มีรถแต่ไม่มีเงินเก็บ กับ ไม่มีรถแต่มีเงินเก็บ

คือปกติเราขี่มอเตอไซด์ของพ่อ ไปทำงาน เนื่องด้วยเราทำงานราชการ คนที่ทำงานเขาก็ชอบบอกให้เราไปกู้เงินมาซื้อรถเก๋งขับ เขาบอกราชการมันกู้ง่าย
ซึ่งพี่ที่เขาแนะนำมา เขาก็ทำอย่างนั้น เขาไปกู้ของกรุงไทย เพื่อจะหักรวมกับกยศ เขาจะชอบบอกว่าให้เราไปออกรถ เขาให้เหตุผลว่าถ้าไม่ออกรถตอนนี้ แล้วจะออกตอนไหน อีกหน่อยเดี๋ยวก็อายุมาก จะมีอะไรเปนของตัวเอง ซึ่งตอนนี้เราอายุ26 ปี  เงินเดือนเราประมาณ17,000  
โดยปกติเราจะหักฝากออมไว้เดือนละ8000 บาท อีกบัญชีนึง  สิ่งที่เราจะถามก็คือ ถ้าในกรณีแบบเราคุณจะเลือกรถ หรือ เลือกเงินเก็บ
 พี่คนที่เขาออกรถ เงินเดือนเขาประมาณ16000 บาท ผ่อนเดือนละ 8000 บาท เขาอยู่หอพักก็ตกเดือนละ3000 บาท คือแถบจะไม่เหลือเงินเก็บ ซึ่งพอๆกับที่เราเอาเงินไปฝากในบัญชีไว้เฉยๆ แต่เขาก็ให้เหตุผลว่ายอมลำบากวันนี้เพื่อมีของ ของตัวเองในวันข้างหน้า อันนี้เราก็เข้าใจนะ แต่ส่วนตัวเรายังไม่พร้อมจะออกรถ  เราก็เลยสงสัยว่าเราคิดถูกหรือคิดผิดที่ยังไม่ยอมออกรถ เนื่องจากเราไม่ได้เอารถไปใช้หาเงินเพิ่ม แค่ขี่ไปทำงานและกลับบ้าน ซึ่งพี่คนนั้นเขาก็เอาไว้แค่ขี่ไปทำงานและกลับบ้าน แต่ก็มีที่เขาขี่ไปเที่ยว ซึ่งส่วนตัวเราก็สามารถนั่งรถเมล์ รถมอไซด์ แท็กซี่ รถไฟฟ้าได้  เราเลยมองว่ามันยังไม่จำเป็น เพื่อนๆมีคำแนะนำไหมคะ ขอบคุณค่ะ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 17
คุณอย่าไปบอกเค้าว่าคุณแบ่งเงินไว้เป็นเงินออมสิคะ เค้าเห็นคุณมีเงินเก็บเค้าก็อิจฉาพยายามกดดันคุณให้เป็นเหมือนพวกเค้า

ทีหลังบอกไปเลยว่าที่บ้านเป็นหนี้อยู่ ทุกวันนี้ไม่มีเงินเก็บเลยเพราะต้องเอาไปใช้หนี้หมด ไม่มีปัญญาผ่อนรถหรอก เดี๋ยวเค้าก็เลิกตื้อคุณเองแหละ ข้อดีคือจะไม่มีคนยืมเงินคุณด้วย
ความคิดเห็นที่ 5
จะโดนจูงง่ายอะไรขนาดนั้น ...
ไปฟังอะไรจากคนอื่น .. ถามตัวเองซิ ว่าจำเป็นต้องใช้รถแค่ไหน หรือแค่มอร์เตอร์ไซด์ ก็ใช้ได้แล้ว
มีรถ ไม่ใช่ทรัพย์สิน แต่มันคือ ภาระ และ ความสิ้นเปลือง เนือ่งจากราคามันลดลงเรื่อยๆ และค่าบำรุงรักษาก็สูงขึ้นเรื่อยๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่