บันทึก 13 ปีแห่งการจากไปของราชาเพลงคันทรี่เมืองไทย "กุ้ง กิตติคุณ"

28 กันยายน 2550 วงการเพลงไทยเป็นต้องตกใจและเสียใจอย่างสุดซึ้ง เนื่องจากวันนั้นเป็นวันที่นักร้องนักดนตรีผู้หนึ่งกำลังขับรถเพื่อจะไปทำธุระที่จังหวัดเชียงใหม่ แต่รถก็เกิดพลิกคว่ำที่จังหวัดนครสวรรค์ สุดท้ายนักร้องคนนั้นต้องจบชีวิตกะทันหัน ท่ามกลางความเศร้าโศกของบรรดาผองเพื่อนร่วมวงการ

บุคคลที่เอ่ยถึงนั่นก็คือ "กุ้ง-กิตติคุณ เชียรสงค์" ราชาเพลงคันทรี่เมืองไทย น้าชายที่แสนดีของพวกเรา เขาคนนี้จากพวกเราไปในวัยเพียง 50 ปี

น้ากุ้งเคยฝากผลงานบันทึกเสียงเพลงไว้นับหลายร้อยเพลง ทั้งงานเพลงลูกกรุง เพลงลูกทุ่ง เพลงพระราชนิพนธ์ เพลงไทยสากล และเพลงสากลซึ่งส่วนมากก็เป็นเพลงแนวโฟล์กหรือคันทรี่ จึงทำให้เขาได้รับฉายานั้นไป ทว่าผลงานเพลงที่โด่งดังหรือเป็นที่รู้จักกลับไม่ใช่เพลงที่แต่งขึ้นใหม่ มักเป็นเพลงดังอมตะจากศิลปินท่านอื่นมากกว่า

แต่กระนั้น น้ากุ้งก็ถือเป็นนักร้องที่มีเอกลักษณ์ตั้งแต่แรกเห็น ด้วยน้ำเสียงอันละมุนชวนฝัน ไพเราะจับใจไม่แพ้ต้นฉบับ การแต่งกายอย่างเรียบร้อยไปตามแนวเพลงที่วางไว้ และแน่นอน...หนวดเคราของเขา ช่างมีเสน่ห์เสียจริง ๆ สำหรับอดีตหนุ่มเมืองคอนที่ร่ำเรียนและซึมซับประสบการณ์จากต่างแดน

สำหรับชีวิตครอบครัว น้ากุ้งมีภรรยาชื่อ แหม่ม ภัทรพร มีบุตร 2 คนเป็นผู้หญิงทั้งสิ้น คือ น้องพริม-พริมา เชียรสงค์ และ น้องแพร-ณัฐณิชา เชียรสงค์

จากวันนั้นถึงวันนี้ก็ครบ 13 ปีแล้วสำหรับเหตุการณ์อันแสนจดจำของวงการเพลงไทย เลขนี้อาจไม่เรียกเป็นอาถรรพ์แต่อย่างใด มีทั้งความสุขและทุกข์คละเคล้ากัน

ตลอดเวลาที่น้ากุ้งให้ความสุขทางเสียงเพลง เขาทำงานอย่างเต็มที่ เต็มกำลัง มีความละเอียดอ่อนอยู่ในตัว ก็ไม่ทราบว่าทุกวันนี้ทั้งภรรยากับคุณลูกเป็นอย่างไรกันบ้าง ทำงานอะไรอยู่ หากผู้อ่านท่านใดมีภาพครอบครัวของน้ากุ้งในปัจจุบันก็ช่วยสงเคราะห์มาทางนี้ได้ เรายังรักและเป็นห่วงพวกเธออยู่นะ

โดยส่วนตัว "น้ากุ้ง" ถือเป็นครูของเรา เราจะนำสิ่งที่น้าฝากไว้มาสานต่อให้หลาน ๆ ได้ถ่ายทอดตำนานนั้นด้วยกัน เรายังชอบและคิดถึงน้ากุ้งจริง ๆ...สวัสดี.

ภาพประวัติศาสตร์ รายงานโดย นสพ.ข่าวสด, 15 ต.ค. 2540
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่