ถ้าไม่มี* กูสบายไปนานแล้ว.....

ตามนั้นแหละค่ะ แม่พูดกับเรา คือเราเป็นลูกคนที่2ค่ะ วันนั้นเป็นช่วงปิดโคโรน่านี่แหละค่ะวันนั้นเราตื่นสายนิดหน่อยประมาณ9โมงกว่าค่ะ แล้วไปช่วยแม่ทำงานต่อ แล้วจู่ๆแม่ก็พูดแบบนี้ขึ้นมาค่ะ ปกติเป็นคนลืมอะไรง่ายมาๆเลยแต่คำนี้มันลืมไม่ได้เลยค่ะ พี่ไม่เคยโดนแบบนี้นะคะพี่ไม่เคยเล่าว่าแม่เลี้ยงพี่ยังไงเพราะตอนที่เริ่มจำความได้ก็เห็นพี่เก็บตัวใส่หูฟังทำงานบ้าน การบ้านหรืออะไรทุกอย่างเลยค่ะ พี่บอกจะตั้งใจเรียนแล้วรีบย้ายออกบ้านนี้ค่ะ จนตอนนี้พี่จบมหาลัยหลายปีแล้วประมาณ3ปีถึงจะกลับมาครั้งนึงค่ะ แต่กลับมาไม่ค่อยอยู่ติดบ้านเท่าไหร่ ถ้าอยู่ก็ใส่หูฟังทำอะไรคนเดียวค่ะ บ้านเงียบมากเลย ถ้าคุยกันไม่ถึง3ประโยคก็เริ่มทะเลาะกันแล้วค่ะ เหมือนจะคู่กับลุง ส่วนหนูคู่กับพี่ค่ะ(หมายถึงแม่กับลุงชอบใส่สิทธิที่แก่กว่าเลยด่าทุกอย่างเลย หนูกับพี่โดนทุกเรื่องเลยค่ะ) ทะเลาะกันตลอดเลย แล้วแม่ห้ามทุกอย่างเลยค่ะห้ามมีแฟน ห้ามไปบ้านเพื่อน ห้ามกลับบ้านช้าเกิน5โมง ห้ามเกรดตกแต่ไม่ส่งเสริมเรื่องเรียนเลย เช่น กลับมาบ้านการบ้านเยอะมากแต่แม่ก็ให้ทำงานช่วยแม่อย่างเดียวเลย จนบางคืนเราก็ไม่ได้นอนเลย งานบ้านเราทำทุกอย่างเลยค่ะ จะไปทำงานวันเสาร์อาทิตย์ก็ไม่ค่อยได้ค่ะ ตอนนี้รู้สึกเรียนไม่ทัน กดดัน งานเยอะมากเลย เคยเป็นตัวแทนไปแข่งของรร.แต่ผลออกมาไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลยฝังใจค่ะ เคบชอบภาษาจีนมาตั้งแต่เด็ก จนตอนนี้อายุ 17 เริ่มรู้สึกไม่อยากเรียนไม่อยากกลับบ้านเลย ไม่เคยได้ไปเที่ยวกับเพื่อนเลย ถ้าช่วงไหนกลับบ้านช้าบ่อยๆแม่จะสั่ง4โมงให้รอหน้ารร.เลยค่ะ แล้วขู่ว่าถ้ายังเป็นแบบนี้อยู่จะมานั่งเฝ้าทั้งวันเลย รู้สึกหมดไฟทุกอย่างเลยค่ะ ตอนนี้มีแค่หมา5ตัวเป็นเพื่อนค่ะ เพื่อนที่รร.ก็เครียดกันอยู่แล้วเลยยังไม่อยากปรึกษา แต่ตั้งแต่ตอนนั้นที่แม่พูดแบบนี้เวลาเจอหน้าแม่แล้วจะได้ยินระโยคนี้ก้องในสมองตลอดเลยค่ะ พอทำอะไรพลาดหรืออยู่นิ่งๆเงียบมันจะมีประโยคแบบนี้ทั้งที่เคยโดนว่าจริงแล้วก็คิดไปเองออกมาเต็มสมองเลยค่ะ เหนื่อยค่ะ ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
ทำเหมือนพี่คือรีบมีรายได้เป็นของตนเองแล้วย้ายออก
บางบ้านก็ไม่ได้น่าอยู่
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่