สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
- อเมริกาไม่ส่งออกเรือดำน้ำ เพราะสร้างแต่เรือดำน้ำพลังนิวเคลียร์
- เรือดำน้ำที่หลายชาติต่อออกมาขาย ส่งออก เป็นเรือดำน้ำแบบใช้เครื่องดีเซล-ไฟฟ้าทั้งสิ้น เรือดำน้ำแบบนี้เวลาแล่นที่ผิวน้ำจะใช้เดินเครื่องยนต์ดีเซล และใช้กำลังส่วนหนึ่งในการชาร์จแบตเตอรี่ หรือให้โผล่เฉพาะท่ออากาศหายใจแต่ตัวเรืออยู่ใต้น้ำ เพื่อเดินเครื่องยนต์ดีเซลขับเคลื่อนเรือ แต่พอดำอยู่ใต้น้ำจะเปลี่ยนมาใช้ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า โดยอาศัยพลังงานจากแบตเตอรี่ พอแบตเตอรี่หมด เรือต้องโผล่มาใกล้ผิวน้ำเพื่อชาร์จไฟ ซึ่งทำให้เรือดำน้ำถูกตรวจพบได้ง่าย และเป็นข้อจำกัดของเรือแบบนี้
- ผู้เข้ามาประมูลงานมีชาติจากยุโรปหลายชาติ เช่น เยอรมัน ฝรั่งเศส สวีเดน และ รัสเซีย
- มีชาติในเอเชียคือ จีนและเกาหลีใต้
- ทุกชาติเสนอแบบเรือดำน้ำดีเซล-ไฟฟ้า มาสองลำ ในงบประมาณ 36,000 ล้านบาท แบบตัวเปล่าคือ เฉพาะตัวเรือเท่านั้น ไม่รวมอาวุธใดๆทั้งสิ้น
- ส่วนจีนนั้นเสนอเรือสามลำพร้อมอาวุธ ทั้งตอปิโดและอาวุธปล่อยนำวิถีต่อต้านเรือรบที่ใช้ยิงจากดำน้ำ รวมทั้งให้ข้อเสนอพิเศษที่ชาติอื่นไม่ได้เสนอมาคือ ติดตั้งระบบ AIP ( Air Independent Propulsion ) คือ เป็นเครื่องกำเนิดพลังงานโดยไม่ใช้อากาศ มาในงบประมาณที่กองทัพเรือได้ตั้งไว้ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
- ระบบ AIP นั้นความจริง แบ่งได้หลายชนิด เช่น Closed Cycle Diesel engine, Closed Cycle Stream Turbine, Stirling Cycle Engine, Fuel Cells และ Nuclear Power ล้วนแล้วแต่ไม่ต้องใช้อากาศ ทำให้เรือดำน้ำไม่ต้องแล่นขึ้นสู่ผิวน้ำ เพื่อใช้เดินเครื่องยนต์ดีเซลสำหรับชาร์จแบตเตอรี่
- ระบบ AIP ของจีนเป็นแบบ Stirling Cycle Engine ซึ่งใช้ออกซิเจนเหลวและน้ำมันดีเซลเป็นเชื้อเพลิงเดินเครื่อง และใช้เป็นระบบกำเนิดพลังงานไฟฟ้าเพื่อชาร์จเข้าแบตเตอรี่ในขณะดำอยู่ใต้น้ำ ระบบนี้จีนได้ซื้อลิขสิทธิ์จากบริษัท Kockums ของประเทศสวีเดน ( ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท SAAB ) และทำการพัฒนาต่อให้สามารถกำเนิดพลังงานได้สูงกว่าเครื่องต้นแบบที่ซื้อลิขสิทธิ์มา ซึ่งได้ใส่เข้ามาในตัวเรือที่นำเสนอให้กับ ทร. ด้วย ทำให้เรือสามารถอยู่ใต้น้ำได้ถึง 21 วัน โดยไม่ต้องขึ้นมาผิวน้ำเลย
- ในประเทศแถบอาเซียนทั้ง อินโด, มาเลเซีย, เวียดนาม และพม่า ล้วนแล้วแต่ใช้เรือดำน้ำดีเซล-ไฟฟ้า ที่ไม่มีระบบ AIP ทั้งสิ้น ยกเว้น สิงคโปร์ที่เพิ่งปล่อยเรือดำน้ำที่ต่อจากเยอรมัน ได้รวมระบบนี้เข้ามาด้วย ( สิงคโปร์มีเรือดำน้ำมือสองจากสวีเดนสี่ลำ และสั่งต่อเรือดำน้ำ U218SG อีกสี่ลำจากเยอรมันที่ถือว่าทันสมัยที่สุด และแน่นอนแพงที่สุดด้วย งบที่เรามีอยู่คงซื้อเรือชั้นนี้ได้แค่ลำเดียวหรืออาจจะไม่ได้เลย )
- การตัดสินใจเลือกแบบเรือดำน้ำ เกิดจากทหารเรือที่เกี่ยวข้องในโครงการ โหวตเลือกแบบเรือ โดยพิจารณาจากปัจจัยหลายๆด้าน บางคนเลือกแบบเรือจากทางยุโรป แต่เสียงส่วนใหญ่เลือกเรือดำน้ำจีน อันเนื่องจากประสิทธิภาพเทียบกับเม็ดเงินที่ต้องจ่าย ซึ่งเบื้องต้นกองทัพเรือต้องการเรือสองลำ แต่จีนเสนอแถมมาให้อีกหนึ่งลำพร้อมระบบอาวุธ
เนื่องมาจากติดตามโครงการเรือดำน้ำไทยมานานมาก เท่าที่จำได้เรื่องราวมันก็เป็นแบบนี้ ใครๆก็อยากได้ของดีจากยุโรป แต่เงินมีไม่พอ เพราะถ้าซื้อเรือจากยุโรป สุดท้ายแล้วต้องจัดหางบประมาณในการซื้ออาวุธเพื่อใช้กับเรืออีกไม่รู้เท่าไร งบคงบานปลายแน่นอน แค่นี้กองทัพก็ถูกต่อต้านการจัดซื้ออย่างรุนแรงแล้ว ก็ไม่อยากคิดเลยว่าถ้าต้องซื้อเรือจากยุโรปในราคาที่ต้องจ่ายเกินงบ มันจะเกิดอะไรขึ้น หรืออาจไม่มีโครงการเรือดำน้ำอีกตลอดไปเพราะไม่มีใครเห็นด้วยเลยว่าซื้อมาทำประโยชน์อะไรได้
- เรือดำน้ำที่หลายชาติต่อออกมาขาย ส่งออก เป็นเรือดำน้ำแบบใช้เครื่องดีเซล-ไฟฟ้าทั้งสิ้น เรือดำน้ำแบบนี้เวลาแล่นที่ผิวน้ำจะใช้เดินเครื่องยนต์ดีเซล และใช้กำลังส่วนหนึ่งในการชาร์จแบตเตอรี่ หรือให้โผล่เฉพาะท่ออากาศหายใจแต่ตัวเรืออยู่ใต้น้ำ เพื่อเดินเครื่องยนต์ดีเซลขับเคลื่อนเรือ แต่พอดำอยู่ใต้น้ำจะเปลี่ยนมาใช้ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า โดยอาศัยพลังงานจากแบตเตอรี่ พอแบตเตอรี่หมด เรือต้องโผล่มาใกล้ผิวน้ำเพื่อชาร์จไฟ ซึ่งทำให้เรือดำน้ำถูกตรวจพบได้ง่าย และเป็นข้อจำกัดของเรือแบบนี้
- ผู้เข้ามาประมูลงานมีชาติจากยุโรปหลายชาติ เช่น เยอรมัน ฝรั่งเศส สวีเดน และ รัสเซีย
- มีชาติในเอเชียคือ จีนและเกาหลีใต้
- ทุกชาติเสนอแบบเรือดำน้ำดีเซล-ไฟฟ้า มาสองลำ ในงบประมาณ 36,000 ล้านบาท แบบตัวเปล่าคือ เฉพาะตัวเรือเท่านั้น ไม่รวมอาวุธใดๆทั้งสิ้น
- ส่วนจีนนั้นเสนอเรือสามลำพร้อมอาวุธ ทั้งตอปิโดและอาวุธปล่อยนำวิถีต่อต้านเรือรบที่ใช้ยิงจากดำน้ำ รวมทั้งให้ข้อเสนอพิเศษที่ชาติอื่นไม่ได้เสนอมาคือ ติดตั้งระบบ AIP ( Air Independent Propulsion ) คือ เป็นเครื่องกำเนิดพลังงานโดยไม่ใช้อากาศ มาในงบประมาณที่กองทัพเรือได้ตั้งไว้ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
- ระบบ AIP นั้นความจริง แบ่งได้หลายชนิด เช่น Closed Cycle Diesel engine, Closed Cycle Stream Turbine, Stirling Cycle Engine, Fuel Cells และ Nuclear Power ล้วนแล้วแต่ไม่ต้องใช้อากาศ ทำให้เรือดำน้ำไม่ต้องแล่นขึ้นสู่ผิวน้ำ เพื่อใช้เดินเครื่องยนต์ดีเซลสำหรับชาร์จแบตเตอรี่
- ระบบ AIP ของจีนเป็นแบบ Stirling Cycle Engine ซึ่งใช้ออกซิเจนเหลวและน้ำมันดีเซลเป็นเชื้อเพลิงเดินเครื่อง และใช้เป็นระบบกำเนิดพลังงานไฟฟ้าเพื่อชาร์จเข้าแบตเตอรี่ในขณะดำอยู่ใต้น้ำ ระบบนี้จีนได้ซื้อลิขสิทธิ์จากบริษัท Kockums ของประเทศสวีเดน ( ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท SAAB ) และทำการพัฒนาต่อให้สามารถกำเนิดพลังงานได้สูงกว่าเครื่องต้นแบบที่ซื้อลิขสิทธิ์มา ซึ่งได้ใส่เข้ามาในตัวเรือที่นำเสนอให้กับ ทร. ด้วย ทำให้เรือสามารถอยู่ใต้น้ำได้ถึง 21 วัน โดยไม่ต้องขึ้นมาผิวน้ำเลย
- ในประเทศแถบอาเซียนทั้ง อินโด, มาเลเซีย, เวียดนาม และพม่า ล้วนแล้วแต่ใช้เรือดำน้ำดีเซล-ไฟฟ้า ที่ไม่มีระบบ AIP ทั้งสิ้น ยกเว้น สิงคโปร์ที่เพิ่งปล่อยเรือดำน้ำที่ต่อจากเยอรมัน ได้รวมระบบนี้เข้ามาด้วย ( สิงคโปร์มีเรือดำน้ำมือสองจากสวีเดนสี่ลำ และสั่งต่อเรือดำน้ำ U218SG อีกสี่ลำจากเยอรมันที่ถือว่าทันสมัยที่สุด และแน่นอนแพงที่สุดด้วย งบที่เรามีอยู่คงซื้อเรือชั้นนี้ได้แค่ลำเดียวหรืออาจจะไม่ได้เลย )
- การตัดสินใจเลือกแบบเรือดำน้ำ เกิดจากทหารเรือที่เกี่ยวข้องในโครงการ โหวตเลือกแบบเรือ โดยพิจารณาจากปัจจัยหลายๆด้าน บางคนเลือกแบบเรือจากทางยุโรป แต่เสียงส่วนใหญ่เลือกเรือดำน้ำจีน อันเนื่องจากประสิทธิภาพเทียบกับเม็ดเงินที่ต้องจ่าย ซึ่งเบื้องต้นกองทัพเรือต้องการเรือสองลำ แต่จีนเสนอแถมมาให้อีกหนึ่งลำพร้อมระบบอาวุธ
เนื่องมาจากติดตามโครงการเรือดำน้ำไทยมานานมาก เท่าที่จำได้เรื่องราวมันก็เป็นแบบนี้ ใครๆก็อยากได้ของดีจากยุโรป แต่เงินมีไม่พอ เพราะถ้าซื้อเรือจากยุโรป สุดท้ายแล้วต้องจัดหางบประมาณในการซื้ออาวุธเพื่อใช้กับเรืออีกไม่รู้เท่าไร งบคงบานปลายแน่นอน แค่นี้กองทัพก็ถูกต่อต้านการจัดซื้ออย่างรุนแรงแล้ว ก็ไม่อยากคิดเลยว่าถ้าต้องซื้อเรือจากยุโรปในราคาที่ต้องจ่ายเกินงบ มันจะเกิดอะไรขึ้น หรืออาจไม่มีโครงการเรือดำน้ำอีกตลอดไปเพราะไม่มีใครเห็นด้วยเลยว่าซื้อมาทำประโยชน์อะไรได้
แสดงความคิดเห็น
ทำไม?เราไม่ซื้อเรือดำน้ำยุโรปหรืออเมริกา.
จนซื้อไม่ลง(เหมือนของใช้ทั่วๆไป) ไหนๆจะซื้อแล้วก็ซื้อของดีดีไปไม่ดีก่วาหรือ...ย้ำน่ะครับ!มองคิดแบบ
ชาวบ้านๆ.