**แกร่งแย่งช่วงชิงอำนาจ สหรัฐอเมริกาสะท้อนถึงการเมืองไทย ติดปัญญาให้ประชาชนรู้เท่าทันนักการเมือง**

การเมืองเป็นเรื่องของอำนาจ ไม่ว่าจะกี่ยุคกี่สมัยผ่านไปคำกล่าวนี้ ยังคงเป็นอมตะวาจาเสมอ บางทีคำว่า " ประชาธิปไตย หรือ เผด็จการ"
มันต่างกันเพียงแค่เส้นกั้นบางๆเท่านั้น ในบางประเทศ ทุกประเทศมีปัญหานี้หมด ปัญหาทั้งหมดเกิดจากคน หรือ นักการเมืองนั้นเอง ถ้าจะวัดความเป็นประชาธิปไตย คงต้องดูที่การปฎิบัติ สิทธิและเสรีภาพ ของประชาชนในประเทศนั้นๆ มีมากน้อยแค่ไหน ถ้าถามว่าเราเป็นประชาธิปไตยแบบไหน ก็คงต้องตอบว่าเราไม่ได้เป็นประชาธิปไตย แบบเต็มรูปแบบ แล้วก็ไม่ได้เป็นเผด็จการแบบเต็มรูปแบบเช่นกัน แต่คำว่า ประชาธิปไตย หรือ เผด็จการ ในประเทศไทย ณ. เวลานี้ ถูกใช้เพื่อเป็นเครื่องมือ ของนักการเมือง ในการช่วงชิงอำนาจ แบ่งประชาชนออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนุนรัฐบาล และฝ่ายต้านรัฐบาล เพื่อก่อม็อบต่อต้านรัฐบาลเพื่อช่วงชิงอำนาจก็เท่านั้น สหรัฐอเมริกาเองแม้จะได้ชื่อว่าเป็นประเทศต้นแบบประชาธิปไตย แต่เราทุกคนก็ได้เห็นกันแล้วว่าสหรัฐอเมริการเองก็มีปัญหาเรื่องของความเหลื่อมล้ำทางสังคมเช่นกัน กรณีชนผิวดำและคนผิวขาว หน่วยงานของรัฐ(ตำรวจ)กับประชาชน จะเห็นว่าปัญหาเรื่องของความเหลื่อมล้ำความไม่เท่าเทียมกันทางสังคม เหล่านี้ที่มันเกิดขึ้น มันไม่ได้เลือกว่าถ้าประเทศไหนเป็นประชาธิปไตย จะไม่มีปัญหาเรื่องของความเหลื่อล้ำเหล่านี้
เกิดขึ้นในสังคม สรุปว่า ปัญหาเรื่องของความเหลื่อมล้ำทางสังคม ไม่ได้เกี่ยวกับความเป็นประชาธิปไตยหรือไม่เป็นประชาธิปไตย มันเกิดขึ้นได้ในทุกประเทศและทุกระบอบการปกครอง ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปหรือลดน้อยลง ขึ้นอยู่กับความจริงใจรู้และเข้าใจปัญหา และแก้ไข ของคนที่มีอำนาจปกครองบริหารประเทศ ณ. เวลานั้น  ถ้ามีผู้นำที่ดีปัญหาเหล่านี้ก็ลดน้อยลง บ้านเมื่องก็สงบสุข ประเทศชาติก็เจริญรุ่งเรื่อง 
                            แต่ปัญหาที่เราเจอ ณ. เวลานี้ เห็นมีแต่คนอยากได้อำนาจ อยากมีอำนาจ อยากเป็นนายกรัฐมนตรี อยากเป็นรัฐมนตรี อยากเป็นผู้ว่ากรุงเทพมหานคร แต่ความสามารถไม่ถึง ไม่คู่ควรกับตำแหน่งอำนาจ มันเป็นปัญหาทางด้านโครงสร้างการได้มาซึ่งอำนาจการเข้าสู่อำนาจกลั่นกรองไม่ละเอียดพอ ประมาณว่าถ้าเราใช้วิธีแบบเดิม ถ้าไม่มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงแก้ไขอะไร เราก็จะได้คนที่ไม่เหมาะสมกับตำแหน่งไม่คู่ควรกับตำแหน่ง เข้ามาเป็น รมต. รมช. อีก เป้นแบบนี้เรื่อยไป บางยุคบางสมัย ได้กุ้ยข้างถนน มาเป็นรมต. รมช. ก็มีให้เห็นมาแล้ว แล้วจะเรียกว่าสภาผู้ทรงเกรียติได้อย่างไร???
                            ผู้นำที่ดี นอกจากจะต้องเป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถแล้ว จะต้องเป็นบุคคลที่จะต้องมีคุณธรรม จริยธรรมที่สุงเพียงพอที่จะทำให้ประชาชนและผู้ติดตาม เคารพศรัทธาและเชื่อฟังผู้นำคนนั้นได้แบบสนิทใจ ผู้นำคนนั้นถึงจะเป็นผู้นำที่ดีได้ และคงจะไม่มีใครยอมรับผู้นำที่ไม่มีความโปร่งใส มีคดีความติดตัว หรือเป็นผู้นำที่บ้าอำนาจ ไร้ซึ่งเหตุและผล เหมือนอย่างเช่นผู้นำในดินแดนที่ห่างไกลโพ้นทะเลในประเทศที่ได้ชื่อว่าเป้นประเทศต้นแบบประชาธิปไตย คงจะไม่มีใครอยากได้คนแบบนั้นมาเป็นผู้นำของประเทศ 
                            บอกตรงๆว่า ณ. เวลานี้ เราขาดผู้นำ ยังมองไม่เห็นใครเลย ที่พอจะมีความสามารถมาเป็นนายกรัฐมนตรีได้ ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงหรือล้มรัฐบาล ตั้งรัฐบาลใหม่ในเวลานี้ ไม่ได้ทำให้ประเทศดีขึ้น ขอเตือนขอให้ใช้สติให้มากทั้งคนรุ่นใหม่ และคนรุ่นเก่า มองความคิดอ่านความคิดของคนให้ออก
นักการเมืองและพรรคการเมือง ต้องการอะไรจากม็อบ อย่างเดินเป็นหมากเป็นเบี้ยให้แก่นักการเมืองพรรคการเมือง ในเกมช่วงชิงอำนาจนี้ จะมีแต่ทำร้ายประเทศทำให้ประเทศย่ำแย่ไปกว่านี้ 

4/10/2563
นามปากกา เขียนให้คิด
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่