แฟนผมเป็นคนชอบเที่ยว สายปาร์ตี้ แต่ตัวผมเป็นคนที่ไม่ชอบให้แฟนไปเที่ยวบ่อยๆ แต่ผมก็ทราบดีว่าเราไม่สามารถเปลี่ยนชีวิตใครเขาได้
จิงๆผมก็เคยเป็นคนเที่ยวมาก่อนนะคับ จิงๆผมก็รับเขาได้นะครับ ไม่ซีเรียส แค่อยากให้เขามีเวลาให้ผมบ้าง
โดยเรื่องราวเริ่มตั้งแต่ คบกันใหม่ๆ เขาก็ปรับปรุงตัวเองให้เรา คบกันมา เกือบ 2ปี เขาไปเที่ยวน้อยมาก เรามีความสุขกันมาตลอดทุกวินาทีที่เราคบกัน
แรกๆผมจะ เป็นคนสูบบุหรี่ งี่เง่า ซึ่งแฟนผมคนนี้ไม่ชอบ ผมก็เลิกบุหรี่ และพยายามปรับตัวดีขึ้นมาเรื่อยๆ เพราะเรารักเขา เพราะเขาไม่ชอบ
จนครั้งนึงเขาเคยขอไปปาร์ตี้กับเพื่อนผู้ ชาย ผมก็ไม่ให้ไป เรื่องอะไรจะให้กินกับเพื่อนผู้ชาย 2-3 คน หล่ะ จริงไหม ? แต่เขาก็ชวนเราไปนะ แต่เรารู้สึกไม่ชอบ ก็เลยมีปัญหากันครั้งนึงก็คุยกันว่า เขาอะชอบเที่ยว อยากเที่ยว ก่อนคบกันเขาก็เป็นของเขาแบบนี้ ผมก็เข้าใจนะ ก็เลยบอกถ้าไปกับเพื่อนผู้หญิงอะให้ไป นานๆที อะให้ไป แล้วเราก็จบปัญหานั้นไป หลังจากนั้นเราก็คบกันมาแฮปปี้มาโดยตลอด
จากนั้นเขาก็ไปติด Netflix ชอบดู ผมไปกวนเขาแกล้งเขา เขาก็ชอบหงุดหงิด เพราะเขานิสัยแบบนั้น เราก็ไม่แกล้งเขา เพราะเราปล่อยสักพักเขาก็จะมาโอ๋เราเอง แต่พอเข้าติดดูซีรี่ ผมก็เริ่มเล่นเกมในคอม PC แล้วผมก็เริ่มติด เพราะเขาดูซีรี่ในมือถือเราก็ไม่รู้จะทำอะไร ตอนอยู่ด้วยกัน
แต่ก็จะคอยพาไปทำบุญ พาไปห้าง ดูหนังอะไรอยู่เรื่อยๆนะ ไม่เคยขาด แค่กลับมาพักผ่อนที่บ้านก็จะแยกกันดูซี่ เล่นเกมละ
แล้วก็ยังมีเรื่องครอบครัวเขาด้วย แฟนผมเป็นคนที่ หาเงินเรียนเอง ส่งน้องเรียน จ่ายค่าบ้านเอง อะไรเอง แล้วก็จะมีพ่อกับแม่ คอยมาขอเงิน
แฟนผมเขาก็เครียด เป็นแบบมาตลอด ในระหว่างที่คบกัน ผมก็คอยให้กำลังใจมาตลอด
เขาจะคนที่มีนิสัยอีโก้ค่อนข้างสูงมาก ๆ ไม่ค่อยฟังใคร เพราะเขาโตมาด้วยการหาเงินเองมาโดยตลอด
จนกระทั่งแฟนผมยอดขายเริ่มน้อย ช่วงโควิด-19 เขาเป็นเซลล์ขายประกัน เขาก็เริ่มเครียด แล้วเริ่มขายของออนไลน์ ผมก็สร้างเพจอะไรให้หมดทุกอย่าง เขาก็สั่งของลงทุนมาประมาน 2-3 หมื่น พอเราสองคนทำอะไรเสร็จแล้ว เขาก็เริ่มจะลงมือขายของออนไลน์แล้ว จังหวะนั้นเพื่อนของแฟนผมเนี่ย มาขอหุ้นด้วย แฟนผมก็หุ้นกัน ตอนนี้แฟนผมมีไฟมาก มุ่งมั่นกับงานขายออนไลน์มากๆ หลังจากนั้นเขาก็ขายของดี มาเรื่อยๆ บางทีเขาก็มีเครียดบ้างอะไรบ้าง ของไม่พอส่ง บ้างอะไรบ้าง เราก็จะคอยให้กำลังใจเขา
ส่วนผมเองก็ดูแลเขาดีมาโดยตลอด เขาอยากได้อะไรผมก็ตามใจ (ตามใจในทีนี้คือไม่ใช่สายเปย์นะคับ แฟนผมคนนี้ดีมาก ไม่ติดแบรนด์ อยากได้อะไรซื้อเองหมด นอกจากวันพิเศษผมก็จะซื้อเป็นของขวัญให้กับเขา กินอะไรก็ต่างคนต่างออกบ้าง เราออกบ้าง เขาออกบ้าง) เขาจะชอบให้ผมทำกับข้าวให้กิน ให้พาไปส่งเวลาไปไหนมาไหน
ต่อจากเมื่อครู่..จนเขาได้หุ้นกับเพื่อนเขา ผ่านไปหนึ่งเดือน เขาก็เริ่มเที่ยว เราก็ให้ไป เพราะไปเที่ยวบางทีเหนื่อยๆเราก็เข้าใจ เราก็ให้เขาไปเที่ยวกับเพื่อน
หลังจากนั้น 1 เดือนเขาเริ่มไปบ่อยมาก ปกติเขาก็ไม่ค่อยมีเวลาให้ผมอยู่แล้ว เขาก็ขอไปเที่ยวๆ ผมก็มีบ่นๆบ้าง แต่ผมก็ให้ไปผ่านไปอีกไม่กี่วันเขาก็ไปอีกแล้วผมเริ่มงอนละ เราเป็นห่วงเขาอ่ะ ก็เลยแกล้งตอบไปแบบ เค อย่างเดียวเวลาเขาพิมพ์อะไรมา (แฟนผมดีอย่างนึงนะครับ เวลาไปเที่ยวไหนเขาจะรายงาน ถ่ายรูปให้ผมดูตลอด) จนล่าสุดเขาเมา นั่งแทกซี่มานอนบ้านผม ซึ่งปกติก่อนหน้าที่มีเวลาเขาก็จะมาเป็นปกติยุแล้วนะคับ ตอนนั้นประมาน ตี5 ผมประชดเขาไปตอนเขามา ว่า ไปแปรงฟันเลยนะ เหม็น จะมานอนด้วยอ่ะ เขาก็ไปแปรงฟัง แล้วก็มานอนกอดเราบอกว่า กลัวเสียเราไป ก็เลยมานอนด้วย หลังจากคืนนั้น ผมก็ดูแลเขาดีเหมือนเดิม ดูแลดีเป็นพิเศษด้วย คอยถามอยากกินอะไรไหม หิวข้าวหรือป่าว เราก็ไปทำกับข้าวให้เขากิน พอหลังจากคืนนั้นเขาก็กลับบ้าน แล้วเขาก็ขอไปเที่ยวอีกเพื่อนชวน (เพื่อนที่หุ้นขายของออนไลน์ด้วยกันนั้นแหละ ชอบชวนเที่ยว) ในใจเราก็เอาอีกแล้วหรอพึ่งจะไปมาเองนะ แล้วเขาก็ไม่เคยชวนเราไปเลยบางทีเราก็อยากอยู่ในโลกของเขาเหมือนกัน ทีนี่เราก็เหมือนหัวร้อนอ่ะ ผมก็เลยพิมพ์ไปเลยว่า เที่ยวบ่อยๆแบบนี้ ไม่มีเวลาให้กันแบบนี้ผมไม่โอเคนะ รู้ไหมเวลาไปเที่ยวเนี้ย คนเป็นแฟนอะเขาเป็นห่วง แล้วผมก็บอกต่อไปว่า จะเที่ยวก็เที่ยวไปเลย ไม่สนใจแล้ว เหนื่อย วันไหนทำใจได้เมื่อไหร่ ผมจะไปเอง (ตอนนั้นหัวร้อน คิดอะไรพิมพ์ใส่ไปหมด ซึ่งจิงๆแล้วผมแค่ประชด เรียกร้องความสนใจ ) หลังจากวันนั้นเขาก็ไม่ค่อยคุยกับผมเลย ผมก็ยังไปพยายามกดดันเขา ว่า เรื่องของเราจะเอายังไง จะตกลงคุยกันไหมปรับความเข้าใจกันไหม เขาก็บอก ขอคิดก่อน ตอนนี้ตันไปหมด ตอนนี้รู้อย่างเดียวคือเขาอยากขายของ อยากหาเงินก่อน คิดไม่ออกว่าจะไปทางซ้ายหรือทางขวา แล้วผมก็บอกเขาไปว่า จะเลือกแบบนั้นไม่ได้นะเลือกไปซ้ายขวาอ่ะ ทางคือเราต้องคุยกัน ตกลงกัน แชร์กันคนละครึ่ง เส้จแล้วเขาก็บอก ขอคิดก่อน จนผ่านไปอีกวัน
เขาก็เอาคำตอบมาให้ผมว่า เขาอยากทำในสิ่งที่เขาทำ เขาทิ้งการเที่ยวไม่ได้ละเขาก็ยังไม่รุ้จะแก้นิสัยตรงนี้ยังไง แล้วบอกให้ผมไปเจอคนที่ผมต้องการ ที่เหมาะสมกับคนที่คู่ควรกับผม แล้วเขาก็บอกว่า เขาไม่อยากจะเสียคนดีๆแบบผมไป ทุกอย่างดีหมดผิดที่เขาทิ้งการเที่ยวไม่ได้ ถ้าให้เลือกอีกรอบเขากลัวว่าจะเป็นแบบนี้แล้วผมจะเสียใจในสิ่งที่เขาทำอีก เขารู้สึกผิดและเห็นแก่ตัวมากเขายอมรับ ขอโทษนะ แล้วเขาก็ส่งรูปที่มีประโยคว่า "คุณจะเจ็บปวดจนกว่าคุณจะได้พบกับรักที่คู่ควรกับคุณ และเมื่อคุณได้พบกับมัน มันจะรักษาทุกรอยแผลที่คุณเคยได้พบมา" แล้วผมก็เลยถามเขาไปว่า เอาจริงๆอยากจะรักษาผมไว้หรือป่าว เขาก็บอกเขาไม่รู้เขาต้องการคืองานเงิน การใช้ชีวิตมันต่างกัน แล้วเขาก็บอกเขาเหนื่อยในจุดที่มีแฟนและต้อมาคิดอะไรเยอะๆ ทั้งที่ตัวเขาเองก็คิดอะไรหลายอยู่มากพอแล้ว ผมก็สาระภาพขอโทษในสิ่งที่พูดไปว่าผมพูดไปงั้นแหละ อยากเรียกร้องความสนใจ อยากให้เราได้คุยกันในเรื่องนี้ เขาก็บอกเขาตัดสินใจแล้ว ผมก็ขอโทษเขาไปอีกรอบ บอกขอโอกาสได้ไหม เขาก็บอกผมว่า ไม่ชอบให้มาขอโอกาส แล้วผมก็บอกว่า ไม่คิดจะคุยตกลงอะไรกันเลยหรอ ความรักมันควรจะแชร์กันหรือป่าว มันคุยกันได้นะ มันจะเลิกกันง่ายๆแบบนี้เลยหรอ เขาก็บอกผมว่า "ใช่" ผมนี่จุกเลย
แล้วเขาก็บอกผมทิ้งท้ายว่า เราไปกันต่อไม่ได้ ขอโทษ
เรื่องของเรื่องมันก็เป็นแบบนี้แหละ
หลังจากเลิกกันผมก็พยายามทักหาเขาเหมือนเดิม กินไรยัง ทำไรอยู่ เขาก็ตอบบ้าง ไม่ตอบบ้าง ก่อนนอนผมก้บอกคิดถึงนะ ฝันดีนะ จนผ่านมาประมาน 2 วัน เขาก็เริ่มเงียบ ไม่ตอบ ไม่อ่าน เอาสถานะออกจากเฟสบุ๊ค แต่ก็ยังเป้นเพื่อนกันในเฟสอยู่ ผมก็ส่องการใช้ชีวิตเขา คือปกติมากๆ ไม่เครียด ไม่อะไรเลย ไม่พูดหรือโพสถึงอะไรกับผมเลย
ผมบอกตามตรง ผมได้ โทษตัวเองว่า ไม่น่าเลย ถ้าเราไม่พูดกับเขาแบบนั้นมันก้จะไม่เป็นแบบนี้ ผมร้องไหฟูมฟาย เพื่อผู้หญิงคนนึง คนที่ผมรักเขามาก ผมเชื่อนะว่าถ้าเรารักมากพอ เราจะผ่านเรื่องนี้ไปได้โดยไม่บอกเลิกกันเลย
แต่ผมรักษาเขาไว้ไม่ได้ อยากจะกลับไปแก้ไขตัวเราเอง แต่มันก็สายไปแล้ว เพราะเขาตัดสินใจแล้ว ได้แต่รับบทเรียน เครียดจนตอนนี้ วนถามในหัวอยู่แต่คำถามเหล่านี้ กินข้าวไม่ลง ทำงานก็ซึมเศร้าทั้งวัน เมาทุกคืน เที่ยวกลับมา นอนร้องไหทุกคืน หลายๆคนอาจจะมองว่าผมอ่อนแอ แต่ผมก็เป็นผู้ชายคนนึงที่รักแฟนคนนี้มาก และก็จริงจังมากไม่แพ้ใครๆเลย เช่นกัน ใจผมมีอยู่อย่างเดียวคืออยากจะได้เขากลับมามากๆ แต่เขาก็หนีผมไปทีละก้าวๆ ซึ่งผมหวังว่าเขาจะกลับมาในสักวัน
ผมมีความสุขมากๆกับเวลาที่ผ่านมาได้ทำอะไรให้กันหลายอย่าง เที่ยวดำน้ำดูปาการัง ต่างๆนา ฝ่าฟันความลำบากมาด้วยกัน ผมรู้สึกรับสิ่งที่เกิดไม่ได้จริงๆผมเสียใจ ดูรูปเก่าๆไปผมก็ร้องไห ฟังเพลงโดนๆผมก็น้ำตาซึม (อ่อนแอจริงๆเลยผมเนี่ย)
ท้ายที่สุดแล้วจริงๆ
หลังจากที่เลิกไป 2 วัน ผมกลับพบความจริงแล้วนะครับ
บังเอิญ ไปเจอเขาที่ร้านเหล้าอยู่กับแฟนเก่าเขานั่นเอง ซึ่งเป็นอะไรที่ช็อคมาก ไม่คิดว่าจะเจอตัวเอง
โชคดีที่เจอเร็ว ไม่งั้นผมคงจะโง่ตามง้อไปเป็นเดือน ๆ จากนี้ผมจะดูแลตัวเองให้ดีครับ
ตอนนี้เลิกโทษตัวเองแล้วนะครับ แต่ก็ยังคิดถึงเขาอยู่นะ อีกใจก็แค้น แต่ก็ทำไรไม่ได้นอกจาก มูฟออน
ในมุมมองเพื่อนๆพี่น้องๆ มองเห็นเรื่องนี้ว่าอย่างไรบ้าง อะไรคือสิ่งที่ผมทำพลาดไปบ้าง อะที่ไรเป็นสิ่งที่ควรจะเป็น แล้วตอนนี้ผมควรทำอะไร
เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ แชร์ประสบการณ์กันให้ผมฟังบ้างก็ได้นะ ผมจะอ่านทุกคอมเม้นเลย
อย่าเอามานับว่าเป็นอัตลักษณ์ ก็แค่อีโก้โง่ ๆ ที่จะสลัดทิ้งเมื่อไหร่ก็ได้ #อันนี้ดี
https://www.youtube.com/watch?v=SWIg9kQbH-k&feature=share&fbclid=IwAR2Vg---tlhaiGjYx2bWri-BdNg294BKgqHyfepsLBgNBy7Y0JFseyJEhVs
ลองไปฟังกันดูนะครับ
ขอบคุณที่รับฟังผมระบาย เล่าประสบการณ์เหล่านี้ให้ฟังนะครับ
โดนแฟนบอกเลิก ไปต่อไม่ได้ แต่กลับไปเจอสิ่งที่ไม่คาดคิด ลองมาแชร์ประสบการณ์กันครับ
จิงๆผมก็เคยเป็นคนเที่ยวมาก่อนนะคับ จิงๆผมก็รับเขาได้นะครับ ไม่ซีเรียส แค่อยากให้เขามีเวลาให้ผมบ้าง
โดยเรื่องราวเริ่มตั้งแต่ คบกันใหม่ๆ เขาก็ปรับปรุงตัวเองให้เรา คบกันมา เกือบ 2ปี เขาไปเที่ยวน้อยมาก เรามีความสุขกันมาตลอดทุกวินาทีที่เราคบกัน
แรกๆผมจะ เป็นคนสูบบุหรี่ งี่เง่า ซึ่งแฟนผมคนนี้ไม่ชอบ ผมก็เลิกบุหรี่ และพยายามปรับตัวดีขึ้นมาเรื่อยๆ เพราะเรารักเขา เพราะเขาไม่ชอบ
จนครั้งนึงเขาเคยขอไปปาร์ตี้กับเพื่อนผู้ ชาย ผมก็ไม่ให้ไป เรื่องอะไรจะให้กินกับเพื่อนผู้ชาย 2-3 คน หล่ะ จริงไหม ? แต่เขาก็ชวนเราไปนะ แต่เรารู้สึกไม่ชอบ ก็เลยมีปัญหากันครั้งนึงก็คุยกันว่า เขาอะชอบเที่ยว อยากเที่ยว ก่อนคบกันเขาก็เป็นของเขาแบบนี้ ผมก็เข้าใจนะ ก็เลยบอกถ้าไปกับเพื่อนผู้หญิงอะให้ไป นานๆที อะให้ไป แล้วเราก็จบปัญหานั้นไป หลังจากนั้นเราก็คบกันมาแฮปปี้มาโดยตลอด
จากนั้นเขาก็ไปติด Netflix ชอบดู ผมไปกวนเขาแกล้งเขา เขาก็ชอบหงุดหงิด เพราะเขานิสัยแบบนั้น เราก็ไม่แกล้งเขา เพราะเราปล่อยสักพักเขาก็จะมาโอ๋เราเอง แต่พอเข้าติดดูซีรี่ ผมก็เริ่มเล่นเกมในคอม PC แล้วผมก็เริ่มติด เพราะเขาดูซีรี่ในมือถือเราก็ไม่รู้จะทำอะไร ตอนอยู่ด้วยกัน
แต่ก็จะคอยพาไปทำบุญ พาไปห้าง ดูหนังอะไรอยู่เรื่อยๆนะ ไม่เคยขาด แค่กลับมาพักผ่อนที่บ้านก็จะแยกกันดูซี่ เล่นเกมละ
แล้วก็ยังมีเรื่องครอบครัวเขาด้วย แฟนผมเป็นคนที่ หาเงินเรียนเอง ส่งน้องเรียน จ่ายค่าบ้านเอง อะไรเอง แล้วก็จะมีพ่อกับแม่ คอยมาขอเงิน
แฟนผมเขาก็เครียด เป็นแบบมาตลอด ในระหว่างที่คบกัน ผมก็คอยให้กำลังใจมาตลอด
เขาจะคนที่มีนิสัยอีโก้ค่อนข้างสูงมาก ๆ ไม่ค่อยฟังใคร เพราะเขาโตมาด้วยการหาเงินเองมาโดยตลอด
จนกระทั่งแฟนผมยอดขายเริ่มน้อย ช่วงโควิด-19 เขาเป็นเซลล์ขายประกัน เขาก็เริ่มเครียด แล้วเริ่มขายของออนไลน์ ผมก็สร้างเพจอะไรให้หมดทุกอย่าง เขาก็สั่งของลงทุนมาประมาน 2-3 หมื่น พอเราสองคนทำอะไรเสร็จแล้ว เขาก็เริ่มจะลงมือขายของออนไลน์แล้ว จังหวะนั้นเพื่อนของแฟนผมเนี่ย มาขอหุ้นด้วย แฟนผมก็หุ้นกัน ตอนนี้แฟนผมมีไฟมาก มุ่งมั่นกับงานขายออนไลน์มากๆ หลังจากนั้นเขาก็ขายของดี มาเรื่อยๆ บางทีเขาก็มีเครียดบ้างอะไรบ้าง ของไม่พอส่ง บ้างอะไรบ้าง เราก็จะคอยให้กำลังใจเขา
ส่วนผมเองก็ดูแลเขาดีมาโดยตลอด เขาอยากได้อะไรผมก็ตามใจ (ตามใจในทีนี้คือไม่ใช่สายเปย์นะคับ แฟนผมคนนี้ดีมาก ไม่ติดแบรนด์ อยากได้อะไรซื้อเองหมด นอกจากวันพิเศษผมก็จะซื้อเป็นของขวัญให้กับเขา กินอะไรก็ต่างคนต่างออกบ้าง เราออกบ้าง เขาออกบ้าง) เขาจะชอบให้ผมทำกับข้าวให้กิน ให้พาไปส่งเวลาไปไหนมาไหน
ต่อจากเมื่อครู่..จนเขาได้หุ้นกับเพื่อนเขา ผ่านไปหนึ่งเดือน เขาก็เริ่มเที่ยว เราก็ให้ไป เพราะไปเที่ยวบางทีเหนื่อยๆเราก็เข้าใจ เราก็ให้เขาไปเที่ยวกับเพื่อน
หลังจากนั้น 1 เดือนเขาเริ่มไปบ่อยมาก ปกติเขาก็ไม่ค่อยมีเวลาให้ผมอยู่แล้ว เขาก็ขอไปเที่ยวๆ ผมก็มีบ่นๆบ้าง แต่ผมก็ให้ไปผ่านไปอีกไม่กี่วันเขาก็ไปอีกแล้วผมเริ่มงอนละ เราเป็นห่วงเขาอ่ะ ก็เลยแกล้งตอบไปแบบ เค อย่างเดียวเวลาเขาพิมพ์อะไรมา (แฟนผมดีอย่างนึงนะครับ เวลาไปเที่ยวไหนเขาจะรายงาน ถ่ายรูปให้ผมดูตลอด) จนล่าสุดเขาเมา นั่งแทกซี่มานอนบ้านผม ซึ่งปกติก่อนหน้าที่มีเวลาเขาก็จะมาเป็นปกติยุแล้วนะคับ ตอนนั้นประมาน ตี5 ผมประชดเขาไปตอนเขามา ว่า ไปแปรงฟันเลยนะ เหม็น จะมานอนด้วยอ่ะ เขาก็ไปแปรงฟัง แล้วก็มานอนกอดเราบอกว่า กลัวเสียเราไป ก็เลยมานอนด้วย หลังจากคืนนั้น ผมก็ดูแลเขาดีเหมือนเดิม ดูแลดีเป็นพิเศษด้วย คอยถามอยากกินอะไรไหม หิวข้าวหรือป่าว เราก็ไปทำกับข้าวให้เขากิน พอหลังจากคืนนั้นเขาก็กลับบ้าน แล้วเขาก็ขอไปเที่ยวอีกเพื่อนชวน (เพื่อนที่หุ้นขายของออนไลน์ด้วยกันนั้นแหละ ชอบชวนเที่ยว) ในใจเราก็เอาอีกแล้วหรอพึ่งจะไปมาเองนะ แล้วเขาก็ไม่เคยชวนเราไปเลยบางทีเราก็อยากอยู่ในโลกของเขาเหมือนกัน ทีนี่เราก็เหมือนหัวร้อนอ่ะ ผมก็เลยพิมพ์ไปเลยว่า เที่ยวบ่อยๆแบบนี้ ไม่มีเวลาให้กันแบบนี้ผมไม่โอเคนะ รู้ไหมเวลาไปเที่ยวเนี้ย คนเป็นแฟนอะเขาเป็นห่วง แล้วผมก็บอกต่อไปว่า จะเที่ยวก็เที่ยวไปเลย ไม่สนใจแล้ว เหนื่อย วันไหนทำใจได้เมื่อไหร่ ผมจะไปเอง (ตอนนั้นหัวร้อน คิดอะไรพิมพ์ใส่ไปหมด ซึ่งจิงๆแล้วผมแค่ประชด เรียกร้องความสนใจ ) หลังจากวันนั้นเขาก็ไม่ค่อยคุยกับผมเลย ผมก็ยังไปพยายามกดดันเขา ว่า เรื่องของเราจะเอายังไง จะตกลงคุยกันไหมปรับความเข้าใจกันไหม เขาก็บอก ขอคิดก่อน ตอนนี้ตันไปหมด ตอนนี้รู้อย่างเดียวคือเขาอยากขายของ อยากหาเงินก่อน คิดไม่ออกว่าจะไปทางซ้ายหรือทางขวา แล้วผมก็บอกเขาไปว่า จะเลือกแบบนั้นไม่ได้นะเลือกไปซ้ายขวาอ่ะ ทางคือเราต้องคุยกัน ตกลงกัน แชร์กันคนละครึ่ง เส้จแล้วเขาก็บอก ขอคิดก่อน จนผ่านไปอีกวัน
เขาก็เอาคำตอบมาให้ผมว่า เขาอยากทำในสิ่งที่เขาทำ เขาทิ้งการเที่ยวไม่ได้ละเขาก็ยังไม่รุ้จะแก้นิสัยตรงนี้ยังไง แล้วบอกให้ผมไปเจอคนที่ผมต้องการ ที่เหมาะสมกับคนที่คู่ควรกับผม แล้วเขาก็บอกว่า เขาไม่อยากจะเสียคนดีๆแบบผมไป ทุกอย่างดีหมดผิดที่เขาทิ้งการเที่ยวไม่ได้ ถ้าให้เลือกอีกรอบเขากลัวว่าจะเป็นแบบนี้แล้วผมจะเสียใจในสิ่งที่เขาทำอีก เขารู้สึกผิดและเห็นแก่ตัวมากเขายอมรับ ขอโทษนะ แล้วเขาก็ส่งรูปที่มีประโยคว่า "คุณจะเจ็บปวดจนกว่าคุณจะได้พบกับรักที่คู่ควรกับคุณ และเมื่อคุณได้พบกับมัน มันจะรักษาทุกรอยแผลที่คุณเคยได้พบมา" แล้วผมก็เลยถามเขาไปว่า เอาจริงๆอยากจะรักษาผมไว้หรือป่าว เขาก็บอกเขาไม่รู้เขาต้องการคืองานเงิน การใช้ชีวิตมันต่างกัน แล้วเขาก็บอกเขาเหนื่อยในจุดที่มีแฟนและต้อมาคิดอะไรเยอะๆ ทั้งที่ตัวเขาเองก็คิดอะไรหลายอยู่มากพอแล้ว ผมก็สาระภาพขอโทษในสิ่งที่พูดไปว่าผมพูดไปงั้นแหละ อยากเรียกร้องความสนใจ อยากให้เราได้คุยกันในเรื่องนี้ เขาก็บอกเขาตัดสินใจแล้ว ผมก็ขอโทษเขาไปอีกรอบ บอกขอโอกาสได้ไหม เขาก็บอกผมว่า ไม่ชอบให้มาขอโอกาส แล้วผมก็บอกว่า ไม่คิดจะคุยตกลงอะไรกันเลยหรอ ความรักมันควรจะแชร์กันหรือป่าว มันคุยกันได้นะ มันจะเลิกกันง่ายๆแบบนี้เลยหรอ เขาก็บอกผมว่า "ใช่" ผมนี่จุกเลย
แล้วเขาก็บอกผมทิ้งท้ายว่า เราไปกันต่อไม่ได้ ขอโทษ
เรื่องของเรื่องมันก็เป็นแบบนี้แหละ
หลังจากเลิกกันผมก็พยายามทักหาเขาเหมือนเดิม กินไรยัง ทำไรอยู่ เขาก็ตอบบ้าง ไม่ตอบบ้าง ก่อนนอนผมก้บอกคิดถึงนะ ฝันดีนะ จนผ่านมาประมาน 2 วัน เขาก็เริ่มเงียบ ไม่ตอบ ไม่อ่าน เอาสถานะออกจากเฟสบุ๊ค แต่ก็ยังเป้นเพื่อนกันในเฟสอยู่ ผมก็ส่องการใช้ชีวิตเขา คือปกติมากๆ ไม่เครียด ไม่อะไรเลย ไม่พูดหรือโพสถึงอะไรกับผมเลย
ผมบอกตามตรง ผมได้ โทษตัวเองว่า ไม่น่าเลย ถ้าเราไม่พูดกับเขาแบบนั้นมันก้จะไม่เป็นแบบนี้ ผมร้องไหฟูมฟาย เพื่อผู้หญิงคนนึง คนที่ผมรักเขามาก ผมเชื่อนะว่าถ้าเรารักมากพอ เราจะผ่านเรื่องนี้ไปได้โดยไม่บอกเลิกกันเลย
แต่ผมรักษาเขาไว้ไม่ได้ อยากจะกลับไปแก้ไขตัวเราเอง แต่มันก็สายไปแล้ว เพราะเขาตัดสินใจแล้ว ได้แต่รับบทเรียน เครียดจนตอนนี้ วนถามในหัวอยู่แต่คำถามเหล่านี้ กินข้าวไม่ลง ทำงานก็ซึมเศร้าทั้งวัน เมาทุกคืน เที่ยวกลับมา นอนร้องไหทุกคืน หลายๆคนอาจจะมองว่าผมอ่อนแอ แต่ผมก็เป็นผู้ชายคนนึงที่รักแฟนคนนี้มาก และก็จริงจังมากไม่แพ้ใครๆเลย เช่นกัน ใจผมมีอยู่อย่างเดียวคืออยากจะได้เขากลับมามากๆ แต่เขาก็หนีผมไปทีละก้าวๆ ซึ่งผมหวังว่าเขาจะกลับมาในสักวัน
ผมมีความสุขมากๆกับเวลาที่ผ่านมาได้ทำอะไรให้กันหลายอย่าง เที่ยวดำน้ำดูปาการัง ต่างๆนา ฝ่าฟันความลำบากมาด้วยกัน ผมรู้สึกรับสิ่งที่เกิดไม่ได้จริงๆผมเสียใจ ดูรูปเก่าๆไปผมก็ร้องไห ฟังเพลงโดนๆผมก็น้ำตาซึม (อ่อนแอจริงๆเลยผมเนี่ย)
ท้ายที่สุดแล้วจริงๆ
หลังจากที่เลิกไป 2 วัน ผมกลับพบความจริงแล้วนะครับ
บังเอิญ ไปเจอเขาที่ร้านเหล้าอยู่กับแฟนเก่าเขานั่นเอง ซึ่งเป็นอะไรที่ช็อคมาก ไม่คิดว่าจะเจอตัวเอง
โชคดีที่เจอเร็ว ไม่งั้นผมคงจะโง่ตามง้อไปเป็นเดือน ๆ จากนี้ผมจะดูแลตัวเองให้ดีครับ
ตอนนี้เลิกโทษตัวเองแล้วนะครับ แต่ก็ยังคิดถึงเขาอยู่นะ อีกใจก็แค้น แต่ก็ทำไรไม่ได้นอกจาก มูฟออน
ในมุมมองเพื่อนๆพี่น้องๆ มองเห็นเรื่องนี้ว่าอย่างไรบ้าง อะไรคือสิ่งที่ผมทำพลาดไปบ้าง อะที่ไรเป็นสิ่งที่ควรจะเป็น แล้วตอนนี้ผมควรทำอะไร
เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ แชร์ประสบการณ์กันให้ผมฟังบ้างก็ได้นะ ผมจะอ่านทุกคอมเม้นเลย
อย่าเอามานับว่าเป็นอัตลักษณ์ ก็แค่อีโก้โง่ ๆ ที่จะสลัดทิ้งเมื่อไหร่ก็ได้ #อันนี้ดี
https://www.youtube.com/watch?v=SWIg9kQbH-k&feature=share&fbclid=IwAR2Vg---tlhaiGjYx2bWri-BdNg294BKgqHyfepsLBgNBy7Y0JFseyJEhVs
ลองไปฟังกันดูนะครับ
ขอบคุณที่รับฟังผมระบาย เล่าประสบการณ์เหล่านี้ให้ฟังนะครับ