ชวนไปเดินป่า ลุยน้ำ ตากฝน ไต่เขา ที่ 'น้ำตกสายรุ้งละอองดาว' แล้วจะรู้ว่าป่าภาคใต้ก็ฟินไม่แพ้ดอยภาคเหนือ

สำหรับใครที่เป็นสายลุย สายเดินป่า สายเสพธรรมชาติ เราอยากให้หาโอกาสมาที่ 'น้ำตกสายรุ้งละอองดาว' อ.กะเปอร์ จ.ระนอง กันค่ะ
ที่นี่เพิ่งเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้ประมาณ 4-5 ปี  และปีนึงเปิดให้เข้าแค่ไม่กี่เดือน เพราะฉะนั้นธรรมชาติในป่านี้ยังสมบูรณ์อยู่มาก
บวกกับเส้นทางเดินป่าที่เราต้องเดินเท้าและลุยน้ำเข้าไปจนถึงตัวน้ำตกอีกเกือบๆ 10 กิโล ชื่ออย่างแบ๊ว แต่ทางเดินอย่างโหด
ถือเป็นการเดินป่าที่สมบุกสมบันพอสมควร เหนื่อยมาก โหดมาก แต่ก็สนุกมากค่ะ



.
.

ซึ่งเส้นทางไปน้ำตก เราต้องเดินเท้าเข้าไปจุดตั้งแคมป์ประมาณ 6-7 กิโล และเดินต่อจากแคมป์ขึ้นไปน้ำตกอีกประมาณ 2 กิโลกว่าๆ
จากที่เคยเดินลุยป่าเราก็ต้องเปลี่ยนมาเดินลุยน้ำแทนค่ะ ซึ่งเป็นการลุยน้ำตลอด 6 กิโล ลุยน้ำขนาดไหน ..... ก็คือลุยน้ำเชี่ยวกราก !!!!
การันตีว่าเปียกแน่นอน เปียกโดยไม่มีอะไรกั้น ยิ่งถ้าไปช่วงหน้าฝน พายุเข้า น้ำเยอะ เราต้องเดินลุยน้ำระดับเอวเกือบตลอดทาง
น้ำแรงมากกกกกกกกกกกก บางช่วงเหมือนตัวจะปลิว ถ้าช่วงน้ำแรงมากก็ต้องค่อยๆจับมือต่อกันเป็นสะพานข้ามน้ำไป
บางช่วงก็มีหินให้เราต้องปีนป่ายกันเล็กน้อย ใครอยากลุยแนะนำว่ามาที่นี่ได้ลุยเต็มที่ค่ะ 

   


.
.

ยิ่งช่วง 500 เมตรสุดท้ายก่อนถึงแคมป์นี่ต้องระวังมากค่ะ เป็น 500 เมตรแห่งความวิบากกรรม เหมือนทำบาปมาแล้วต้องมาชดใช้กรรมที่ตรงนี้
คือมันเป็นเหมือนทางไต่เขาเลยค่ะ ลำพังเดินแห้งๆก็ยากแล้ว แต่ตอนเราไปฝนตกเกือบตลอด แล้วทางก็แคบ ลื่นก็ลื่น ชันอีกต่างหาก สวดมนต์เลยค่ะ 


.
.
เราใช้เวลาเดินทั้งหมดราวๆ 4-5 ชั่วโมง คือเริ่มเดินกันตอนประมาณ 10 โมง แล้วทยอยถึงแคมป์กันตั้งแต่ช่วงบ่ายสอง
อาจจะใช้เวลานานหน่อยค่ะ เพราะอย่างที่บอกไปว่าทางเดินของที่นี่เราต้องลุยน้ำกันไปตลอด ต้องรอไปพร้อมๆกัน 
แต่เจ้าหน้าที่เค้าคอยประกบเราทุกจุดค่ะ ดูแลดีดุจญาติมิตร ค่อยๆเดินไปเดี๋ยวก็ถึงค่ะ 
.
.
พอถึงแคมป์แล้วก็หาที่กางเปลกัน ไม่แนะนำให้เอาเต๊นท์มานะคะเพราะหาที่กางยาก กางได้ 2 เต๊นท์เอง เอาเปลไปสะดวกสุดค่ะ
เพราะที่แคมป์เค้าเตรียมที่กางเปลให้แล้ว มีเจ้าหน้าที่คอยช่วยกางให้ค่ะ  แต่อาจจะต้องทำที่ดักน้ำไว้หัวเปลท้ายเปลด้วย
เวลาฝนตกน้ำจะได้ไม่ซึมเข้าเปล  และถ้าอยากเข้าห้องน้ำก็หามุมที่สะดวกแล้วขุดหลุมเลยค่ะ แถวๆแคมป์ไม่มีทาก
เข้าห้องน้ำได้สบายหายห่วง ไม่ต้องระแวง

.
.
ส่วนทางไปน้ำตกคือจุดไฮไลท์ค่ะ เพราะจากแคมป์ต้องเดินขึ้นเขาไป 2 กิโล ย้ำว่าเดินขึ้นอย่างเดียวเลยค่ะ ขึ้นยาวๆ ทางลื่นๆเละๆ
เหนื่อยมากค่ะ เหนื่อยเหมือนจะตาย เพราะด้วยความที่มันเป็นดินเหนียวเละๆ ทำให้ต้องออกแรงพอสมควร และพอขึ้นไปจนถึงยอดสุด
ก็ต้องไต่เชือกลงมาอีกราวๆ 2-300 เมตร ซึ่งเป็น 300 เมตรที่โคตรจะทรมานเพราะทั้งชัน ทั้งลื่น ซ้ายก็เหว ขวาก็เหว ก้าวพลาดก็คือร่วง
เจ้าหน้าที่บอกว่าถ้าร่วงแล้วร่วงเลยนะ ไม่กู้ 555555555555 ทำประกันชีวิตไปด้วยนะคะ 


.
.

แต่พอผ่านวิบากกรมจนลงไปถึงน้ำตกก็คือสวยจนหายเหนื่อย ยิ่งใหญ่อลังการสมการรอคอย ไม่ผิดหวังเลยค่ะที่เหนื่อยมาทั้งวัน สวยมากจริงๆ 
เสียงดังกระหึ่มสนั่นป่า เราให้ที่นี่สวยกว่าทีลอซูอีก อาจจะเพราะความสาหัสของทางที่เข้ามามั้งคะ เราเลยรู้สึกว่ามันสวยจนตะลึง



 
.
.
แต่ความเหนื่อยยังไม่จบค่ะ เพราะเราเดินมาน้ำตกทางไหนก็ต้องเดินกลับไปทางนั้นแหละ ตอนขามาไต่ลงมา ส่วนตอนขากลับก็ไต่ขึ้นค่ะ 
ชั้นร้องกรี๊ดเลยยยยยย เหนื่อยมากกกกกกกกกกกกกกกกก แขนจะหลุดดดดด เหนื่อยจนหมดแรง ยังไม่พอค่ะ ยังต้องเดินกลับลงไปที่แคมป์ซึ่งเป็นทางโคลนเละๆ ลื่นๆ ล้มกันระเนระนาด กว่าจะกลับถึงแคมป์ได้ก็คือหมดแรง ตุยเย่ค่ะ
.
.
แต่อยากให้ทุกคนได้ลองไปค่ะ เป็นการเดินป่าที่สนุกมากจริงๆ  ทริปนี้เราไปแจมกับรุ่นพี่ที่เค้ากำลังจัดทริปพอดี
เลยไม่มีรายละเอียดการเดินทางว่าต้องไปลงที่จุดไหนและต่อรถเข้าไปยังงัย เพราะเราเหมารถตู้ไปกันค่ะ
ลองติดต่อสอบถามไปที่สำนักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองนาคา โทร 077 874 210 ดูก็ได้ค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่