จำวันที่เรียกแท็กซี่หน้ามาบุญครองได้ไหม 10 คัน ไม่ไปสักคัน

จำได้ไม่ลืม  บ้านอยู่รามคำแหง ไปทำธุระที่มาบุญครอง แม่เจ้า เรียกไปสิบห้าคันได้ ไม่ไปสักคัน

ตอนนี้ เรียกคันแรก ก็ไปเลย แถมคันข้างๆ มองอย่างเสียดายอีก

ใครจะเอาคืน ลองเรียก  แล้วบอกว่า เปลี่ยนใจล่ะไม่ไปแล้ว 

อัลคาซ่า   เหมือนกัน ตอนไปซื้อตั๋ว ทำเป็นไม่สนใจ  ทัวร์ลงทีเดียว ก็เต็มแล้ว 

ตอนนี้ แทบจะอุ้มเข้าไปดู

ไม่ต้องพูดถึงภูเก็ต ก่อนโควิด ภูเก็ตแพงกว่าได้หวันอีก แถมไต้หวันต้อนรับคนไทยดีกว่า ไปเที่ยวภูเก็ต เหมือนเป็นพลเมืองชั้นสอง ทั้งๆที่บ้านตัวเอง

ตอนนี้เห็นใจเมืองจำลองพัทยา  เป็นที่เที่ยวที่คนเงินน้อยเที่ยวได้  เพราะแม้จะบูมแค่ไหน ค่าตั๋วคนไทยแค่หกสิบบาท ผู้ใหญ่120 (ต่างชาติเขียนเป็นเลขไทยตัวโด ๓๐๐) ต้อนรับดีทั้งคนไทย ต่างชาติ 

โควิด ทำให้ได้รู้ว่า ในภาวะที่ยากลำบาก ไทยเท่านั้นที่จะช่วยไทยได้  ดังนั้น เมื่อภาวะอู้ฟู่มาถึงอีกครั้ง อย่าลืมคนที่เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
ช่วงโควิทนี้ บางทีผมผก็รู้สึกว่าการท่องเที่ยวไทยสมควรแก่การได้รับผลเช่นนี้แล้ว

...เพราะที่ผ่านมาการท่องเที่ยวไทย "ไม่เคยเห็นหัวคนไทยด้วยกันเองเลย" โดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยวขนาดใหญ่ต่าง ๆ เช่น ภูเก็ต พัทยา หัวหิน และ MBK

ดีแต่เทิดทูนบูชาฝรั่ง บูชาคนจีน บูชาต่างชาติ บูชาเงินจากต่างประเทศ พอเดือดร้อนกลับเรียกคนไทยให้กลับมาช่วย ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้การท่องเที่ยวบูม กอบโกยเงินทองทำกำไรสร้างเนื้อสร้างตัวกันไปตั้งเท่าไหร่ ไม่เก็บเงินไว้บ้างเลยเหรอ?

คนไทยที่พวกคุณเคยเฉยเมย เฉื่อยชาเวลาให้บริการ บริการก็แบบขอไปที พูดจาเป็นมะนาวไม่มีน้ำ ดูแลเหมือนเป็นกรุ๊ปทัวร์ชั้นสอง ดูแคลนว่าเงินน้อย ไม่ใส่ใจเพราะหลอกสูบเงินเหมือนฝรั่งไม่ได้ สามล้อ-แท็กซี่ ในกรุงเทพที่เคยปฏิเสธการเรียกใช้บริการของคนในชาติ จ้องแต่ลูกค้าฝรั่งตาเป็นมัน รถสองแถว รถนำเที่ยว รถเช่า รถตู้ ที่ไม่เคยสนใจลูกค้าชาวไทย พูดภาษาเดียวกันปุ๊บก็เบ้หน้าไม่อยากให้บริการในทันที เพราะฟันหัวไม่ได้

พอบ่นเรื่องการบริการก็หาว่าทำไมเรื่องมาก ปัญหาเยอะ ตะคอกใส่ ดีไม่ดีด่ากลับอีก เพราะด่าถนัดด้วยภาษาไทย แต่กับฝรั่งเชิดชูเทิดทูนอย่างกับราชาเยี่ยงขี้ก็ว่าหอม พินอบพิเทาพวกหัวทองเหมือนเยี่ยงตนเป็นไพร่ทาส มันจึงไม่แปลกว่าทำไมต่างชาติจึงชอบท่องเที่ยวไทย เพราะไม่ว่าคุณจะเป็นขี้กลากฝุ่นธุลีเศษเดน loser มาจากไหน ขอให้เป็นหัวทองหรือฝรั่งตาน้ำข้าว การท่องเที่ยวไทยพร้อมที่จะยกย่องคุณเป็นราชา เลียตั้งแต่หัวจรดเท้าทันที

ยังไม่รวมเรื่องข้าวของแพงไม่ว่าแถมคุณภาพต่ำตม การรับการบริการก็ชั้นต่ำเพราะไม่อยากบริการลูกค้าคนไทย อาหารก็แพง ที่พักก็แพง ค่าเดินทางก็แพง แพงไปหมดจนบินไปเที่ยวญี่ปุ่น ฮ่องกง เกาหลี ไต้หวัน ภาพรวมยังถูกกว่า อย่างน้อยเขาก็ไม่ดูแคลนว่าเราเป็นกรุ๊ปทัวร์ชั้นสอง

"ถ้าเงินไม่ถึง ก็อย่ามาเที่ยวนะครับ" ผมยังจำคำพูดของเจ้าของร้านหนึ่งบนเกาะ xxx ได้ เจ็บจี๊ดฝังใจจนถึงทุกวันนี้ หลังจากพูดเสร็จก็เดินไปรับแขกที่โต๊ะมีแต่ฝรั่ง

พวกคุณทำอะไรไว้ คนไทยเขาจำได้ คนไทยเขาไม่มีวันลืม พอตัวเองเดือดร้อนกลับเรียกคนชาติเดียวกันให้กลับไปช่วยเหลือ อ้างเพื่อนร่วมชาติ คนชาติเดียวกันต้องช่วยเหลือกัน ทำเป็นน่าสงสาร ผมรู้สึกสมควรแล้ว เพราะที่ผลลัพธ์มันออกมาแบบนี้ วันที่เขาไม่กลับไปเที่ยวแล้วเพราะเขาจำภาพการถูกเพิกเฉย การถูกดูแคลน การได้รับการปฏิบัติเยี่ยงประชาชนชั้นสองแล้ว ไม่กลับไปเที่ยวดีกว่า

ลองสังเกตดี ๆ วันหยุดยาวที่รัฐบาลเพิ่มวันให้ หลายช่วงเวลาที่ผ่านมา การท่องเที่ยวยังบูมอยู่ แต่ไม่ใช่จังหวัดดังกล่าวข้างต้นที่รับแต่ นทท. ต่างชาติเท่านั้นเอง


ประเทศไทยควรหันไปส่งเสริมอุตสาหกรรมด้านอื่นบ้าง ที่ผ่านมาเราทุ่มสรรพกำลัง เงินทอง มันสมอง และงบประมาณไปมากมายมหาศาล เพื่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว จนการพัฒนาด้านอื่นที่ยั่งยืนกว่า เช่น เกษตรกรรม กลับถดถอยและเริ่มที่จะแข่งขันไม่ได้แล้ว ยังจะเอาอะไรอีก เรียกร้องไม่จบสิ้น ทั้ง ๆ ที่เคยทำกับคนไทยด้วยกันไว้มาก

ที่พูดมาไม่ได้หมายความว่าให้ทอดทิ้งการท่องเที่ยวแล้วไปเอาดีด้านอื่น ยังไงการท่องเที่ยวก็ยังคงต้องมีอยู่ แต่จากปรากฎการณ์นี้มันก็น่าจะเห็นแล้วว่า การท่องเที่ยวนั้นไม่สามารถเป็นเครื่องยนต์หลักเพียงเครื่องยนต์เดียวเพื่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของชาติได้ "เพราะมันไม่ยั่งยืน" เนื่องจากการท่องเที่ยวของไทย "พึ่งพา" ต่างชาติมากเกินไป เหมือนยืมจมูกเขาหายใจ ในขณะที่ภาคเกษตรกรรมเรามีทั้งองค์ความรู้ ศักยภาพ ความพร้อม มานานแล้วเพราะเป็นประเทศเกษตรกรรมมาก่อน จึงควรส่งเสริมให้เข้มแข็งและสามารถแข่งขันได้มากกว่าที่เป็นอยู่
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่