การจะซื้อคอนโดสักห้องไว้อยู่เอง โดยเฉพาะซื้อคอนโดมือสองนั้นก็มีขั้นตอนต่าง ๆ มากมายที่ต้องเตรียมตัวไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการซื้อคอนโดใหม่มือหนึ่งเลย ยิ่งในภาวะที่ทั้งคอนโดเปิดใหม่ลดราคา คอนโดสร้างใหม่พร้อมอยู่ราคาโปรโมชั่นดีมากมาย รวมถึงคอนโดมือสองที่ราคาน่าคบและสภาพไม่แย่จนเกินไปอีกไม่น้อย ทำให้ตัดสินใจค่อนข้างลำบากไม่น้อย
แต่จากการสำรวจทำเล การเปรียบเทียบรูปแบบห้องและรูปแบบโครงการ รวมถึงเปรียบเทียบราคาในละแวกใกล้เคียง ทำให้นิวบ์ตัดสินใจแล้วว่าการซื้อคอนโดไว้อยู่เองในครั้งนี้ จึงเลือกเป็นคอนโดมือสองนั่นเอง ซึ่งก็มีขั้นตอนของการติดต่อซื้อขายและการเตรียมเอกสารจำเป็น ไปจนถึงขั้นตอนการโอนกรรมสิทธิ์และการเตรียมย้ายเข้าคอนโดมือสองที่เพิ่งซื้อไปก็มีทั้งส่วนที่เข้าใจได้ไม่ยาก และส่วนที่ต้องใช้ความรอบคอบพอสมควรเช่นกัน ซึ่งนิวบ์ก็จะมามาแบ่งปันให้ผู้อ่านที่สนใจที่จะซื้อคอนโดมือสองได้พอเห็นภาพว่า ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้างก่อนจะเลือกซื้อคอนโดมือสองนั่นเองครับ
ขั้นตอนที่ 1 : การตั้งเงื่อนไขความต้องการคอนโดมือสอง
1.1 เงื่อนไขคอนโดมือสองเรื่องของรูปแบบห้อง
ในขั้นแรกเริ่มก่อนที่เราจะค้นหาเราควรมีรูปแบบห้องที่ต้องการในใจไว้ก่อน ว่าไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของเราเป็นแบบใด ต้องการห้องรูปแบบไหน ขนาดพื้นที่เท่าไหร่และแปลนห้องทรงไหนบ้างที่จะเหมาะกับการอยู่อาศัยของเราในระยะยาว เช่น
· เพื่อความสะดวกในการดูแลอาจจะพิจารณาห้องขนาดเริ่มต้นอย่าง Studio หรือ
· ต้องการความเป็นส่วนตัวเวลามีแขกมาเยี่ยมก็เลือก 1 Bedroom หรือ
· จะเผื่อไว้หากจะขัยบขยายหรือมีจำนวนของใช้เพิ่มขึ้นก็เลือก 1 Bedroom Plus ขึ้นไป เป็นต้น
ในเรื่องการไลฟ์สไตล์การทำอาหาร หากส่วนตัวเราไม่ได้ตั้งใจจะทำอาหารอะไรมากมาย อาจเลือกแบบครัวเปิดไว้ก่อน ส่วนห้องแบบครัวปิดก็จะเหมาะกับคนที่ตั้งใจหรือชอบทำอาหารเป็นประจำมากกว่านั่นเอง
โดยประโยชน์ของการซื้อคอนโดมือสอง (รวมถึงการซื้อคอนโดรอบตึกเสร็จ) คือ เราจะพอเห็นภาพและสัดส่วนของห้องจริง ๆ ที่เราจะซื้อได้ และพอให้เราสามารถที่จะประเมินขนาดห้องได้อย่างคร่าว ๆ เล็กหรือใหญ่เกินไป เพราะจะมีผลกับเรื่องของค่าใช้จ่าย โดยในกรณีนี้นิวบ์ได้ตั้งใจเลือกไว้เป็นคอนโด 1 Bedroom แบบครัวปิดขนาดประมาณ 30 ตร.ม. ซึ่งนิวบ์จะขอเล่าในส่วนการนัดดูห้องและการโอนไว้ถัดไปนะครับ
1.2 เงื่อนไขคอนโดมือสองเรื่องของราคาที่เราจ่ายไหว
ถัดมาเข้าสู่การประเมินระดับราคาที่เรารับไหว อย่างเช่นตั้งงบสำหรับซื้อหรือกู้สินเชื่อเพื่อซื้อคอนโดมือสองไว้ไม่เกิน 3 ลบ. สำหรับคอนโด 1 Bedroom ขนาด 30 ตร.ม. จะเป็นตัวตั้งต้นว่าเราจะได้โครงการแบบไหน ทำเลใด อย่างโครงการคอนโดใหม่ใกล้รถไฟฟ้าเส้นทางเดิมส่วนใหญ่ก็จะมีราคาเริ่มต้นเกิน 3 ลบ. ขึ้นไป ทำให้อาจจะต้องพิจารณาคอนโดที่ห่างออกไปแนวรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย หรือยอมลดขนาดห้องที่จะซื้อ หรือเลือกโครงการที่ค่อนข้างเก่าเกิน 5 ปี เพราะราคาเริ่มที่จะนิ่งแล้ว เป็นต้น
1.3 เงื่อนไขคอนโดมือสองเรื่องของรูปแบบโครงการ
รูปแบบโครงการก็มีส่วนสำคัญ ซึ่งจะคล้ายกับการเลือกรูปแบบห้องว่าการซื้อคอนโดมือสองจะมีข้อดีตรงที่เราจะได้เห็นบรรยากาศและภาพรวมของโครงการจริง ๆ แล้ว ให้เราเห็นลักษณะการดูแลและจัดการความเรียบร้อยของนิติบุคคลคอนโด และเห็นลักษณ์ของผู้อยู่อาศัยที่จะเป็นเพื่อนบ้านเราต่อไปในอนาคตนั่นเอง
ซึ่งรูปแบบคอนโดก็แบ่งได้อย่างง่าย ๆ เป็น 2 รูปแบบคือ คอนโด Low-Rise (ตึกเตี้ยไม่เกิน 23 เมตร หรือ 8 ชั้น) และ คอนโด High-Rise (ตึกสูงเกิน 23 เมตร หรือสูงกว่า 8 ชั้นขึ้นไป) โดยข้อมูลจาก Factsheet โครงการว่ามีจำนวนยูนิตเท่าไหร่ ก็จะพอช่วยให้ตัดสินใจง่ายขึ้นว่า
· จะชอบความเป็นส่วนตัว ยูนิตไม่เยอะแบบคอนโด Low-Rise หรือ
· อยากได้โครงการคอนโด High-Rise ตึกสูงให้ได้วิว
แม้จะเป็นความชอบส่วนตัวแต่ก็มีผลในเรื่องของการขายต่อไม่เหมือนกัน โดยนิวบ์ได้เลือกไว้เป็นคอนโด High-Rise ครับ
1.4 เงื่อนไขคอนโดมือสองเรื่องของทำเล
ในส่วนนี้พิจารณาจากความสะดวกของเราเป็นหลัก ด้วยการซื้อคอนโดมือสองเพื่ออยู่เองของเราก็ตั้งจากเงื่อนไขของตัวเอง ว่าตำแหน่งโครงการในทำเลนี้จะสะดวกต่อการใช้ชีวิตประจำวัน และการเดินทางต่าง ๆ ของเราแค่ไหน โดยรอบโครงการมีแหล่งบริการต่าง ๆ อย่างตลาดและศูนย์การค้ามากน้อยแค่ไหนนั่นเอง
ขั้นตอนที่ 2 : การค้นหาและเปรียบเทียบคอนโดมือสอง
เมื่อเรามีเงื่อนไขในแบบห้อง ทำเล และราคาที่ชัดเจนแล้ว เราค่อยเริ่มต้นค้นหาคอนโดมือสองที่กำลังประกาศขายอยู่ โดยวิธีที่สะดวกที่สุดในปัจจุบันคือค้นหาประกาศต่าง ๆ ในอินเตอร์เน็ตนั่นเอง ซึ่งก็จะมีทั้งแบบเจ้าของขายเองหรือขายผ่านเอเจ้นท์ (แต่ก็จะเจอแบบหลังได้ทั่วไปกว่า)
2.1 การค้นหาคอนโดมือสองทางประกาศขาย
นอกจากการหาเองทางเว็บไซต์ลงประกาศแล้ว อีกวิธีคือติดต่อทางเอเจนต์ทั้งแบบบริษัทนายหน้าอสังหาฯ โดยตรง หรือบริษัทที่ดูแลการขายต่อคอนโด Resale ของโครงการที่เราสนใจ เช่น โครงการในเครือแสนสิริ จะมี Plus Property ดูแล หรือของ Ananda ก็จะมี The Agent หรือโครงการของ AP Thailand ก็จะมี BkkCitiSmart คอยจัดการเรื่องการ Resale เป็นต้น (แต่หลายกรณีที่เอเจนต์เหล่านี้ก็ข้ามค่ายไปดีล Resale โครงการเก่าที่อื่น ๆ ได้เหมือนกัน)
2.2 การเปรียบเทียบกับคอนโดใหม่มือหนึ่ง
นอกจากนี้เราอาจเปรียบเทียบภาพรวมทั้งราคา และรูปแบบห้องของคอนโดใหม่ในทำเลเดียวกันได้ว่า มีความคุ้มค่ามากน้อยแค่ไหนที่จะซื้อคอนโดมือสองจากเจ้าของเดิม หรือไปซื้อห้องใหม่ดีกว่ากัน แต่ด้วยเงื่อนไขของขนาดห้องและรูปแบบเดียวกันแล้ว โครงการใหม่ในทำเลใกล้เคียงจะมีราคาตั้งขายที่แพงกว่า แม้จะรวมโปรโมชั่น เช่นฟรีค่าธรรมเนียม หรือตกแต่งพร้อมอยู่ก็ตาม นิวบ์จึงยังลุยต่อเรื่องซื้อคอนโดมือสองไว้อยู่เองครั้งนี้ต่อครับ
2.3 การเปรียบเทียบคอนโดมือสองทำเลเดียวกัน
ในส่วนนี้เราอาจเลือกเปรียบเทียบความแตกต่างในเรื่องของรูปแบบโครงการที่เป็น Low-Rise หรือ High-Rise ใกล้ถนนใหญ่หรือสถานีรถไฟฟ้ามากกว่ากันแค่ไหน ค่าธรรมเนียมบำรุงส่วนกลางต่อตารางเมตรเท่าไหร่ ส่วนกลางมีอะไรบ้างและจำเป็นกับเราแค่ไหน เป็นต้นครับ
2.4 การเปรียบเทียบคอนโดมือสองในโครงการเดียวกัน
ถัดมาก็คัดกรองอีกรอบด้วยการเปรียบเทียบห้องในโครงการเดียวกันที่เราสนใจว่า ห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 30 ตร.ม. ในตึกเดียวกันมีประกาศขายที่ราคาเท่าไหร่บ้าง ต่างกันมากน้อยแค่ไหน เงื่อนไขการขายมีอะไรบ้าง เช่น
- บางห้องขายตามสภาพและอาจต้องไปลงทุนซ่อมแซมหรือรีโนเวทต่อ หรือบางห้องปรับปรุงให้แล้วเรียบร้อย
- บางห้องขายพร้อมเฟอร์นิเจอร์ บางห้องต่อรองลดราคาหักค่าเฟอร์นิเจอร์ออกได้ บางห้องขายเป็นห้องเปล่า
- บางห้องตั้งราคาไม่รวมค่าธรรมเนียมการโอนฯ บางห้องรวมไว้ในราคาขายแล้ว บางห้องผู้ขายออกค่าใช้จ่ายให้ เป็นต้นครับ
2.5 การเปรียบเทียบคอนโดมือสองจากรีวิว และชื่อเสียงผู้พัฒนา
ตรงนี้ถือว่าเป็นความสบายใจส่วนตัวนะครับ ว่าเมื่อเราได้ห้องที่เราสนใจในระดับราคาและเงื่อนไขที่ยอมรับได้ เราก็อาจลองค้นคว้าเพิ่มเติมเกี่ยวกับคอนโดโครงการนั้น ๆ จากรีวิวเก่าหรือประวัติและชื่อเสียงของ Developer ของผู้พัฒนาโครงการ ว่าคอนโดมือสองที่เราจะซื้ออยู่เองมีคุณภาพมากน้อยแค่ไหน นิติบุคคลคอนโดบริการดีไหม เพื่อชั่งใจก่อนลุยซื้อต่อหรือเปลี่ยนใจไปพิจารณาโครงการอื่นแทนนั่นเอง
ขั้นตอนที่ 3 : การเลือกซื้อคอนโดมือสอง
เมื่อมั่นใจกับคอนโดที่ใช่ ราคาที่ชอบแล้ว ก็เริ่มต้นติดต่อผู้ขายตามช่องทางที่ระบุในประกาศเพื่อนัดดูห้องได้เลยครับ โดยในกรณีนี้ของนิวบ์เป็นการติดต่อซื้อต่อผ่านนายหน้าหรือเอเจนต์นั่นเองครับ เนื่องจากคอนโดที่สนใจพัฒนาโดย Developer มีชื่อและมีบริษัทนายหน้าที่ดูแลด้าน Resale โดยเฉพาะ ทั้งนี้เพื่อความตรงไปตรงมาในการเจรจาต่อรองเงื่อนไขอื่น ๆ อีกด้วยนั่นเอง โดยโครงการที่นิวบ์เลือกจะซื้อเป็นคอนโดที่อายุเกิน 5 ปีมาแล้ว และผ่านการอยู่อาศัยมาแล้วครับ
3.1 การนัดดูห้องคอนโดมือสอง
ก่อนตัดสินใจซื้อ เราก็ต้องลองไปดูสภาพของจริงและสถานที่จริงก่อนเสมอนะครับ ต่างจากการซื้อคอนโดใหม่ที่ยังอยู่ในรอบ Presale หรือมีเพียงห้องตัวอย่างใน Sales Gallery ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงได้เสมอนั่นเอง โดยสามารถประเมินคร่าว ๆ ได้จากสภาพปัจจุบันของห้องว่า สามารถเข้าอยู่ต่อได้เลย หรือมีอะไรบ้างที่อาจจะต้องลงทุนซ่อมแซมและปรับปรุงเพิ่มเติมอีก เป็นต้น
ซึ่งห้องจริงของคอนโดมือสองจะทำให้เราได้เห็นสภาพความบกพร่องหรือสมบูรณ์ของห้องตามที่เห็นจริง ทิศทางการส่องของแดดและการเข้าของลม หากเป็นการซื้อผ่านนายหน้า ทางเอเจนต์อาจแนะนำห้องอื่น ๆ ในโครงการเดียวกันที่คิดว่าเราอาจจะสนใจในข้อเสนอเพิ่มเติมเช่น ราคาอาจจะถูกกว่า หรือห้องอยู่ในทิศที่ดีกว่า เป็นต้น ให้เราเผื่อเลือกซึ่งเราจะเปลี่ยนใจหรือไม่ก็ได้ครับ
3.2 การต่อรองเงื่อนไขการซื้อขายและค่าใช้จ่าย
เราอาจเตรียมคำถามเพิ่มเติมที่อยากทราบกับทางเอเจนต์ หรือต่อรองเรื่องราคาและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ให้ทางนายหน้าไปเจรจากับทางผู้ขายอีกต่อหนึ่งได้ สำหรับนายหน้าที่มีความชำนาญก็จะช่วยเจรจาให้ได้ข้อตกลงอันเป็นที่พอใจทั้ง 2 ฝ่ายให้ได้มากที่สุดครับ เช่น
ห้องที่นิวบ์จะซื้อในครั้งนี้ เดิมเงื่อนไขจะขายพร้อมเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าเดิม ราคารวมค่าใช้จ่ายแล้ว 2.99 ลบ. ซึ่งนิวบ์ได้ต่อรองขอซื้อเป็นห้องเปล่าพร้อมสิ่งของเดิมที่มากับโครงการ ก็ช่วยให้ลดราคาขายที่ต้องจ่ายในส่วนนี้ไปได้ 90,000 บาท เป็น 2.90 ลบ. ก็นับว่าลดราคาได้เยอะพอสมควรครับ
ขอต่อที่คอมเม้นท์ด้านล่างนะครับ
อ่านบทความฉบับเต็มได้ที่ :
แชร์ประสบการณ์ตรง ซื้อคอนโดมือสองต้องเตรียมอะไรบ้าง
แชร์ประสบการณ์ตรง ซื้อคอนโดมือสองหลังแรกเพื่ออยู่เอง โดย CondoNewb
การจะซื้อคอนโดสักห้องไว้อยู่เอง โดยเฉพาะซื้อคอนโดมือสองนั้นก็มีขั้นตอนต่าง ๆ มากมายที่ต้องเตรียมตัวไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการซื้อคอนโดใหม่มือหนึ่งเลย ยิ่งในภาวะที่ทั้งคอนโดเปิดใหม่ลดราคา คอนโดสร้างใหม่พร้อมอยู่ราคาโปรโมชั่นดีมากมาย รวมถึงคอนโดมือสองที่ราคาน่าคบและสภาพไม่แย่จนเกินไปอีกไม่น้อย ทำให้ตัดสินใจค่อนข้างลำบากไม่น้อย
แต่จากการสำรวจทำเล การเปรียบเทียบรูปแบบห้องและรูปแบบโครงการ รวมถึงเปรียบเทียบราคาในละแวกใกล้เคียง ทำให้นิวบ์ตัดสินใจแล้วว่าการซื้อคอนโดไว้อยู่เองในครั้งนี้ จึงเลือกเป็นคอนโดมือสองนั่นเอง ซึ่งก็มีขั้นตอนของการติดต่อซื้อขายและการเตรียมเอกสารจำเป็น ไปจนถึงขั้นตอนการโอนกรรมสิทธิ์และการเตรียมย้ายเข้าคอนโดมือสองที่เพิ่งซื้อไปก็มีทั้งส่วนที่เข้าใจได้ไม่ยาก และส่วนที่ต้องใช้ความรอบคอบพอสมควรเช่นกัน ซึ่งนิวบ์ก็จะมามาแบ่งปันให้ผู้อ่านที่สนใจที่จะซื้อคอนโดมือสองได้พอเห็นภาพว่า ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้างก่อนจะเลือกซื้อคอนโดมือสองนั่นเองครับ
ขั้นตอนที่ 1 : การตั้งเงื่อนไขความต้องการคอนโดมือสอง
1.1 เงื่อนไขคอนโดมือสองเรื่องของรูปแบบห้อง
ในขั้นแรกเริ่มก่อนที่เราจะค้นหาเราควรมีรูปแบบห้องที่ต้องการในใจไว้ก่อน ว่าไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของเราเป็นแบบใด ต้องการห้องรูปแบบไหน ขนาดพื้นที่เท่าไหร่และแปลนห้องทรงไหนบ้างที่จะเหมาะกับการอยู่อาศัยของเราในระยะยาว เช่น
· เพื่อความสะดวกในการดูแลอาจจะพิจารณาห้องขนาดเริ่มต้นอย่าง Studio หรือ
· ต้องการความเป็นส่วนตัวเวลามีแขกมาเยี่ยมก็เลือก 1 Bedroom หรือ
· จะเผื่อไว้หากจะขัยบขยายหรือมีจำนวนของใช้เพิ่มขึ้นก็เลือก 1 Bedroom Plus ขึ้นไป เป็นต้น
ในเรื่องการไลฟ์สไตล์การทำอาหาร หากส่วนตัวเราไม่ได้ตั้งใจจะทำอาหารอะไรมากมาย อาจเลือกแบบครัวเปิดไว้ก่อน ส่วนห้องแบบครัวปิดก็จะเหมาะกับคนที่ตั้งใจหรือชอบทำอาหารเป็นประจำมากกว่านั่นเอง
โดยประโยชน์ของการซื้อคอนโดมือสอง (รวมถึงการซื้อคอนโดรอบตึกเสร็จ) คือ เราจะพอเห็นภาพและสัดส่วนของห้องจริง ๆ ที่เราจะซื้อได้ และพอให้เราสามารถที่จะประเมินขนาดห้องได้อย่างคร่าว ๆ เล็กหรือใหญ่เกินไป เพราะจะมีผลกับเรื่องของค่าใช้จ่าย โดยในกรณีนี้นิวบ์ได้ตั้งใจเลือกไว้เป็นคอนโด 1 Bedroom แบบครัวปิดขนาดประมาณ 30 ตร.ม. ซึ่งนิวบ์จะขอเล่าในส่วนการนัดดูห้องและการโอนไว้ถัดไปนะครับ
1.2 เงื่อนไขคอนโดมือสองเรื่องของราคาที่เราจ่ายไหว
ถัดมาเข้าสู่การประเมินระดับราคาที่เรารับไหว อย่างเช่นตั้งงบสำหรับซื้อหรือกู้สินเชื่อเพื่อซื้อคอนโดมือสองไว้ไม่เกิน 3 ลบ. สำหรับคอนโด 1 Bedroom ขนาด 30 ตร.ม. จะเป็นตัวตั้งต้นว่าเราจะได้โครงการแบบไหน ทำเลใด อย่างโครงการคอนโดใหม่ใกล้รถไฟฟ้าเส้นทางเดิมส่วนใหญ่ก็จะมีราคาเริ่มต้นเกิน 3 ลบ. ขึ้นไป ทำให้อาจจะต้องพิจารณาคอนโดที่ห่างออกไปแนวรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย หรือยอมลดขนาดห้องที่จะซื้อ หรือเลือกโครงการที่ค่อนข้างเก่าเกิน 5 ปี เพราะราคาเริ่มที่จะนิ่งแล้ว เป็นต้น
1.3 เงื่อนไขคอนโดมือสองเรื่องของรูปแบบโครงการ
รูปแบบโครงการก็มีส่วนสำคัญ ซึ่งจะคล้ายกับการเลือกรูปแบบห้องว่าการซื้อคอนโดมือสองจะมีข้อดีตรงที่เราจะได้เห็นบรรยากาศและภาพรวมของโครงการจริง ๆ แล้ว ให้เราเห็นลักษณะการดูแลและจัดการความเรียบร้อยของนิติบุคคลคอนโด และเห็นลักษณ์ของผู้อยู่อาศัยที่จะเป็นเพื่อนบ้านเราต่อไปในอนาคตนั่นเอง
ซึ่งรูปแบบคอนโดก็แบ่งได้อย่างง่าย ๆ เป็น 2 รูปแบบคือ คอนโด Low-Rise (ตึกเตี้ยไม่เกิน 23 เมตร หรือ 8 ชั้น) และ คอนโด High-Rise (ตึกสูงเกิน 23 เมตร หรือสูงกว่า 8 ชั้นขึ้นไป) โดยข้อมูลจาก Factsheet โครงการว่ามีจำนวนยูนิตเท่าไหร่ ก็จะพอช่วยให้ตัดสินใจง่ายขึ้นว่า
· จะชอบความเป็นส่วนตัว ยูนิตไม่เยอะแบบคอนโด Low-Rise หรือ
· อยากได้โครงการคอนโด High-Rise ตึกสูงให้ได้วิว
แม้จะเป็นความชอบส่วนตัวแต่ก็มีผลในเรื่องของการขายต่อไม่เหมือนกัน โดยนิวบ์ได้เลือกไว้เป็นคอนโด High-Rise ครับ
1.4 เงื่อนไขคอนโดมือสองเรื่องของทำเล
ในส่วนนี้พิจารณาจากความสะดวกของเราเป็นหลัก ด้วยการซื้อคอนโดมือสองเพื่ออยู่เองของเราก็ตั้งจากเงื่อนไขของตัวเอง ว่าตำแหน่งโครงการในทำเลนี้จะสะดวกต่อการใช้ชีวิตประจำวัน และการเดินทางต่าง ๆ ของเราแค่ไหน โดยรอบโครงการมีแหล่งบริการต่าง ๆ อย่างตลาดและศูนย์การค้ามากน้อยแค่ไหนนั่นเอง
ขั้นตอนที่ 2 : การค้นหาและเปรียบเทียบคอนโดมือสอง
เมื่อเรามีเงื่อนไขในแบบห้อง ทำเล และราคาที่ชัดเจนแล้ว เราค่อยเริ่มต้นค้นหาคอนโดมือสองที่กำลังประกาศขายอยู่ โดยวิธีที่สะดวกที่สุดในปัจจุบันคือค้นหาประกาศต่าง ๆ ในอินเตอร์เน็ตนั่นเอง ซึ่งก็จะมีทั้งแบบเจ้าของขายเองหรือขายผ่านเอเจ้นท์ (แต่ก็จะเจอแบบหลังได้ทั่วไปกว่า)
2.1 การค้นหาคอนโดมือสองทางประกาศขาย
นอกจากการหาเองทางเว็บไซต์ลงประกาศแล้ว อีกวิธีคือติดต่อทางเอเจนต์ทั้งแบบบริษัทนายหน้าอสังหาฯ โดยตรง หรือบริษัทที่ดูแลการขายต่อคอนโด Resale ของโครงการที่เราสนใจ เช่น โครงการในเครือแสนสิริ จะมี Plus Property ดูแล หรือของ Ananda ก็จะมี The Agent หรือโครงการของ AP Thailand ก็จะมี BkkCitiSmart คอยจัดการเรื่องการ Resale เป็นต้น (แต่หลายกรณีที่เอเจนต์เหล่านี้ก็ข้ามค่ายไปดีล Resale โครงการเก่าที่อื่น ๆ ได้เหมือนกัน)
2.2 การเปรียบเทียบกับคอนโดใหม่มือหนึ่ง
นอกจากนี้เราอาจเปรียบเทียบภาพรวมทั้งราคา และรูปแบบห้องของคอนโดใหม่ในทำเลเดียวกันได้ว่า มีความคุ้มค่ามากน้อยแค่ไหนที่จะซื้อคอนโดมือสองจากเจ้าของเดิม หรือไปซื้อห้องใหม่ดีกว่ากัน แต่ด้วยเงื่อนไขของขนาดห้องและรูปแบบเดียวกันแล้ว โครงการใหม่ในทำเลใกล้เคียงจะมีราคาตั้งขายที่แพงกว่า แม้จะรวมโปรโมชั่น เช่นฟรีค่าธรรมเนียม หรือตกแต่งพร้อมอยู่ก็ตาม นิวบ์จึงยังลุยต่อเรื่องซื้อคอนโดมือสองไว้อยู่เองครั้งนี้ต่อครับ
2.3 การเปรียบเทียบคอนโดมือสองทำเลเดียวกัน
ในส่วนนี้เราอาจเลือกเปรียบเทียบความแตกต่างในเรื่องของรูปแบบโครงการที่เป็น Low-Rise หรือ High-Rise ใกล้ถนนใหญ่หรือสถานีรถไฟฟ้ามากกว่ากันแค่ไหน ค่าธรรมเนียมบำรุงส่วนกลางต่อตารางเมตรเท่าไหร่ ส่วนกลางมีอะไรบ้างและจำเป็นกับเราแค่ไหน เป็นต้นครับ
2.4 การเปรียบเทียบคอนโดมือสองในโครงการเดียวกัน
ถัดมาก็คัดกรองอีกรอบด้วยการเปรียบเทียบห้องในโครงการเดียวกันที่เราสนใจว่า ห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 30 ตร.ม. ในตึกเดียวกันมีประกาศขายที่ราคาเท่าไหร่บ้าง ต่างกันมากน้อยแค่ไหน เงื่อนไขการขายมีอะไรบ้าง เช่น
- บางห้องขายตามสภาพและอาจต้องไปลงทุนซ่อมแซมหรือรีโนเวทต่อ หรือบางห้องปรับปรุงให้แล้วเรียบร้อย
- บางห้องขายพร้อมเฟอร์นิเจอร์ บางห้องต่อรองลดราคาหักค่าเฟอร์นิเจอร์ออกได้ บางห้องขายเป็นห้องเปล่า
- บางห้องตั้งราคาไม่รวมค่าธรรมเนียมการโอนฯ บางห้องรวมไว้ในราคาขายแล้ว บางห้องผู้ขายออกค่าใช้จ่ายให้ เป็นต้นครับ
2.5 การเปรียบเทียบคอนโดมือสองจากรีวิว และชื่อเสียงผู้พัฒนา
ตรงนี้ถือว่าเป็นความสบายใจส่วนตัวนะครับ ว่าเมื่อเราได้ห้องที่เราสนใจในระดับราคาและเงื่อนไขที่ยอมรับได้ เราก็อาจลองค้นคว้าเพิ่มเติมเกี่ยวกับคอนโดโครงการนั้น ๆ จากรีวิวเก่าหรือประวัติและชื่อเสียงของ Developer ของผู้พัฒนาโครงการ ว่าคอนโดมือสองที่เราจะซื้ออยู่เองมีคุณภาพมากน้อยแค่ไหน นิติบุคคลคอนโดบริการดีไหม เพื่อชั่งใจก่อนลุยซื้อต่อหรือเปลี่ยนใจไปพิจารณาโครงการอื่นแทนนั่นเอง
ขั้นตอนที่ 3 : การเลือกซื้อคอนโดมือสอง
เมื่อมั่นใจกับคอนโดที่ใช่ ราคาที่ชอบแล้ว ก็เริ่มต้นติดต่อผู้ขายตามช่องทางที่ระบุในประกาศเพื่อนัดดูห้องได้เลยครับ โดยในกรณีนี้ของนิวบ์เป็นการติดต่อซื้อต่อผ่านนายหน้าหรือเอเจนต์นั่นเองครับ เนื่องจากคอนโดที่สนใจพัฒนาโดย Developer มีชื่อและมีบริษัทนายหน้าที่ดูแลด้าน Resale โดยเฉพาะ ทั้งนี้เพื่อความตรงไปตรงมาในการเจรจาต่อรองเงื่อนไขอื่น ๆ อีกด้วยนั่นเอง โดยโครงการที่นิวบ์เลือกจะซื้อเป็นคอนโดที่อายุเกิน 5 ปีมาแล้ว และผ่านการอยู่อาศัยมาแล้วครับ
3.1 การนัดดูห้องคอนโดมือสอง
ก่อนตัดสินใจซื้อ เราก็ต้องลองไปดูสภาพของจริงและสถานที่จริงก่อนเสมอนะครับ ต่างจากการซื้อคอนโดใหม่ที่ยังอยู่ในรอบ Presale หรือมีเพียงห้องตัวอย่างใน Sales Gallery ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงได้เสมอนั่นเอง โดยสามารถประเมินคร่าว ๆ ได้จากสภาพปัจจุบันของห้องว่า สามารถเข้าอยู่ต่อได้เลย หรือมีอะไรบ้างที่อาจจะต้องลงทุนซ่อมแซมและปรับปรุงเพิ่มเติมอีก เป็นต้น
ซึ่งห้องจริงของคอนโดมือสองจะทำให้เราได้เห็นสภาพความบกพร่องหรือสมบูรณ์ของห้องตามที่เห็นจริง ทิศทางการส่องของแดดและการเข้าของลม หากเป็นการซื้อผ่านนายหน้า ทางเอเจนต์อาจแนะนำห้องอื่น ๆ ในโครงการเดียวกันที่คิดว่าเราอาจจะสนใจในข้อเสนอเพิ่มเติมเช่น ราคาอาจจะถูกกว่า หรือห้องอยู่ในทิศที่ดีกว่า เป็นต้น ให้เราเผื่อเลือกซึ่งเราจะเปลี่ยนใจหรือไม่ก็ได้ครับ
3.2 การต่อรองเงื่อนไขการซื้อขายและค่าใช้จ่าย
เราอาจเตรียมคำถามเพิ่มเติมที่อยากทราบกับทางเอเจนต์ หรือต่อรองเรื่องราคาและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ให้ทางนายหน้าไปเจรจากับทางผู้ขายอีกต่อหนึ่งได้ สำหรับนายหน้าที่มีความชำนาญก็จะช่วยเจรจาให้ได้ข้อตกลงอันเป็นที่พอใจทั้ง 2 ฝ่ายให้ได้มากที่สุดครับ เช่น
ห้องที่นิวบ์จะซื้อในครั้งนี้ เดิมเงื่อนไขจะขายพร้อมเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าเดิม ราคารวมค่าใช้จ่ายแล้ว 2.99 ลบ. ซึ่งนิวบ์ได้ต่อรองขอซื้อเป็นห้องเปล่าพร้อมสิ่งของเดิมที่มากับโครงการ ก็ช่วยให้ลดราคาขายที่ต้องจ่ายในส่วนนี้ไปได้ 90,000 บาท เป็น 2.90 ลบ. ก็นับว่าลดราคาได้เยอะพอสมควรครับ
ขอต่อที่คอมเม้นท์ด้านล่างนะครับ
อ่านบทความฉบับเต็มได้ที่ : แชร์ประสบการณ์ตรง ซื้อคอนโดมือสองต้องเตรียมอะไรบ้าง