คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
จขกท. มีบ้านกี่หลังก็ตาม ถ้าหากชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านหลังไหน (มีชื่อได้แค่หลังเดียว) หลังนั้นเขาคำนวณเป็นบ้านหลังแรก จะไม่เสียภาษี (ถ้าจะให้ดีควรเลือกหลังที่มีราคาประเมินสูงที่สุดไว้ก่อน) กรณีมูลค่าประเมินไม่เกิน 50 ล้าน
ส่วนบ้านหลังอื่นๆ หลังที่ 2 เป็นต้นไป ไม่จำเป็นต้องหาใครมาเป็นเจ้าบ้านก็ได้ เพราะตราบใดชื่อทรัพย์นั้น จขกท. เป็นเจ้าของ ก็นับเป็นหลังที่ 2 ทันที ภาษีที่เสียจะเสียในประเภท อยู่อาศัย หรือเชิงพาณิชย์ (แล้วแต่เขาจะพิจารณามาว่าจะอยู่ในรูปแบบไหน) แต่เราสามารถไปแย้งได้ ก็นำเอกสารหลักฐานไปแย้งว่า เราใช้อยู่อาศัย ก็เสียในเรทที่อยู่อาศัย ซึ่งก็ไม่ได้แพง (หลักร้อยต่อปี แต่ปีนี้เขาลดให้ 90%)
แต่มันจะลำบากตรงที่ หากเขายื่นมาผิดประเภท เราต้องไปแย้งด้วยตัวเอง ซึ่งถ้ามีหลายที่ หลายจังหวัด ก็ต้องไปแย้งทุกที่ ทุกจังหวัด
ส่วนบ้านหลังอื่นๆ หลังที่ 2 เป็นต้นไป ไม่จำเป็นต้องหาใครมาเป็นเจ้าบ้านก็ได้ เพราะตราบใดชื่อทรัพย์นั้น จขกท. เป็นเจ้าของ ก็นับเป็นหลังที่ 2 ทันที ภาษีที่เสียจะเสียในประเภท อยู่อาศัย หรือเชิงพาณิชย์ (แล้วแต่เขาจะพิจารณามาว่าจะอยู่ในรูปแบบไหน) แต่เราสามารถไปแย้งได้ ก็นำเอกสารหลักฐานไปแย้งว่า เราใช้อยู่อาศัย ก็เสียในเรทที่อยู่อาศัย ซึ่งก็ไม่ได้แพง (หลักร้อยต่อปี แต่ปีนี้เขาลดให้ 90%)
แต่มันจะลำบากตรงที่ หากเขายื่นมาผิดประเภท เราต้องไปแย้งด้วยตัวเอง ซึ่งถ้ามีหลายที่ หลายจังหวัด ก็ต้องไปแย้งทุกที่ ทุกจังหวัด
แสดงความคิดเห็น
ภาษีบ้านและที่ดิน กรณีบ้านหลังที่สอง
ถ้าเรามีบ้านอยู่ กทม ชื่อและทะเบียนบ้าน อยู่ กทม แต่มีความจำเป็นไปทำงานระยองจึงซื้อบ้านที่ระยอง
แต่บ้านที่ระยองไม่มีชื่อคนในทะเบียนบ้านอยู่เลย
เราจะถือว่าบ้านนี้เป็นบ้านหลังที่สองหรือต้องเสียภาษีแบบอื่นๆ
เคยถามสำนักงานเขตหนึ่งบอกว่าถ้าไม่มีคนอยู่ทะเบียนบ้าน จะเป็นแบบอื่นๆ แทน
เลยสงสัยว่าคนเราคนเดียวจะมีชื่อในสองบ้านพร้อมกันได้อย่างไร ถ้าแบบนั้นบ้านหลังที่สองจะไม่มีทางเกิดขึ้นได้หากตีความแบบนั้น
จึงไม่แน่ใจว่าผมเข้ใจผิดเองหรือไม่ครับ