[SR] รีวิว VIVO Y20 จัดเต็มกล้อง 3 ตัว แบต 5,000 mAh พร้อม สแกนนิ้วด้านข้าง !


 
VIVO นั้นได้เปิดตัวรับต้นเดือนกันยายนด้วยการต่อยอดรุ่น Y มาเป็นรุ่น Y20 ที่เปลี่ยนงานออกแบบใหม่ทั้งหมดในด้านหลัง มาพร้อมกับราคาที่จับต้องได้ง่ายขึ้นแถมยังใช้สแกนนิ้วในด้านข้าง Side-Mounted Fingerprint Scanner และยังคงจุดเด่นแบตแน่นๆเยอะๆ 5,000 mAh รองรับชาร์จไว 18W ด้วยส่วนทางด้านสเปคหันมาใช้งาน Snapdragon แล้วเช่นกันและฝาหลังออกแบบใหม่ลวดลายสวยงามพร้อมกับไม่มีสแกนนิ้วมาเกะกะแล้วด้วยเช่นกัน ก็ถือว่าทำราคาและสเปคออกมาตอบโจทย์สาวกได้ดีกล้องหน้าหลังยังคงไว้ใจได้เลย ฟีเจอร์การถ่ายให้มาเหมือนเดิมครับ ละลายหลัง ฉากหลังขาวดำเป็นต้น และ รูหูฟังก็ยังคงใส่มาให้นะไม่ได้ตัดออกด้วยครับในรุ่นนี้
 

 

 
สเปคของทาง VIVO Y20 นั้นถือว่ามีสเปคอะไรที่ใช้งานได้ดีเลยทีเดียวครับ มาพร้อมกับหน้าจอ  Halo FullView™ Display ขนาด 6.51 นิ้ว หน้าจอ IPS ความละเอียด HD+ และ กล้องหน้า 8 MP ทางด้านกล้องหลังนั้นให้มา 3 ตัว เป็นเลนส์หลัก 13 ล้านพิกเซล กล้อง Macro 2 ล้านพิกเซล และกล้อง Bokeh 2 ล้านพิกเซล และ สแกนนิ้วด้านข้างใช้เวลาแค่ 0.33 วินาที + ยังมีเทคโนโลยี Face Wake สแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อกได้อีกด้วย ทางด้านสเปคนั้นมาพร้อมกับ Qualcomm Snapdragon 460 พร้อมด้วย RAM 4GB และ ROM 64GB ยังมาพร้อมช่องใส่ซิมแบบ Triple card slot ซึ่งสามารถรองรับ SD การ์ด ได้สูงถึง 256GB พร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh พร้อมด้วยเทคโนโลยี AI ประหยัดพลังงาน + Reverse charging อีกด้วย แต่ยังคงใช้งาน Micro-USB นะครับ รวมถึงกล้องหลังนั้นน่าเสียดายไม่มีเลนส์มุมกว้างหรือโหมดกลางคืนมาให้นะ แต่โหมดต่างๆ ฟังก์ชั่นการถ่ายรูป ทั้ง Face Beauty หรือ Portrait Light Effects โฟกัสแบบ PDAF นั้นยังคงมีมาให้อยู่ครับ
 

 

 

 
Vivo Y20 วางจำหน่ายในราคา 5,299 บาท โดยมีให้เลือกถึง 2 สีด้วยกัน ได้แก่ Nebula Blue ( สีน้ำเงิน ) , Dawn White ( สีขาว )
 

 

 
UNBOX
 
    - ตัวเครื่อง VIVO Y20
    - ที่ชาร์จ 10W
    - สายชาร์จ MICRO-USB
    - เคสใส TPU
    - คู่มือ และ ที่จิ้มซิม
 

 

 
เคสที่เเถมมาของ VIVO Y20 ถือว่ามีความหนาอยู่พอประมาณ วัสดุงานเหมือนกับเคสที่เเถมมากับรุ่นก่อนๆ กันกระเเทกได้ดีในระดับนึง ตัวขอบกินเข้ามาบนหน้าจอและมีความหนาสูงกว่าหน้าจอทำให้วางคว่ำได้สบาย ส่วนฝาหลังนั้นก็คลุมได้หมดครับรวมถึงตัวเลนส์กล้องนั้นก็ทำออกมาปิดได้ดีมีความหนาขึ้นมาปกป้องได้เวลาวางต่างๆใช้งานทั่วไป ส่วนตรงพอร์ตชาร์จอะไรต่างๆนั้นมีจุกปิดมาให้เหมือนเดิมตามเเบบฉบับของ VIVO ที่เเถมมาเหมือนกับในรุ่นก่อน
 

 

 
ด้วยตัวเคสนั้นมีความนูนขึ้นมาปกป้องตัวเลนส์และหน้าจอขึ้นมาอีกครับ และ ทั้ง 4 มุมนั้นในด้านหน้าจะทำความสูงพิเศษขึ้นมาเพื่อที่จะปกป้องหน้าจอให้ดีขึ้นไปอีกเวลาตกหรือวางคว่ำครับ แต่ในแง่ของความสูงหรือหนาอาจจะไม่ได้สูงมากนักครับในรุ่นนี้ ตัวเคสภาพรวมปกป้องได้ดีแต่อาจจะไม่ได้หนามากนัก เวลาตกก็สามารถกระแทกได้ในระดับนึง แบบไม่หนักมากนะครับ
 

 
DESIGN
 
งานออกแบบในสี้นี้นั้นทาง VIVO เองได้รับแรงบันดาลใจจาก “เนบิวลาในห้วงจักรวาล” ไล่ระดับสีสีน้ำเงิน และสีม่วงอย่างสวยงามเปิดจินตนาการของคุณเพื่อสำรวจความลึกลับที่น่าชวนฝัน และยังใช้งานออกแบบตัวเครื่องให้มีความโค้ง 2.5D เพื่อให้พอดีกับมือมอบความรู้สึกสัมผัสตัวเครื่องที่บาง และเบา พร้อมด้วยสีสันสดใส สวยสะดุดตา สไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ ก็ถ้ามองกันตรงๆฝาหลังการที่ย้ายสแกนนิ้วไปด้านข้างนั้นถือว่าทำให้ฝาหลังดูเรียบเนียนตาสวยและดูแพงเหมือนมือถือราคาแพงได้ดีเลย และการใช้โทนสีฝาหลังนั้นดูแพงดูดีกว่าตระกูล V พี่น้องมันด้วยนะในบางมุม อีกทั้งแม้จะเป็นแบต 5,000 mAh ก็ตามแต่ตัวเครื่องกลับทำได้บางและเบากว่าที่คิดไว้เยอะพอสมควรเลยแหละ
 

 
ทางด้านหน้าจอในรุ่นนี้ยังคงการออกแบบอิงแบบเดิมที่ใช้งาน หน้าจอ Halo FullView™ Display  IPS LCD ขนาด 6.51 นิ้ว ความละเอียด HD+ แบบติ่งหยดน้ำแต่ที่ชอบคือมีการสู้แสงที่ทำได้ดีเลยทีเดียวและมุมมองการใช้งานถือว่าโอเคอย่างมากเมื่อเทียบกับราคาของรุ่นนี้
 

 
หน้าจอขอบบนนั้นเราจะเห็นว่ามีกล้องหน้า 8MP พร้อมกับการแทรกเซนเซอร์อะไรต่างๆไว้ข้างบนรวมถึงลำโพงเวลาคุยโทรศัพท์ครับ ส่วนขอบอะไรนั้นก็มีความหนาใกล้ๆกันทั้งหมด ตามในเรทราคาของมันถือว่าพอรับได้ในจุดนี้
 

 
แต่ขอบหน้าจอด้านล่างนั้นจะค่อนข้างหนาพอสมควรถ้ามองในแง่เรทราคาประมาณนี้ก็จะได้ประมาณนี้ในหลายๆตัวครับส่วนการควบคุมนั้นต้องบอกว่ารองรับการเปลี่ยนแปลงได้เยอะ สลับปุ่ม หรือใช้งานแบบท่าทางได้ด้วยเช่นกัน
 

 
ในด้านล่างนั้นแอบบ่นนิดหน่อยยังคงใช้งาน  Micro-USB ครับ ส่วนลำโพงหลักในด้านซ้าย พร้อมกับรูไมค์และรู 3.5มม.ในด้านขวาสุด ส่วนบอดี้นั้นจะเป็นพลาสติกเล่นสีน้ำเงินเข้มและฝาหลังโค้งนิดๆตรงขอบแต่เรียบๆตรงกลาง
 

 
ในส่วนขอบด้านซ้ายนั้นเราจะเห็นว่ามีการไล่สีสวยงามฟ้าอ่อนไปน้ำเงินเข้ม จะห็นว่ามีความบางพอสมควรเลยทีเดียวและฝาหลังเรียบๆครับ รวมถึงถาดซิมรองรับ Triple Slot รองรับการใช้งานได้ดีเพิ่มความจุ และ ซิมคู่ด้วยครับ
 

 
ในส่วนของขอบด้านบนนั้นเราจะเห็นว่าตัวเครื่องนั้นจะเป็นคนละสีกับด้านล่างในขอบด้านบนนั้นจะเป็นสีฟ้าครับ และกล้องนั้นจะไม่ได้นูนออกมามากเท่าไรก็ถือว่ายังเป็นการออกแบบที่ค่อนข้างดีในส่วนของเลนส์กล้องด้านหลังรุ่นนี้ครับ
 

 
และทางด้านขอบด้านขวานั้นเราจะเห็นการไล่สีแบบเดิมแต่ครั้งนี้เป็นจุดเด่นของค่ายและในรุ่นนี้ที่มาพร้อมกับสแกนนิ้วในด้านขวาที่เป็นปุ่ม Power ในตัวซึ่งสแกนนิ้วได้เร็วอย่างมาก และปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงนั้นจะมีมาให้อยู่ในด้านบนครับ
 

 
ในส่วนของฝาหลังนั้นเราจะเห็นว่าการที่ย้ายสแกนนิ้วมาด้านข้างเราจะได้ฝาหลังแบบเรียบๆนั้นทำให้ดูพรีเมี่ยมและสวยอย่างมากครับ ส่วนการไล่เฉดสีต่างๆนั้นถือว่าดูดีและรองรับการเล่นกับแสงได้ดีมากๆแต่วัสดุนั้นจะยังคงไม่ได้ใช้งานวัสดุกระจกนะครับ แต่การใช้งานโทนสีอะไรถือว่ามีความพรีเมี่ยมกว่ารุ่นพี่ซะอีกจุดนี้เครื่องจริงถือว่าสวยเอาเรี่อง และการวางกล้องนั้นเราจะเห็นว่าในมุมซ้ายด้านบนเหมือนเดิมแต่มีการขยายให้คล้ายๆกับรุ่นพี่อยู่และการจัดวางต่างๆแต่ยังคงเรียงกัน 3 กล้องเรียงลงมาเหมือนเดิมเลย พร้อมกับโลโก้ที่เขียนในแนวนอนมุมซ้ายล่างของตัวเครื่องนั้นเอง
 

 
กล้องหลังนั้นยังคงให้มา 3 ตัวเช่นเดิมครับมาพร้อมกับเลนส์หลัก 13MP F2.2 ที่รองรับโฟกัสแบบ PDAF และมาพร้อมกับ เลนส์มาโคร ระยะ 4 เซนติเมตร 2MP F2.4  และเลนส์สำหรับการทำละลายหลังจับระยะต่างๆที่ 2MP F2.4 เช่นกัน ส่วนทางด้านงานออกแบบเปลี่ยนดีไซน์จากรุ่น Y19 เล็กน้อยตามสมัยมากขึ้นและไม่นูนเท่าไรด้วยครับ
 

 
SPEC
 
    - ระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 10.5 บนพื้นฐาน Android 10
    - หน้าจอ Halo FullView™ Display  IPS LCD ขนาด 6.51 นิ้ว ความละเอียด HD+ แบบติ่งหยดน้ำ
    - Snapdragon 460 + GPU Adreno 610
    - RAM 4GB
    - ความจุ 64GB รองรับ microSD Card สูงสุด 256GB
    - กล้องหลัง 3 ตัว (13MP F2.2 + 2MP F2.4 + 2MP F2.4 )
    - กล้องหน้า 8MP F2.2
    - เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่อง
    - พอร์ต microUSB, ช่องเสียบรูฟัง 3.5 มม.
    - แบตเตอรี่ 5000 mAh ชาร์จไว 18W
    - น้ำหนัก 192.3 กรัม / ขนาด 164.41×76.32×8.41 มม.
    - Accelerometer, Ambient Light Sensor, Proximity Sensor, Virtual Gyroscope, E-compass, Side-Mounted Fingerprint Scanner
    - Micro USB, Wi-Fi, Bluetooth 5.0, FM, OTG
 

 

 

 
PERFORMANCE
 
ประสิทธิภาพในรุ่นนี้ใช้งาน Snapdragon 460 พร้อมกับ Storage 64GB จัดเต็มด้วย RAM 4GB ส่วนทางด้านคะแนน USF นั้นอ่านไปได้ที่ 507 MB/s – เขียนไปได้ที่ 177 MB/s ส่วน DRL L1 ในแอป Netflix รองรับ HD นะครับ ส่วนคะแนน Antutu ทำไปได้ 143367 คะแนนถือว่าตามระดับของ CPU และ Geekbench นั้นทำไปได้ 256/1151 คะแนน ถือว่าเป็นการอัพเกรดจากรุ่นเดิมตอน Y19 มาใช้งานค่าย Snapdragon ตัวใหม่ 11nm
 

 
SYSTEM UI
 
ทางด้านหน้าตาระบบอะไรนั้นยังคงใช้ Funtouch OS 10.5 บนตัว Android 10 แล้วบอกเลยว่ามีการเปลี่ยนแปลงอะไรหลายๆอย่างครับทั้งหน้าตาการตั้งค่า Quick Setting มันไปอยู่ตำแหน่งที่ควรจะเป็นแล้วในด้านบนแน่นอนว่าหากเทียบกับ OS 10 ก่อนหน้าถือว่ามีหลายๆจุดต่างที่หน้าตั้งค่าตามที่แจ้งไปและฟีเจอร์ตามระบบ 10 นั้นเองครับ
 

 
การดูการแจ้งเตือนนั้นสามารถลากลงมาได้เหมือนรุ่นอื่นๆ ส่วนการตั้งค่าหลังจากรุ่นก่อนๆค่ายนี้จะเป็นการปัดขึ้นมาจากด้านล่าง แต่ครั้งนี้เลื่อนลงมาจากด้านบนแบบรุ่นอื่นๆแล้วเหมือนคนอื่นซะทีครับถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนหลักๆ ส่วนการแบ่งหน้าจออะไรสามารถทำได้สบายๆ และหน้าตามีการเปลี่ยนแปลงจากตอน OS10 อยู่พอสมควรเลยแหละครับ
 

 
Storage 64 GB จะว่างให้ใช้งาน 50 โดยประมาณครับ และในส่วนของ RAM 4 GB นั้นใช้งานไป 2GB กว่าเท่านั้นเองถือว่าน้อยพอสมควรเลยตัวระบบของมัน และทางด้านคีย์บอร์ดนั้นใช้งาน Google G Board นั้นเอง
 


อีกส่วนที่น่าสนใจของแบรนด์นี้ถือว่าเป็นการปรับแต่งที่หลากหลายมากๆในการใช้งานครับทั้งตัว Animationเปลี่ยนได้หลากหลายมากๆครับทั้ง หน้าตาตอนชาร์จ เป็นการปรับแต่งที่หลากหลายมากๆทำให้นึกถึงใน Android ยุคก่อนๆที่รูทและปรับเปลี่ยนหน้าตา Effect อะไรกันได้หรือจะเป็นการปรับแต่งอื่นๆถือว่าเป็นค่ายที่ปรับได้เยอะที่สุดเลยแหละ
 
ชื่อสินค้า:   Vivo Y20
คะแนน:     

SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - ได้รับสินค้ามาใช้รีวิวฟรี โดยต้องคืนสินค้าให้เจ้าของสินค้า
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่