วาเลนไทน์ 2529

เย็นวันพฤหัสบดีที่บ้านไมยสาร...สองแม่ลูกคู่หนึ่งกำลังช่วยกันรื้อห้องเก็บของแสนรกด้วยกันอย่างเพลิดเพลิน ‘เมตา’ สาวน้อยวัย 17 ผู้เป็นลูกที่กำลังรื้อของข้างในลังกระดาษออกมาดูทีละชิ้นก็เพิ่งจะมาพบสิ่งน่าสนใจบางอย่างเข้า...มันคือสมุดปกหนังสีแดงเล่มใหญ่ ข้างในนั้นมีข้อมูลส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละคน และข้อความอำลามากมายคล้ายเฟรนด์ชิปที่คนสมัยเธอไม่มีใครนิยมเขียนกันแล้ว

            เมตาเห็นว่าข้อความมากมายพวกนั้นกล่าวถึง ‘อุทัย’ แม่ของเธอ นั่นเด็กสาวจึงได้รีบนำสมุดเล่มนี้ไปให้แม่ตัวเองดู อุทัยรับมาจากลูก ตอนแรกก็จำไม่ได้ว่ามันคือสมุดอะไร แต่เมื่อพอลองสุ่มเปิดไปสักกลางๆ เล่ม ตั้งใจอ่านข้อความในนั้นแล้วพบว่าเป็นสมุดเฟรนด์ชิปของตัวเองก็เผลอหัวเราะออกมาด้วยความดีใจ

            เพราะได้เจอของสำคัญที่หายไปนานมากแล้ว อุทัยจึงยอมละทิ้งงานที่กำลังทำอยู่แล้วเดินออกมานั่งข้างนอกพร้อมสมุดเฟรนด์ชิปโดยมีลูกสาวเดินตามมานั่งด้วยอย่างสนใจ เมตานั่งดูนั่งอ่านสมุดอยู่กับแม่อย่างเพลิดเพลิน จนกระทั่งแม่เปิดไปอีกหน้าหนึ่งแล้วพบเข้ากับซากกุหลาบที่แห้งแบนเรียบติดไปกับเนื้อกระดาษ ก็เอ่ยถามแม่ด้วยความสงสัย

            “นี่น่ะหรือ...มันคือ...ดอกกุหลาบจากคณะมัทนาสุบินน่ะ” อุทัยไม่กล้าหยิบมันออกมาเพราะกลัวความทรงจำที่แสนเปราะบางนี้จะแหลกสลาย แต่ด้วยความคะนึงหาก็อดไม่ได้ที่จะใช้ปลายนิ้วแตะไปบนก้านและไล้มาถึงริบบินเก่าที่ยังคงมีเค้าสีเดิมว่ามันเคยเป็นสีดำกับสีชมพูมาก่อน...สีประจำโรงเรียนบุรินทร์เมธี 

            “คณะมัทนาสุบินหรือ? อ๋อๆๆ หนูเคยอ่านประวัติโรงเรียนมา เห็นเขาบอกว่าเมื่อก่อนโรงเรียนเราแบ่งออกเป็นสองคณะใช่ไหมแม่ คณะมัทนาสุบินน่ะจะอยู่ในตัวอำเภอ ส่วนอีกคณะหนึ่งที่ชื่อสินธุนทีจะอยู่นอกอำเภอใช่ไหม?” เมตารีบพูดข้อมูลในหัวออกมาอย่างกระตือรือร้น โดยมีแม่ของเธอนั้นพยักหน้ายิ้มรับ ตามองกุหลาบแห้งและริบบินสีประจำโรงเรียนอย่างคิดถึงอดีต

            “แล้วนี่เรารู้ไหม...ว่าสองคณะนี้เขาแตกต่างกันอย่างไร?”

            พอเจอคำถามนี้เมตาก็ได้แต่เงียบ ก่อนจะยอมรับไปเสียงอ่อยว่าเธอไม่ได้สนใจถึงขนาดนั้นจึงไม่ได้อ่านต่อ นั่นผู้เป็นแม่จึงอธิบายให้ฟังว่าคณะมัทนาสุบินน่ะจะมีเฉพาะมัธยมต้นซึ่งเป็นชายล้วน ส่วนคณะสินธุนทีจะมีเฉพาะมัธยมปลายเป็นสหศึกษา โดยที่นักเรียนหญิงทุกคนของที่นี่จะเป็นเด็กโควตางานใบตองทั้งหมด

            นอกจากนี้แม่ยังเล่าให้เมตาฟังอีกว่าสมัยนั้นที่ตัวเองยังเรียนมัธยมอยู่น่ะ การที่จะไปคณะสินธุนทีได้จะต้องไปขึ้นรถเมล์ที่หน้าคณะมัทนาสุบินเสียก่อน ซึ่งด้วยเพราะเหตุนี้เองจึงทำให้แม่ได้กุหลาบดอกนี้มาครอบครอง...กุหลาบสไตล์คณะมัทนาสุบินที่ไม่มีแจกในคณะสินธุนที

            “วันนั้นน่ะแม่จำได้เลยว่าพอกลับไปถึงคณะสินธุฯ นะ โอ๊ย...คนนี่มองกันใหญ่ เพื่อนแม่นี่กรี๊ดกันให้สนั่น ถามว่าไปเอากุหลาบมัทนามาจากไหน คือฮอตเลยวันนั้น เดินไปไหนใครๆ ก็มอง” 

            เมตาหัวเราะออกมาเมื่อแม่พูดมาถึงตรงนี้ ก่อนเด็กสาวจะอดบ่นออกมาไม่ได้ว่าโรงเรียนน่าจะรักษาประเพณีน่ารักๆ แบบนี้เอาไว้ ไม่น่ายกเลิกเลย
“แต่เม...ตอนนี้คณะมัทนาฯ มันไม่มีแล้วนะลูก ถึงเขาจะเอามาปลูกในโรงเรียนแล้วโมเมเอาว่าเป็นกุหลาบมัทนา แต่นั่นมันจะมีความหมายอะไรล่ะถ้าไม่ได้ปลูกอยู่ในคณะมัทนาจริงๆ เมว่าจริงไหม?”

            เมตาได้ฟังแบบนั้นก็ถึงกับเงียบไปเพราะเห็นด้วย เด็กสาวถอนหายใจอย่างเสียดาย...เสียดายที่ปัจจุบันนี้พื้นที่ความทรงจำของคณะมัทนาสุบินได้หายไปแล้วหลังจากเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ในครั้งนั้นเมื่อสิบกว่าปีก่อน...และเพราะคณะนี้ถูกไฟไหม้นั่นเองจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ทางโรงเรียนถือโอกาสยุบระบบคณะ และจัดการโอนย้ายนักเรียนมัธยมต้นทั้งหมดให้มาเรียนที่เดียวกับพวกมัธยมปลาย 

            เมื่อเข้าสู่ความเงียบ...เสียงเดินเข็มของนาฬิกาที่แขวนอยู่บนผนังใกล้ๆ ก็เรียกให้อุทัยแหงนหน้าขึ้นมอง ครั้นพอเห็นว่าตอนนี้มันใกล้จะถึงเวลาเลิกงานของสามีแล้วจึงเอ่ยปากไล่ให้ลูกสาวไปอาบน้ำอาบท่าเพื่อเตรียมลงมากินข้าวหลังจากที่พ่อกลับมาถึง เมตาตกลงอย่างว่าง่าย แต่ก่อนไปเธอได้ขอเฟรนด์ชิปเล่มนั้นจากแม่เพราะอยากจะเอาไปอ่านเล่นๆ ก่อนนอน ซึ่งผู้เป็นแม่เองก็ยกให้อย่างไม่หวง 

            หลังจากที่มื้อเย็นของบ้านไมยสารผ่านไปอย่างอบอุ่นเฉกเช่นทุกวัน...ก่อนนอนนั้นเมตาก็นอนคว่ำหน้าหันหัวสลับหางกับเตียง เพลิดเพลินไปกับการได้อ่านเฟรนด์ชิปของแม่ไปตลอดทั้งคืนจนกระทั่งเปิดมาถึงหน้าหนึ่งที่มันมีกุหลาบแห้งแสนเปราะบางเคยใช้ซ่อนตัวอยู่

            มือเล็กลูบไล้บนเนื้อกระดาษรอบๆ แทนการสัมผัสสิ่งเปราะบางนั้นโดยตรง และก็อดบ่นออกมาอย่างนึกเสียดายไม่ได้ว่าทำไมเธอถึงได้เกิดช้านักนะ หากเกิดเร็วกว่านี้อีกสักหลายสิบปีก็คงจะมีโอกาสได้กุหลาบมัทนามาครอบครองเหมือนแม่แล้ว...เฮ้อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่