ ฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย เริ่มแผ่ว
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/901127
 

 
ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีเอ็มบี ชี้สัญญาณการฟื้นตัวเศรษฐกิจแผ่วลง ชี้มาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายต่อเนื่องเป็นเรื่องจำเป็น เน้นกลุ่มที่รายได้ได้รับผลกระทบจากโควิดค่อนข้างจำกัดที่มีอยู่กว่า 15 ล้านคน ช่วยฟื้นการบริโภคโดยรวม
 
      ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีเอ็มบี หรือ TMB Analytics เผยการบริโภคภาคเอกชนมีสัญญาณแผ่วลง จากที่มีทิศทางปรับดีขึ้นหลังคลายล็อกดาวน์ ล่าสุดในเดือนสิงหาคมการใช้จ่ายสินค้าหมวดไม่คงทนและหมวดบริการแผ่วลงจากกำลังซื้อที่ยังคงอ่อนแอ มีเพียงการใช้จ่ายในหมวดสินค้าคงทนที่ยังคงเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ มีโอกาสที่แรงส่งของการฟื้นตัวจะอ่อนแรงลงไปอีก
 
      เครื่องชี้วัดการบริโภคเริ่มแผ่วลง หลังจากที่ปรับดีขึ้นต่อเนื่อง ดัชนีการบริโภคภาคเอกชนปรับดีขึ้นจากจุดต่ำสุดในเดือนเมษายน 2563 ซึ่งเป็นไปในทุกหมวดสินค้า
 
     โดยในหมวดสินค้าคงทน ยอดขายรถใหม่ปรับเพิ่มขึ้นจากยอดขายเดิมที่เคยลดเหลือเพียง 3 หมื่นคันในเดือนเมษายน มาอยู่ที่ 6.8 หมื่นคันในเดือนสิงหาคม และราคารถมือสองที่ขยับดีขึ้นจากเดือนเมษายน 2563 อย่างไรก็ดี ประเมินยอดขายรถใหม่ที่เพิ่มขึ้นจากจุดต่ำสุด ยังไม่เป็นตัวชี้ถึงดีมานด์ที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นความต้องการที่เลื่อนมาจากช่วงล็อกดาวน์
 
     รวมทั้งได้ปัจจัยหนุนจากการจัดกิจกรรมมอเตอร์โชว์ที่ถูกเลื่อนจากต้นปี จึงถือเป็นเพียงปัจจัยกระตุ้นชั่วคราวและการเพิ่มขึ้นอาจไม่ต่อเนื่อง เนื่องจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและแรงกดดันจากหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง
 
    สำหรับดัชนีการบริโภคหมวดสินค้าไม่คงทน สินค้ากึ่งคงทน และการใช้จ่ายในภาคบริการมีทิศทางปรับดีขึ้นเช่นกันในช่วงของมาตรการเยียวยาจ่ายเงิน 5,000 บาทต่อเดือน แต่เริ่มมีสัญญาณแผ่วลงในเดือนสิงหาคม
 
   ซึ่งเป็นช่วงที่มาตรการจ่ายเงินเยียวยาสิ้นสุดลง ประกอบกับปัจจัยพิเศษวันหยุดยาวที่ดึงดูดการท่องที่ยวไปแล้วในเดือนก่อนหน้า
 
    นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยกดดันจากสภาพตลาดแรงงานที่ยังเปราะบาง สะท้อนจากจำนวนผู้ขอรับสิทธิงาน ณ เดือนสิงหาคม ที่ยังคงเพิ่มขึ้น โดยอยู่ที่ 4.4 แสนคน และความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มการหารายได้ในอนาคตที่ยังอยู่ในระดับต่
 
      นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาข้อมูลธุรกรรมการชำระเงินจากหลากหลายช่องทางทั้งออฟไลน์และออนไลน์ พบว่าทิศทางเริ่มแผ่วลงในเดือนกรกฎาคมเช่นเดียวกัน สะท้อนจากมูลค่าการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตและบัตรเดบิต มูลค่าการใช้จ่ายผ่านมือถือ รวมทั้งการโอนเงินผ่านพร้อมเพย์ ที่ปรับดีขึ้นต่อเนื่องนับจากจุดต่ำสุดในเดือนเมษายน ก็เริ่มแผ่วลงในช่วงต้นไตรมาสสามเช่นเดียวกัน
 
     ขณะเดียวกัน ข้อมูล Real time บ่งบอกกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ปรับดีขึ้นหลังคลายล็อกดาวน์ ได้กลับมาทรงตัวตั้งแต่เดือนกรกฎาคม โดยดัชนี Google mobility ที่สะท้อนการเคลื่อนไหวของกิจกรรมเศรษฐกิจในด้านต่างๆ มีแนวโน้มเข้าใกล้ช่วงปกติก่อนเกิดโควิดแต่เริ่มแผ่วลง ทั้งการเดินทางไปยังร้านค้าปลีก กิจกรรมการพักผ่อนหย่อนใจ ร้านขายสินค้าทั่วไปและร้านสะดวกซื้อ
 
    สำหรับข้อมูล Apple mobility บ่งบอกว่ากิจกรรมเดินทางหรือการขับขี่ส่วนใหญ่กระจุกตัวในจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งมาจากผลของมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาครัฐ อาทิ เราไปเที่ยวกัน และคนไทยหันมาท่องเที่ยวในไทยหลังคลายล็อกดาวน์ โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดยาว
 
   แนะออกมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายเป็นแพคเกจ เน้นกลุ่มที่รายได้ไม่ได้รับผลกระทบจากโควิด เพื่อหนุนการบริโภคในภาพรวม
 
     เมื่อเครื่องยนต์เศรษฐกิจในภาคต่างประเทศของไทยส่งสัญญาณฟื้นตัวอย่างช้าๆ โดยเฉพาะการส่งออกที่ได้รับผลจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว และภาคการท่องเที่ยวที่ยังคงมีปัจจัยเสี่ยงจากการเกิดระบาดโควิดรอบสอง
 
     ดังนั้น กิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศยังถือเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย จึงมองว่ามาตรการจากภาครัฐเพื่อกระตุ้นค่าใช้จ่ายในประเทศจึงเป็นสิ่งจำเป็น ทำให้เศรษฐกิจไทยปรับดีขึ้นต่อเนื่อง
 
    เมื่อพิจารณามาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายหลังคลายล็อกดาวน์ ได้แก่ มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว (เที่ยวปันสุข-เราไปเที่ยวกัน-กำลังใจ) ที่เชื่อมโยงไปกระตุ้นการใช้จ่ายด้วย และที่จะเปิดให้ลงทะเบียนในเดือนตุลาคมนี้
 
    คือ มาตรการ “คนละครึ่ง” โดยรัฐจะจ่ายให้ 50% ของยอดใช้จ่ายไม่เกิน 3,000 บาท เป็นจำนวน 10 ล้านคน ประเมินว่าจะมีส่วนพยุงกำลังซื้อของคนในประเทศ ทำให้สินค้าที่จำเป็นในชีวิตประจำวันยังขยายตัวได้ อีกทั้งจะช่วยพยุงกิจการของผู้ประกอบการรายเล็ก
 
    ทั้งนี้ จากข้อมูลผู้มีรายได้ในตลาดแรงงาน พบว่า มีกลุ่มที่รายได้ได้รับผลกระทบจากโควิดค่อนข้างจำกัดเป็นจำนวน 15.5 ล้านคน หรือ 40% ของจำนวนคนในตลาดแรงงาน (38.2 ล้านคน) ซึ่งโดยรวมยังมีอำนาจซื้ออยู่ในเกณฑ์ดี ประกอบด้วยข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ พนักงานบริษัทและธุรกิจเอกชน (ไม่รวมกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวและบริการที่เกี่ยวข้อง)
 
    ดังนั้น หากมีมาตรการเพิ่มเติมมาช่วยกระตุ้นในกลุ่มนี้ใช้จ่ายมากขึ้น คาดว่าจะช่วยให้การบริโภคฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง ทั้งนี้ อาจเป็นในรูปแบบมาตรการที่นำค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง มาหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หรือ เป็นเงินสดคืนให้เป็นร้อยละของยอดใช้จ่าย (Cash Back)
 

 
ฟัง 4 มุมมอง "เกมการเมือง" จากคนรุ่นใหม่ ก่อนชุมนุมใหญ่ 14 ต.ค.
https://www.thairath.co.th/news/politic/1946486
 
เปิดมุมมอง "เกมการเมือง" จากคนรุ่นใหม่ ก่อนชุมนุมใหญ่ 14 ต.ค. ขณะที่ ตัวแทนจากคณะประชาชนปลดแอก เผย ตอนนี้คือช่วงเวลาแห่งการตื่นรู้
 
วันที่ 6 ต.ค. 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตัวแทนจากคนรุ่นใหม่ ได้ร่วมแสดงความคิดเห็นในรายการ ถามตรงๆ กับจอมขวัญ โดย ตัวแทนจากเกียมอุดมไม่ก้มหัวให้เผด็จการ ระบุว่า ตอนนี้บรรยากาศในโรงเรียน ส่วนใหญ่จะเริ่มมีการตั้งคำถามจากเรื่องเล็กๆ ไปสู่การเมืองใหญ่ และมีการแลกเปลี่ยนความรู้จากคน 2 ช่วงวัย โดยที่ครูส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ปิดกั้น แต่ก็มีบางส่วนที่มองว่านักเรียนยังได้รับข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง
 
ขณะที่ ตัวแทนจากกลุ่มคณะจุฬาฯ เผยว่า การประชุมที่ผ่านมาเมื่อเดือนก่อน จุฬาฯ ก็มีการชุมนุม โดยวันนั้นมี 2 กลุ่มร่วมกัน แต่การจัดไม่ง่าย โดยนิสิตต้องเข้าไปคุยกับผู้บริหาร เนื่องจากมันมีหลายสิ่งที่ต้องคำนึงถึง ซึ่งผู้บริหารก็โอเค ตกลงกันได้ แต่ต้องยอมรับว่ามหาวิทยาลัยอยู่ภายใต้กระทรวงศึกษา แม้จะไม่ใช่สายบังคับบัญชา สุดท้ายเค้าไม่อนุญาตให้จัด แต่นักศึกษาก็ยังคงจัดชุมนุมเหมือนเดิม
 
"จริงๆ ระดับอุดมศึกษาของแต่ละสถาบันยังคงแตกต่างกันอยู่ ขึ้นอยู่กับอาจารณ์ส่วนใหญ่ แต่ระดับมัธยม ตนยอมรับว่า ครูระดับมัธยมยังอยู่ภายใต้การกดทับมากกว่าครูระดับมหาวิทยาลัย มันต่างกัน ทำให้นักเรียนถูกกดทับมากกว่าเด็กมหาวิทยาลัย" ตัวแทนจากกลุ่มคณะจุฬาฯ กล่าว
 
ทางด้าน ตัวแทนจากกลุ่มไทยภักดี เผยว่า บรรยากาศตอนนี้ หลายๆ อย่างเริ่มเปลี่ยนแปลงได้ชัด เช่น ฝั่งการเมือง ที่เคยเป็นแนวร่วมกับม็อบ ตอนนี้ก็เริ่มถอยลง ทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง รวมทั้งคนที่เคยเป็นแนวสนับสนุนของม็อบ ก็เริ่มถอยตัวออกมา ซึ่งก็เป็นเรื่องของการเมืองและผลประโยชน์นั้นๆ
 
"จากการสำรวจความคิดเห็นประชาชน ซึ่งส่วนใหญ่เริ่มไม่เห็นด้วยในการใช้ความรุนแรงและทำร้ายสถานที่ราชการ โดยบางคนเริ่มไม่โอเค ไม่ใช่ว่าสนับสนุนทุกอย่าง โดยผมสามารถคุยได้กับทุกคน จะไม่เอาสีเสื้อการเมืองมาขาดจากกัน เพราะมันไม่ใช่ขบวนการประชาธิปไตยอย่างแท้จริง" ตัวแทนจากกลุ่มไทยภักดี กล่าว
 
ทั้งนี้ ตัวแทนจากคณะประชาชนปลดแอก เผยว่า ตอนนี้คือช่วงเวลาแห่งการตื่นรู้ ตอนนี้เป็นยุคของโซเชียลมีเดีย สามารถตรวจสอบข้อมูลได้ว่าจริงหรือเท็จ ต้องยอมรับว่าวัยมัธยมจะถูกกดทับมากกว่าอุดมศึกษา ลักษณะการเคลื่อนไหวเลยจะตรงประเด็นว่าเค้าต้องการอะไร.
 
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่