ใครเคยไปเที่ยวเกาะสีชัง จังหวัดชลบุรีมาบ้างคะ
ที่พักที่มีชื่อเสียงในเกาะนี่ก็ต้องยกให้ปารีฮัทเขาแหละ ตามรอยละครอย่างเช่น เกมร้ายเกมรัก
เป็นละครเรื่องที่มุกชอบมากกก ก่อนที่จะเลิกดูทีวีไป
พอดีมีโอกาสได้แวะเวียนไปพักผ่อนที่นี่มาเป็นเวลา 3 วัน 2 คืน
เลยอยากจะมารีวิวว่าเอ้อ พังจริงเหรอ บ้งจริงเหรอ แบบเรียลๆกันไปเลย
การเดินทางครั้งนี้มุกเลือกนั่งรถตู้ค่ะ ไปครั้งแรกแอบหวั่นๆด้วย
มุกขึ้นที่ท่ารถตู้เอกมัยแต่จริงๆที่หมอชิต ฟิวเจอร์ก็มีนะ ดูความเด๋อของคนเราสิ
ค่าเสียหาย 100 บาทถ้วน คุณพี่รถตู้บอกว่าไปลงที่โรบินสันศรีราชาค่ะ
อะคุณพี่ว่าซั่นนน น้องก็ว่าซั่นน
มาถึงโรบินสันศรีราชา รถตู้บอกน้องไปต่อรถตุ๊กเลยนะ
ได้ค่ะพี่ น้องจะผจญภัยเอง ค่าเสียหายไปเกาะลอยเหมาสองคน 80 บาท
แรงอยู่นะแม่ แง้นๆสุดแต่ดีว่าลมตีหน้าเย็นหน่อยไม่งั้นเป็นลมแน่นอน
มาถึงท่าเรือเกาะลอยแล้วจ้า ลมตีเย็นสบายสุดๆ
แต่การผจญภัยของเรายังไม่จบเพราะต้องนั่งเรือกันต่อ 555555
ค่าเรือไปเกาะสีชัง 50 บาทต่อคนค่ะ
วิวดีต่อสายตา ดีต่อใจที่สุด
พอไปถึงเกาะที่รีสอร์ทเขาจะมีรถมารับนะคะ แต่เนื่องจากฉันมันคนตื่นสายยย
เลยมาไม่ทันแหะ ก็ต้องนั่งสกายแลปเข้าไปเองอะเนาะ
ค่าเสียหาย 150 บาทค่ะ เหมาๆนั่งได้ 4-5 คนเลย
แต่ถ้าใครแว้นเก่งๆก็มีมอเตอร์ไซด์ให้เช่าจากท่าเรือเหมือนกันนะคะ เหมาไปเลยทั้งวัน
รถสีชมพูหวานแหววที่จะพาเราแง้นไปถึงปารีฮัท แอบประทับใจพี่คนขับ
ซิ่งได้ใจหนูมาก55555 ตื่นเต้นดีค่ะอันนี้ชม
ดูความซิ่งของคุณพี่เขาสิคะ
ทางเข้ารีสอร์ทที่นี่ มุกแอบได้ยินมาว่าลึกลับซับซ้อนมาก
ขอบอกว่าก็จริงนะ มีความขึ้นเขา ทางขรุขระ แต่สำหรับมุกก็ถือว่าเป็นความสนุกอย่างนึง
เพราะไม่ใช่ทุกวันที่เราจะเจอถนนแบบนี้
ในเมืองก็เป็นเนินๆขึ้นเขาเหมือนกันนะ ต้องเข้าใจด้วยความที่เกาะนี้จะมีหน้าผาเป็นหลัก
เลยมีการขึ้นๆลงๆบ้างเป็นปกติค่ะก็เข้าใจได้
จนแล้วจนเล่าก็ผจญภัยมาถึงปารีฮัท แต่ช้าก่อนอย่าพึ่งดีใจเพราะเรายังต้องนั่งรถต่อไปอีกนิด โอ้ยเนาะ
แท่นแท้นนน ถนนปราบเซียนอันเป็นที่เลื่องลือว่าขรุขระจริ้ง
อะ มุกไม่พูดอะไรนะคะก็ตามที่เพื่อนๆเห็นนี่แหละ
แต่ถนนที่ขรุขระ ชดเชยได้ด้วยวิวข้างทางที่เห็นแล้วอยากจะให้พี่สกายแลปจอดรถแวะถ่ายรูปสักแปปเลยทีเดียว
ธรรมชาติมากก ใต้ความสีเขียวขจี ฟีลกู้ดแบบมันผ่อนคลายนะสำหรับมุก
จนในที่สุดก็มาถึงรีสอร์ทค่ะ แฮปปี้!
วันที่มุกไปก็ยังมีการก่อสร้างอยู่นะคะ แต่ตอนนี้เห็นว่าเสร็จแล้ว
คือตอนไปพักก็ไม่ได้รู้สึกว่าเสียงรบกวนอะไรขนาดนั้นนะหรือหลับลึกก็ไม่แน่ใจ 55555
ต่อไปจะพาชมบ้านที่มุกไปพักค่ะก็คือหลัง PB3A และ PE7
โดยคืนแรกพักที่บ้าน PB3A
ทางขึ้นบ้านค่ะ สภาพสวยนะคะเพราะเขาปรับปรุง ทาสีใหม่แล้ว
โดยรวมถือว่าชอบค่ะเพราะได้ฟีลธรรมชาติและหลังนี้เป็นส่วนตัวมากๆเลย
ไม่ค่อยมีคนเดินผ่านไปมา ใครชอบความเป็นส่วนตัวเหมือนกันก็แนะนำนะ
มองลงมาจากระเบียงหน้าบ้าน ต้นไม้เต็มไปหมดเลย 555555 ธรรมชาติจริง
วิวที่มองออกมาจากหน้าบ้าน ก็คือเห็นทะเลชัดค่ะพอตอนเย็นๆจะเห็นพระอาทิตย์ตกดินไกลๆด้วย
ภายในห้องนอนค่ะ โอโหสวีทมากกก หวานสุด
ใครไปกันคู่รักต้องประทับใจแน่ๆ ภายในห้องมีขนม ตู้เย็น ทีวี แอร์ครบ
ของกินจัดเต็มเรียกว่าแทบไม่ต้องโทรแจ้งพนักงานให้เอามาเสิร์ฟเลยค่ะ
ที่นอนนุ่มดีค่ะ นอนสบายตื่นมาไม่ปวดหลัง
มีตู้ให้เก็บเสื้อผ้าพร้อมไม้แขวน ผ้าเช็ดตัว อุปกรณ์อาบน้ำจัดเตรียมไว้ให้
จัดเตรียมไว้ได้น่ารักจริงๆ
ขนมพร้อมเมนูอาหารวางไว้ให้เราโทรสั่งได้เลย
ห้องน้ำเขาจะแยกโซนอ่างล้างหน้า แปรงฟัน
กับห้องอาบน้ำมีประตูกั้น ถือว่าดีนะระหว่างรออีกคนอาบน้ำก็แต่งหน้าชิวๆรอก่อนได้
ใครที่ขี้หนาวเหมือนมุกไม่ต้องกังวลเพราะเขามีเครื่องทำน้ำอุ่นจ้า
อาบได้สบายๆไม่ต้องยืนสั่น 55555
ชักโครกขาวสะอาด มีทิชชู่พร้อมสำหรับใช้ทำธุระ
น้ำจากสายชำระก็แรงดี ไม่มีปัญหาอะไร
สำหรับใครที่กังวลว่าอาบน้ำอยู่คนข้างนอกจะมองเห็นไหมก็คือมองเข้ามาไม่เห็นนะ
แต่เรามองออกไปจะเห็นคนข้างนอกค่ะ
พอมาถึงก็แอบเหนื่อยนิดๆเลยขอนอนเอาแรงสักงีบ
ตื่นมาก็เย็นแล้วค่ะ เป็นช่วงเวลาที่ทางรีสอร์ทเขาแนะนำให้ไปชมพระอาทิตย์ตกดินที่ผาประกาศรัก
ทางเราก็เลยไปแวะชมว่าจะสวยตามคำเคลมจริงหรือเปล่า
นี่ขนาดมองอยู่ไกลๆนะ แสงที่สะท้อนกับน้ำแล้วแบบฮือคือดีมาก
ดีต่อสายตาดีต่อความรู้สึกจริงๆ
พอขึ้นมาด้านบนนอกจากจะเห็นความสวยงามของพระอาทิตย์แล้ว
ยังได้ความรู้สึกผ่อนคลาย รู้สึกดีขึ้นอย่างบอกไม่ถูก
เอาว่าคุ้มค่าเหนื่อยกับการเดินขึ้นมาบนหน้าผานี่แหละ ได้รับการฮีลลิ่งจริงๆ
ต่อไปก็เป็นช่วงเวลาอาหารเย็น ซึ่งทางรีสอร์ทเขาเตรียมเป็นเซตชาบูไว้ให้ค่ะ
นั่งทานชิวๆริมผากันเลยย เสียงลม เสียงคลื่นยิ่งทำให้อาหารมื้อนี้อร่อยขึ้น
หลายคนอาจจะเอ้ะ ยุงไม่กัดเหรอมืดๆกลางป่ากลางเขาแบบนี้
เป็นเรื่องที่เซอร์ไพร์สมากเพราะยุงไม่กัดจริงๆ มุกเองก็ยังงงว่าทำไมไม่โดนกัดนะแต่ก็ดีแล้วแหละ
น่าทานใช่ย่อย น้ำจิ้ม 4 แบบ
อาหารถูกซีลมาเป็นอย่างดี ส่วนตัวมุกชอบนะเพราะทำให้เห็นว่าเขาใส่ใจเรื่องของความสะอาดมากๆ
ยิ่งช่วงสถานการณ์โควิดแบบนี้แล้ว ความสะอาดต้องมาก่อนเลยค่ะ
มีหมูราดซอส เบคอน แฮม เต้าหู้ปลา ประมาณนี้
สำหรับทาน 2 ท่านก็อิ่มนะคะได้หมูชิ้นใหญ่เลย
ผักจัดเต็ม แน่นกระบุง มีบะหมี่หยกด้วย
น้ำจิ้ม 4 สหาย ที่มุกชอบซ้ายสุดเป็นพิเศษ
รสชาติอูมามิสุดๆ มีความนัว หอม หวานนิดๆอร่อยจนอยากขอซื้อน้ำจิ้มกลับบ้าน 5555
มาพูดถึงในเรื่องของรสชาติกันบ้าง หมูมีความสด ทานแล้วเคี้ยวง่ายไม่เหนียว
มุกเองก็จัดฟันอยู่ถ้าหมูเหนียวนี่คือลำบากแน่นอน แต่อันนี้หมูนุ่ม รสชาติอร่อย
น้ำซอสที่เขาราดมามันซึมเขาไปในเนื้อหมู มีรสชาติหวานนิดๆ
ส่วนน้ำซุปชาบูจะติดรสหวานค่ะ ไม่ค่อยเจอน้ำซุปที่หวานนะส่วนใหญ่จะออกเค็มๆ
แต่ก็ชอบแหละเพราะไม่เหมือนที่ไหนดี ถ้าจะให้คะแนนก็คงให้ 9/10 ไปเล้ย
หักคะแนนบะหมี่หยกนิดนึง เส้นออกจะเละไปสักหน่อย
ส่วนผักให้มาเยอะแบบไม่มีกั๊ก แต่มุกไม่ทานผัก55555 คนที่มาด้วยเขาก็บอกโอเค สดดีค่ะ
หลังจากทานชาบูอิ่มแล้วดึกๆก็มีกิจกรรมตกหมึก แต่มุกไม่ได้ตกด้วยความสงสารส่วนตัว
เลยออกไปชายหาดใกล้ๆรีสอร์ทซึ่งก็คือหาดถ้ำพังนั่นเอง
คลื่นแรงมากก ลมเย็นสบาย เงียบสงบแบบว่ารู้สึกดีจริงๆค่ะ
นานทีมุกจะได้มาเที่ยว ;_; ปกติทำแต่งานอย่างเดียวเลย
ที่นี่เห็นดาวชัดด้วยนะแต่ถ่ายมาอาจจะไม่ชัดเท่าไหร่
ของงี้ต้องมาดูด้วยตาแหละ ดาวสวยจนไม่อยากกลับกรุงเทพเลยค่ะ
จริงๆก็ไปขับรถเล่นแถวๆนี้นิดหน่อย แต่ไม่ได้เก็บภาพมาทั้งหมด
ตอนกลางคืนก็เงียบจริงค่ะ มืดมากด้วย55555 แต่ด้วยความที่มาทั้งทีเนอะก็ต้องสำรวจพื้นที่กันหน่อย
ชมวิวจนพอใจก็กลับไปนอนพักผ่อนที่ปารีฮัท จบคืนแรกค่ะ
---- ไว้มาต่อภาค 2 ให้นะคะ กระทู้ยาวได้ใจจริงๆฮุฮุ ----
ใครที่อ่านมาจนถึงตรงนี้ มุกจะรู้สึกขอบคุณมากเลยค่ะ
เป็นการเขียนรีวิวที่ยาวมากๆครั้งแรกของตัวเอง 555555
วันนี้ไปก่อนแล้วค่า บะบายยย
[SR] ปารีฮัท รีสอร์ท เกาะสีชัง พังจริงเหรอ?!!
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้
ข้อมูลเพิ่มเติม