สิ่งที่ได้จากการเป็นออแพร์ อยู่กับเด็กยังไงใช้ชีวิตดี |ออแพร์เยอรมัน

สวัสดีค่า นินจาอีกแล้ว สิ่งที่จะได้อ่านต่อไปนี้คือความคิดที่ตกตะกอนจากการมาเป็นออแพร์จะพยายามอธิบายให้เข้าใจนะคะ เราจะใช้ภาษาแบบสบายๆสไตล์เราเอง อยากให้เป็นประโยชน์ต่อคนที่กำลังพิจารณาการจะมาเป็นออแพร์ในอนาคต เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น อย่าเพิ่งท้อนะอ่านให้จบก่อน
สิ่งที่ได้จากการเป็นออแพร์
ความอดทน สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เราได้แน่ๆ มั่นใจเลยค่ะ เพราะเราที่โตมาขนาดนี้เราถูกสอนให้พึ่งพาตัวเองและมันเป็นแบบนั้นมาจนเคยชินเพราะเราโตๆกันแล้ว ไม่มีใครมานั่งดูแลเหมือนเด็กๆ เราแม้แต่จะรู้สึกรำคาญใจด้วยซ้ำไปถ้าใครทำตัวเป็นเด็กๆ ความรู้สึกเหมือนเราอยู่มหาลัยเราจะไม่สนใจใครแล้วเค้าจะเป็นยังไง ทุกคนมีทางของตัวเอง แต่การเป็นออแพร์คือการที่เราที่เพิ่งผ่านจากวัยรุ่น เข้าวัยผู้ใหญ่แรกเริ่ม บางส่วนของเรายังเป็นเด็กอยู่เลย แต่เราต้องมาดูแลคนอื่น ทำให้เราต้องก้าวขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่วัยมีครอบครัวและต้องเอาเด็กๆมาก่อนตัวเรา ต้องเสียสละ ทำให้ทุกอย่างมันเป็นสิ่งที่ยากมากจริงๆเพราะมันรู้สึกอึดอัดที่ต้องคอยมีใครมาก่อนเราตลอดเวลา เพราะเราอยากเอาตัวเองมาก่อน แต่ คนนั้นคือเด็กๆที่เราปฏิเสธไม่ได้เลยที่จะช่วยหรือดูแล สำหรับเราที่เป็นคนสุดท้องเราก็เคยแค่ดูแลลูกพี่ลูกน้อง ดูแลยาย ทำอาสาบ้างซึ่งมันก็เป็นสิ่งที่ทำวันเดียวก็จบ เพราะอย่างนั้นกรอบความอดทนจึงแตกแล้วสร้างใหม่เป็นกรอบที่ใหญ่กว่าเดิมและตอนนี้ก็รู้สึกว่ากรอบความอดทนเปลื่ยนสถานะอีกด้วย จากกรอบแข็งๆ กลายเป็นกรอบที่แข็งแรงแล้วยืดหยุ่นกว่าเดิม คราวนี้แม้มันจะเต็มมันก็ยืดออกไปได้อีกและหดลงได้ด้วย ณ จุดนี้จะอะไรก็มาเลย พร้อม
เทคนิคการสอนเด็ก
สิ่งนี่คือสิ่งที่แตกต่างอย่างชัดเจนมากๆ กับประเทศบ้านเกิดของเรา ขอกั๊กไว้ก่อนว่าขึ้นอยู่กับชนชั้น สถานะและช่วงอายุของครอบครัวนะคะอันนี้ตัวเรามองจากภาพรวมที่ได้เจอและครอบครัวที่เรามาอยู่ด้วยเป็นหลัก และไม่มีเจตนาจะว่าร้ายครอบครัวอื่น ครอบครัวตัวเอง ความเชื่อส่วนบุคคล วัฒนธรรมการสอนหรือเหมารวมใดๆ

คนที่นี่พอเขาจะมีลูกคือก่อนที่เขาจะมีเค้าจะคิดและวางแผนอย่างดีแม้จะเป็นคนอายุน้อยๆก็ตามเพราะฉะนั้นเด็กๆจึงได้รับความใส่ใจอย่างมาก ได้โตมาในแวดล้อมที่ดีพ่อแม่ใส่ใจสอน เด็กๆที่นี่จึงนิสัยค่อนข้างน่ารักและฉลาดมากแม้ว่าน้องจะยังอ่านหนังสือไม่ออกบอกเวลาไม่เป็นเลยทีเดียว ตั้งแต่วันแรกยันปัจจุบันที่อาศัยอยู่กับบ้านนี้ต้องยอมรับเลยว่า ต่าง มากๆ เทียบกับสิ่งที่เราเจอมาเรานับถือคุณพ่อคุณแม่เลย ถอนหายใจแทน
ถ้าเกิดเด็กทำนิสัยไม่ดีดื้อด้าน เป็นบ้านเราส่วนใหญ่ก็อาจจะตีหรือบังคับทำให้จบๆไปแต่ที่บ้านนี้ไม่ว่าเค้าจะยุ่งจะหงุดหงิดน้องแค่ไหน เค้าจะเลี่ยงการ ตะโกนใส่ และบังคับให้มากที่สุด และคำที่บอกว่า “อย่าไปโอ๋ เดี๋ยวมันได้ใจ” ไม่มีจริงที่นี่ เค้าจะใช้เหตุผลอธิบายน้องให้มากที่สุด และแม้จะต้องเถียงกันจนโมโหจนน้องร้องไห้ เค้าก็จะกลับมาให้ความรักน้องเสมอ มันทำให้น้องรักพ่อแม่มากและน้องๆจากอยากทำตัวให้เป็นที่ชื่นชมของพ่อแม่เสมอ ด้วยความรัก เพราะแม้ว่าน้องจะทำผิด มันไม่ใช้การตบหัวแล้วลูบหลังหรือการสปอย เค้าก็รู้ว่ามันคือสิ่งที่น้องต้องเรียนรู้กันไป น้องจะต้องผ่านเหตุการณ์นี้จะได้รู้ว่าอะไรควรไม่ควร โฮสแม่ของเราบอกว่า เด็กๆเค้าจะไม่ทำการกระทำใดๆก็ตามที่จงใจให้พ่อแม่ไม่พอใจเลย พวกเค้าเด็กเกินไปที่จะมีความคิดนี้ มีก็แต่อยากได้ความรักเท่านั้นและเค้าจะเปลื่ยนพฤติกรรมไปเรื่อยๆเมื่อไม่รู้สึกถึงความรักทำให้เกิดการเรียกร้องและการประพฤติไม่ดีต่างๆ
แม้แต่การใช้ชีวิตประจำวัน ใช้ของมีคม เดินบนถนน ปีนป่ายเครื่องเล่นต่างๆบางทีถ้ามันไม่อันตรายเกินไปเค้าก็จะปล่อยให้น้องเจ็บ ปล่อยให้เรียนรู้ด้วยตัวเอง เช่น น้องคนเล็กของบ้านเรา ให้ใช้มีดแล้วนะคะแต่เป็นมีดขนมปังมันก็มีความคมพอจะบาดได้เพราะต้องตัดขนมปังแต่ไม่คมขนาดบาดลึก ซึ่งก็ร้องลั่นบ้านจ้า พอร้องเสร็จก็มาโชว์นินจา ฉันมีแผลตรงนี้ หาความรักกกกก
สอนให้น้องทำเองให้ได้นะ อย่าทำให้น้องตลอด ไม่งั้นน้องจะทำไม่เป็นเลย ให้น้องลองทำดูเรามีเวลาเยอะ เช่น เจ้าตัวเล็กสองชวบนางใส่เสื้อผ้าเองเด้อ ถ้ารีบเราก็จะช่วย ถ้ามีเวลาเยอะน้องทำเองได้แต่น้องจะยังหลุดโฟกัสบ่อยๆ ใส่ๆกางเกงอยู่ก็จ้องอะไรก็ไม่รู้แล้วก็นิ่งไปเลยไรงิ พี่นั่งมองน้องพี่ก็งง หนูมองอะไรลูกกกก ตอนแรกๆเรามาน้องก็ไม่ยอมเดินขึ้นลงบันไดเองเพราะยังเดินไม่เก่งจะให้อุ้มตลอดแต่น้องอะเดินได้แล้ว เราก็เลยไม่อุ้มน้อง น้องร้องให้อุ้มก็จะไม่อุ้มจูงได้แต่ไม่อุ้ม ถึงน้องจะบอกไม่งั้นเราไม่ไป เราก็ตอบน้องโอเคงั้นวันนี้ทั้งวันเราก็นั่งตรงบันไดนี่หละ หรือชวนน้องเล่น ทำตลก กระโดดลงบันได้หมือนเล่นเกม ชวนแข่งก็ได้ผล ติดตลดได้ผลเสมอพอเด็กอารมณ์ดี ทำอะไรก็ง่าย เราก็แค่อยู่กับเค้าดูไม่ให้กลิ้งลงบันไดก็พอ บอกน้องค่อยๆช้าๆไม่เป็นไร แล้วน้องก็ค่อยเดินขึ้นลงเองปัจจุบันไม่ต้องอุ้มแล้ว หาของไม่เจอถึงมันจะอยู่ตรงหน้าจิ้มตาได้เลยก็ไม่บอกว่าอยู่ตรงไหนให้น้องหาเอง ไม่งั้นน้องจะขี้เกียจหา เราต้องหาให้ตลอด ลองของใหม่ก็ต้องเชียร์น้องถึงน้องจะทำไม่เป็นก็บอกไปเลย เธอทำได้แล้วเก่งจะตาย โชว์ให้ดูละดูน้องทำคอบช่วยจนน้องทำเองได้ละก็ดีใจให้เยอะๆเหมือนน้องชนะบอลโลก เย้ วุ้ฮุ้ว ชมเยอะๆน้องต้องมีความกล้าที่จะทำไม่งั้นน้องก็จะทำไม่เป็น
อย่าตกใจ เวลาน้องล้มเพราะเด็กเค้าเรียนรู้จากปฎิกิริยาจากเรา ถ้าเราตกใจเค้าจะร้องทันทีแต่ถ้าเราทำเป็นเล่น ทำว่าการล้มไม่ใช่เรื่องใหญ่น้องก็จะลุกยืนเองได้ด้วยซ้ำและกลับไปเล่นต่อ
สิ่งเหล่านี้นะคะ ตอนแรกเราก็เป็น น้องจะล้มละใจหาย เดี๋ยวทำให้ทุกอย่าง เพราะความเคยชินว่าเค้าเป็นเด็กทำเองไม่ได้เราคิดไปเองว่าต้องทำให้ทุกอย่าง แต่ตริงๆแล้วเราต้องปล่อย เพราะเราจะสอนให้เค้าโตขึ้น ไม่ได้ให้เค้าเป็นเด็กเหมือนเดิม
รอต่อ EP 2 นะคะ ในกระทู้เดียวกันนี่หละคะ
สิ่งที่ได้จากการเป็นออแพร์ อยู่กับเด็กยังไงใช้ชีวิตดี |ออแพร์เยอรมัน EP 1
สวัสดีค่า นินจาอีกแล้ว สิ่งที่จะได้อ่านต่อไปนี้คือความคิดที่ตกตะกอนจากการมาเป็นออแพร์จะพยายามอธิบายให้เข้าใจนะคะ เราจะใช้ภาษาแบบสบายๆสไตล์เราเอง อยากให้เป็นประโยชน์ต่อคนที่กำลังพิจารณาการจะมาเป็นออแพร์ในอนาคต เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น อย่าเพิ่งท้อนะอ่านให้จบก่อน
สิ่งที่ได้จากการเป็นออแพร์
ความอดทน สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เราได้แน่ๆ มั่นใจเลยค่ะ เพราะเราที่โตมาขนาดนี้เราถูกสอนให้พึ่งพาตัวเองและมันเป็นแบบนั้นมาจนเคยชินเพราะเราโตๆกันแล้ว ไม่มีใครมานั่งดูแลเหมือนเด็กๆ เราแม้แต่จะรู้สึกรำคาญใจด้วยซ้ำไปถ้าใครทำตัวเป็นเด็กๆ ความรู้สึกเหมือนเราอยู่มหาลัยเราจะไม่สนใจใครแล้วเค้าจะเป็นยังไง ทุกคนมีทางของตัวเอง แต่การเป็นออแพร์คือการที่เราที่เพิ่งผ่านจากวัยรุ่น เข้าวัยผู้ใหญ่แรกเริ่ม บางส่วนของเรายังเป็นเด็กอยู่เลย แต่เราต้องมาดูแลคนอื่น ทำให้เราต้องก้าวขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่วัยมีครอบครัวและต้องเอาเด็กๆมาก่อนตัวเรา ต้องเสียสละ ทำให้ทุกอย่างมันเป็นสิ่งที่ยากมากจริงๆเพราะมันรู้สึกอึดอัดที่ต้องคอยมีใครมาก่อนเราตลอดเวลา เพราะเราอยากเอาตัวเองมาก่อน แต่ คนนั้นคือเด็กๆที่เราปฏิเสธไม่ได้เลยที่จะช่วยหรือดูแล สำหรับเราที่เป็นคนสุดท้องเราก็เคยแค่ดูแลลูกพี่ลูกน้อง ดูแลยาย ทำอาสาบ้างซึ่งมันก็เป็นสิ่งที่ทำวันเดียวก็จบ เพราะอย่างนั้นกรอบความอดทนจึงแตกแล้วสร้างใหม่เป็นกรอบที่ใหญ่กว่าเดิมและตอนนี้ก็รู้สึกว่ากรอบความอดทนเปลื่ยนสถานะอีกด้วย จากกรอบแข็งๆ กลายเป็นกรอบที่แข็งแรงแล้วยืดหยุ่นกว่าเดิม คราวนี้แม้มันจะเต็มมันก็ยืดออกไปได้อีกและหดลงได้ด้วย ณ จุดนี้จะอะไรก็มาเลย พร้อม
เทคนิคการสอนเด็ก
สิ่งนี่คือสิ่งที่แตกต่างอย่างชัดเจนมากๆ กับประเทศบ้านเกิดของเรา ขอกั๊กไว้ก่อนว่าขึ้นอยู่กับชนชั้น สถานะและช่วงอายุของครอบครัวนะคะอันนี้ตัวเรามองจากภาพรวมที่ได้เจอและครอบครัวที่เรามาอยู่ด้วยเป็นหลัก และไม่มีเจตนาจะว่าร้ายครอบครัวอื่น ครอบครัวตัวเอง ความเชื่อส่วนบุคคล วัฒนธรรมการสอนหรือเหมารวมใดๆ
คนที่นี่พอเขาจะมีลูกคือก่อนที่เขาจะมีเค้าจะคิดและวางแผนอย่างดีแม้จะเป็นคนอายุน้อยๆก็ตามเพราะฉะนั้นเด็กๆจึงได้รับความใส่ใจอย่างมาก ได้โตมาในแวดล้อมที่ดีพ่อแม่ใส่ใจสอน เด็กๆที่นี่จึงนิสัยค่อนข้างน่ารักและฉลาดมากแม้ว่าน้องจะยังอ่านหนังสือไม่ออกบอกเวลาไม่เป็นเลยทีเดียว ตั้งแต่วันแรกยันปัจจุบันที่อาศัยอยู่กับบ้านนี้ต้องยอมรับเลยว่า ต่าง มากๆ เทียบกับสิ่งที่เราเจอมาเรานับถือคุณพ่อคุณแม่เลย ถอนหายใจแทน
ถ้าเกิดเด็กทำนิสัยไม่ดีดื้อด้าน เป็นบ้านเราส่วนใหญ่ก็อาจจะตีหรือบังคับทำให้จบๆไปแต่ที่บ้านนี้ไม่ว่าเค้าจะยุ่งจะหงุดหงิดน้องแค่ไหน เค้าจะเลี่ยงการ ตะโกนใส่ และบังคับให้มากที่สุด และคำที่บอกว่า “อย่าไปโอ๋ เดี๋ยวมันได้ใจ” ไม่มีจริงที่นี่ เค้าจะใช้เหตุผลอธิบายน้องให้มากที่สุด และแม้จะต้องเถียงกันจนโมโหจนน้องร้องไห้ เค้าก็จะกลับมาให้ความรักน้องเสมอ มันทำให้น้องรักพ่อแม่มากและน้องๆจากอยากทำตัวให้เป็นที่ชื่นชมของพ่อแม่เสมอ ด้วยความรัก เพราะแม้ว่าน้องจะทำผิด มันไม่ใช้การตบหัวแล้วลูบหลังหรือการสปอย เค้าก็รู้ว่ามันคือสิ่งที่น้องต้องเรียนรู้กันไป น้องจะต้องผ่านเหตุการณ์นี้จะได้รู้ว่าอะไรควรไม่ควร โฮสแม่ของเราบอกว่า เด็กๆเค้าจะไม่ทำการกระทำใดๆก็ตามที่จงใจให้พ่อแม่ไม่พอใจเลย พวกเค้าเด็กเกินไปที่จะมีความคิดนี้ มีก็แต่อยากได้ความรักเท่านั้นและเค้าจะเปลื่ยนพฤติกรรมไปเรื่อยๆเมื่อไม่รู้สึกถึงความรักทำให้เกิดการเรียกร้องและการประพฤติไม่ดีต่างๆ
แม้แต่การใช้ชีวิตประจำวัน ใช้ของมีคม เดินบนถนน ปีนป่ายเครื่องเล่นต่างๆบางทีถ้ามันไม่อันตรายเกินไปเค้าก็จะปล่อยให้น้องเจ็บ ปล่อยให้เรียนรู้ด้วยตัวเอง เช่น น้องคนเล็กของบ้านเรา ให้ใช้มีดแล้วนะคะแต่เป็นมีดขนมปังมันก็มีความคมพอจะบาดได้เพราะต้องตัดขนมปังแต่ไม่คมขนาดบาดลึก ซึ่งก็ร้องลั่นบ้านจ้า พอร้องเสร็จก็มาโชว์นินจา ฉันมีแผลตรงนี้ หาความรักกกกก
สอนให้น้องทำเองให้ได้นะ อย่าทำให้น้องตลอด ไม่งั้นน้องจะทำไม่เป็นเลย ให้น้องลองทำดูเรามีเวลาเยอะ เช่น เจ้าตัวเล็กสองชวบนางใส่เสื้อผ้าเองเด้อ ถ้ารีบเราก็จะช่วย ถ้ามีเวลาเยอะน้องทำเองได้แต่น้องจะยังหลุดโฟกัสบ่อยๆ ใส่ๆกางเกงอยู่ก็จ้องอะไรก็ไม่รู้แล้วก็นิ่งไปเลยไรงิ พี่นั่งมองน้องพี่ก็งง หนูมองอะไรลูกกกก ตอนแรกๆเรามาน้องก็ไม่ยอมเดินขึ้นลงบันไดเองเพราะยังเดินไม่เก่งจะให้อุ้มตลอดแต่น้องอะเดินได้แล้ว เราก็เลยไม่อุ้มน้อง น้องร้องให้อุ้มก็จะไม่อุ้มจูงได้แต่ไม่อุ้ม ถึงน้องจะบอกไม่งั้นเราไม่ไป เราก็ตอบน้องโอเคงั้นวันนี้ทั้งวันเราก็นั่งตรงบันไดนี่หละ หรือชวนน้องเล่น ทำตลก กระโดดลงบันได้หมือนเล่นเกม ชวนแข่งก็ได้ผล ติดตลดได้ผลเสมอพอเด็กอารมณ์ดี ทำอะไรก็ง่าย เราก็แค่อยู่กับเค้าดูไม่ให้กลิ้งลงบันไดก็พอ บอกน้องค่อยๆช้าๆไม่เป็นไร แล้วน้องก็ค่อยเดินขึ้นลงเองปัจจุบันไม่ต้องอุ้มแล้ว หาของไม่เจอถึงมันจะอยู่ตรงหน้าจิ้มตาได้เลยก็ไม่บอกว่าอยู่ตรงไหนให้น้องหาเอง ไม่งั้นน้องจะขี้เกียจหา เราต้องหาให้ตลอด ลองของใหม่ก็ต้องเชียร์น้องถึงน้องจะทำไม่เป็นก็บอกไปเลย เธอทำได้แล้วเก่งจะตาย โชว์ให้ดูละดูน้องทำคอบช่วยจนน้องทำเองได้ละก็ดีใจให้เยอะๆเหมือนน้องชนะบอลโลก เย้ วุ้ฮุ้ว ชมเยอะๆน้องต้องมีความกล้าที่จะทำไม่งั้นน้องก็จะทำไม่เป็น
อย่าตกใจ เวลาน้องล้มเพราะเด็กเค้าเรียนรู้จากปฎิกิริยาจากเรา ถ้าเราตกใจเค้าจะร้องทันทีแต่ถ้าเราทำเป็นเล่น ทำว่าการล้มไม่ใช่เรื่องใหญ่น้องก็จะลุกยืนเองได้ด้วยซ้ำและกลับไปเล่นต่อ
สิ่งเหล่านี้นะคะ ตอนแรกเราก็เป็น น้องจะล้มละใจหาย เดี๋ยวทำให้ทุกอย่าง เพราะความเคยชินว่าเค้าเป็นเด็กทำเองไม่ได้เราคิดไปเองว่าต้องทำให้ทุกอย่าง แต่ตริงๆแล้วเราต้องปล่อย เพราะเราจะสอนให้เค้าโตขึ้น ไม่ได้ให้เค้าเป็นเด็กเหมือนเดิม
รอต่อ EP 2 นะคะ ในกระทู้เดียวกันนี่หละคะ